Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์


*เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมาผู้เขียนได้รับเกียรติไปพูดเรื่องของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เนื่องในวาระวันเกิดปีที่ 98 ของท่านที่บ้านซอยสวนพลูโดยในวันนั้นเองก็มีข่าวยืนยันแน่นอนแล้วว่าองค์การยูเนสโกจะประกาศยกย่อง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการรณรงค์รักษาศิลปวัฒนธรรมไทย การศึกษา สังคมศาสตร์และสื่อสารมวลชนในวาระที่ท่านครบรอบอายุ 100 ปีใน พ.ศ.2554

     บรรยากาศของงานที่บ้านซอยสวนพลูวันนั้นสนุกมากโดยไฮไลต์อยู่ที่การแสดงละครทรงเครื่องของวิทยาลัยนาฏศิลป์ จากจังหวัดอ่างทองเรื่อง "ขุนแผนพานางลาวทองกลับบ้านและทะเลาะกับนางวันทอง" ซึ่งตามที่จริงแล้วก็น่าสงสารนางวันทอง

สำหรับการแสดงของเด็กรุ่นใหม่นี้ยอดเยี่ยมจริงๆ เพราะได้โชว์จิตวิญญาณและนิสัยประจำชาติไทยด้วยการปะทะคารมอันคมคายที่มีนัยยะเฉลียวฉลาด ลึกซึ้ง รุ่มรวยด้วยอารมณ์ขันออกมาอย่างถึงพริกถึงขิงจริงๆ เมื่อได้ชมแล้วก็ออกจะอิ่มอกอิ่มใจจริงๆ

และยังได้ทราบจากท่านผู้หญิงนิออน สนิทวงศ์ฯ ด้วยว่าบรรดาชาวอ่างทองที่มาในวันนี้นั้นล้วนแต่มีอนุสรณ์ของ "ถนนคึกฤทธิ์, บ่อน้ำคึกฤทธิ์" เตือนใจอยู่ทั่วไปและชาวอ่างทองยินดีเต็มใจที่จะมางานคึกฤทธิ์ทุกครั้งแบบว่าขอให้บอกมาเถิด

ผลพวงอันดีงามของนโยบายเงินผันของเมื่อ 35 ปีที่แล้วจริงๆ

     การพูดคุยกันถึง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ในวันนั้นมี ดร.อรัญ ธรรมโน อดีตปลัดกระทรวงการคลัง พูดด้านเศรษฐกิจ และคุณบัญญัติ ทัศนียะเวศ อดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติพูดด้านสื่อสารมวลชนซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะมีข้อมูลหลายอย่างที่แม้แต่ผู้ใกล้ชิดทั้งหลายของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ที่อยู่ในที่นั้นก็เพิ่งทราบเป็นครั้งแรก

คุณสมบัติ ภู่กาญจน์ พิธีกรเกริ่นว่า ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เคยปรารภว่าวันเกิดของท่านนั้นอากาศร้อนเหลือเกินแต่ก็ต้องทน นัยว่า "ก็เกิดมาแล้วนี่ ช่วยอะไรไม่ได้"

     ผลจากการเตรียมการเพื่อไปพูดในวันนั้น ผู้เขียนขออนุญาตแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการอ่านหนังสือของบรมครู ม.ร.ว.คึกฤทธิ์กับท่านผู้อ่านที่เคารพเนื่องจากเป็นประสบการณ์ที่นักอ่านทั้งหลายคงต้องไปประสบมาแล้วแทบทุกท่านกล่าวคือเป็นประสบการณ์แบบ เดชาวู (dejavu) คือแบบว่าท่านกำลังทำอะไรเพลินๆ อยู่ จู่ๆ ก็กลับมีความรู้สึกว่า "เอ๊ะ! เหตุการณ์แบบนี้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วนี่!" แถมบางครั้งยังรู้อีกด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น แต่ความรู้สึกที่ว่านี้มักจะเกิดในช่วงสั้นๆ แล้วก็หายไป

เริ่มแรกเมื่อผู้เขียนได้รับเชิญให้ไปพูดเกี่ยวกับท่านคึกฤทธิ์ก็ระลึกขึ้นมาได้ว่าผู้เขียนอ่านผลงานของท่านคึกฤทธิ์มามากมายนักหนาแต่มีอยู่เพียงเล่มเดียว ที่ผู้เขียนอ่านได้ไม่กี่หน้าแล้วก็วางหนังสือลงและไม่เปิดอ่านอีกเลย เนื่องจากอ่านไม่รู้เรื่องขณะนั้นผู้เขียนอยู่ในช่วงปีสุดท้ายของการเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ศ.5) หนังสือเล่มดังกล่าวคือ "เมืองมายา"

ครั้นหยิบมาอ่านอีกทีก็สี่สิบปีให้หลังคราวนี้อ่านสนุกแฮะ นั่งอ่าน นอนอ่านจนจบรวดเดียวซึ่งการอ่านหนังสือแบบนี้ผู้เขียนไม่มีโอกาสได้ทำบ่อยนักเนื่องจากอายุมากขึ้นสมาธิกลับสั้นลงแต่เนื่องจากเมื่อได้อ่านหนังสือที่สนุกถึงใจแบบคนใต้ว่า "มันหรอยจริงๆ" นั่นแหละ

     เมืองมายาเป็นหนังสือที่เขียนจากประสบการณ์ของท่านคึกฤทธิ์เมื่อครั้งท่านได้เดินทางไปให้คำปรึกษาด้านเทคนิคและแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง "อั๊กลี่ อเมริกัน"

ท่านถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ที่ได้จากฮอลลีวู้ดในสายตาของคนเขียนหนังสือผู้เป็นพหูสูตซึ่งว่าที่จริงแล้วหนังสือเล่มนี้คือหนังสือตำราประวัติศาสตร์ จิตวิทยา สังคมวิทยา บริหารธุรกิจ นิเทศศาสตร์และการถ่ายทำภาพยนตร์แท้ๆ แต่อ่านสนุกไม่เหมือนตำราทั่วไปแต่คนอ่านต้องมีพื้นทางประวัติศาสตร์โลกในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองถึง พ.ศ.2508 นะแบบว่าถ้าไม่มีพื้นเลยก็อ่านยากหน่อย เพราะว่าลองถามเด็กสมัยนี้ว่ารู้จักเกรซ เคลลี่, เชอร์ลี่ แมคเลน, เกรตา การ์โบ หรือ โทนี่ เคอร์ติส แครี่ กรานต์ ร็อค ฮัดสันบ้างไหม? คาดว่าคงไม่มีใครเคยได้ยินชื่อเลยกระมัง

     ประสบการณ์เดชาวูนี้ผู้เขียนเคยประสบเมื่อได้ร่วมทำงานวิจัยเรื่องเศรษฐกิจและการค้าในสมัยรัชกาลที่เจ็ดเมื่อ พ.ศ.2516 กับมูลนิธิฟอร์ดเมื่อผู้เขียนอ่านวิทยานิพนธ์ประวัติศาสตร์ไทยของปริญญาโทที่เกี่ยวกับช่วงสมัยนั้นไม่รู้เรื่องจนกระทั่งต้องหาหนังสือที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สังเขปของโลกสมัยนั้นเพื่อเป็นพื้นฐานเสียก่อนจึงค่อยอ่านวิทยานิพนธ์เหล่านั้นมีรสมีชาติขึ้น

ครั้นไปพูดที่บ้านท่านคึกฤทธิ์เสร็จแล้วก็ได้รับหนังสืองานศพของท่านเรื่องสี่แผ่นดินมา ก็เกิดประสบการณ์เดชาวูอีกคือนั่งอ่าน นอนอ่าน (นอนอ่านมีอันตรายอยู่บ้างเพราะหากหนังสือที่อ่านหนักไปหน่วยเวลาตกลงบนจมูกก็เจ็บไม่ใช่เล่น) จนจบและยังคงมันส์เหมือนเมื่อเคยอ่านมาแล้วสองสามครั้ง)

     หนังสือดีมันต่างกับหนังสือธรรมดาก็ตรงนี้แหละ คือหนังสือธรรมดาเมื่ออ่านจบแล้วก็แล้วไป ส่วนหนังสือดีอ่านเมื่อไร อ่านกี่ครั้งมันก็สนุก มันส์ทุกครั้งไป


สุวิมล เชื้อชาญวงศ์: รายงาน

ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนออนไลน์ 6 พฤษภาคม 2552 หน้า 6


H O M E




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2552
0 comments
Last Update : 11 พฤษภาคม 2552 20:47:48 น.
Counter : 1157 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.