|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
กระบี่สะท้านฟ้าฯ ตอนที่ 18 ความลับหอเทียนไต้
เช้าวันต่อมา ณ ห้องประชุมเสนาบดี
เหล่าขุนนางมากันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ละคนต่างพากันตื่นเต้นว่าระหว่างฮ่องเต้กับอ๋าวป้าย วันนี้ใครจะเป็นผู้เพลี้ยงพล้ำ บางคนถึงกับลงขันพนันกันเลยทีเดียว หลังจากฮ่องเต้เสด็จมา เขาก็ดำเนินการตามแผน เสนาบดีใหญ่ซูเค่อซ่าฮาและเยี่ยปี้หลงต่างให้การสนับสนุนฮ่องเต้ อ๋าวป้ายมองแว้บเดียวก็รู้ว่าฮ่องเต้มีการเตรียมการมา ถึงเถียงไปก็คงไม่ชนะ จึงรีบกลับลำและยอมรับว่าความคิดของตนบุ่มบ่ามเกินไป ที่ทำไปเป็นเพราะห่วงใยในความปลอดภัยของบ้านเมือง คังซื่อได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งและแปลกใจเป็นอันมาก เขาไม่คาดคิดว่าอ๋าวป้ายจะยอมง่ายดายถึงเพียงนี้ จึงได้แต่บอกกับอ๋าวป้ายว่าไม่เป็นไร เขาไม่คิดติดใจหรือเอาความ
ณ จวนเสนาอ๋าวป้าย
พออ๋าวเทียนลี่รู้ว่าบิดายกเลิกทัพไปปราบชีเส้าเฟย ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หาว่าบิดาไม่รักตนเอง ยอมให้คนอื่นมาดูถูก ยอมก้มหัวให้กับฮ่องเต้ อ๋าวป้ายได้ยินเช่นนั้นก็โกรธมากจนเกิดวิวาทกับบุตรชายขึ้นมาอีก "ออกไป!!! เอาตัวมันออกไป!!! ข้าบอกให้เอามันออกไป!!!!!!!!!" อ๋าวป้ายสั่งให้ทหารรีบพาตัวอ๋าวเทียนลี่ออกไป ก่อนที่เขาจะทำร้ายบุตรชายมากไปกว่านี้ แล้วก็สั่งให้ทหารนำตัวมือปราบหันจุ้นเข้ามา หันจุ้นพอมาถึงเห็นอ๋าวป้ายกำลังเกรี้ยวกราดก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาเองก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้อ๋าวเทียนลี่ได้รับความอับอายในครั้งนี้เช่นกัน "หันจุ้น!!! ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย!!! หากครั้งนี้ไม่สำเร็จ ไม่ต้องกลับมา!!! เข้าใจไหม!!!" หันจุ้นได้ยินดังนั้นก็รีบผงกหัวรับปากทันที "เจ้าจงจับคนที่ค่ายเหลียนอิ๋นมาประหารทุกวัน จนกว่าชีเส้าเฟยจะออกมามอบตัว หากว่ามันยังหดหัว ก็ให้จับชาวเมืองมาฆ่าทิ้งให้หมด ข้าไม่สนว่าจะเป็นเด็กหรือว่าผู้ใหญ่ เจ้าต้องฆ่าพวกมันทุกๆ หนึ่งชั่วยาม จนกว่าไอ้กบฏมันจะยอมมอบตัว!!! เข้าใจไหม!!! หันจุ้น!!!" อ๋าวป้ายแผดเสียงลั่น ใบหน้าของเขาตอนนี้แดงกร่ำ ดุดันจนน่ากลัว "ตะ.. แต่... แต่ว่า..." หันจุ้นพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัว "แต่อะไรวะ!!!" อ๋าวป้ายเห็นหันจุ้นลังเล ก็ทุบโต๊ะจนแตก "จะ..จับ..ราษฏรมาประหาร กะ..เกรง..ว่าจะมีความผิดนะท่าน" หันจุ้นตอบ "ข้าคุ้มหัวเจ้าอยู่นี่ จะกลัวอะไรวะ!!! หากเจ้าไม่ทำ ข้าจะนำตัวเจ้าไปประหารเดี๋ยวนี้เลย!!! จะตายตอนนี้ หรือว่าตายทีหลัง!!! เลือกมา!!! หันจุ้น!!!" อ๋าวป้ายตวาดสุดเสียงจนหันจุ้นหมอบไปกับพื้นด้วยความกลัว "นะ.. นาย.. ท่านโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยทราบแล้ว ข้าน้อยทราบแล้ว ข้าน้อยจะรับใช้นายท่านให้ดีที่สุด" หันจุ้นหน้าซีด ปากสั่น เขาไม่เคยรู้สึกกลัวตายขนาดนี้มาก่อนเลย "ดี!!! อย่าลืม!!! ถ้าไม่ได้หัวชีเส้าเฟยกลับมา ข้าจะเอาหัวเจ้าแทน!!! เข้าใจไหม!!!" อ๋าวป้ายพูดจบก็เอามือผลักหันจุ้นจนเขาล้มกระเด็น แล้วอ๋าวป้ายก็เดินออกจากห้องไป หันจุ้นเองรู้ชะตาชีวิตของเขาดี หากครั้งนี้เขาจับชีเส้าเฟยไม่ได้ เขาคงไม่รอดเป็นแน่ มือปราบถอนหายใจยาวก่อนจะตั้งปนิพานว่า ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร เขาต้องจับตัวชีเส้าเฟยให้ได้!!!
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
หลังจากเสร็จการประชุมราชกิจ ฮ่องเต้ก็เดินกลับมาที่ตำหนัก เมื่อมาถึงตำหนัก ชายหนุ่มก็ต้องยิ้มกริ่ม เพราะเห็นว่าเจ้าหยาจือกับเส่เยี่ยมารอตนเองอยู่แล้ว
"เราว่ากำลังจะไปหาท่านอาหญิงที่จวนอยู่พอดีเลย" คังซื่อพูดกับเจ้าหยาจือ หากแต่สายตาของเขามองไปที่หญิงสาวข้างๆ เจ้าหยาจือเห็นเช่นนั้นก็อ่านเกมออก "จะหาหม่อมฉัน รึว่า... หาใครกันแน่ อย่าหลอกให้คนแก่ดีใจหน่อยเลยเพคะ" เจ้าหยาจือพูดจบก็หัวเราะ ฝ่ายคังซื่อก็เขินจนหน้าแดง โชคดีที่เส่เยี่ยตาบอด ไม่อย่างนั้นหากนางมองเห็นชายหนุ่มในตอนนี้ อาจจะตกหลุมรักเขาเลยก็ได้ เพราะว่าท่าทางเวลาอายของเขามันน่ารักมากกกก "ท่านอาหญิงก็อย่าแซวเราหน่อยเลย เอ่อจริงสิ พวกท่านมาหาเราแต่เช้าไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า" ฮ่องเต้รีบๆ เปลี่ยนเรื่องทันที ถึงเขาจะเป็นผู้ชายแต่ก็เขินเป็นเหมือนกัน "เห็นเส่เยี่ยบอกว่า หมู่นี้ฝ่าบาททรงบริหารราชกิจจนเหน็ดเหนื่อย ก็เลยอยากทำอาหารมาถวายเป็นกำลังใจเพคะ" ฮูหยินยิ้ม "ใช่ข้าคนเดียวที่ไหนหล่ะ" เส่เยี่ยรีบสะกิดเจ้าหยาจือ นางไม่ได้เป็นต้นคิดซะหน่อย เรื่องอะไรมาใส่ร้ายกันนี่ "อืม ยังไงเราก็ขอบคุณนะ" ชายหนุ่มยิ้ม ตอนนี้แก้มทั้งสองข้างของเขาแดงยิ่งกว่าหญิงสาวเสียอีก "เส่เยี่ย รีบเอารังนกถวายฮ่องเต้สิจ๊ะ เดี๋ยวจะเย็นหมด" เหมือนเจ้าหยาจือจะจงใจ รู้ทั้งรู้ว่าเส่เยี่ยมองไม่เห็น ก็ยังส่งถาดอาหารให้นาง "มาๆ ให้เราช่วยดีกว่านะ เส่เยี่ยเขามองไม่เห็น" ฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นก็ไม่รอช้ารีบลุกพรวดมาจากโต๊ะแล้วรับถาดอาหารจากหญิงสาว แต่เพราะว่าไม่ทันระวัง มือของเขาจึงไปสัมผัสกับมือของหญิงสาวเข้า เส่เยี่ยตกใจ นางสะดุ้งจนถาดเกือบตกจากมือ "ระวังนะ เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า" คังซื่อร้องขึ้นด้วยความเป็นห่วง โชคดีที่เขายังคว้าถาดเอาไว้ได้ทัน "ไม่เป็นไรเพคะ โปรดประทานอภัยด้วย" หญิงสาวรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ นางไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ ว่า ทำไมต้องประหม่าเวลาที่อยู่ใกล้ๆ กับเขาด้วย "เราจะว่าเจ้าได้อย่างไร เจ้าอุตส่าห์มีน้ำใจกับเราเช่นนี้" ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาพูดใกล้ๆ พรางส่งถาดอาหารให้กุ้ยกงกง เส่เยี่ยเริ่มหายใจไม่เป็นจังหวะ "เอาหล่ะ เจ้ามานั่งตรงนี้ก่อน" ว่าแล้วคังซื่อก็ประคองหญิงสาวมานั่งพักที่เก้าอี้ข้างๆ "หรือว่า จะยังไม่หายป่วยจากเมื่อวาน" ชายหนุ่มเอามือแตะไปที่หน้าผากของเส่เยี่ยเบาๆ หญิงสาวรู้สึกวาบไปทั้งร่าง ไม่ใช่เพราะอาการป่วย แต่เป็นเพราะเขาต่างหากที่ทำให้นางหายใจไม่สะดวก "หม่อม... ฉันหายดีแล้วเพคะ..." หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นางพยายามสูดหายใจลึกๆ แล้วท่องประโยคซ้ำๆ ในใจว่า "เรามาเพื่ออะไร เรามาเพื่ออะไร" "ไม่มั๊ง ดูสิ หน้าเจ้าแดงมากเลย ข้าว่าให้หมอหลวงมาดูสักหน่อยดีกว่านะ" คังซื่อโวยวาย เขากำลังจะอ้าปากสั่งให้กงกงไปตามหมอหลวง แต่ก็โดนเส่เยี่ยห้ามเอาไว้ก่อน "ฝ่าบาท... หม่อมฉันไม่เป็นไรแล้วจริงๆ เพคะ" ก็นางไม่ได้ป่วยจริงๆ นี่หน่า หญิงสาวคิด (ด้านร่างกายอาจจะไม่ แต่ด้านจิตใจเนี่ย ไม่รู้นะ....) "งั้นยังไงนั่งพักที่นี่สักครู่ก่อนนะ" ฮ่องเต้เห็นเส่เยี่ยยืนกรานก็ไม่อยากขัดใจนาง "งั้นเห็นทีหม่อมฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน" เจ้าหยาจือยิ้มแล้วพูดขึ้น นางเริ่มรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนเกินซะแล้ว เห็นหนุ่มสาวคุยกันถูกคอเช่นนี้ จะอยู่เป็นตัวประกอบไปทำไม "อ้าวท่านอาหญิงจะกลับแล้วงั้นหรือ" คังซื่อทำหน้าตกใจ แต่ลึกๆ ก็แอบดีใจอยู่เหมือนกัน โหะๆ "เพคะ ยังไงหม่อมฉันฝากเส่เยี่ยด้วยนะเพคะ" อ้าวทิ้งกันเลย เส่เยี่ยคิด แต่นางยังไม่เสร็จภาระกิจนี่ ยังไงก็กลับไม่ได้อยู่ดี "อืม ได้ เราสัญญาจะเป็นคนไปส่งนางเอง" ฮ่องเต้ยิ้ม วันนี้เขามีโอกาสได้ทำคะแนนอีกแล้วสินะ "เพคะ งั้นหม่อมฉันทูลลา" เจ้าหยาก้มลงคาราวะฮ่องเต้แล้วก็เดินออกจากห้องไป ฮ่องเต้ส่งสัญญาณให้องครักษ์เหอตามไปส่งนาง ทีแรกองครักษ์เหอส่ายหน้า ฮ่องเต้ก็ทำหน้าดุใส่เขา สุดท้ายองครักษ์เหอก็จำต้องออกไป
หลังจากเจ้าหยาจือและองครักษ์เหอออกไปแล้ว เส่เยี่ยก็นั่งเงียบอยู่นาน นางไม่รู้ว่าจะชวนเขาคุยอย่างไรดี เมื่อหญิงสาวนั่งเงียบ ชายหนุ่มก็แกล้งไม่พูดบ้าง ให้เขานั่งมองหน้านางอย่างนี้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ จนในที่สุดหญิงสาวทนไม่ไหว ต้องเป็นฝ่ายชวนเขาคุยก่อน "อืม... เห็นว่าวันนี้ฝ่าบาทประชุมราชกิจแต่เช้า ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้างเพคะ" เส่เยี่ยไอนิดนึงก่อนจะถามขึ้น ดูเหมือนนางไม่ได้ลืมว่ามาที่นี่เพื่ออะไร "ขอบใจเจ้ามากนะที่เป็นห่วง... ความจริงวันนี้เป็นวันดี เพราะเรามีโชคถึงสองชั้นเลยทีเดียว" ฮ่องเต้ยิ้มตาโต "โชคสองชั้นหรือเพคะ" เส่เยี่ยขมวดคิ้ว ไม่เห็นจะเข้าใจเลย "ก็เรื่องแรก วันนี้เราสามารถหยุดยั้งแม่ทัพอ๋าวป้ายได้ เขาจะไม่นำทัพไปจับตัวชีเส้าเฟยแล้ว" ชายหนุ่มตอบอย่างภูมิใจ "จริงหรือเพคะ!!!" เส่เยี่ยลืมตัว นางเผลอดีใจออกมาจนแทบจะกระโดดจากเก้าอี้ อย่างนี้ลุงชีก็ปลอดภัยแล้วสินะ "ดูเจ้าสิ ดีใจเสียยิ่งกว่าเราอีก" ฮ่องเต้เห็นท่าทางของเส่เยี่ยแล้วก็ยิ้มจนแก้มบุ๋ม เขาไม่เคยเห็นนางมีความสุขเช่นนี้มาก่อนเลย อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้จริงๆ ฝ่ายเส่เยี่ยพอรู้ว่าตนเองดีใจจนเกินไป ก็รีบขอโทษขอโพยชายหนุ่ม นางสำรวมใบหน้าให้กลับเป็นปรกติทันที "จริงสิ เห็นฝ่าบาทบอกว่ามีโชคสองชั้น แล้วอีกชั้นหนึ่งหล่ะเพคะ เป็นเรื่องอะไร" หญิงสาวทำเป็นชวนเขาคุยแก้เขิน ฮ่องเต้ได้ยินคำถามแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ นาง "ก็... เจ้าไง" ชายหนุ่มกระซิบข้างหูนางเบาๆ ทำเอาหญิงสาวชาไปทั้งร่าง นางหลับตาแล้วพยายามบอกกับตัวเองไม่ให้หวั่นไหว "เรามาเพื่ออะไร เรามาเพื่ออะไร" คังซื่อสังเกตว่าเส่เยี่ยเอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาแล้วเบือนหน้าหลบไปทางอื่น นี่เขากำลังทำให้นางอายหรือเปล่านะ แต่เขาก็พูดความจริงนี่หน่า วันนี้เส่เยี่ยอุตส่าห์ตุ๋นรังนกมาให้เขาแต่เช้า แถมยังมานั่งคุยเป็นเพื่อนเขาอีก แบบนี้ไม่เรียกว่าโชคสองชั้นแล้วจะเรียกว่าอะไร ชายหนุ่มนึกแล้วก็ยิ้ม
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังคิดอะไรเพลินๆ องครักษ์จั๋วและหลินกุเหนียงก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาในตำหนัก "ฝ่าบาทหม่อมฉันมีข่าวร้ายมากราบทูลพะยะค่ะ" "ฝ่าบาทหม่อมฉันมีข่าวมงคลมากราบทูลพะยะค่ะ" องครักษ์หลินกับองครักษ์จั๋วแย่งกันพูดขึ้นพร้อมๆ กัน หากแต่ว่าประโยคนั้นดูความหมายจะตรงข้ามกันเลย "เอาหล่ะๆ เจ้าทั้งสองไม่ต้องแย่งกันพูด ดูสิ หน้าตาตื่นกันมาเลย องครักษ์จั๋วเจ้าพูดมาซิว่ามีอะไร เราอยากฟังข่าวดี ดูซิเผื่อว่าจะเป็นโชคชั้นที่สามหรือเปล่า" พอพูดถึงคำว่าโชคชั้นที่สามฮ่องเต้ก็มองไปที่เส่เยี่ยแล้วหัวเราะชอบใจ หญิงสาวแม้จะมองไม่เห็นแต่ก็รู้ว่าเขาจงใจจะแซวนาง "คือ ไทเฮาทรงมีรับสั่ง อีกสามวันให้จัดงานคัดเรื่องฮองเฮาพะยะค่ะ" องครักษ์จั๋วตอบ "อะไรนะ!!!" ฮ่องเต้ตกใจจนตาโต เขามัวแต่สนใจกับเรื่องอื่นจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย เขาไม่อยากได้ฮองเฮาคนไหน นอกจากคนนี้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา ทีนี้จะทำอย่างไรดี เสด็จแม่ต้องไม่ยอมแน่ "เจ้าแน่ใจเหรอ" ฮ่องเต้หนุ่มถามเสียงอ่อยแล้วทรุดตังลงบนเก้าอี้ "แน่ใจสิพะยะค่ะ ตอนนี้ที่ตำหนักกำลังวุ่นวายเรื่องเตรียมงานกันเลยทีเดียว" องครักษ์จั๋วตอบท่าทางตื่นเต้น คังซื่อได้ยินเช่นนั้นก็กุมขยับแล้วก็นั่งนิ่งเงียบ ทำเอาคนในห้องไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ หลังจากเงียบอยู่พักใหญ่ ฮ่องเต้ก็ถามองครักษ์จั๋วว่าไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม เขาสั่งให้ทุกคนออกไป ยกเว้นเส่เยี่ย "เจ้าอยู่ก่อน!!!" เส่เยี่ยกำลังจะก้าวขาออกไปพร้อมกับหลินกุ ก็ต้องหยุดชะงัก ให้ตายสิ นางสังหรณ์ใจไม่ดีเลย
พอทุกคนออกไปหมดแล้ว ฮ่องเต้ก็นั่งเงียบ เขากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก จะทำอย่างไรดี คนที่จะแต่งด้วยก็ไม่ได้รัก ส่วนคนที่รักก็แต่งด้วยไม่ได้ ทำไมโลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย สวรรค์ท่านเล่นตลกอะไรอยู่ ท่านส่งปิงเยี่ยมา แล้วก็พานางจากไป แล้วท่านก็ส่งเส่เยี่ยมา แต่ก็ไม่ให้ข้าได้เคียงคู่นางอีก ฮ่องเต้หนุ่มถอนหายใจ "ฝ่าบาท ทรงเงียบไป เป็นอะไรรึเปล่าเพคะ" หญิงสาวนั่งนิ่งอยู่นานจนทนไม่ได้ต้องชวนเขาคุย "เราไม่สบายใจหน่ะ" ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หญิงสาวได้ยินแล้วก็อดสงสารเขาไม่ได้ "เส่เยี่ยเรามีเรื่องขอร้องเจ้า" อยู่ๆ ชายหนุ่มก็หันมาพูดกับหญิงสาวอย่างตั้งใจ เส่เยี่ยหน้าซีด เอาหล่ะสิ นี่เขาจะขอนางแต่งงานหรือเปล่า อย่านะ อย่าได้แม้แต่จะคิดเลยเชียวฮ่องเต้ "ระ... เรื่องอะไรเพคะ" หญิงสาวถามน้ำเสียงสั่น "เราอยากให้เจ้ารักษาดวงตาของเจ้า พรุ่งนี้เราได้เชิญไต้ซือที่เรานับถือมา ท่านเป็นหมอเทวดา ตอนที่เราเด็กๆ เคยป่วยเป็นโรคร้าย แต่ก็หายได้เพราะท่านนี่แหละ เราอยากให้ท่านลองดูอาการของเจ้าสักหน่อย" หญิงสาวได้ยินเขาพูดเช่นนั้นก็ตื้นตันจนพูดไม่ออก นางเข้าใจว่าฮ่องเต้กำลังขบคิดเรื่องงานอภิเษกอยู่ แต่เขากลับมีจิตใจมาห่วงใยนางเช่นนี้ มันทำให้นางอึ้งไปเลยจริงๆ "ได้เพคะ" นางตอบเขา "เอาหล่ะ วันนี้เราคงคุยเล่นด้วยไม่ได้แล้ว เรารับปากท่านอาหญิงไว้ เดี๋ยวเราเดินไปส่งเจ้านะ" ฮ่องเต้พูดจบก็เข้าไปพยุงเส่เยี่ย หญิงสาวเกาะแขนเขาด้วยจิตใจหวั่นๆ ปกติเขาจะพูดไม่หยุด แต่วันนี้กลับดูเคร่งขรึมเสียเหลือเกิน เขาเงียบจนนางรู้สึกเป็นห่วง
หญิงสาวเกาะแขนฮ่องเต้เดินผ่านสวนเหมือนกับทุกวัน หากแต่วันนี้ไม่ได้หยุดเล่นเหมือนเคย แม้แต่คำพูดเดียวก็ไม่มีหลุดออกมาจากปากคังซื่อ มันทำให้เส่เยี่ยรู้สึกแปลกใจไม่น้อย แท้จริงแล้วเขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ บางทีก็ดูเหมือนเด็กหนุ่มที่เอาแต่ใจตัวเอง บางทีก็ดูเหมือนชายหนุ่มนักรัก แต่เวลานี้เขาช่างดูเงียบขรึมเหลือเกิน ขรึมจนเกือบจะเหมือนใครบางคนที่นางเคยรู้จัก...
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
พระอาทิตย์ตกดินจนลับขอบฟ้า หลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จ เส่เยี่ยก็มานั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องนอนของตัวเอง นางคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หลังจากสูญเสียแม่ไป นางก็เหลือแต่พ่อเพียงคนเดียวที่รักนาง จากนั้นก็มาสูญเสียพ่อไปอีก ดูเหมือนสวรรค์จะเห็นใจจึงส่งลุงชีเส้าเฟยมาให้นาง แต่ตอนนี้นางก็ต้องมาพลัดพรากจากเขาอีก ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่ได้เข้ามาอยู่ในวังหลวงแห่งนี้ นับวันจิตใจของนางก็เริ่มเกิดความรู้สึกอบอุ่น ผูกพันธ์ ที่นี่แม้ไม่มีพ่อ ไม่มีลุงชี แต่ก็มีถูฮูหยินที่ใจดีและรักนางเหมือนกับลูกสาว และก็ยังมี "เขา" ที่คอยห่วงใยดูแลนางเสมอ นางไม่เข้าใจเลยจริงๆ สวรรค์ส่งนางมาที่นี่ทำไม หรือว่าแค่ต้องการทดสอบจิตใจนางเท่านั้น
ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงคนตีฆ้องบอกเวลาก็ดังขึ้น "เที่ยงคืนแล้ว" หญิงสาวพูดกับตัวเอง นางพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว "เหนือสองร้อยยี่สิบ เลี้ยวขวาสุดทาง เลี้ยวซ้ายสองร้อย ตะวันตกร้อยสี่สิบ" เส่เยี่ยคลำทางออกจากตำหนักไปสู่จุดหมายที่นางแอบท่องมันไว้ในใจทุกครั้งที่เดินผ่าน ใช่แล้วหอเทียนไต้ ทางออกสู่โลกภายนอกทางเดียวของนาง วันนี้หญิงสาวอยากลองแข่งกับชะตาดู หากครั้งนี้นางออกไปได้ ก็แปลว่าที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับนาง
หญิงสาวเดินตามทางมาเรื่อยๆ เมื่อนับก้าวจนครบแล้ว ก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าสวนหอเทียนไต้พอดี หญิงสาวจำกลิ่นดอกไม้พวกนี้ได้ กุหลาบป่า เบญจมาศ และ... ดอกรัก ใช่แล้วที่นี่คือสวนของหอเทียนไต้ที่นางเคยมาเดินเล่นกับ "เขา"
จากนั้นนางก็เริ่มสำรวจทางไปเรื่อยๆ ตั้งแต่รอบสวนไปท้ายสวน แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงร้องเพลงกล่อมเด็กดังขึ้น เสียงนั้นช่างฟังดูโหยหวนชวนให้ขนลุก ทำให้เส่เยี่ยต้องหยุดชะงักฝีเท้า และแล้ว!!! ก็มีมือหนึ่งมาดึงแขนของเส่เยี่ยลากร่างของนางไปตามพื้นหญ้า "ท่านเป็นใคร!!! ปล่อย ปล่อยข้านะ ช่วย...." เส่เยี่ยพยายามจะร้องให้คนช่วย แต่ก็สายไปเสียแล้ว มีมือเอาผ้ามาอุดปากของนางไว้ และคนลึกลับผู้นั้นก็ฉุดร่างของหญิงสาวต่อไปจนกระทั่งสิ้นสุดผืนหญ้า เส่เยี่ยรู้สึกว่านางกำลังถูกลากผ่านพื้นแข็งเหมือนบันไดขึ้นมา จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ห้องโถงห้องหนึ่ง "ชูววว ชูวววว... เงียบเพคะฮองเฮา เดี๋ยวพวกมันจะได้ยิน" เสียงคนลึกลับผู้นั้นพูดกับเส่เยี่ย "ทะ.. ท่าน.. เป็นใคร" พอถูกปล่อยตัว เส่เยี่ยก็เอามือดึงผ้าที่อุดปากออก นางถอยร่นไปจนติดกำแพงด้วยความกลัว "หม่อมฉันเองเพคะฮองเฮา ไม่ต้องกลัวนะเพคะ องค์ชายใหญ่ปลอดภัยแล้ว เอ่.. เอ้..." เสียงหญิงชราแปลกหน้าตอบนาง แล้วก็ร้องเพลงกล่อมเด็กก้องไปทั่วห้อง เส่เยี่ยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พยายามจะทำใจดีสู้เสือ อย่างน้อยหญิงชราคนนี้ก็คงเป็นคนไม่ใช่ผีเป็นแน่ "ทะ.. ท่าน.. ป้าคะ ท่านป้าอยู่ที่นี่งั้นหรือคะ" หญิงสาวพยายามตั้งสติและชวนหญิงแปลกหน้าคุย "ชูววววว อย่าเสียงดังสิ องค์ชายใหญ่กำลังจะหลับแล้วเห็นไหม" หญิงชราเอ็ดเส่เยี่ยแล้วก็ร้องเพลงกล่อมเด็กต่อไป เส่เยี่ยรอให้นางร้องเพลงจนจบแล้วก็ชวนนางคุยต่อ "ท่านป้าคะ ท่านมาอยู่ที่ได้ยังไงคะ" "ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นั่นสิ!!! ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!!! พวกมัน!!! พวกมันตามข้ามา แล้วจะมาพาองค์ชายใหญ่ไป เจ้า เจ้า... เจ้าอุ้มเขาไว้ อย่าให้พวกมันมาเอาองค์ชายใหญ่ไปนะ!!!" หญิงชราพูดกับเส่เยี่ยด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว เหมือนกำลังหนีอะไรบางอย่าง แล้วนางก็ส่งห่อผ้าเด็กให้กับเส่เยี่ย ทีแรกหญิงสาวก็ตกใจว่ามีเด็กมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่พอรับห่อผ้ามาแล้วก็เข้าใจว่าหญิงชราผู้นี้คงเสียสติ เพราะในห่อผ้านั้นไม่มีอะไรอยู่เลย เมื่อเป็นเช่นนั้นเส่เยี่ยจึงนึกแผนการณ์อะไรออก "โอ๋... องค์ชายน่ารักจังเลย" เอาวะ บ้ามาก็บ้ากลับแล้วกัน ดูสิว่าใครจะบ้ากว่ากัน หญิงสาวคิด ยังไงต้องหาทางออกไปให้ได้ "ใช่ๆ องค์ชายใหญ่น่ารักน่าชัง แต่ แต่ว่าพวกมัน จะมาเอาตัวเขาไป เจ้าอย่าให้พวกมันไปนะ!!!" หญิงชรากล่าวอย่างหวาดผวา "ค่ะๆ ข้าทราบแล้ว เอ่อท่านป้าคะ อยู่ที่นี่มันอันตรายนะ ท่านพอรู้ไหมว่าที่นี่มีทางออกหรือเปล่า" เส่เยี่ยเห็นหญิงชราเริ่มไว้ใจ ก็พยายามหลอกถามนาง "มี มีสิ" หญิงชราพยักหน้า "แล้วทำไมไม่พาองค์ชายหนีไปหล่ะคะ ท่านพาข้าไปที่นั่นสิ เดี๋ยวข้าจะพาองค์ชายออกไปเอง" เส่เยี่ยเห็นว่ามีโอกาส ก็รีบชักจูงหญิงชราทันที ฝ่ายหญิงชรากำลังจะลุกพาเส่เยี่ยเดินออกจากห้องโถงไป แต่อยู่ๆ นางก็หยุดชะงัก แล้วก็หันมามองเส่เยี่ยแบบไม่ไว้วางใจ "เจ้า เจ้าหลอกข้า เจ้าเป็นพวกมันใช่ไหม เจ้าจะมาพาองค์ชายใหญ่ไปใช่ไหม!!!" "เดี๋ยวๆ เดี๋ยวค่ะท่านป้า ข้าไม่ใช่พวกมันนะ" เส่เยี่ยปฏิเสธ หญิงชราไม่เชื่อ นางรีบคว้าห่อผ้าเด็กจากมือของเส่เยี่ยไป "ข้าไม่เชื่อ เจ้าเป็นคนร้าย เจ้าเป็นคนร้าย" "ไม่ใช่นะคะ ท่านดูดีๆ สิค่ะ ข้าเหมือนกับคนร้ายงั้นหรือ" เส่เยี่ยพยายามพูดจูงใจนาง หญิงชราเดินเข้ามาใกล้เส่เยี่ย แล้วก็เอามือหยาบกร้านลูบใบหน้าของนาง "เจ้านั่นเอง ข้าจำเจ้าได้แล้ว เจ้าชอบมาเล่นกับองค์ชายรองที่นี่ แล้วก็เอาขนมมาให้ข้า องค์ชายรองโตแล้ว เขาฉลาดแล้วก็น่ารักมาก แต่เขาไม่เคยรู้ว่าเขามีพี่ชาย" หญิงชราลูบผมเส่เยี่ยเบาๆ แล้วอยู่ๆ นางก็ร้องไห้คร่ำครวญ "ไป ไป เจ้ารีบไป เจ้ามาเล่นที่นี่ไม่ได้นะ บอกองค์ชายรองด้วย อย่ามาที่นี่อีก ฮองเฮาไม่ให้ข้าพูดกับใคร เจ้าไป ไปซะ" ว่าแล้วหญิงชราก็ทั้งผลักทั้งดึงเส่เยี่ยออกมาจนถึงหน้าสวน แล้วหญิงชราก็วิ่งหายลับไป เส่เยี่ยถอนหายใจเฮือกใหญ่ นางค่อยๆ ตั้งสติ คลำทางจนกลับมาถึงจวน คืนนั้นทั้งคืนนางนอนแทบไม่หลับเลย นางฝันเห็นภาพหญิงชราและองค์ชายใหญ่ตลอดทั้งคืน แท้จริงแล้วหญิงชราคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมนางถึงได้ไปอยู่ที่นั่น และฮองเฮา องค์ชายใหญ่ องค์ชายรอง นางหมายถึงใครกัน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่...
Create Date : 04 มกราคม 2552 |
|
26 comments |
Last Update : 19 มีนาคม 2560 1:50:58 น. |
Counter : 465 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: cipher IP: 58.8.134.126 4 มกราคม 2552 16:41:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 4 มกราคม 2552 18:29:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 4 มกราคม 2552 18:33:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 4 มกราคม 2552 18:34:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 4 มกราคม 2552 18:36:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 4 มกราคม 2552 18:40:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 4 มกราคม 2552 18:41:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.141.117 4 มกราคม 2552 20:44:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 4 มกราคม 2552 21:28:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: จินห่าว 4 มกราคม 2552 22:42:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: midori IP: 124.120.208.202 4 มกราคม 2552 22:46:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 4 มกราคม 2552 23:56:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 5 มกราคม 2552 0:16:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 5 มกราคม 2552 0:19:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.141.117 5 มกราคม 2552 0:25:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 5 มกราคม 2552 0:34:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทับทิม IP: 125.26.40.99 5 มกราคม 2552 21:29:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 5 มกราคม 2552 22:33:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 5 มกราคม 2552 23:37:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.133.49 7 มกราคม 2552 23:14:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 10 มกราคม 2552 14:58:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.141.6 10 มกราคม 2552 15:35:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 10 มกราคม 2552 17:02:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|