แฟนฟิคชั่น : กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน (The Hero & The King)
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

กระบี่สะท้านฟ้าฯ ตอนที่ 19 ไต้ซือและหยกครึ่งชิ้น

รุ่งเช้า ตำหนักหลวง ณ ห้องบรรทมฮ่องเต้

วันนี้คังซื่อรู้สึกตัวแต่เช้ามืด เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเลย มัวแต่คิดถึงเรื่องการอภิเษก มันช่างตลกดีแท้ ที่ผู้ชายอกสามศอกอย่างเขา ไม่สามารถจะเลือกคู่ครองเองได้ และที่น่าขันไปกว่านั้นก็คือ เขาเป็นถึงฮ่องเต้ต้าซ่ง แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารหรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว เขาไม่เคยมีอำนาจในการตัดสินใจเองเลย

ชายหนุ่มเดินไปหยิบช่อดอกรักที่ปักอยู่ในแจกันด้วยแววตาอาวรณ์ เขาคิดทบทวนถึงเรื่องราวระหว่างเขากับเส่เยี่ย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มันใช่ความบังเอิญหรือเปล่า ทำไมเขาต้องมารู้จักนางด้วย หรือว่าสวรรค์ได้ลิขิตเอาไว้หมดแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย คังซื่อตกหลุมรักหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น แต่เพราะเหตุใดนางถึงเข้าครอบครองหัวใจเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ จริงอยู่นางอาจจะมีหน้าตาที่คล้ายกับปิงเยี่ย แต่ความจริงแล้วหญิงสาวทั้งสองคนช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คนหนึ่งแก่นแก้วเหมือนม้าดีดกระโหลก อีกคนก็เรียบร้อยสมกับเป็นกุลสตรี คนหนึ่งโผงผางเอาแต่ใจตัวเอง อีกคนก็เงียบขรึมเดาใจยาก ดูเหมือนจะมีเพียงแค่สิ่งเดียวที่เหมือนกันก็คือ "ความดื้อ" โดยเฉพาะเส่เยี่ย แม้ภายนอกจะดูนิ่งเฉย แต่นางเป็นคนที่ดื้อเงียบเอามากๆ ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขาไม่มีวันเข้าถึงนางได้เลย เหมือนกับว่าหญิงสาวเก็บอะไรไว้ในใจตลอด และสิ่งนี้เองที่กลายเป็นเสน่ห์ท้าทาย ทำให้ชายหนุ่มต้องการเอาชนะ เขาอยากค้นหาคำตอบจากดวงตาที่ว่างเปล่าคู่นั้นให้ได้

แต่การจะเอาชนะหญิงสาวอย่างเส่เยี่ยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย...

ชายหนุ่มถอนหายใจยาวแล้วใส่ดอกไม้กลับคืนไปในแจกัน นอกจากด่านของเส่เยี่ยแล้ว วันนี้เขายังต้องผ่านอีกด่านหนึ่งไปให้ได้เสียก่อน ถูกต้องแล้ว เขาจะต้องไปคุยเรื่องนี้กับไทเฮา
"เฮ้ออออ" ทำไมอะไรๆ ในชีวิตของเขา มันถึงได้ยากกว่าคนอื่นนะ ใครไม่รู้คงคิดว่าเป็นฮ่องเต้นั้นสุขสบาย แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องราวของเขาเลย

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ณ จวนอ๋องถูจิ้น

เส่เยี่ยอยู่เฉยๆ ทุกวันก็รู้สึกเบื่อ นางไม่อยากกลายเป็นคนตาบอดไร้ค่า จึงขอเจ้าหยาจือทำงานเล็กๆ น้อยๆ ภายในจวน เจ้าหยาจือไม่อยากขัดใจหญิงสาว จึงให้นางช่วยออกมาให้อาหารนกและปลาที่สวนหลังจวนทุกเช้า ระหว่างที่กำลังให้อาหารปลาอยู่นั้น ก็มีผู้มาเยี่ยมเยือน
"อรุณสวัสดิ์แม่นางเส่เยี่ย" เสียงหวานสดใสของหลินกุเหนียงกล่าวทักทายมาแต่ไกล เส่เยี่ยได้ยินเสียงจึงหยุดให้อาหารปลาแล้วหันไปทักทายเจ้าของเสียงนั้น
"วันนี้ไม่ต้องซ้อมวรยุทธงั้นหรือ มาหาข้าแต่เช้าเชียว" เส่เยี่ยพูดแล้วก็ยิ้มหวาน
"ข้าไม่ได้มาคนเดียวนะ พาใครมาด้วย" หลินกุเหนียงอมยิ้มแบบมีเลศนัย
"ฝ่าบาทก็มาด้วยงั้นเหรอ ตอนนี้ทรงอยู่ที่ไหนหล่ะ" เส่เยี่ยได้ยินเช่นนั้นก็เผลอถามหาฮ่องเต้ด้วยอาการดีใจ
"เอ แม่นางเส่เยี่ย ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าพาใครมาด้วย ทำไมถึงได้รู้หล่ะว่าเป็นฮ่องเต้ รึว่า..." หลินกุเหนียงแกล้งแซวจนนางอาย เส่เยี่ยเผลอเทอาหารปลาลงน้ำจนเกือบหมดถ้วย หลินกุเหนียงเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะชอบใจ ก็ฮ่องเต้ทั้งน่ารักและเอาใจเส่เยี่ยขนาดนี้ ใครไม่รักก็บ้าแล้ว นี่หากนางไม่ได้แอบปิ๊งพี่จั๋วไปแล้วหล่ะก็ คงเสียดายโอกาสดีๆ ที่จะได้เป็นฮองเฮาเช่นกัน
"เอาหล่ะๆ ไม่แกล้งเจ้าแล้ว เดี๋ยวปลาอิ่มตายกันพอดี ตอนนี้ฮ่องเต้ทรงรออยู่ด้านในหน่ะ วันนี้ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่" หลินกุเหนียงเข้าไปประคองเส่เยี่ยแล้วก็เดินออกมาจากสวนด้วยกัน
"คงเป็นเพราะเรื่องอภิเษกสินะ" เส่เยี่ยเองก็พอจะเดาออก เมื่อวานตอนที่เขาเดินมาส่งนาง ก็ดูเงียบเชียว จะว่าไปแล้ว เขาก็น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย
"เฮ้อ ฮ่องเต้นี่ก็แปลกเนอะ มีสาวสวยพร้อมทั้งรูปสมบัติคุณสมบัติมาให้เลือก ยังจะต้องกลุ้มใจทำไม" หลินกุเหนียงส่ายหัวด้วยความไม่เข้าใจ
"ท่านไม่เข้าใจหรอก บางครั้งต่อให้มีเป็นร้อยเป็นพันตรงหน้า แต่ก็ต้องการเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น" คนพูดพูดแล้วก็มองเหม่อ
"โอ้โหพูดแบบนี้ แสดงว่ามั่นใจมากสินะว่าฮ่องเต้ทรงรักเจ้าคนเดียว" หลินกุเหนียงแกล้งแซว
"บ้าสิ ใครบอกว่าข้าหมายถึงตัวเองเล่า"
"อ๊ะๆ ไม่ใช่แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย" หลินกุเหนียงหัวเราะ เส่เยี่ยก็หันมาตีแขนนางเบาๆ ทำไมถึงได้ชอบแซวนางนักนะ เป็นเพราะแบบนี้ถึงทำให้คังซื่อเข้าใจผิดไปกันใหญ่

สองสาวเดินไปคุยไปจนเข้ามาถึงด้านในของจวน เพียงแค่ก้าวเข้ารัศมีห้อง เส่เยี่ยก็รู้ว่าฮ่องเต้อยู่ในห้องนั้นแล้ว หญิงสาวรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันที ฝ่ายคังซื่อพอเห็นเส่เยี่ยเดินเข้ามา ก็เข้าไปประคองนางให้มารู้จักกับแขกที่มาเยือน
"เส่เยี่ย ท่านนี้คืออิเต็งไต้ซือนะ ท่านเป็นหมอเทวดา เคยรักษาเราตอนเด็กๆ" คังซื่อแนะนำให้เส่เยี่ยรู้จักกับไต้ซือที่ดูเลยวัยกลางคนไปแล้ว ท่าทางของเขาสุขุมและใจดี คังซื่อกับไต้ซือดูจะสนิทกันมาก เพราะไต้ซือเคยรักษาคังซื่อให้หายจากโรคร้ายตอนที่ยังทรงเยาว์อยู่ ความจริงไต้ซือได้ตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว ท่านไม่ยอมรักษาให้ใครง่ายๆ หากไม่ใช่เพราะเป็นฮ่องเต้คนนี้ขอร้อง ท่านไม่มีทางขึ้นมาที่เมืองหลวงเป็นอันขาด

ฮ่องเต้บอกกับเส่เยี่ยว่า อยากให้ไต้ซือลองรักษาดวงตาให้กับนาง หญิงสาวเห็นว่าเขากำลังไม่สบายใจ จึงไม่อยากขัดใจเขา นางตกลงรับปากให้ไต้ซือลองตรวจอาการดู คังซื่อขอร้องให้เส่เยี่ยเล่าเรื่องที่ตาบอดให้ฟัง หญิงสาวทำท่าอึกอัก นางไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นเลย มันคือฝันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของนาง มันทำให้นางต้องสูญเสียทั้งดวงตาและบิดาผู้เป็นที่รักไป แค่คิดก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ทำไมนางต้องมาเล่าเรื่องแบบนี้ให้คนอื่นฟังด้วยนะ ที่สำคัญหญิงสาวไม่อยากให้ใครรู้ว่า นางคือบุตรสาวของซุนซิ่ง อดีตมือกระบี่อันดับหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ เส่เยี่ยเล่าเรื่องของตนเองแบบถามคำตอบคำ พอโดนซักเข้ามากๆ หญิงสาวก็หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ไต้ซือเห็นว่านางไม่ค่อยให้ความร่วมมือ จึงเปลี่ยนมาขอตรวจดวงตาและชีพจรของนางแทน

หลังจากไต้ซือตรวจดูตาของเส่เยี่ยทั้งสองข้าง ก็ขมวดคิ้วแน่น ทำเอาคนในห้องต่างพากันลุ้นตามไปด้วย จากนั้นท่านจับชีพจรของเส่เยี่ยแล้วก็ขมวดคิ้วอีก เหมือนกับว่ามีอะไรผิดปกติ ท่านจึงขอตรวจดูตาของเส่เยี่ยอีกครั้งหนึ่งจนแน่ใจ ก่อนจะพูดให้ทุกคนในห้องฟังถึงอาการของนาง
"อมิตาพุธ ความจริงตาของแม่นางผู้นี้ไม่ได้บอด" ไต้ซือกล่าว
"หา!!!!!!!!!!!!" ทุกคนในห้องร้องขึ้นพร้อมๆ กัน
"หากปฏิบัติตามวิธีที่ข้าแนะนำ นางจะต้องหายเป็นปกติอย่างแน่นอน" ไต้ซือพยักหน้าด้วยความมั่นอกมั่นใจ
"จริงเหรอไต้ซือ!!!" ฮ่องเต้ดีใจเสียยิ่งกว่าเส่เยี่ยเสียอีก แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะยังไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไหร่
"ถ้าตาข้าไม่ได้บอด แล้วทำไมข้าถึงมองไม่เห็นหล่ะ" เส่เยี่ยย้อนถามด้วยความสงสัย นางพูดแล้วก็เอามือแตะไปที่ตาทั้งสองข้าง
"จะเห็นหรือไม่ อยู่ที่จิตใจของเจ้า" ไต้ซือตอบ
"จิตใจของข้างั้นเหรอ ท่านพูดอะไร ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย" เส่เยี่ยขมวดคิ้ว คนอื่นๆ ในห้องก็พากันสงสัยไปด้วย
"แม่นางอายุยังน้อย อาจไม่รู้ว่าในโลกนี้มีโรคที่แปลกประหลาดพิสดารอยู่มากมาย หลายสิบปีมานี้ ข้าเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ รักษาทั้งคนใบ้ หูหนวก ตาบอด บางรายก็เป็นอัมพาต หรือไม่ก็สูญเสียความทรงจำ แท้จริงแล้วคนเหล่านี้ไม่ได้ป่วยทางร่างกายแต่อย่างใด เพียงแต่พวกเขาได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติไปเท่านั้นเอง"
"มีโรคแบบนี้ด้วยหรือ" องครักษ์เหอขมวดคิ้วอย่างไม่เชื่อ
"มีสิ หากสามารถแก้ปมในใจของผู้ป่วยได้ ร่างกายก็จะกลับมาหายเป็นปกติ" ไต้ซือตอบ
"ปมในใจงั้นหรือ" คราวนี้องครักษ์จั๋วขมวดคิ้วบ้าง
"นี่แม่นางเส่เยี่ย เจ้ามีปมอะไรในใจก็รีบบอกไต้ซือไปสิ จะได้มองเห็นสักที" หลินกุเหนียงที่ยืนเอาใจช่วยอยู่ข้างๆ รบเร้าหญิงสาว
"เส่เยี่ยจ๊ะ ไม่ต้องกลัวนะ ค่อยๆ เล่าให้ไต้ซือฟังก็ได้..." เจ้าหยาจือพยักหน้าเห็นด้วยกับหลินกุเหนียงแล้วก็พยายมพูดกล่อมให้เส่เยี่ยคล้อยตาม หารู้ไม่มันกลับทำให้เส่เยี่ยยิ่งหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิม พอนางนึกถึงภาพที่บิดากำลังนอนจมกองเพลิง ความแค้นที่เก็บซ่อนไว้ ก็พุ่งพล่านขึ้นมาในใจอีก ก็เพราะราชสำนักไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ครอบครัวของนางต้องมาพบจุดจบเช่นนี้
"เหลวไหล!!! ข้าเองก็เป็นหมอ เรื่องปมในใจบ้าบออะไรนี่ ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย ข้าว่าไต้ซือคนนี้จะหลอกเอาเงินค่ารักษามากกว่า" เส่เยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง
"เส่เยี่ยอย่าเสียมารยาทกับไต้ซือสิจ๊ะ" เจ้าหยาจือตำหนิ
"ไม่เป็นไรๆ ข้าเข้าใจความรู้สึกนางดี เรื่องการรักษานี้ มันต้องค่อยเป็นค่อยไป" ไต้ซือตอบอย่างใจเย็น
"ก็ข้าบอก ไม่รักษา ไม่รักษาไง!!! อย่ามาบังคับข้าได้ไหม!!!" เส่เยี่ยพูดจบก็เอามือปิดหน้าปิดตา เหมือนไม่อยากรับฟังอะไรอีกแล้ว
"เอาหล่ะๆ ทุกคนออกไปก่อนดีกว่า ให้เส่เยี่ยได้พักผ่อนสักครู่ ข้าจะพูดกับนางเอง" ฮ่องเต้เห็นว่าเส่เยี่ยกำลังอารมณ์ไม่ดี ถึงพูดอะไรไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ จึงสั่งให้ทุกคนออกไปก่อน

เมื่ออยู่ในห้องเพียงลำพังสองคนแล้ว ฮ่องเต้ก็นั่งลงข้างๆ เส่เยี่ย ตอนนี้หญิงสาวหลับตาและเอามือปิดหูไว้แน่น
"ไม่เป็นไรแล้วนะ" ชายหนุ่มค่อยๆ คลายมือของหญิงสาวออก
"หม่อมฉันไม่อยากรักษา" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"เรารู้ๆ" คังซื่อค่อยๆ โน้มศีรษะของหญิงสาวลงมาหนุนกับไหล่กว้างของตน
"เจ้าไม่ต้องคิดมากนะ อะไรที่เจ้าไม่สบายใจ ไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำ" ชายหนุ่มพูดปลอบ พร้อมกับลูบผมของหญิงสาวเบาๆ
"แต่พวกเขาชอบบังคับจิตใจข้า" หญิงสาวพูดไปน้ำตาซึม นางเอียงหนุนไหล่อันอบอุ่นนั้น
"ก็เพราะทุกคนเป็นห่วงเจ้าไง"
"แต่ว่า..."
"เอาหล่ะๆ ไม่ต้องคิดมากแล้ว เดี๋ยวเราจะออกไปอธิบายกับทุกคนเอง ในเมื่อเจ้าไม่อยากรักษา ก็ไม่ต้องรักษา ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร เราจะตามใจเจ้าทุกอย่าง" คังซื่อให้สัญญากับหญิงสาว
"จริงนะเพคะ" หญิงสาวถามเขาด้วยหัวใจที่สั่นไหว เส่เยี่ยเริ่มรู้สึกไว้ใจคนๆ นี้แล้ว ทั้งๆ ที่ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้เลย

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

คังซื่อปล่อยให้เส่เยี่ยพักผ่อนอยู่ในห้อง ส่วนเขาก็ออกมาพบกับคนอื่นที่รออยู่ด้านนอก

"เป็นอย่างไรบ้างเพคะฝ่าบาท" เจ้าหยาจือเห็นฮ่องเต้เดินออกมาก็รีบวิ่งเข้าไปถาม คังซื่อได้แต่ส่ายหัว
"ต้องขอโทษไต้ซือด้วยที่เสียมารยาท" คังซื่อรีบกล่าวขอโทษที่เขาไล่ไต้ซือออกมา แถมเส่เยี่ยยังพูดจาดูถูกท่านอีก
"อมิตาพุทธ คนไข้ที่ข้ารักษาตอนแรกก็เป็นแบบนี้ทุกคน" ไต้ซือยิ้มอย่างเป็นกันเอง
"ว่าแต่ไต้ซือ ท่านแน่ใจหรือว่าเส่เยี่ยป่วยเป็นโรคที่ท่านว่าจริงๆ" คังซื่อถามอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจ
"อืม" ไต้ซือพยักหน้า
"แล้วจะรักษายังไง ในเมื่อนางไม่ยอมให้ความร่วมมือแบบนี้" หลินกุเหนียงถามขึ้น
"ในเมื่อนางไม่อยากรักษา เราก็ไม่อยากขัดใจนาง" คังซื่อตอบ คนอื่นก็หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย
"แต่ตามใจกันแบบนี้ ไม่เป็นผลดีกับเส่เยี่ยเลยนะเพคะ" เจ้าหยาจือท้วงเขา
"ตอนนี้น้ำกำลังเชี่ยว เราไม่อยากเอาเรือเข้าไปขวาง หากเส่เยี่ยรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกบังคับ จะยิ่งเตลิดไปกันใหญ่" ฮ่องเต้อธิบาย
"อืม ฝ่าบาทตรัสเช่นนี้ก็มีเหตุผล เรื่องนี้จะใจร้อนไม่ได้ จะให้คนไข้พูดถึงความเจ็บปวดในใจ ก็ต้องรอให้เขาพร้อมและรู้สึกไว้ใจคนรอบข้างจริงๆ" ไต้ซือเองก็เห็นด้วยกับความคิดของฮ่องเต้
"งั้นเราก็พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งไปพูดอะไรให้เส่เยี่ยไม่สบายใจ ท่านอาหญิง ช่วงนี้เราอาจจะไม่ค่อยว่าง ยังไงฝากเส่เยี่ยด้วยก็แล้วกันนะ" คังซื่อพูดฝากเส่เยี่ยไว้กับเจ้าหยาจือ เหมือนจะรู้ว่าต่อไปคงจะมีโอกาสมาหานางน้อยลง

วันนี้เขายังเหลืออีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ ถึงแม้ว่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากพยายามดูก่อน ดีกว่าปล่อยให้โอกาสนั้นผ่านไปเฉยๆ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

บ่ายวันนั้น ณ ตำหนักไทเฮา

ไม่ต้องสงสัยเลย ทันทีที่ไทเฮาทรงทราบเรื่องของเส่เยี่ย ก็โวยวายจนวังเกือบแตก

"ฮ่องเต้เสียสติไปแล้ว!!! คนพิการจะเอามาเป็นฮองเฮาได้อย่างไร!!!" ไทเฮาดุคังซื่อแล้วก็นั่งลงกุมขมับ ทำไมลูกชายคนนี้ถึงได้ชอบทำอะไรขัดใจนางอยู่เรื่อยนะ อุตส่าห์กำจัดปิงเยี่ยไปได้คนแล้ว นี่ดันมีเส่เยี่ยโผล่ขึ้นมาอีก อยากจะเป็นลมจริงๆ
"เสด็จแม่ ความจริงตาของเส่เยี่ยอาจพอมีทางรักษาได้ หม่อมฉันได้เชิญ..." ฮ่องเต้พยายามจะอธิบาย แต่พูดยังไม่ทันจบประโยค ก็ถูกไทเฮาแทรกขึ้นก่อน
"แม่ไม่สนว่านางจะตาบอดหรือตาดี!!! ต่อให้นางไม่ได้พิการ ก็เป็นเพียงหญิงคณิกา แล้วฮ่องเต้จะไปอภิเษกกับหญิงคณิกาต่ำๆ พรรณนั้นได้อย่างไร" ไทเฮาพูดจบแล้วก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา นางยกพิมเสนขึ้นดมให้หายใจสะดวกขึ้น พวกนางกำนัลก็รีบวิ่งเข้ามาปรนนิบัติพัดวีกันใหญ่ ฝ่ายคังซื่อพอได้ยินเช่นนั้น ก็พยายามจะอธิบายว่าเส่เยี่ยไม่ใช่นางโลมอย่างที่ไทเฮาคิด
"เส่เยี่ยไม่ใช่นางคณิกานะพะย่ะค่ะ!!! นางแค่บังเอิญ..."
"บังเอิญอะไร!!! ถึงจะไม่ใช่นางโลม แต่ก็ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ฮ่องเต้จะอภิเษกกับสามัญชนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่ได้ กฏมณเทียรบารแค่นี้เจ้าไม่รู้งั้นหรือ" ไทเฮาทุบโต๊ะดังปัง!!! นางขึ้นเสียงสูงด้วยความไม่พอใจ
"แต่หม่อมฉันรักเส่เยี่ยเขาจริงๆ ในเมื่อหม่อมฉันเป็นฮ่องเต้ ทำไมจะเปลี่ยนกฏไม่ได้หล่ะพะย่ะค่ะ" ชายหนุ่มเถียงเสียงแข็ง แม้จะรู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด แต่เขาจะไม่ยอมสูญเสียความรักครั้งนี้ไปแน่ ส่วนไทเฮาพอได้ยินฮ่องเต้พูดเช่นนี้ก็กริ้วมาก ไม่คิดว่าคำพูดไร้เดียงสาเช่นนี้ จะหลุดออกมาจากปากฮ่องเต้ได้
"คังซื่อ!!!นี่เจ้า!!!" ผู้เป็นมารดาโกรธจนสั่นไปหมดทั้งตัว นางตะคอกเสียงดัง พวกนางกำนัลตกใจถอยไปรวมกันอยู่ด้านหลัง
"ถึงฝ่าบาททรงเปลี่ยนกฏได้ แต่ทรงเปลี่ยนสายเลือดในตัวไม่ได้!!! หากยังนับถือว่าข้าเป็นแม่ของเจ้า ก็อย่านำเรื่องผู้หญิงคนนี้มาพูดกับแม่อีก จำไว้ แม่จะไม่มีวันยอมให้ฮ่องเต้ไปแต่งกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้านั่น!!!" คราวนี้ไทเฮาตัดสินใจยื่นคำขาด ขืนยอมอ่อนให้ มีหวังต้องได้ลูกสะใภ้เป็นหญิงคณิกาแถมยังตาบอดแน่ แค่คิดนางก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
"แต่ว่าเสด็จแม่..."
"พอแล้ว!!!!!!!!!" ไทเฮาตวาดลั่นแล้วก็เซล้มลงบนเก้าอี้
"องครักษ์จั๋วพาฮ่องเต้ออกไปเดี๋ยวนี้!!!" ไทเฮาเอามือกำที่หัวใจเหมือนจะหายใจไม่ทัน คังซื่อเห็นไทเฮาอาการไม่ดี ก็พยายามจะเข้าไปดูผู้เป็นมารดา แต่องครักษ์จั๋วก็เข้ามาห้ามไว้ก่อน
"ฝ่าบาททรงออกไปก่อนเถอะ!!! ตอนนี้ไทเฮากำลังกริ้ว ฝ่าบาทยิ่งอยู่ นางจะยิ่งแย่ลงนะพะย่ะค่ะ!!!" องครักษ์จั๋ว องครักษ์เหอ และหลินกุเหนียงก็พากันฉุดลากฮ่องเต้ออกมาจากห้องไทเฮาจนสำเร็จ แต่ละคนพากันหอบแฮก เห็นตัวบางๆ แบบนี้ แต่ก็แรงเยอะเหมือนกัน

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

อีกด้านหนึ่ง ณ ดินแดนทางตอนเหนือ

กงซุนเช่อวางแผนให้ทุกคนออกตามหาเส่เยี่ยโดยใช้ภาพวาดที่เขาวาดขึ้น ชีเส้าเฟยรับผิดชอบไปค้นหาทางใต้ อ้อมหมิงเจิ้งไปทางตะวันออก ลู่เสี่ยวฟงไปทางตะวันตก และจิวแปะทงไปทางเหนือ ส่วนตัวกงซุนเช่อเองซึ่งไม่มีวรยุทธรอประจำการอยู่ที่ร้านเหล้าฉีถิง คอยฟังข่าวจากทิศต่างๆ และเผื่อเส่เยี่ยจะวกกลับมาที่ร้านด้วย

เวลาผ่านไปสองวัน ดูเหมือนว่าแผนการณ์ของกงซุนเช่อจะใช้ไม่ได้ผลเลย ทุกวันแต่ละคนจะพากันเดินคอตกกลับมา ไม่มีใครได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับเส่เยี่ยเลย เพราะตอนที่หญิงสาวหายตัวไปนั้น เป็นช่วงเวลาเช้ามืด จึงไม่มีใครพบเห็นนาง

ณ ร้านเหล้าฉีถิง ตอนนี้ตะวันตกดินแล้ว

ขณะที่กงซุนเช่อนั่งรอทุกคนด้วยใจกระสับกระส่าย เขาก็หยิบภาพเส่เยี่ยขึ้นมาดู เขารู้สึกเหมือนกับว่าเคยเจอนางที่ไหนมาก่อน แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ จิวแปะทงกับชีเส้าเฟยก็กลับมาที่ร้านเป็นกลุ่มแรก ไม่ต้องสงสัยเลย เห็นหน้าพวกเขาก็รู้แล้วว่าไม่พบเส่เยี่ย กงซุนเช่อไม่ซักไซร้อะไรมากมาย เขาตบบ่าชีเส้าเฟยเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ

ฝ่ายลู่เสี่ยวฟงซึ่งเดินมาจากทางทิศตะวันตก พบกับอ้อมหมิงเจิ้งที่หน้าร้านก็ยิ้มหวานให้ แต่หญิงสาวกลับทำหน้าบูดบึ้งใส่เขา พอทั้งสองคนกำลังจะเข้าก้าวประตูพร้อมกัน ลู่เสี่ยวฟงก็แกล้งเดินเข้าไปใกล้ๆ อ้อมหมิงเจิ้ง ทำให้นางต้องเบี่ยงตัวหลบจนไปสะดุดเข้ากับมุมประตู หญิงสาวเสียหลักกำลังจะถลาลงสู่พื้น ลู่เสี่ยวฟงเห็นจังหวะเหมาะจึงใช้วิชาตัวเบาโฉบขึ้นไปรับอ้อมหมิงเจิ้งไว้ได้ทัน ชายหนุ่มหมุนตัวสองรอบก่อนลงสู่พื้น (ท่าประจำตัว เอาไว้ใช้ตอนจีบสาว) ฝ่ายอ้อมหมิงเจิ้งพอรู้ตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ก็รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก นางรีบผละตัวออกจากลู่เสี่ยวฟงอย่างรวดเร็ว ลู่เสี่ยวฟงเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งได้ใจ เขาแกล้งยักคิ้วยั่วให้อ้อมหมิงเจิ้งโกรธ ยังไม่ทันที่อ้อมหมิงจะได้โวยวาย กงซุนเช่อก็วิ่งเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
"นึกออกแล้ว!!! ข้านึกออกแล้ว!!!" กงซุนเช่อจับไหล่ลู่เสี่ยวฟงเขย่าด้วยความดีใจ
"อะไร อะไร พี่รอง ท่านนึกอะไรออกงั้นเหรือ" ลู่เสี่ยวฟงขมวดคิ้ว สงสัยว่าหัวหน้ารองเป็นอะไรไป อยู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาดีใจเช่นนี้
"ก็แม่นางเส่เยี่ยไง ข้านึกออกแล้วว่าเคยพบนางที่ไหน!!!" กงซุนเช่อตอบเสียงดังด้วยความมั่นใจ ทำเอาชีเส้าเฟยซึ่งนั่งซึมอยู่ลุกขึ้นมาซักถามไม่หยุด
"พี่รองท่านเคยเห็นเส่เยี่ยงั้นเหรอ ที่ไหนกัน!!!"
"ที่เมืองหลวง"
"เมืองหลวงงั้นเหรอ" ชีเส้าเฟยขมวดคิ้ว
"อืม" กงซุนเช่อพยักหน้า
"พี่รอง ท่านเห็นนางเมื่อไหร่" ชีเส้าเฟยคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเส่เยี่ยไม่เคยไปเมืองหลวง ตลอดชีวิตของนางอาศัยอยู่กับพ่อที่หมู่บ้านหลิวเท่านั้น
"ก็ตอนที่ข้าไปสอบจอหงวนไง ตอนนั้นพวกท่านไปตามหาข้าที่เมืองหลวง จากนั้นหัวหน้าใหญ่ ท่านก็แยกไปก่อน เหลือเพียงข้าและน้องสี่ วันนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาเหมือนกับแม่นางเส่เยี่ยเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม ที่ข้าจำนางได้ก็เพราะว่านางสะดุดคานประตูล้มลง แต่น้องสี่ใช้วิชาตัวเบาโฉบเข้าไปรับนางไว้ได้ทัน แบบที่รับหงเผาเมื่อครู่นี้นี่แหละ ข้าถึงได้นึกออกยังไง" กงซุนเช่ออธิบายเสียยาว คนอื่นๆ ฟังแล้วก็พยักหน้าเป็นอันเข้าใจ
"อ๋ออออออ!!! ใช่ๆๆ ใช่แล้วแม่สาวน้อยคนนั้นนั่นเอง จริงด้วยพี่รอง นางเหมือนแม่นางเส่เยี่ยมากๆ ข้าจำได้แล้ว ท่านนี่ความจำดีจริงๆ นับถือ นับถือ" ลู่เสี่ยวฟงนึกออกแล้วก็ลากเสียงอ๋อซะยาว จากนั้นเขาก็หยิบภาพวาดของเส่เยี่ยขึ้นมาดูอีกครั้ง แล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยกับกงซุนเช่อ ส่วนชีเส้าเฟยก็ยืนเงียบสนิท
"พอเป็นเรื่องผู้หญิง ก็นึกออกทันทีเลยนะ สมแล้วที่เป็นเจ้าจริงๆ" อ้อมหมิงเจิ้งมองลู่เสี่ยวฟงด้วยหางตาแล้วก็ค้อนให้เขา
"ทำไม หึงข้าเหรอ" ลู่เสี่ยวฟงกระแซะเข้ามาใกล้ๆ อ้อมหมิงเจิ้งแล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยให้นาง
"หึงบ้านเจ้าหน่ะสิ!!! เจ้าจะไปหว่านเสน่ห์ที่ไหน เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย!!!"
"กลัวแต่บางคน ปากไม่ตรงกับใจมากกว่า" ลู่เสี่ยวฟงพูดแล้วก็ยักคิ้วให้นางอย่างเป็นต่อ
"ปากข้าจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของข้า แต่ขืนพูดมาก ปากเจ้าจะมีสีแน่!!!" อ้อมหมิงเจิ้งทำท่ากำมัดใส่ลู่เสี่ยวฟง
"เออ เจ้าสองคนนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ คนหนึ่งก็ปากจัด คนหนึ่งก็ปากเสีย ราวกับว่าสวรรค์ส่งเจ้าสองคนมาคู่กันยังไงไม่รู้ ข้ารู้สึก" จิวแปะทงเห็นสองคนเถียงกันก็อดแซวไม่ได้
"ปากท่านสิจัด!!!"
"ปากท่านสิเสีย!!!" ทั้งลู่เสี่ยวฟงและอ้อมหมิงเจิ้ง หันไปดุใส่จิวแปะทงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"อ๊ะๆๆ ดูสิ ขนาดจะด่าข้า ยังใจตรงกันเลย เจ้าสองคนต้องเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆ" จิวแปะทงเห็นเช่นนั้นก็ตบมือหัวเราะชอบใจเหมือนเด็กๆ ส่วนอ้อมหมิงเจิ้งยืนหน้าเขียวด้วยความโกรธ
"เอาหล่ะๆ ทุกคน อย่าเพิ่งเล่นเลย หัวหน้าใหญ่ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้" กงซุนเช่อดุคนอื่นๆ แล้วก็หันไปถามชีเส้าเฟยที่ยืนนิ่งอยู่
"ปั๊ดโธ่ ยังจะต้องคิดอะไรมาก ก็จับพวกเขาสองคนเข้าหอไปเลย อยู่ๆ กันไป เดี๋ยวก็รักกันไปเองหล่ะน่า" จิวแปะทงทำท่าขึงขังเอาจริงเอาจัง
"เฮ๊ยยย นักพรตจิว พี่รองไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น!!! พี่รองกำลังพูดถึงแม่นางเส่เยี่ยต่างหาก" ลู่เสี่ยวฟงตกใจจนแทบจะกระโดด ขืนให้เขาแต่งงานกับอ้อมหมิงเจิ้งจริงๆ มีหวังน่วมทั้งวันแน่
"อ้าวเหรอ เออๆ งั้นตกลงเจ้าจะว่ายังไง... หล่ะคะ... ลุงชี..." จิวแปะทงหันไปถามชีเส้าเฟย แล้วก็แกล้งลากเสียงยาวๆ ให้เหมือนกับเส่เยี่ย เลยโดนอ้อมหมิงเจิ้งกระทุ้งหลังไปทีหนึ่ง จิวแปะทงนี่ช่างเหมือนกับเด็กๆ เสียจริง เล่นอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ชีเส้าเฟยกำลังเครียดอยู่แท้ๆ
"พี่รอง ข้าว่าท่านคงจำผิดคนแล้วหล่ะ ตอนที่ท่านพบกับเส่เยี่ย ก็เป็นเวลาไล่ๆ กับที่ข้าพบนางที่หมู่บ้านหลิวเช่นกัน ข้อแรก นางไม่มีทางปรากฏตัวพร้อมกันสองแห่งในเวลาเดียวกัน ข้อสอง ข้ามั่นใจว่าเส่เยี่ยไม่เคยไปเมืองหลวง ตลอดชีวิตของนางอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหลิวแห่งเดียวเท่านั้น" ชีเส้าเฟยตอบด้วยสีหน้านิ่ง ทำเอาคนอื่นพลอยเครียดตามไปด้วย กงซุนเช่อรู้สึกผิดหวังมากที่สุด อุตส่าห์คิดว่ามีเบาะแสแล้วเชียว แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดไปได้ แล้วทีนี้จะไปตามหาแม่นางเส่เยี่ยได้ที่ไหน ค้นหาจนรอบทิศแล้วก็ยังไม่พบร่องรอยอะไรเลย ความหวังที่ชีเส้าเฟยกับเส่เยี่ยจะได้พบกัน มันช่างดูริบหรี่ลงไปทุกทีๆ

ขณะที่ทั้งหมดกำลังยืนหน้าดำคร่ำเครียดอยู่นั้น ก็มีชายชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามายังโรงเตี๊ยม ร่างกายของเขามอมแมม เต็มไปด้วยคราบเลือด หน้าตาดูตื่นตระหนกราวกับเจอผีมา พอชายหนุ่มมองเห็นชีเส้าเฟย ก็รีบคลานเข้าไปหา
"ท่านคือจอมยุทธชีใช่หรือไม่ ช่วยพวกเราด้วย... ช่วยพวกเราด้วย..." ชายหนุ่มคนนั้นโขกศีรษะกับพื้นแล้วก็ขอร้องชีเส้าเฟยอย่างน่าสงสาร ชีเส้าเฟยไม่มีท่าทีว่าจะรังเกียจชายผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขาประคองร่างของชายผู้นั้น แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ณ จวนอ๋องถูจิ้น

วันนี้โต๊ะอาหารซึ่งมีเพียงเจ้าหยาจือและเส่เยี่ยเงียบผิดปกติ เส่เยี่ยกินข้าวไปได้คำสองคำก็วางตะเกียบลงแล้วขอตัวไปพักผ่อน เจ้าหยาจือเห็นว่านางไม่ค่อยสบายใจจึงไม่ซักไซร้อะไรมาก

ฝ่ายเส่เยี่ย หลังจากเข้ามาในห้องนอนแล้วก็กระสับกระส่ายนอนไม่หลับ จังหวะที่นางกำลังจะก้าวลงจากเตียง ก็มีเสียงของหล่นกระทบกับพื้น เส่เยี่ยก้มลงเอามือควานหาของที่หล่น จนพบกับถุงผ้าอันหนึ่ง เส่เยี่ยหยิบมันขึ้นมา นางพิจารณาด้วยความสงสัย ของชิ้นนี้หาได้เป็นของนางไม่ ถ้าเช่นนั้นแล้วมันเป็นของใคร หญิงสาวจับถุงผ้านั้นพลิกไปพลิกมา ก็พบว่าภายในถุงมีใส่วัตถุคล้ายหยกอยู่ข้างใน นางค่อยๆ เทหยกชิ้นนั้นออกจากถุงผ้า แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าหยกข้างในถุงนี้เป็นหยกที่มีเพียงครึ่งเดียว

นึกว่าในโลกนี้ มีเพียงแต่นางเท่านั้น ที่พกหยกหักๆ ไว้กับตัว...

หยกครึ่งชิ้นที่ผูกอยู่กับเอวของเส่เยี่ยนั้น เป็นหยกซึ่งผู้เป็นบิดาให้นางไว้ตั้งแต่สี่ขวบ ท่านพ่อเคยบอกกับนางว่าเจ้าของหยกชิ้นนี้คือผู้มีบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ไม่นึกเลยว่าหลายสิบปีต่อมา นางจะได้พบชายคนนั้นอีกครั้ง ถูกต้องแล้วเจ้าของหยกชิ้นนั้นก็คือชีเส้าเฟยนั่นเอง เส่เยี่ยปลดหยกที่ผูกไว้กับเอวของตนขึ้นมาแนบไว้กับอก ป่านนี้เจ้าของหยกจะเป็นอย่างไรบ้างนะ นางคิด...

แล้วอยู่ๆ หญิงสาวก็สังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง นางเอาหยกชิ้นที่เป็นของชีเส้าเฟยและหยกที่นางเพิ่งเก็บได้จากที่พื้น ขึ้นมาทาบกันช้าๆ และหญิงสาวก็ตกใจจนหน้าซีดเมื่อพบว่าหยกทั้งสองชิ้นต่อกันจนสนิท ราวกับว่าเคยเป็นหยกชิ้นเดียวกันมาก่อน เพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง เส่เยี่ยจับหยกทั้งสองชิ้นพลิกไปพลิกมา ซ้ายขวาหน้าหลัง แต่สุดท้ายแล้วมันก็สามารถต่อกันได้สนิทจริงๆ อีกทั้งพอสัมผัสดูแล้ว จะรู้ว่าเนื้อวัสดุของหยกทั้งสองชิ้นนี้ก็เหมือนกันมากๆ เส่เยี่ยได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย นางมั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเอง

หยกชิ้นที่อยู่ในถุงผ้านี้เป็นของใครกันแน่ แล้วทำไมมันถึงได้ต่อเข้ากับหยกของลุงชีได้สนิทเช่นนี้ ...

เส่เยี่ยพยายามเรียบเรียงความคิด นางค่อยๆ คิดหาคำตอบว่าหยกชิ้นนี้เป็นของใคร นางนึกถึงคนที่เข้ามาในห้องนี้ ก็มีเพียงแค่เจ้าหยาจือ ไต้ซือ และองครักษ์ทั้งสาม แต่คนที่เข้ามานั่งบนเตียงของนาง มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือฮ่องเต้นั่นเอง เขาเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากห้องไป เจ้าหยกครึ่งชิ้นนี้จะใช่ของเขาหรือไม่ หากใช่แล้วเขาไปได้หยกชิ้นนี้มาจากไหน ทำไมมันถึงได้เหมือนกับของชีเส้าเฟย หรือว่าพวกเขาเกี่ยวข้องอะไรกัน คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของหญิงสาว

หากมันมีอะไรอยู่เบื้องหลังหยกสองชิ้นนี้หล่ะก็ นางจะต้องรู้ความจริงให้ได้...

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑




 

Create Date : 15 มกราคม 2552
73 comments
Last Update : 19 มีนาคม 2560 1:52:48 น.
Counter : 1410 Pageviews.

 

ปั่นมาสดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ ตอนนี้ใช้เวลาเกือบอาทิตย์แหนะ

เดี๋ยวขอวิ่งปรู๊ดไปหาเพลงเหมาะๆ ก่อนนะคะ

รักจื้อหลินและคนอ่านนะ จุ๊บๆ

 

โดย: realtomtam 15 มกราคม 2552 22:16:35 น.  

 

กรี๊ด . . เห็นแต๋มที่บ้านชาเรี่ยนวิ่งเข้าไปดู วี๊ดว๊าย . . มีตอนใหม่อีกแล้ว
รีบวิ่งมาอ่านเชียวค่ะ วันนี้วันหยุดพอดี เย้ๆๆๆ

ตอนนี้ตัวละครออกมาได้ครบครัน คู่กัดอย่างลู่เสี่ยวฟงกับอ้อมหมิงเจิ้นก็มาสร้างความฮาอีกแล้ว
จิวแปะทงก็สร้างสีสันได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดูทุกครั้งจริงๆ แต่ที่ทำให้ใจหายวาบก็คือหลินกุเหนียงค่ะ ก็เล่นบอกว่านี่ถ้าไม่ปิ๊งองครักษ์จั๋วเสียก่อน คงเสียดายฮ่องเต้ แหม . . นึกว่าจะต้องกลายมาเป็นศัตรูหัวใจกับเส่เยี่ยซะแล้ว ก็ไม่อยากเลยนี่หน่า อยากให้เส่เยี่ยกับหลินกุเหนียงเป็นเพื่อนรักกันมากกว่า

อ่านแล้วก็สงสารคังซื่อ ไหนจะบ้านเมือง ไหนจะเสด็จแม่ ไหนจะเส่เยี่ย โถ . . ต้องทั้งตามใจ ทั้งดูแล น่าสงสารจริงๆ คังซื่อตามใจเส่เยี่ยแบบนี้ ทำให้เส่เยี่ยกลายเป็นคนขี้อ้อนไปเลย ไม่ดีนะเพคะ ต้องจัดการกำราบบ้าง เดี๋ยวดื้อเกิน

ปริศนาเรื่องหยกเริ่มเข้มข้นอีกแล้ว เส่เยี่ยเริ่มสงสัยที่มาที่ไป ต่อไปจะเป็นยังไงอีกนะ อยากรู้ใจจะขาด

 

โดย: O-yohyo 16 มกราคม 2552 10:10:58 น.  

 

 

โดย: O-yohyo 16 มกราคม 2552 10:13:13 น.  

 

 

โดย: O-yohyo 16 มกราคม 2552 10:13:47 น.  

 

เฮ้ยแปะสลับภาพ ต้องภาพนี้เป็นภาพที่ 2 ค่ะ

 

โดย: O-yohyo 16 มกราคม 2552 10:14:31 น.  

 

 

โดย: O-yohyo 16 มกราคม 2552 10:15:23 น.  

 

 

โดย: O-yohyo 16 มกราคม 2552 10:15:52 น.  

 

 

โดย: O-yohyo 16 มกราคม 2552 10:16:23 น.  

 

มาแว้ววว อ่านด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ แบบลุ้นไม่อยากให้เส่เยี่ยถลำลึกไปกับเสน่ห์ของฮ่องเต้ แต่ยิ่งนานวันเส่เยี่ยยิ่งถลำใจลึ๊กกกก ลงเรื่อยๆ กองเชียร์ทั่นลุงชี ห่อเหี่ยวในหัวใจ ฮึกๆ

เพลงเข้ากะบรรยากาศดีค่ะแต๋ม ฟังแล้วเคลิ้มแทนที่จะได้อ่านฟิค ดันไปคิดถึงพี่เจ๋ง ก็เลยต้องปิดเพลงก่อน แล้วค่อยตั้งใจอ่านฟิค 555

ชอบตอนพี่ลูลู่จีบแม่นางอ้อมหมิงเจิ้งมากค่ะ ฮากระจาย แล้วยังได้จิวแป๊ะทงมาเพิ่มความฮาอีก ว่าแต่ผู้กินกับอย่าลืมให้แม่นางหลินขยันขายขนมจีบพี่จั๋วด้วยนะคะ ขนมจีบไม่พร่องเลยค่ะ ความรักไม่คืบหน้า ฮึกๆ

มาเม้าส์เส่เยี่ยต่อ โหย...จากกันใจเป็นอื่น ใจหญิงเหมือนเถาไม้เลื้อย เกี่ยวที่ไหนได้เป็นพันโม้ดดด ก็เข้าใจอ่ะนะว่าฮ่องเต้ทั้งน่ารัก หล่อ แสนดี มีอำนาจ ยากที่เส่เยี่ยจะต้านไม่ให้หลงไหล แต่เส่เยี่ยในใจเหมือนไม่เคยมีลุงชีเลยอ่ะ โอ้ยยย กลุ้มใจกองเชียร์ค่ะ

 

โดย: หลินอี้ 16 มกราคม 2552 21:14:40 น.  

 

เส่เยี่ย เราจะค้นหาสิ่งที่อยู่ในใจของเจ้าให้ได้



เส่เยี่ยนี่คืออิคเต็มไต้ซือนะ ท่านจะรักษาดวงตาเจ้าให้หาย



 

โดย: หลินอี้ 16 มกราคม 2552 21:21:03 น.  

 

เส่เยี่ย ตอนนี้เจ้าอยู่แห่งที่ไหนนะ เจ้าจะถูกใครรังแกอยู่มั้ย ข้าห่วงเจ้าเหลือเกิน...

 

โดย: หลินอี้ 16 มกราคม 2552 21:23:51 น.  

 

ถ้าใจของเราไม่มีพี่จั๋วก่อนแล้วล่ะก็...คงหลงปลื้มไปกับฮ่องเต้พระองค์นี้แล้วเช่นกัน แต่พอคิดทีไร หน้าพี่จั๋วก็ลอยมาแทนที่ทู๊กที



ทำไมเรารู้สึกเหมือนมีคนนินทาอยู่นะ ไม่ได้ ตอนนี้เป็นเวลาปฏิบัติหน้าที่องครักษ์ ใจจะวอกแวกไม่ได้

 

โดย: หลินอี้ 16 มกราคม 2552 21:33:49 น.  

 

ข้องใจประโยคนี้ของเส่เยี่ยค่ะ ผู้อ่านขบไม่แตกว่า หมายถึงใครคะ? "บางครั้งต่อให้มีเป็นร้อยเป็นพันตรงหน้า แต่ก็ต้องการเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น" หมายถึงฮ่องเต้ หรือ ลุงชี อ่า

 

โดย: หลินอี้ 16 มกราคม 2552 21:47:41 น.  

 

เพิ่งกลับมาค่ะ วันนี้ตะลอนทำไรหลายอย่างเลย เพื่อนแต่งงานพร้อมกันสองคู่ เหนื่อยมากๆ

เข้าเรื่องดีกว่า เห็นด้วยกับโย่นะ ว่าฮ่องเต้น่าสงสาร เหมือนตัวคนเดียวเลย ไหนจะเส่เยี่ย ไทเฮา อ๋าวป้าย ไม่ค่อยมีคนเข้าข้างเลยอ่ะ น่าสงสารออก T_T

ดูลุงชีสิ มีทั้งอาจารย์ พี่น้องล้อมหน้าล้อมหลัง เจอเส่เยี่ยแค่แป๊บเดียวเอง (ประมาณสามวัน) นางและคนอ่านยังตกหลุมรักซะขนาดนี้ ส่วนฮ่องเต้ทำดีแทบตาย ไม่เห็นมีใครเชียร์เลย ใจร้ายที่สุด T_T

ซีนพี่จั๋วน้องกุ ถูกผู้กำกับตัดออกไปเพราะเรื่องมันอืดขึ้นทุกที เดี๋ยวจะไปเด่นเกินคู่เอกได้ โหะๆ

ภาพฮ่องเต้ข้างบนน่าร๊ากกกก อยากให้มาค้นใจแต๋มเยี่ยจังเลย หุๆ ^0^

ภาพอาเส่ตอนไม่อยากรักษาตาเหมือนกับที่จิ้นไว้มากเลยค่ะ แล้วชุดที่ถักเปียข้างนี่ใช่ยุคชิงเหรอคะ แบบว่าดูแอบจอมยุทธไปหน่อย ชอบเวอร์ชั่นชุดไทยมากกว่า ดูสมกับเป็นสาวชาววังดี

ตอนช่องสามเอามังกรหยก 94 มาฉายมีโอกาสได้ฟังเพลงจบน้อยมาก แต๋มมาฟังเพลงนี้ช่วงที่ฮ่องเต้บัลลังก์เลือดฉายพอดี ก็เลยรู้สึกว่าเป็นเพลงของคังซีไปเลยค่ะ

อีกอย่างเพลงนี้ฟังดูซึ้งๆ นะ ไม่ค่อยเพราะกับมังกรหยกเท่าไหร่ เพราะมันไม่มีซีนอารมณ์อ่ะค่ะ

"บางครั้งต่อให้มีเป็นร้อยเป็นพันตรงหน้า แต่ก็ต้องการเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น" แล้วคิดว่าหมายถึงใครคะ

 

โดย: tomtam IP: 124.121.160.94 16 มกราคม 2552 23:05:26 น.  

 

ตะแรกก็คิดว่าหมายถึง ลุงชี ค่ะผู้กินกับ แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ชักไม่แน่ใจอ่ะ เพราะดูเหมือนใจเส่เยี่ยจะไปอยู่ข้างฮ่องเต้ครึ่งหนึ่งแล้ว ถ้าแม่นางหลินไม่หยุดแซว มีหวังปลาคงท้องแตกตายเพราะความเขินของเส่เยี่ยตอนคิดถึงฮ่องแต้เป็นแน่ค่ะ

 

โดย: หลินอี้ 17 มกราคม 2552 0:21:06 น.  

 

อ้อ..ขอท้วงค่ะ แม้ลุงชีจะมีคนที่ห้อมล้อมให้ความรักภักดีมากมายก็จริง แต่ชีวิตลุงชีก็ไม่ได้มีความสุขอะไรนักนะคะ โดยเฉพาะด้านความรัก ส่วนฮ่องเต้มีศัตรูรอบทิศก็จริง แต่ฮ่องเต้มีอำนาจค่ะ เป็นหนึ่งในแผ่นดิน มีความเป็นอยู่แสนสุขสบาย มีนางงามห้อมล้อมถวายความภักดี เพราะงั้นยังไงก็ขออยู่ข้างลุงชี น่าสงสารกว่าค่ะ

 

โดย: หลินอี้ 17 มกราคม 2552 0:23:32 น.  

 

อืม อืม อืม . . อ่านข้อความหลินกุแล้วความคิดขัดแย้งกันค่ะ

ความสุขในที่นี้คิดว่าแต๋มไม่ได้หมายถึงความสบายทางด้านร่างกาย แต่หมายถึงด้านจิตใจ ถ้าเราได้รับความรักความอบอุ่น ได้รับความจริงใจ ต่อให้ตรากตรำยากจนแสนเข็ญก็มีแรงใจฝ่าฟัน ถ้าอยู่ท่ามกลางความหรูหราฟุ่มเฟือย มีคนเอาอกเอาใจแต่ไม่ใช่ความจริงใจแล้วจะสุขใจได้อย่างไร

ฮ่องเต้คังซื่อ . . มีคนห้อมล้อมเป็นพัน มีนางงามในอ้อมกอดเป็นร้อย แต่ความรักของพวกเค้าเหล่านั้นจริงใจแค่ไหน รักที่ฮ่องเต้หรือรักที่อำนาจของพระองค์ แม้แต่พระมารดาที่รักลูกนักหนา แต่ก็ยังต้องเลือกประเทศชาติมาก่อน

ชีเส้าเฟย . . ยากลำบาก ตรากตรำกับการสู้รบปกป้องประชา มีลูกน้องไม่กี่คน แต่ทุกคนมอบความรักให้ด้วยความเคารพจริงใจ

 

โดย: O-yohyo 17 มกราคม 2552 12:12:20 น.  

 

ในความคิดของ o-yo นะ คนที่น่าสงสารไม่ใช่คนที่ยากจน หรือตรากตรำสู้รบ แต่เป็นคนที่ยากจะหาคนมอบใจให้ด้วยความรักอันบริสุทธิ์ ระหว่างชายสองคนนี้เชื่อว่าต่างรักเส่เยี่ยด้วยความบริสุทธิ์ใจทั้งคู่

คังซื่อ . . อยากเลือกใช้ชีวิตอยู่กับเส่เยี่ยแทบขาดใจ แต่เค้าไม่สามารถเลือกทางเดินให้กับชีวิตตนเองได้

ชีเส้าเฟย . . เค้าสามารถเลือกอยู่กับเส่เยี่ยได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ มาเป็นตัวขวางกั้น แต่เค้าก็เลือกปกป้องพวกพ้องและทำงานเพื่อประชามาก่อนเส่เยี่ยเสมอ

แบบนี้แล้ว ถึงได้บอกว่าคังซื่อน่าสงสารกว่าไงล่ะคะ เพราะเค้าไม่สามารถเลือกสิ่งที่ใจปรารถนาได้ ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ตาม


ในด้านเส่เยี่ย . . ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน ว่าหัวใจดวงน้อยของนางจะอยู่ที่ใคร ณ ตอนนี้รู้สึกว่ารักของเส่เยี่ยมีสองทาง

1. รักแรกพบที่เกิดจากความประทับใจ แต่ต้นรักนี้ไม่ได้รับการรดน้ำ จะเติบโตต่อไปหรือไม่ยังไม่รู้

2. รักที่เกิดจากการถักทอด้วยสายใยแห่งความผูกพัน สายใยแห่งความเห็นใจ ความสงสาร ณ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่านี่เป็นต้นกล้าแห่งความรัก หรือเป็นแค่ความห่วงหาอาทร ต้องรอดูกันต่อไป

แต่ที่แน่ๆ คนที่มีสิทธิ์เลือกมิใช่เส่เยี่ย แต่เป็นบุรุษทั้งสองที่กุมชะตาชีวิตของนาง

 

โดย: O-yohyo 17 มกราคม 2552 12:13:54 น.  

 

ส่วนประโยคนี้ "บางครั้งต่อให้มีเป็นร้อยเป็นพันตรงหน้า แต่ก็ต้องการเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น"

ตอนที่อ่านไม่ได้คิดว่าเส่เยี่ยหมายถึงตนเอง แต่คิดว่านางพูดในฐานะที่เข้าใจความรู้สึกของคังซื่อ เนื่องจากนางก็มีประสบการณ์สูญเสียบิดา นางไม่ต้องการใครในโลก ต้องการเพียงแค่บิดาที่เป็นคนเดียวที่นางใช้ชีวิตอยู่ด้วยตั้งแต่เกิด ก่อนที่นางจะได้มารู้จักโลกภายนอก ได้เจอผู้คนมากมาย แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนที่นางห่วงหาอาทรมากที่สุดในชีวิต ดังนั้นนางจึงรู้สึกเข้าใจคังซื่อที่ถูกห้อมล้อมด้วยคนมากมาย แต่ไม่ใช่คนที่พระองค์เฝ้ารอด้วยหัวใจ

 

โดย: O-yohyo 17 มกราคม 2552 12:15:16 น.  

 

เรื่องรูปที่แต๋มถาม รูปผมเปียเป็นชุดราชวงศ์ชิงค่ะ แต่ไม่ใช่ชุดชาววัง เป็นชุดพวกชาวยุทธ์ ชุดที่คล้ายชุดไทยที่แต๋มชอบมีน้อยมากๆ เนื่องจากภาพในละครมีฉากใส่ชุดนั้นไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ มีอีกเรื่องที่อาเส่เล่นเป็นชาววังในราชวงศ์ชิง ก็คือเรื่องศึกรักจอมราชันย์ แต่คิดว่าไม่ค่อยเข้ากับเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะนายน้อยเอ่อฉุนอยู่ในโหมดสุดแสนโหดและร้ายกาจ ไม่เหมือนเส่เยี่ยเลยค่ะ ภาพตอนไม่อยากรักษาตาก็มาจากศึกรักจอมราชันย์ เอ่อฉุนกำลังคุยกับฮ่องเต้ เห็นหน้าซื่อๆ แบบนั้นแต่มีแผนอยู่ในใจ เป็นแผนที่ล้มสนมเอกได้โดยที่นายน้อยเอ่อฉุนไม่ได้พูดโกหกสักคำ คิดดูดิร้ายกาจแค่ไหน

ภาพที่หลินกุหามา ชอบทุกภาพเลยแต่ชอบภาพองครักษ์จั๋วที่สุด แบบอ่านแล้วขำกระจาย ก็ตรงที่บอกว่ามีใครแอบนินทา แล้วในภาพเหมือนมีคนแอบยืนมองอยู่ ทำเอาสะดุ้งไปแวปนึงจริงๆ

 

โดย: O-yohyo 17 มกราคม 2552 12:18:51 น.  

 

สำหรับเพลง คิดเหมือนกันค่ะว่าเหมาะกับบรรยากาศในวังมากกว่า เพราะคุ้นกับเพลงมังกรหยกประเภทคึกคักมากกว่า เพลงฟังเย็นๆ สบายๆ ฟังซึ้งๆ แบบนี้เข้ากับฟิคตอนนี้ได้ดีทีเดียว

 

โดย: O-yohyo 17 มกราคม 2552 12:20:35 น.  

 

"บางครั้งต่อให้มีเป็นร้อยเป็นพันตรงหน้า แต่ก็ต้องการเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น" มีความหมายสองเชิงซ้อนค่ะ

ชั้นแรก เส่เยี่ยพูดประโยคนี้เป็นกลางๆ นางเข้าใจว่าฮ่องเต้ไม่ได้ต้องการนางสนมกำนัลมากมาย เพราะฮ่องเต้ไม่ได้รักคนเหล่านั้น อยู่กับคนที่ไม่รักร้อยคน สู้อยู่กับคนที่รักเพียงคนเดียวดีกว่าค่ะ

ชั้นที่สอง หมู่นี้เส่เยี่ยเป็นบ่อย คือ พยายาม (ต้องใช้คำว่าพยายามนะคะ) เตือนสติตัวเองว่า รักลุงชีเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไร ไม่ว่าฮ่องเต้จะดีกับนางขนาดไหน นางก็ไม่ควรเปลี่ยนใจ ฟันธงเลยว่าถ้าไม่ติดลุงชี เส่เยี่ย=รักฮ่องเต้ไปแล้วค่ะ

อ่านที่โย่วิเคราะห์เรื่องความสุขกาย/ใจแล้ว อึ้งไปเลย ตั้งใจจะสื่อแบบนั้นจริงๆ แต่ไม่นึกว่าโย่จะเข้าใจได้ลึกซึ้งขนาดนั้น

ไอเดียก็มาจากเอี๊ยะคังค่ะ จริงๆ เขาน่าสงสารนะ เหมือนจะมีความสุขบนกองเงินกองทอง แต่ไม่มีใครที่จริงใจห่วงใยดูแลเลย

ส่วนพี่ก๊วยเจ๋งเหมือนจะลำบาก แต่มีพี่น้องมองโกล อาจารย์ทั้งเจ็ด ชิกง อิเต็งไต้ซือ พี่แปะทง แม้แต่ช่วงจิงก่าก็ยังสนับสนุนเขา ไปไหนใครๆ ก็รัก

ส่วนมุมมองของหลินกุเป็นด้านความรัก ถ้าเส่เยี่ยเกิดเลือกฮ่องเต้ขึ้นมาจริงๆ เต็มที่ก็เป็นได้แค่นางสนม (จากหลายร้อย) ส่วนลุงชีก็จะไม่มีใครคู่ด้วย หลินกุก็เลยเชียร์ลุงชี ใช่อ่ะป่ะ

 

โดย: realtomtam 17 มกราคม 2552 15:21:31 น.  

 

ว่าแล้วว่าชุดที่ถักเปียข้างดูเหมือนจอมยุทธ

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าภาพตอนรักษาตา นายน้อยเอ่อฉุนกำลังคิดร้าย อยู่ หน้าตาอาเส่ดูเว้าวอน น่าสงสารมั่กๆ

ส่วนภาพพี่จั๋ว โย่ตาดีจัง มีคนแอบอยู่หลังต้นไม่จริงๆ ด้วย ทีแรกแต๋มไม่เห็นเลยนะ 555

 

โดย: realtomtam 17 มกราคม 2552 15:30:02 น.  

 

เหมือนกันเลยค่ะแต๋ม ตอนที่ดูมังกรหยกถึงจะไม่ชอบเอี้ยคังแต่อีกมุมนึงก็รู้สึกสงสารเค้า

ภาพนายน้อยเอ่อฉุนหน้าซื่อๆ นี่เป็นตอนที่ชอบมากๆ ตอนหนึ่งค่ะ เพราะว่าโดยปกติเห็นตัวละครหน้าซื่อๆ บทมักจะเขียนให้ตัวละครพูดโกหกซึ่งตรงข้ามกับใบหน้าซื่อๆ นั้น แต่ตัวละครนายน้อยเอ่อฉุน หน้าซื่อ มีแผนการอยู่ในใจ แต่ว่าสิ่งที่นางกระทำไม่ใช่การพูดหลอกลวงหรือพูดใส่ร้าย แต่นางพูดความจริง พูดในสิ่งที่เห็น พูดในสิ่งที่คิด ทั้งหมดนี้เป็นความสัตย์ซื่อทุกอย่าง แต่การพูดความจริงนี้ กับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สนมเอกโดนลดบทบาทและฐานะลงมา คนเขียนบทเค้าสุดยอดจริงๆ

 

โดย: O-yohyo 17 มกราคม 2552 16:08:04 น.  

 

ภาพพี่จั๋ว ที่เห็นว่ามีคนแอบ ก็เพราะเลื่อนจุดโฟกัสต่อมาจากใบหน้าของปิงปิงไงคะ เลยสะดุดสายตา แต่ของแต๋มคงเลื่อนมาดูที่พี่จั๋วโดยตรงด้วยแรงเสน่หา ก็เลยมองไม่เห็นไงล่ะ

 

โดย: O-yohyo 17 มกราคม 2552 16:10:22 น.  

 

ที่แต๋มอธิบายมา นี่แสดงว่าเส่เยี่ยมีใจให้คังซื่อไปแล้วซี่ แต่ว่าพยายามหักห้ามใจ ไม่ได้การแล้วต้องให้ลุงชีมาช่วยด่วนเลย ก่อนที่ต้นรักของเส่เยี่ยกับคังซื่อจะเติบโตไปมากกว่านี้ โตเกินกว่าจะตัดใจได้ งานนี้แย่แน่ๆ

จริงๆ เส่เยี่ยจะรักใครก็ไม่เกี่ยงหรอกค่ะ เพราะว่า ณ ตอนนี้ รักตัวละครหลักทั้งสามตัวอย่างเท่าเทียมกัน คนอ่านไม่สามารถเลือกเข้าข้างใครได้อีกต่อไป เฮ้อ . . ขอยกคำภาษาอังกฤษมา 1 คำ bittersweet จริงๆ

 

โดย: O-yohyo 17 มกราคม 2552 16:13:13 น.  

 

มาอ่านแล้วจ้า....เส่เยี่ยต้องมีใจให้คังซื่อแน่ๆเลย ส่วนท่านลุงชีก็ไม่มาช่วยสักที แล้วหยกครึ่งซีกนั่นอีก ต้องมีที่มาที่ไป แล้วถ้าเกิดว่าคังซื่อกับหัวหน้าใหญ่เส้าเฟย มีชะตาเหมือนฮ่องเต้เฉินหลงและเฉินเจียลั่วแห่งพรรคดอกไม้แดง นั่นก็เท่ากับว่าคังซื่อและเส้าเฟยก็จะเป็นพี่น้องกัน แล้วก็มารักผู้หญิงคนเดียวกัน โอ้ว...(โปรดติดตามตอนต่อไป)

 

โดย: ทับทิม IP: 125.26.41.136 17 มกราคม 2552 19:58:36 น.  

 

เห็นวิเคราะห์ของ o-yo ก็อึ้งเหมือนกันค่ะ แบบว่าฮ่องเต้น่าสงสารกว่า มันก็นะ แบบว่าถ้าหลินกุมีใจเป็นกลาง ฮ่องเต้ก็น่าสงสารจริงนั่นแหล่ะ เหมือนที่แต๋มเอาพี่เจ๋งกับเอี้ยคังมาเทียบกันค่ะ

พูดถึงเอี้ยคัง ตอนที่ดูมังกรหยก ไม่ค่อยเกลียดเค้าเลย เพราะเค้าดูน่าสงสารมากๆ แบบว่าถูกเลี้ยงมาให้เป็นอ๋องตั้งแต่เกิด แล้วพอเป็นหนุ่มจะให้เกลียดพ่อตัวเอง แล้วไปนับถือคนที่ให้กำเนิด ซึ่งไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน มันยากมากๆค่ะ ถึงอ๋องที่เป็นพ่อจะเป็นคนไม่ดี แต่ในฐานะพ่อเค้าก็เลี้ยงเอี้ยคังมาอย่างดี ให้ความรักทุกอย่าง เรียกว่าทดแทนได้ทุกอย่าง เพราะงั้นทุกคนจะให้เค้าเปลี่ยนไปเป็นศัตรูกับพ่อที่เลี้ยงดูมา แล้วไปอยู่กับพ่อจริงๆ ที่เหมือนคนแปลกหน้า มันจึงยาก ทำให้เห็นใจเอี้ยคังมากค่ะ

ส่วนมาพูดประเด็นความรักของลุงชีกับฮ่องเต้ ขอเทียบตัวเองเป็นเส่เยี่ยนะคะ ถ้าหลินกุเป็นเส่เยี่ย ระหว่างลุงชี กับ ฮ่องเต้ รู้ล่ะว่าทั้งสองคนต่างให้ความรักเท่ากัน ปกป้องได้เท่ากัน แต่หลินกุคงทนไม่ได้ที่ต้องเห็นฮ่องแต้มีนางสนมหลากหลาย (ของๆเราไปเป็นของคนอื่น) แม้จะเป็นเพราะหน้าที่ แล้วต่อไปต้องมีฮองเฮาอีก อ้าย อกแตกพอดีค่ะ เพราะงั้นขอเลือกลุงชีดีกว่า แม้ลุงชีจะเห็นหน้าที่มาก่อนความรัก แต่เชื่อว่าลุงชีต้องมีนางในดวงใจเพียงคนเดียวแน่ๆ และลุงชีต้องเป็นของเส่เยี่ยคนเดียวล่ะ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ อันนี้คิดแบบเห็นแก่ตัวของฝ่ายหญิงนะเนี่ย

 

โดย: หลินอี้ 17 มกราคม 2552 21:00:44 น.  

 

เห็นหลินกุสมมุติ งั้นขอสมมุติบ้าง ถ้าเป็นตัวเองจะไม่เลือกเลยทั้งสองคนค่ะ คือทำใจไม่ได้หากสุดที่รักไปอยู่กับหญิงอื่น และยิ่งทำใจไม่ได้หากเค้าทุ่มเทให้กับงานมากเกินไปจนละเลยครอบครัว ชอบให้ครอบครัวอบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตามากกว่า อาจเป็นเพราะว่าโตมาในครอบครัวที่พ่อกับแม่บ้างานไงคะ ทำให้รู้สึกเข้าใจในความเหงาของลูก ถ้าเลือกได้ก็ไม่เลือกดีกว่า จำได้ว่าตอนเด็กๆ อิจฉาลูกพี่ลูกน้องมาก ที่แม่เค้าทำงานอยู่กับบ้าน กลับมาบ้านก็มีแม่ทำอาหารให้กิน ปิดเทอมก็ได้อยู่กับแม่ตลอด ของ o-yo แม่ทำงานกลับดึก พ่อก็ทำงานตจว กลับมาบ้านเสาร-อาทิตย์ ยิ่งถ้ามีภารกิจออกสนามรบ โอ้ . . ไม่ได้เจอพ่อเป็นเดือนๆ เลยล่ะ


แต่ถ้าเป็นเส่เยี่ยนะ คิดว่าการที่นางโตมากับพ่อที่เป็นชาวยุทธ์ ความอดทนและความเชื่อมั่นบางอย่างย่อมไม่เหมือนพวกเรา นางไม่มีแม่ย่อมขาดความรักความอบอุ่น เชื่อว่าเมื่อนางเจอคนที่นางรักและรักนาง ไม่ว่าอุปสรรคอะไรย่อมไม่ทำให้เส่เยี่ยเปลี่ยนใจได้ค่ะ ฮ่องเต้จะมีหญิงอื่นแต่พระองค์รักนาง นางย่อมอดทนและเคารพกติกาได้อยู่แล้ว ส่วนชีเส้าเฟยที่ชอบออกศึกปกป้องประชา เส่เยี่ยโตมาท่ามกลางการต่อสู้ เรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเป็นตัวแปรที่ทำให้เส่เยี่ยเลือกที่จะรักหรือไม่รักใครหรอกนะ เมื่อมีความรักสำหรับผู้หญิงแล้วอุปสรรคใดๆ นางก็ไม่กลัว

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 10:04:27 น.  

 

กรณีเอี้ยคัง คิดเหมือนกันเลยค่ะ ว่าทำไมทุกคนต้องบังคับให้เค้าเป็นศัตรูกับพ่อที่เลี้ยงเค้ามา ทั้งๆ ที่คนที่เลี้ยงก็มีบุญคุณเทียบเท่ากับผู้ให้กำเนิดนะ ถ้าเอี้ยคังคิดสังหารพ่อที่เลี้ยงตนมาเพราะเค้าเป็นศัตรูของบ้านเมือง นั่นแหล่ะ o-yo จะเกลียดตัวละครตัวนี้เข้าไส้ เท่าที่ดู ถึงเอี้ยคังจะเลวยังไง แต่เค้าไม่เคยอกตัญญูต่อพ่อที่เลี้ยงตนเองมาทั้งชีวิต จริงๆ สำหรับพ่อที่ให้กำเนิด ถ้าให้เวลาเอี้ยคังอีกสักนิด ไม่บีบบังคับเค้า คิดว่าเค้าต้องทำใจรับได้ แต่นี้ทุกคนกดดันเอี้ยคังกันเกินไป

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 10:08:08 น.  

 

มลมายกมืออยู่ข้างคังซื่อคะ

เพราะเชื่อว่าต่อให้มีสนมมากมาย ก้อยังคิดว่ารักแท้ที่จะมีให้ คงมีให้กับคนๆ เดียวคะ เหมือนเฉียนหลงที่มีสนมเยอะ แต่ก้อรักฮ่องเฮาคนเดียวไงคะ

มารอลุ้นปริศนาของหยกด้วยคะ ไม่อยากให้คังซื่อกับทั่นหัวหน้าใหญ่เป็นพี่น้องกันเลยคะ ถ้าพี่น้องหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน ยังไงก้อต้องมีคนเจ็บอยู่ดีT_T

 

โดย: Cipher IP: 58.8.140.21 18 มกราคม 2552 18:18:27 น.  

 

โหย...ตอนนี้ฮ่องเต้โกยคะแนนลิ่วเลยง่ะ จากเส่เยี่ยแล้วก็ยังผู้อ่าน o-yo กะ น้องมลอีก (แอบรวมผู้กินกับด้วยนะเนี่ย) แต่ยังไงหลินกุก็ขอเชียนลุงชีอ่ะ แอบเอาความรู้สึกตัวเองใส่ลงไป เพราะชอบหนุ่มที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นทั้งพ่อ พี่ชาย และก็คนรัก ที่สำคัญทนเห็นคนของตัวเองไปมีคนอื่นๆไม่ได้ล่ะ เชียร์ลุงชีขาดใจค่ะ แต่ถ้าเส่เยี่ยจะเลือกฮ่องเต้ก็ไม่เป็นไร ถือว่าที่ผ่านมาลุงชียังไม่ดีพอ เส่เยี่ยถึงประทับใจในคนใหม่มากกว่าล่ะนะ

 

โดย: หลินอี้ 18 มกราคม 2552 20:13:54 น.  

 

ความรักของคนเป็นฮ่องเต้เนี่ย ทั้งหวานทั้งขมจริงๆ เนอะ แต่คนที่น่าสงสารยิ่งกว่าก็คือฮองเฮา อย่างในคังซีที่พี่ชายจางเล่น พี่สงสารฮองเฮามากๆ เลย เชียร์ฮองเฮามากกว่าเชียร์นางเอกของเรื่องอีกค่ะ ก็ฮองเฮาไม่เคยได้รับความรักจากคังซีเลย แต่ว่าด้วยความเป็นแม่ของแผ่นดิน เธอทนได้ทุกอย่าง ช่างเหงาและเดียวดายภายในวังใหญ่จริงๆ

แต่ถ้าเป็นอย่างในเฉียนหลงจอมราชันย์ ที่รักคนที่มาเป็นฮองเฮา นั่นก็ถือว่าเป็นบุญวาสนามากๆ แต่โธ่ถัง . . ฮองเฮาโดนสังหารซะนี่ เศร้าอีกเช่นกัน

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 20:15:34 น.  

 

55 หลินกุก็ แต๋มเค้ายังไม่ทันสรุปเลยว่าเส่เยี่ยจะเลือกใคร เผลอๆ o-yo คิดว่าเส่เยี่ยไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยซ้ำ อย่าลืมซี่ แต๋มบอกแล้วว่ายังไม่ได้แก้แค้นอาเส่เลย แล้วมีรึแต๋มจะทำร้ายสุดที่รักของตัวเองได้ลงคอ

รอดูต่อไปกันดีกว่า ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าช่วงนี้ให้หลินกุไปปลอบใจลุงชีดีกว่านะ

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 20:17:57 น.  

 

โย่ไม่ต้องเสียใจนะคะ ตามประวัติศาสตร์แล้ว คังซีรักฮองเฮามากกกก ในเรื่องที่พี่ชายเล่น ลองกลับไปดูใหม่นะ ความจริงคังซีก็รักฮองเฮานะ (แต่ไม่ค่อยแสดงออก) พอรู้ว่าฮองเฮาป่วยก็เด็จไปเยี่ยม แล้วก็ไม่เคยไปเข้าห้องอื่นเลย นอกจากห้องฮองเฮา จนฮองเฮาต้องไล่ให้ไปเยี่ยมเจ้าจอมคนอื่น ฮ่องเต้โกรธด้วย "นิเจ้าเห็นว่าเราเป็นคนมักมากงั้นหรือ" โหะๆ แล้วก็ฮ่องเต้มองไทเฮาว่าเป็นผู้รู้ใจค่ะ ฮองเฮาองค์นี้สวรรคตตอนอายุยังน้อย คังซีเสียพระทัยมาก จากนั้นก็ค่อยมาเริ่มเจ้าชู้ เพราะรักใครก็ต้องตายจากไปทุกราย ตอนหลังลูกของฮองเฮาก็ได้ขึ้นเป็นรัชทายาทด้วยนะคะ ตอนหลังเขาถึงกลับคิดปลงพระชมน์คังซีด้วย คังซีเสียพระทัยมากมาย ต้องปลดออกจากตำแหน่งรัชทายาทซ้ำแล้วซ้ำอีก เฮ้อออ กรรม สงสัยโดนพ่อตามใจมากไปด้วยแหละ

เห็นพูดกันถึงเรื่องเฉียนลงพอดีไม่เคยดูเลยค่ะ ทำไมฟังดูเศร้าๆ จัง รักฮองเฮาแต่โดนสังหาร แล้วยังเป็นพี่น้องกับใครด้วยเหรอคะ (ที่ทับทิมบอก) บังเอิญเนื้อเรื่องคล้ายๆ กันเลย อยากลองหามาดูบ้าง แต่ คงไม่ใช่เวอร์ชั่นของเฮียกู่ดำนะ ไม่งั้นไม่ดู ไม่ชอบเยี่ยหย่งคังอย่างแรง แค้นยังไม่หาย มาทำหมวดหลอฉันได้

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 20:32:45 น.  

 

เฉียนหลง กับ เฉินหลง นี่มันคนเดียวกันรึเปล่าคะ

เอ่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังสับสนนะเนี่ย อ่านเม้นไปด้วย แต่งฟิคไปด้วย เลยมึน

ลืมสมมติบ้าง ถ้าตัวเองเป็นเส่เยี่ยนะ คงจะเลือกฮ่องเต้หล่ะ ก็น่ารัก หล่อ รวย เพอร์เฟ๊ค แสนดี รักเราเสียขนาดนั้น ไม่มีข้ออ้างอะไรให้ไม่รักเลยนะคะ

ส่วนลุงชี รู้จักกันแค่แป๊บเดียวเอง เป็นกบฏด้วย (ท่าทางไม่รุ่งๆ ฮ่าๆ) แล้วตอนนี้ ลุงชีอยู่ไหนก็ไม่รู้ ที่อยู่ตรงหน้าก็ต้องคว้าไว้ก่อน (ยืมมุข sot มา)

แต่ถ้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนต่อไป แต๋มเยี่ยจะเลือกลุงชีเท่านั้น ไม่เอาคังซื่อเด็ดขาด หุๆๆ

น้องมลอย่างเพิ่งด่วนสรุปค่ะ ตอนสุดทาย คนที่เจ็บอาจเป็นเส่เยี่ยก็ได้ แบบว่าฮ่องเต้กับลุงชีกิ๊กกัน ฮ่าๆๆ <=== บ้าไปแล้ว

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 20:48:45 น.  

 

โอ้...พี่แต๋ม ถ้าคังซื่อกับลุงชีกิ๊กกันเองนี่ถือเป็นการแก้แค้นของเจ้าจอมแต๋มที่แสนสะใจแน่ๆ คะ 555++


คิดว่า เฉียนหลงกับเฉินหลงเป็นคนเดียวกันนะค่ะ อยู่ที่การออกเสียงมากกว่าคะ

ปล.เฉียนหลงที่มลกับพี่โหยวพูดถึงคืออันที่ เฉินเห่าหมิง(ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือเปล่า ปกติเรียกแต่เฮียเบนนี่) แสดงคะ


พี่หลิน ที่มลยกมือสนับสนุนฮ่องเต้นี่ด้วยความเสน่หาส่วนตัวล้วนๆ เลยคะ
ก้อมลชอบตอนที่พี่ชายแสดงคังซีนี่นา :D


พี่โหยว ถึงฮ่องเฮาจะตายเร็วไปหน่อย แต่ก้อได้อยู่ในความทรงจำของฮ่องเต้ไปตลอดกาลไงคะ

 

โดย: Cipher IP: 58.8.140.21 18 มกราคม 2552 21:12:50 น.  

 

ออ ใช่จีจี้เล่นเป็นฮองเฮาหรือเปล่าคะ แล้วตกลงเฉียนหลง หรือ เฉินหลงเนี่ยเป็นสามัญชนเหรอคะ ที่บอกว่าเป็นพี่น้องกับคนพรรคอะไรนั่น งั้นก็ไม่ใช่หลานแท้ๆ กับคังซีอ่ะซิ แต่คังซีรักเฉินหลงมากเลยนะคะ เป็นหลานคนโปรดดดด

น้องมลจะว่าไป มุขกิ๊กกันเองนี่ก็เข้าท่าดีเหมือนกันนะคะ หลินกุชียิ่งชอบแนววายๆ อยู่แล้วด้วย เอิ๊กกกก

นี่กำลังปั่นตอนต่อไปอยู่ค่ะ ได้ 70% แล้ว (นานๆ ทีจะเขียนออก ต้องรีบปั่นเก็บไว้ หมู่นี้เครียด+ไม่ค่อยมีเวลา ทำเอาแป้กบ่อยค่ะ) เดี๋ยวเอาทีเซอร์ตอนต่อไปมาให้ชมเป็นน้ำจิ้มนะคะ

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 21:28:36 น.  

 

แต๋ม >>> กรี๊ดกร๊าด แต่งได้ 70% แล้วเหรอ เอาใจช่วยนะคะ

นั่นซี่ จริงๆ ด้วย พอแต๋มเล่าแบบนี้ก็พอจะนึกขึ้นได้ว่าอย่างน้อยคังซีก็รักฮองเฮามากกว่าสนมอื่นๆ เพียงแต่ปิงเยี่ยคือนางในดวงใจที่ฮ่องเต้ไม่อาจลืมได้ คนเป็นฮ่องเต้เนี่ยใครว่าโชคดี เห็นแต่ละองค์แต่ละองค์ ค่อนข้างจะอาภัพรักกันทั้งนั้น (ยกเว้นพวกที่มากรักค่ะ แบบนี้ไม่น่าสงสารเท่าไหร่)

ว่าแต่จะให้คังซื่อกับลุงชีกิ๊กกันจริงน่ะ โอ้ . . ม่าย งานนี้เส่เยี่ยคงอยากตาบอดไปตลอดชีวิตแหงมๆ ดีกว่าเห็นภาพบาดตาบาดใจ

ตอนแรกคิดว่าเฉียนหลงคือฮ่องเต้ที่เป็นหลานของคังซีค่ะ ส่วนเฉินหลงคือดาราฮ่องกง แต่ก็เพิ่งมารู้เนี่ยแหล่ะว่าเค้าเรียกเฉียนหลงว่าเฉินหลงก็ได้

ส่วนเรื่องเฉียนหลงจอมราชันย์ เฉียนหลงคือฮ่องเต้ที่เป็นหลานคังซีแหล่ะค่ะ ไม่ได้เป็นพี่น้องกับพรรคไหน คิดว่าแต๋มคงไปนึกถึงเวอร์ชั่นอื่นล่ะมั้ง ในเวอร์ชั่นที่ o-yo กับมลดูเนื้อเรื่องจะประมาณว่า เป็นเรื่องราวการผจญภัยของฮ่องเต้เฉียนหลง หลังจากที่เค้าสูญเสียฮองเฮาสุดที่รักไป เค้าได้ไปเจอกับหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนฮองเฮา แต่เบื้องหลังเธอคือคนของพรรคตะวันจันทรา การผจญภัยนี้ฮ่องเต้เฉียนหลงจะเสด็จไปที่เจียงหนาน เพื่อเป็นการรำลึกถึงฮองเฮา เนื่องจากก่อนตายฮองเฮาบอกว่าอยากไปเที่ยวที่เจียงหนาน และระหว่างการผจญภัยฮ่องเต้ก็ได้เรียนรู้บทเรียนต่างๆ มากมายจากการผจญภัยค่ะ

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 21:39:43 น.  

 

มล >>> ฮองเฮาไม่ได้ตายเร็วไปหน่อยหรอกค่ะ แต่ตายเร็วมากๆๆๆ ออกมาไม่ถึง 20 นาทีเลยมั้ง

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 21:42:03 น.  

 

เรื่องฝาแฝดของเฉียนหลง ใช่คนที่เป็นหัวหน้าพรรคดอกไม้แดงในเรื่อง จิ้งจอกภูเขาหิมะ ป่าวคะ (ที่ชื่อฟุอันคัง) เริ่มสับสน แต๋มลองดูเรื่องนี้สิมีอาเส่เล่นด้วย สนุกนะ พระเอกก็ไม่ขี้เหร่เกินไป พอฝืนได้ 555

จริงด้วย ไปๆมาๆ ลืมไปเลยว่าต้องแก้แค้นเส่เยี่ยก่อน แต่จะให้ลุงชีมากิ๊กกับฮ่องเต้ ออกจะโหดไปนะเนี่ย อ๊ากกก จิ้นกระเจิง

แต๋มมีทีเซอร์ตอนต่อไปด้วยเหรอ จะรอดูนะคะ เป็น mv ป่าวอ่า

 

โดย: หลินอี้ 18 มกราคม 2552 21:49:37 น.  

 

น้องมล เส่เยี่ยเลือกใครพี่ก็ชอบค่ะ แต่ก็คงอดสงสารคนที่ไม่ได้ถูกเลือกไม่ได้อ่ะ คงชีช้ำกระเทียมเจียวไปเลย
แล้วยิ่งท่าทางสองคนจะมีสายสัมพันธ์เป็นพี่น้องกันแบบนี้ ต้องมีการเสียสละกัน คนที่แห้วก็ต้องเป็นเส่เยี่ยอ่ะจิ ไม่อยากจะคิดต่อเลยง่ะ

o-yo เห็นหนังแนวราชสำนักของอาเส่หลายเรื่องน่าดูทั้งนั้นเลยเนอะ แต่หลินกุเหมือนกับแต๋มอ่ะ ถ้าพระเอกไม่ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย ก็จะไม่มีแรงใจที่จะดูเลยค่ะ แบบว่ามันง๋อยๆ เสียดายหนังดีๆเนอะ

 

โดย: หลินอี้ 18 มกราคม 2552 21:53:01 น.  

 

อ๋อออออ งั้นอาเส่ก็คือฮองเฮาคนนั้นใช่ไหมอ่ะ แล้วอาเส่ก็คือผู้หญิงที่หน้าเหมือนฮองเฮาคนนั้นด้วย

แล้วเรื่องที่อาเส่เล่นเป็นนายน้อยเอ่อฉันนี่คือยุคฮ่องเต้คนไหนคะ (ว่าแต่ ทำไมต้องเรียกว่านายน้อยด้วย ไม่ได้เป็นผู้ชายสักหน่อย)

พูดถึงฮ่องเต้ ที่แต๋มสงสารที่สุด ก็คือ ฮ่องเต้จากเรื่อง จอมใจจักรพรรดิ์ที่ หลอเจียเหลียงเล่น เนื้อเรื่องจำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่ามันเศร้ามากๆ ตอนหลังรู้สึกว่าฮ่องเต้องค์นี้จะเสียราชบัลลังก์ไปด้วย ประมาณว่าไม่แฮปปี้เอนดิ้งอย่างแรง

ส่วนจักรพรรดิคังซีก็น่าสงสารมากๆ เวอร์ชั่นที่ช่องสามเอามาฉาย ดูแล้วตายไปเลย โชคดีที่คังซีเป็นคนที่เอาความเจ็บปวดและความผิดพลาดมาเปลี่ยนให้เป็นความสำเร็จได้ ก็เลยรู้สึกนับถือ (+รัก) ฮ่องเต้คนนี้มากกว่าสงสารค่ะ

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 21:55:30 น.  

 

โอวหลินกุ mv ตัวหนึ่ง ทำกันเป็นสัปดาห์ คงทำทีเซอร์เป็น mv ไม่ไหวมั๊งคะ แค่แบบว่าก๊อบบางประโยคมาให้เป็นออเดริฟเล่นๆ กันเฉยๆ แหละค่ะ เพราะตอนนี้ยังเขียนไม่เสร็จเลย ฮือๆพรุ่งนี้ก็ต้องไปสวัสดีชาวโลกอีกแล้ว

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 22:01:03 น.  

 

หลินกุ >>> เฉียนหลงกับฟุคังอัน ใช่แล้วค่ะจากเรื่องจิ้งจอกภูเขาหิมะค่ะ ฟุคังอันเค้าว่ากันว่าเป็นพี่น้องต่างมารดากับเฉียนหลง มารดาของฟุคังอันเป็นหญิงชาวฮั่น เค้าถึงไม่ได้เป็นเจ้าชาย อันนี้คิดว่าคนแต่งเค้าแต่งมาจากมุมซุกซ่อนของประวัติศาสตร์นะ

ปล. ที่คุยกับมลเนี่ย ไม่ได้เกี่ยวกับจิ้งจอกภูเขาหิมะเลยค่ะ คงเข้าใจผิดกันแหล่ว

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 22:08:07 น.  

 

แต๋ม >>> ใช่แล้วค่ะ อาเส่เล่นเป็นทั้งฮองเฮา และคนที่หน้าเหมือนฮองเฮา แต่ o-yo รักฮองเฮามากกว่าไงล่ะ

สำหรับนายน้อยเอ่อฉุน อยู่ในยุคฮ่องเต้เจี่ยซิ่ง ฮ่องเต้องค์นี้เป็นลูกของฮ่องเต้เฉียนหลงอีกที ถ้านับญาติก็คือเหลนของฮ่องเต้คังซีค่ะ


เรื่องราวของฮ่องเต้คังซีกับเฉียนหลง นำมาสร้างละครได้หลากหลายจริงๆ นะ แต่เท่าที่ดูมา ฮ่องเต้คังซีจะรักมั่นมากกว่าเฉียนหลงนะ เฉียนหลงจะดูเจ้าชู้กว่าเยอะค่ะ แต่ท่านก็รักฮ่องเต้คังซีมากๆ

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 22:10:58 น.  

 

อ้อ . . ที่เรียกนายน้อยเอ่อฉุน คิดว่าคงเป็นที่คนแปลมั้งคะ เค้าคงไม่รู้จะหาคำเรียกว่าอะไร

ตอนที่ดูเสียงจีน ตำแหน่งแรกของเอ่อฉุนที่เข้าไปจะเป็นตำแหน่งสาวงามที่รอการคัดเลือก ต่อมาได้รับคัดเลือกแต่ต้องผ่านการอบรมก่อนจึงจะให้ฮ่องเต้คัดเลือกรอบสอง เค้าก็จะมีคำเรียกตำแหน่งแต่ละขั้นกันด้วย กว่าจะถึงตำแหน่งสนมก็มีหลายขั้นเลย แต่คนแปลไทยคงไม่รู้จะหาคำเรียกว่าอะไรจริงๆ เลยใช้คำว่านายน้อย

 

โดย: O-yohyo 18 มกราคม 2552 22:14:26 น.  

 

พี่แต๋มปั่นตอนต่อไปได้เยอะแล้วนะค่ะเนี่ย เอาใจช่วยให้ปั่นเสร็จเร้ซๆ นะค่ะ

ตอบว่าทำไมต้องเรียกอาเส่ว่านายน้อยด้วยใน "ศึกรักจอมราชันย์" เพราะในเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่มาคัดตัวเป็นสนมของฮ่องเต้ค่ะ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นใหญ่เป็นโตทั้งนั้น คือเป็นสนมของฮ่องเต้ แต่ ณ ขณะที่ยังไม่ได้รับเลือกนั้น บ่าว ไพร่ ขันทีต่างๆ เลยให้เกียรติเรียกผู้หญิงเหล่านี้ว่านายน้อยค่ะ (ส่วนเรื่องเป็นฮ๋องเต้ชื่ออะไร ราชวงศ์ไหน อันนี้ไม่รู้คะ ไว้รอพี่โหยวมาตอบนะคะ)


พี่โหยว ฮ่องเฮาออกมาน้อยจริงๆ คะ แต่มลก้อชอบฮ่องเฮา เรียกว่าสวยอยู่ในความทรงจำเลยคะ



พี่หลิน มลแค่เชียร์คังซื่อคะ แบบว่าถ้าเป็นเส่เยี่ย ก้อคงจะเลือกคังซื่อ เพราะคังซื่อแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าชอบ แล้วอย่างที่พี่แต่มบอก ทั้งหล่อ รวย นิสัยดี แถมชาิติตระกูลสูงอีก เป็นมล มลเลือกคังซื่อคะ

 

โดย: Cipher IP: 58.8.140.21 18 มกราคม 2552 22:17:37 น.  

 

ตัวอย่างตอนต่อไป...

"แม่นางเส่เยี่ย ทำไมท่านใจดำเช่นนี้ ตอนนี้ฝ่าบาททรงประชวร ไปเยี่ยมนิดหน่อยคงไม่เสียหายหรอกมั๊ง" หลินกุเหนียงตำหนิหญิงสาวด้วยความไม่พอใจ
"จริงด้วย เส่เยี่ย เจ้าไปเยี่ยมพระองค์หน่อยเถอะนะ" เจ้าหยาจือก็เข้ามารบเร้านางอีกคน
"ก็ข้าบอกว่าข้าไม่อยากไป พวกท่านเลิกบังคับข้าเสียทีได้ไหม!!!" หญิงสาวพูดจบก็เดินออกจากห้องครัวไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหยาจือกับองครักษ์หลินหันมามองหน้ากันด้วยความแปลกใจ ไม่นึกว่าหญิงสาวจะไม่อยากพบฮ่องเต้ถึงขนาดนี้

เส่เยี่ยมาหยุดนั่งอยู่ที่ศาลาริมบึง นางกอดเสาสีแดงไว้แน่น
"ทำไมพวกท่านต้องบังคับข้าด้วย ก็ข้าไม่อยากพบเขา เขาจะป่วยหรือเป็นอะไรมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย พรุ่งเขาก็จะแต่งงานแล้ว ทุกอย่างก็จะได้จบๆ ไปเสียที ข้า... ข้าอยากไปจากที่นี่... ลุงชีท่านอยู่ที่ไหน ทำไมท่านไม่รักษาสัญญา ทำไมท่านไม่มาช่วยข้า ทำไมท่านไม่มาปกป้องข้า..." หญิงสาวพูดจบก็ร้องไห้ไม่หยุด ลึกๆ ในใจแล้วนางอยากไปเยี่ยมฮ่องเต้ เขาดีต่อนางเพียงไหน มีหรือที่นางจะไม่รู้ แต่นางรักเขาไม่ได้ นางรักเขาไม่ได้ หัวใจเจ้าได้ยินที่ข้าพูดไหม...

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 22:39:04 น.  

 

ตัวอย่างตอนต่อไป...

"บังอาจ!!! เจ้านึกว่าข้ากำลังขอร้องเจ้าอยู่รึไง นี่คือคำสั่ง ไม่ว่าเจ้าจะอยากทำหรือไม่ เจ้าก็ต้องทำ"
"หม่อมฉันเพียงแค่ไม่มั่นใจ ว่าจะทำได้หรือเปล่า"
"ต้องได้สิ เพราะเจ้าจะมีอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับฮ่องเต้ยังไง" ไทเฮาตรัสแบบมีความนัยน์
"ข้อแลกเปลี่ยนอะไรงั้นหรือเพคะ" หญิงสาวขมวดคิ้ว
"ก็ข้อแลกเปลี่ยนที่เจ้าจะยอมเป็นพระสนมของฮ่องเต้ยังไงหล่ะ" คนพูดยิ้ม

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 22:41:30 น.  

 

ตัวอย่างตอนต่อไป...

"เจ้าก็เลยอยากให้เราแต่งงาน จะได้ไม่ต้องไปกวนใจเจ้าอีกใช่ไหม" ชายหนุ่มพูดแล้วก็หันหน้าหลบหญิงสาว ลึกๆ แล้ว เขาก็รู้สึกมาตลอดว่านางไม่เคยต้องการเขาเลย ทว่าเส่เยี่ยได้ยินประโยคนั้นของเขาแล้วก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในหัวใจ หญิงสาวเงียบไปพักใหญ่

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 22:46:00 น.  

 


"เอาหล่ะนี้ก็มืดแล้ว เราจะให้คนไปส่งนะ" คังซื่อเห็นว่าหญิงสาวนิ่งไปก็คิดว่าคงพูดแทงใจนาง
"ฝ่าบาททรงคิดเช่นนั้นจริงๆ หรือเพคะ" อยู่ๆ เส่เยี่ยก็ย้อนถามเขาขึ้นมา
"ว่าจะให้เจ้ากลับหน่ะเหรอ" ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นเฉไฉไปเรื่องอื่น แต่พอเห็นว่าเส่เยี่ยสีหน้าเครียด ก็เปลี่ยนมาพูดจริงจังกับนาง
"เอาหล่ะ เราขอโทษนะ ถ้าเราพูดอะไรให้เจ้าไม่สบายใจ" คนพูดทำหน้าเศร้า
"แล้วฝ่าบาททรงคิดว่าหม่อมฉันรำคาญฝ่าบาทงั้นหรือเพคะ" เส่เยี่ยยิงคำถาม คังซื่อก็นิ่งเงียบ
"เส่เยี่ยเจ้าจะพูดอะไรกันแน่..."

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 22:48:29 น.  

 

โอ้ . . ตัวอย่างตอนต่อไป น่าลุ้นน่าติดตาม

แย่แล้ว!! ท่านลุงชีหนอท่านลุงชี ท่านมาช้าไปก้าวเดียว เส่เยี่ยโดนพิษรักเล่นงานซะแล้ว

เห็นเส่เยี่ยยังเรียกท่านลุงชีแบบนี้ ดูท่าแล้วในใจนาง ชีเส้าเฟยก็ยังคงเป็นท่านลุงเสมอ แล้วแบบนี้นางจะมีใจให้ลุงชีสักนิดไหมนี่ ชักเริ่มสงสารลุงชีซะแล้วค่ะ

 

โดย: O-yohyo IP: 58.9.167.174 18 มกราคม 2552 22:53:19 น.  

 

ได้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ขึ้นเยอะเลย ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านนะคะ

น้องมล สมัยนี้ต้องหล่อ รวย นิสัยดี มีชาติตระกูลเนอะ (แถมไม่เป็นเกย์ด้วยอีกอย่าง 555) ลุงชีแค่เท่ห์กะนิสัยดี กินไม่ได้คร่า

อีก 30% ก็จะพยายามแต่งให้เสร็จ เพราะว่าสัปดาห์หน้า ก็ต้องไปงานแต่งอีกแล้วค่ะ วันนี้ว่างก็เลยถือโอกาสปั่นตุนไว้ก่อน

ปล. แบล๊กกราวน์ข้างบน ฮ่องเต้บอกว่าจะมืดแล้ว แต่ฟ้าเปรี๊ยงมากค่ะ มัวแต่แปะ ลืมดูไปเลย ฮ่าๆๆ

 

โดย: realtomtam 18 มกราคม 2552 22:57:09 น.  

 

ฮ่องเต้เริ่มใช้ไม้งอนแล้วนะเนี่ย ใครว่าจะมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่มีมารยาร้อยเล่มเกวียน ผู้ชายก็มีได้ ยิ่งรูปหล่อ พ่อรวย เก่งทุกด้านแบบนี้ เส่เยี่ยแย่แน่

หลินกุ . . คืนนี้อย่าลืมกอดปลอบใจท่านลุงชีนะคะ

 

โดย: O-yohyo IP: 58.9.167.174 18 มกราคม 2552 22:58:50 น.  

 

ออย...ในที่สุดเส่เยี่ยก็มิอาจต้านทานความดี หล่อ เร้าใจของคังซื่อได้ซะแร้น มาทีหลังแต่ดังกว่า สงสารลุงชีอ่ะ มาก่อนแท้ๆ นี่หลินกุรู้สึกเศร้าแทน

ดูจากประโยคที่เส่เยี่ยรำพันข้างบน คนที่เส่เย่รักแต่พยายามหนี (เพราะคิดว่าคงเกิดจากไทเฮากีดกัน) ก็คือคังซื่อ แล้วเอ่ยถึงลุงชีให้มาช่วย ตอนนี้ลุงชีเหลือแค่ฐานะที่เปรียบเสมือนพ่อ พี่ชาย ที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายที่เส่เยี่ยมีอยู่เลยค่ะ (หลินกุว่าหากในท้ายที่สุดถึงผู้กินกับจะเขียนให้เส่เยี่ยหันมาชอบลุงชีอีกครั้ง มันก็ไม่ภูมิใจแล้วอ่ะ เพราะลุงชีเหมือนตัวสำรองของเท่านั้น ฮึกๆ เหมือนจินห่าวเลือกบักนั่นแทนพี่เหวินชูนั่นแหล่ะ)

แม้ลุงชีจะอกหัก แต่ก็ทำใจล่ะนะ ก็ฮ่องเต้แสนดี และก็น่าสงสารขนาดนั้น เสียรักแรกไปก็คือปิงเยี่ยแล้ว มาได้เส่เยี่ยดามหัวใจก็ดีเหมือนกัน ส่วนลุงชีคิดว่าคงยังไม่ถลำลึกเท่าไหร่ ยิ่งมารู้ทีหลังว่าคนที่ตัวเองรักไปรักกับน้องชายแฝด ก็คงไม่เสียใจมากเท่าไหร่ เพราะต่างก็รักทั้งสองคน ไว้หลินกุจะปลอบลุงชีเองค่ะ

รออ่านตอนต่อไปด้วยใจชีช้ำ(แทนลุงชี)นะก๊ะผู้กินกับ

 

โดย: หลินอี้ 19 มกราคม 2552 8:25:31 น.  

 

ตอนนี้ก็เริ่มสงสารท่านลุงชีอีกแล้วค่ะหลินกุ คังซื่อก็สงสาร งืมๆ ทรมานใจเจงๆ

อยากรู้ว่าในใจของเส่เยี่ยรักท่านลุงชีมั๊ย หรือว่าเป็นความรู้สึกแบบเคารพรักเหมือนพ่อเหมือนพี่ชายเหมือนญาติสนิท แต่ที่แน่ๆ คิดว่าเส่เยี่ยรักคังซื่อไปแบบเต็มๆ ไม่ได้รักแบบญาติด้วย แต่เป็นความรักของหญิงสาวที่มีต่อชายหนุ่ม ที่คิดแบบนี้เพราะว่าคังซื่อเปิดตัวมาก็ประกาศเจตนารมย์อย่างแจ่มชัดว่า “ผมชอบคุณ ผมจะจีบคุณ” แน่นอนหากเส่เยี่ยไม่เข้าใจความหมายนี้ รักแบบพี่ชาย ก็ซื่อบื้อเกินไปแล้วล่ะ เดี๋ยว o-yo จะจัดการเคาะหัวให้สักที

สำหรับท่านลุงชี สองคนนี้อยู่ด้วยกันสามวัน ท่านลุงชีปฎิบัติต่อเส่เยี่ยเหมือนพี่ชายดูแลน้องสาว เหมือนคนที่ปกป้องญาติของตน ซ้ำช่วงนั้นเป็นช่วงที่เส่เยี่ยกำลังผวาและเสียขวัญที่สูญเสียพ่อไป เส่เยี่ยคิดว่าท่านลุงชีอายุพอๆ กับพ่อของตน แล้วแบบนี้เส่เยี่ยจะรู้สึกรักท่านลุงชีแบบความรักหนุ่มสาวบ้างมั๊ย แล้วท่านลุงชีล่ะแค่เป็นห่วงเส่เยี่ยในฐานะที่เป็นลูกสาวของผู้มีพระคุณ หรือว่าเป็นห่วงเพราะรู้สึกรัก ต่อไปจะเป็นยังไงเนี่ย อยากรู้จะแย่แล้ว

 

โดย: O-yohyo 19 มกราคม 2552 8:48:03 น.  

 

ฮึกๆ นั่นสิ o-yo หลินกุก็ทรมานใจนะ เพราะแม้เส่เยี่ยจะเลือกลุงชี แต่ถึงตอนนี้คังซื่อก็ถลำรักเส่เยี่ยมากแล้ว ทิ้งคนหนึ่ง คนหนึ่งช้ำ อ๊ากก ไม่อยากเห็นใครช้ำเลยค่ะ เพระผู้กินกับคนเดียว หานางเอกมาให้แย่งกันคนเดียวอ่ะ ไม่ยอมๆๆๆ

ที่ o-yo ว่ามาก็ถูก ลุงชีกับเส่เยี่ย ความสัมพันธ์ไม่แน่ชัด มันก็แค่ความผูกพันตอนที่เส่เยี่ยไร้ที่พึ่ง หน้าตาลุงชีเส่เยี่ยยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ เหมือนกับเคารพผู้ใหญ่คนหนึ่งเลยง่ะ (แต่ใจของลุงชีเนี่ยสิ ให้เส่เยี่ยไปเต็มๆ) ส่วนคังซื่อหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว รวย มีอำนาจ ไม่แปลกๆ ที่เส่เยี่ยจะมอบใจให้ โอ้ย ก็มันเศร้าเจงๆ (เส่เยี่ยยังไม่ทันได้เศร้า แต๋มทำให้แฟนๆเศร้าแล้วเนี่ย ฮือๆๆ)

 

โดย: หลินอี้ 19 มกราคม 2552 9:40:00 น.  

 

ถ้าใน ROTC น่ะไม่ลำบากใจเลยค่ะ เพราะเชียร์พี่ชายจางคนเดียวเท่านั้น และรู้สึกแค้นเคืองตาหลี่ซิ่นด้วยซ้ำ เวลาจินห่าวไปอยู่กับหลี่ซิ่นก็แทบอยากไปจับแยก เอาจินห่าวไปขังไว้ไม่ให้เจอหน้าตานั่น

แต่ในฟิคแต๋ม คนนึงก็คังซื่อ คนนึงก็เส้าเฟย พี่ชายจางทั้งคู่ ตอนแรกก็รักเพราะคือพี่ชาย แต่อ่านไปอ่านไปก็รักในบุคลิกและความเป็นตัวตนของตัวละคร

ตอนนี้ไม่ใช่เส่เยี่ยหรอกที่ชีช้ำ คนอ่านเนี่ยแหล่ะ รักไม่ได้ตัดไม่ลง โอ้ . .


ปล. เห็นภาพเส่เยี่ยกอดเสาแดงแล้ว ฮึก ฮึก . . เส่เยี่ยหนอ พิษรักทำร้ายจนย่ำแย่แล้วนั่น
แต่คังซื่อตอนงอนน่ารักดีจัง

 

โดย: O-yohyo 19 มกราคม 2552 12:17:21 น.  

 

ตอนนี้รู้สึกว่าลมจะเริ่มเปลี่ยนทิศแล้วสิคะ

กองเชียร์คังซื่อหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างมล คงต้องนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่คนเดียวที่คังซื่อสุดที่รักไม่สมหวังกับนางในดวงใจ T_T


ปล.พี่แต๋ม เดี๋ยวนี้ผู้ชายไม่เป็นเกย์ต้องตั้งไว้เป็นกฎข้อแรกก่อนบัญญัติสิบประการอื่นๆ เลยคะ ให้หน้าตาดี นิสัยดี การศึกษาดี ชาติตระกูลดี แต่พอเป็นเกย์ก้อจบเห่หมดพอดีคะ

 

โดย: Cipher IP: 58.8.149.161 19 มกราคม 2552 19:37:53 น.  

 

ตามมาอ่านสปอยแบบเต็มๆ ในเมื่อน้องมลหัวเดียวกระเทียมลีบ พี่จะมาเป็นกองเชียร์คังซื่อเป็นเพื่อนน้องมลแล้วกัน ท่านลุงชีมีกองเชียร์เยอะล่ะ

 

โดย: ทับทิม IP: 125.26.41.49 19 มกราคม 2552 21:00:11 น.  

 

ดีเลยคะพี่ทับทิม มลไม่ได้ไม่ต้องร้องไห้คนเดียว เผื่อพี่ลี่หูจะมาช่วยซับน้ำตาให้ด้วย อ้าว...มั่วข้ามฟิคอีกล่ะ :D

 

โดย: Cipher IP: 58.8.149.161 19 มกราคม 2552 21:09:17 น.  

 

มาดูฝั่งลุงชีค่ะ ยามหลับก็นอนไม่ได้ เพราะหลับตาก็เห็นแต่ภาพเส่เยี่ย มีแต่เสียงเรียกของนาง



ลุงชืผุดลุกนั่งกลางดึก เมื่อรู้สึกหนาวสะท้านในหัวใจ ขณะที่เส่เยี่ยกำลังตกหลุมรักคังซื่อ



กดดันผู้กินกับทุกวิถีทาง โฮะๆ ดูแววตาลุงชีนะคะผู้กินกับ เจ็บปวดมากกกก

 

โดย: หลินอี้ 19 มกราคม 2552 21:15:12 น.  

 

กำ แฟนคลับเล่นแบ่งทีมกันเชียร์เช่นนี้ ผู้กินกับเครียดค่ะ (เครียดกว่านางเอกอีกนะนั่น รายนั้น ถึงเสียคนหนึ่ง ก็ยังมีอีกคนปลอบใจ) ส่วนผู้กินกับขืนเขียนไม่ถูกใจ มีหวังโดนรุมตื้บได้ง่ายๆ จะใส่เสื้อเหลือง หรือ เสื้อแดง ดีฟระงานนี้ กร๊ากกก

สงสัยต้องเปลี่ยนตอนจบให้เป็นอย่างที่น้องมลว่าแล้ว ฮ่องเต้กะลุงชีกิ๊กกันเอง หุๆ หรือไม่ก็กุกุเอาพี่เส้าเฟยไป ส่วนแต๋มเทียนเจียวจะเป็นขึ้นเป็นฮองเฮาซะเอง เส่เยี่ยเชิญกินแห้วไปนะคะ อ้อ ยังเหลือหลินชง พี่ชายกุกุ คนนี้ก็ดีนะคะ ยกให้เส่เยี่ยก็ได้

 

โดย: realtomtam 19 มกราคม 2552 22:08:37 น.  

 

พี่หลิน ขนาดไม่ต้องกดดันเจ้าจอมแต๋ม คะแนนของลุงชีในใจเส่เยี่ยก้อท่าทางจะพุ่งพรวดอยู่แล้ว แล้วอย่างนี้คังซื่อจาทำยางงายล่ะ อืออออออ T_T

 

โดย: Cipher IP: 58.8.147.188 19 มกราคม 2552 22:10:05 น.  

 

เหมือนเชียร์บอลไงพี่แต๋ม มัสน์ดีคะ

งั้นมลเป็นปีศาจแดงละกัน พี่หลินเป็นหงส์ใช่ป่ะ อย่างนี้ลุงชีชนะแน่ๆ เลย ก้อคนแต่งเป็นหงส์นี่เนอะ

 

โดย: Cipher IP: 58.8.147.188 19 มกราคม 2552 22:17:49 น.  

 

โถ . . น่าสงสารลุงชี น่าสงสารหลินกุ น่าสงสารแบบนี้ คังซื่อก็น่าสงสาร ทำเอากองเชียร์มลกับทับทิมเสียน้ำตา

ในเมื่อฮองเฮาแต๋มเทียนเจียววางอนาคตให้ลงตัวแล้ว กองเชียร์เส่เยี่ยขอบอกว่า "หลินชง" กองเชียร์เส่เยี่ยไม่ต้องการ ต้องจิวแป๊ะทงเท่านั้นที่อยู่ในใจ เส่เยี่ยเค้าก็ออกจะชอบคนแก่ จิวแป๊ะทงเท่านั้นค่ะที่เหมาะสม ให้เป็นม้ามืดมาแรงแซงโค้ง

 

โดย: O-yohyo 19 มกราคม 2552 22:23:15 น.  

 

กำลังจะไปนอน ก็มาขำกับข้อเสนอของผู้กินกับนี่แหล่ะ อืม...น่าสนนะเนี่ย
ดูจากการประมวลผลแล้ว เส่เยี่ยทิ้งคังซื่อไป ก็น่าสงสาร ทิ้งลุงชีไปก็โอ้ย ปวดใจ อย่าได้กระนั้นเลย เพื่อไม่ให้สองหนุ่มต้องได้เปรียบเสียเปรียบ จะผิดใจกันทีหลัง เส่เยี่ยเลือกเอาระหว่างมือปราบหันจุ้น กับ พี่หลินชงค่ะ

ส่วนคังซื่อ ให้แม่นางแต๋มเทียนเจียวไป และ และลุงชี พ่อคู๊นนน ขอหลินหุงเล่ยเอาไปครองซะ แค่นี้ก็แฮ๊ปปี้ หุหุ

น้องมล ตอนนี้คะแนนคังซื่อนำโต่งงงงจะ อกจะแตะเส้นชัยอยู่รอมมะร่อแล้วค่ะ ลุงชีหกล้มที่โค้งปราบเซียนนู้นนนแน่ะ เข่าถลอกปอกเปิกโม้ดดด
แต่ก็ขอบคุณน้องมลที่ปลอบใจศาลาคนเศร้านะก๊ะ

ผู้กินกับตอนหน้าให้กองเชียร์ลุงชียิ้มมั่งจิ ไม่ได้ยิ้มมาหลายเดือนแล้วเนี่ย เครียดเชียวค่ะ หน้ายิ่งแก่ๆอยู่ด้วย กู่ม่ายกลับเลยงานนี้

 

โดย: หลินอี้ 19 มกราคม 2552 22:29:46 น.  

 

มลน่ะมาขำกับตัวละครที่เพิ่มขึ้นเป็นหางว่าวคะ

ความสามารถในการจินตนาการของผู้อ่านแต่ละท่าน เหนือชั้นจริงๆ คะ :-)

 

โดย: Cipher IP: 58.8.147.188 19 มกราคม 2552 22:56:42 น.  

 

กร๊ากกกก อ่านข้อเสนอของโย่แล้วขำไม่หยุด เส่เยี่ยอยากชอบคนแก่ดีนัก งั้นเดี๋ยวยก "ลุงจิว" ให้จริงๆ ซะเลย คังซื่อกำลังจะมาวิน เจอม้าตีนปลายอย่างเฒ่าทารกแซงไปซะแล้ว โหะๆ

หลินกุเท่าที่ผู้แต่งวางพล๊อตไว้ หลินกุคงได้หน้าเหี่ยวไปเกือบจบเรื่องเลยหล่ะค่ะ รีบซื้อครีมมาบำรุงด่วนนะคะ เหอะๆ

น้องมล หลินกุเขาเป็นเด็กปืนค่ะ

ซ้ออ้อมสิถึงจะเป็นเด็กหงส์

ส่วนซ้อสี่เป็นเด็กจื้อหลิน <=== กรี๊ดดดด (กรี๊ดทำไมเนี่ย) จริงๆ พี่เป็นเด็กสเปนค่ะ แต่เมื่อสิบชาติก่อนเคยเชียร์ผีเหมือนกัน สมัยปีเตอร์ชไมเคิล คันโตน่า แกรี่เนวิล ในฐานะที่เคยชอบทีมเดียวกัน พี่ก็จะให้คังซื่อกินขนมหวานเยอะๆ นะคะ

*** สปอย ถ้าเล่นเป็นบอลแบบลีก (นับแต้ม) คังซื่อได้แชมป์ แต่ถ้าเล่นเป็นคัพ (หรือน๊อกเอ้า) ลุงชีได้ถ้วยค่ะ หุๆ ***

 

โดย: realtomtam 19 มกราคม 2552 23:00:44 น.  

 

อืม . . ชักสงสัยซะแล้วซี่ ว่าฮองเฮาแต๋มเทียนเจียว ต้องเป็นญาติกับแม่นางซีหงเล่ย นางงามอันดับ 1 ของแผ่นดินแน่ๆ ถึงได้ทำกับท่านลุงชีเส้าเฟยแบบนี้ คงเจ็บแค้นที่ท่านลุงชีทิ้งแม่นางซีหงเล่ยไปใช่เปล่าคะ ถึงไม่ยอมปล่อยให้สวีทกับเส่เยี่ยง่ายๆ


(นี่พวกเรามั่วตัวละครกันจนกู่ไม่กลับแล้วใช่ป่ะ )



หลินกุ >>> จะหันจุ้น จะหลินชง ก็ไม่เอาทั้งนั้นค่ะ ยังไม่อาวุโสพอ ต้องจิวแป๊ะทงเท่านั้น ชายในดวงใจของเส่เยี่ย

 

โดย: O-yohyo 19 มกราคม 2552 23:22:09 น.  

 

แหม...ซ้อสี่ไม่เคยพลาดโอกาสในการทำคะแนน ยิงคำตอบเข้าตรงกลางหัวใจจื้อหลินเลยนะเนี่ย :p

แต่อย่างนี้แฟนคลับลุงชีก้อเตรียมสะสมเสบียงเลี้ยงฉลองถ้วยคัพได้แล้วสิ ก้อเจ้าจอมแต๋มอวยให้ขนาดนี้แล้วเนี่ย

แต่กว่าจะถึงตอนนั้นขอให้แฟนคลับฮ่องเต้หนุ่มรูปหล่อ นิสัยดี เก่ง ฉลาด ชาติตระกูลดี เก็บเกี่ยวความหวานไปก่อนนะคะ ^^


ปล.พี่โหยว เปลี่ยนจากจิวแปะทง เป็นจิวแปะหลิน ได้ไหมอ่ะ ทดแทนกันได้ป่ะ :D

 

โดย: cipher IP: 203.155.7.254 20 มกราคม 2552 9:20:28 น.  

 

โอย แวะมาเป็นคนสุดท้ายเลยมั่ง ตอนแรกแวะไปอ่านฟิคที่บ้านชาเรียล พออ่านจบก็ งงๆนะ ทำไมไม่มีใครเม้นท์เลยนะ ทั้งๆที่แต๋มเพิ่งจะลงตอนใหม่ไป

แต่พอดีนึกขึ้นได้ว่า แต๋มบอกว่าจะย้ายมาที่นี่ 555 โชคดีนะ ที่คิดได้ทัน ไม่งั้นอาจจะมีแค่ความเห็นเดียวไปโผล่ที่บ้านชาเรียลก็ได้นะ

ขอคุยเรื่องฟิคที่อ่านนิดนึง

อ่านแล้วไม่ค่อยชอบเลยอ่ะ ที่เส่เยี่ยเริ่มจะเอนเอียงไปหาคังซื่อซะแล้ว เส้าซัง -*- แต่ก็นะ เส่เยี่ยมีโอกาสให้ใกล้ชิดเส้าเฟยแค่ไม่กี่วัน (แถมตอนนั้นตาก็บอดอีกด้วย) ในขณะที่ตอนนี้มีโอกาสได้ใกล้ชิดสนินสนมกับคังซื่อนานกว่า หรือว่าใจเส่เยี่ยจะเริ่มเอนเอียงซะแล้ว

ส่วนเส้าเฟยเอง ช่วงนี้น่าสงสารนะ ใจคิดถึงเส่เยี่ยจนทานข้าวไม่ลง

ขอเป็นกองเชียร์เส้าเฟยดีกว่า ไม่ค่อยชอบฮ่องเต้เท่าไหร่ เพราะยังไม่แน่ใจว่าเค้าชอบเส่เยี่ยจริงๆ หรือเพราะว่านางมีหน้าตาเหมือนแฟนเก่ากันแน่

ส่วนพี่ลู่ ไม่มีอะไรจะกล่าว ลื่นแถมแสบซะขนาดนี้เจอสาวโหดน่ะ สมน้ำสมเนื้อดีแล้ว

 

โดย: แฟนจื้อหลิน IP: 125.27.164.23 20 มกราคม 2552 20:06:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


realtomtam
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add realtomtam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.