Bloggang.com : ผู้ชายป้ายเหลือง : 3D multimedia Passion of Illusion

3D multimedia Passion of Illusion

ว่ากันด้วยเรื่องภาพหรือหนังสามมิติแล้ว บางคนอาจชอบ บางคนก็อาจจะไม่ชอบ แต่คิดว่าหลายคนคงได้เคยสัมผัสกันมาแล้ว ที่ชอบก็คงเพราะความแปลกใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งความสมจริงได้อรรถรสในการชม ส่วนที่ไม่ชอบก็คงเพราะการจะชมแต่ละครั้งจะต้องมีตัวช่วยอย่างเช่นแว่นตา หรือถ้าไม่มีก็ต้องเพ่งกันจนปวดหัวกว่าจะเห็นเป็นสามมิติขึ้นมาได้ ทำเอาหลายคนท้อใจไม่ดงไม่ดูมันแล้วก็มี แต่ถ้าคุณสามารถดูหนังสามมิติได้ด้วยจอแอลซีดีเพียงอย่างเดียวไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม คุณว่ามันน่าสนุกมั้ยล่ะ
----------------------------------------------------------

ว่ากันด้วยเรื่องภาพหรือหนังสามมิติแล้ว บางคนอาจชอบ บางคนก็อาจจะไม่ชอบ แต่คิดว่าหลายคนคงได้เคยสัมผัสกันมาแล้ว ที่ชอบก็คงเพราะความแปลกใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งความสมจริงได้อรรถรสในการชม ส่วนที่ไม่ชอบก็คงเพราะการจะชมแต่ละครั้งจะต้องมีตัวช่วยอย่างเช่นแว่นตา หรือถ้าไม่มีก็ต้องเพ่งกันจนปวดหัวกว่าจะเห็นเป็นสามมิติขึ้นมาได้ ทำเอาหลายคนท้อใจไม่ดงไม่ดูมันแล้วก็มี (ฮา) แต่ถ้าคุณสามารถดูหนังสามมิติได้ด้วยจอแอลซีดีเพียงอย่างเดียวไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม คุณว่ามันน่าสนุกมั้ยล่ะ

เพราะตอนนี้เทคโนโลยีดังกล่าวได้เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว โดยบริษัทน้องใหม่อย่าง แอปโซลูท อิมแพค ที่นำเทคโนโลยีจาก บริษัท X3D Technologies GmbH จำกัด ประเทศเยอรมนี มาผลิตสื่อมัลติมีเดียสามมิติเป็นแห่งแรกในเอเชีย สามารถมองภาพสามมิติผ่านจอได้จากทุกมุมโดยไม่ต้องสวมแว่นและไม่จำเป็นต้องยืนตรงกลางเท่านั้น

จุดเริ่มต้นในการนำจอภาพสามมิติเข้ามาในวงการสื่อบ้านเรา คุณปริน ชนันทรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอปโซลูท อิมแพค จำกัดเล่าให้เราฟังว่า มาจากการที่เทรนด์ของสื่อที่ใช้ในวงการโฆษณาทั่วโลกนั้น สื่อนอกบ้าน (Out of home) เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการโฆษณาผ่านสื่อทีวีตามปกตินั้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้น้อยลง ซึ่งเป็นผลจากการที่มีจำนวนรายการเพิ่มขึ้น ทำให้การกดเปลี่ยนช่องก็มากขึ้นตามลำดับ ทำให้การโฆษณาผ่านทีวีมีประสิทธิภาพลดลง ประกอบการที่ผู้ประกอบการเจ้าของสินค้าต่างๆ เริ่มมองหาสื่อใหม่ที่สามารถดึงดูดผู้คนที่เดินผ่านไปมาให้มาสนใจได้มาก และ จอภาพสามมิติสามารถตอบโจทย์ทั้งหมดได้อย่างลงตัวที่สุด

จากจุดเริ่มต้นตรงนั้นเอง ทำให้ได้มีการผลิตสื่อจอภาพสามมิติขึ้นมา และได้นำไปติดตั้งที่ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียมเป็นแห่งแรกกว่า 57 จุด ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมากจากผู้ที่ผ่านไปผ่านมา เห็นได้จากรอยนิ้วมือบนจอที่แอปโซลูท อิมแพคต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปคอยเช็ดทำความสะอาด เพราะคนที่ไปยืนดูคงพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองว่ามันเป็นไปได้อย่างไร

ซึ่งคุณปรินก็ให้คำตอบกับเราว่าด้วยเทคโนโลยีของ X3D ทำให้เราสามารถเนรมิตจอภาพแอลซีดีธรรมดาให้สามารถฉายคอนเทนต์สามมิติได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเทคโนโลยีนี้ประกอบไปด้วยสามส่วนคือ หนึ่งฟิลเตอร์ที่ทำงานประสานกับพิกเซลของหน้าจอเพื่อแสดงผลสามมิติอย่างถูกต้อง สองคือซอฟต์แวร์ X3D media player ใช้สำหรับเล่นคอนเทนต์สามมิติต่างๆ และสามคือโปรแกรมปลั๊กอินที่ใช้กันทั่วไปในวงการผลิตคอนเทนต์สามมิติ

ทั้งนี้คุณปรินได้เท้าความให้เราฟังว่าเทคโนโลยีการผลิตคอนเทนต์สามมิตินี้มีอยู่สองเทคโนโลยีใหญ่ๆ คือ เลนทิคูล่า และ พาราแลกซ์ โดยเลนทิคูล่าจะใช้เลนส์ยาวในการยิงภาพสู่ตาข้างซ้ายและขวา โดยตาทั้งสองข้างจะรับภาพต่างกัน แล้ววิ่งรวมกันยังสมองส่วนรับรู้ทำให้เห็นเป็นภาพสามมิติขึ้นมา ซึ่งเลนทิคูล่ามีข้อเสียตรงที่จะต้องมองจากมุมที่กำหนดเท่านั้นจึงจะเห็นภาพสามมิติได้ นอกเหนือจากนั้นภาพจะเบลอทั้งหมด อีกทั้งยังมีข้อจำกัดด้านการแสดงผลจากความร้อนของจอที่ทำให้เลนส์ขยายตัวเกิดภาพเบลอจึงยังไม่สามารถผลิตให้แสดงผลผ่านจอภาพขนาดใหญ่ได้และยังเหมาะสำหรับการรับชมเพียงคนเดียวเท่านั้น (Single viewer)

แต่เทคโนโลยีพาราแลกซ์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่บริษัท X3D นำมาใช้นั้นสามารถแก้ปัญหาทั้งสองได้ด้วยการใช้ฟิลเตอร์แทนการใช้เลนส์ โดยฟิลเตอร์จะทำงานร่วมกับความละเอียดหน้าจอ (พิกเซล) และซอฟต์แวร์ในการแสดงผลทำให้แต่ละพิกเซลสามารถยิงภาพด้วยความถี่สูง 8 – 32 ภาพทำให้เรารับรู้เป็นภาพเดียว อีกทั้งยังแสดงผลในรูปแบบ different angle ทำให้เห็นภาพสามมิติได้จากทุกมุมมอง ซึ่งตอนนี้คุณสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตาคุณเองแล้วกว่า 147 จอในสยามพารากอน เพิ่มเติมจากดิ เอ็มโพเรียม

ด้านรูปแบบของหนังโฆษณาที่เสนอผ่านจอภาพสามมิตินี้ การผลิตแบ่งออกเป็นสองประเภท คือหนึ่งนำหนังที่มีอยู่แล้วมาใส่กราฟิกสามมิติเข้าไป หรือผลิตใหม่ทั้งหมดเป็นหนังสามมิติล้วนๆ ซึ่งแอปโซลูท อิมแพคจะคอยเป็นตัวกลางหาคนผลิตให้กับเจ้าของสินค้าที่ต้องการ โดยงบประมาณไม่มากไปกว่าการผลิตหนังสองมิติธรรมดาสักเท่าไร เพราะคุณปรินเขาบอกว่า เขาไม่ได้ขายทีวี แต่ขายสื่อโฆษณาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับเอเจนซี่หรือเจ้าของสินค้าต่างๆ ได้มีสื่อรูปแบบใหม่ให้เล่นกัน

นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยพัฒนาฝีมือคนไทย เพราะในปัจจุบันนั้นโปรดักชั่นเฮาส์ของไทยหลายบริษัทมีความสามารถระดับฮอลลีวูดเพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือมากนัก ทางแอปโซลูท อิมแพคจึงทำหน้าที่เป็นตัวกลางคัดสรรบริษัทที่มีฝีมือมารับการเทรนและออกใบรับรองให้เป็นการยืนยัน พร้อมกับป้อนงานให้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแอปโซลูท อิมแพค ยินดีเทรนให้กับโปรดักชันเฮาส์ทุกรายที่สนใจเข้ามาทดสอบเพราะเวลานี้ สามบริษัทที่ผ่านการ certified ไปล่วงหน้าอย่าง IMAGIMAX, Digital Magic และ Blu Fairy นั้นงานเริ่มถมทับจนแทบกระดิกตัวไม่ได้กันแล้ว

“คนไทยเราฝีมือดีมากนะฮะ หลายบริษัทของบ้านเราทำหนังใหญ่ๆ ให้ฮอลลีวูด ซึ่งบางทีคนไทยไม่ทราบด้วยซ้ำไป ตอนนี้ในยุโรปและอเมริกามีการใช้สื่อโฆษณาสามมิติเยอะ เราจึงเราต้องการให้โปรดักชั่นเฮาส์เมืองไทยเนี่ยเป็นฮับ เป็นเบสให้ทั่วโลกส่งงานมาให้เราผลิต นำเงินเข้าประเทศ” คุณปรินกล่าว
วางแผนการรบไว้ใหญ่โตขนาดนี้ สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือกองหนุนที่ดี หลังบ้านที่เชื่อใจได้จึงเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการดำเนินการ ซึ่งการนี้อินเตอร์เน็ต ประเทศไทยหรือไอเน็ตก็เข้ามารับบทบาทด้านนี้ไปแต่เพียงผู้เดียว โดยการดูแลจอภาพสามมิติทั้งหมดถูกควบคุมอยู่ในห้องเล็กๆ ในรูปแบบการจัดการแบบเน็ตเวิร์ค ทำให้สามารถยิงข้อมูลได้ในแบบเรียลไทม์ และเลือกแสดงผลเฉพาะจุดได้อีกด้วย

ทิ้งเวลาไปอีกสักระยะ เราคงได้เห็นภาพโฆษณาสามมิติผ่านจอของแอปโซลูท อิมแพคกันจนชินตา แต่นั่นคงไม่ใช่ข้อเสียแต่อย่างใด เพราะเมื่อเกิดความเคยชินแล้วจะกลายเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสื่อโฆษณานอกบ้าน เหมือนๆ กับตอนที่ทีวีสีเข้ามาแทนที่ทีวีขาวดำนั่นเอง คุณปรินให้ความเห็นไว้เช่นนั้น

แม้ในช่วงนี้คอนเทนต์จะยังน้อยแต่เชื่อว่าภายในสามเดือนนี้จะมีอะไรใหม่ๆ ให้เห็นกันแทบทุกวันแน่ๆ และต่อไปในอนาคตอาจจะมีมิวสิควิดีโอสามมิติ หรือเกมสามมิติมาให้ชมกันอีกด้วย

ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนกันไหม แต่ทุกครั้งที่เรายืนดู รู้สึกได้เลยว่า ภาพลวงตานี่มันก็สนุกดีเหมือนกันแฮะ ใครที่ยังไม่เคยเห็น วันไหนว่างๆ ลองแว่บไปเดินเล่นสยามพารากอน หรือใครใกล้สุขุมวิทก็ไปดิ เอ็มโพเรียมก็ได้ มีติดให้เห็นทั่วไปเลยเชียวแหละ อย่าช้าล่ะเดี๋ยวตกเทรนด์ไม่รู้ด้วยนา แต่ถ้าหาเวลาไปเดินเล่นไม่ได้จริงๆ ก็ดูรูปจากเราก่อนแล้วกัน พยายามถ่ายให้เป็นสามมิติเต็มที่แล้วนะเนี่ย

---------------------------------------------------------

By

Create Date : 03 มกราคม 2550

Last Update : 3 มกราคม 2550 15:13:03 น.

0 comments

Counter : 223 Pageviews.