Group Blog |
เทศกาลแห่งความทรงจำ (5) "ไฟในร้านสีส้มอ่อนๆ เสียงคนและเสียงเพลงลอยอยู่เต็มไปหมด เราต่างยิ้มและจิบโกโก้ร้อนอย่างเงียบๆ" ปี 4 วิชาเรียนน้อยลง ฉันเลยทำงานพิเศษหนักขึ้นเพราะจะเก็บเงินเรียนต่อ ป.โท ฉันเจอเขาเกือบทุกวันเพราะต้องคอยส่งงานและความก้าวหน้าของคอนเสริตจบ ฉันก็ยังเป็นเลขาเหมือนเดิม เราคุยไลน์กันบ้างนัดหมายเวลา ไปๆมาๆก็ไหลไปเรื่อยส่งสติกเกอร์ไปมา ฉันส่งรูปวิว ดอกไม้บ้าง เขาชวนฉันไปวิ่ง ไปดื่มว้อดก้าตอนตีหนึ่ง ฉันบอกไม่ไปเขาก็ว่าใจร้าย แหย่กันไปมา และไร้สาระอีกมากมาย ต่างไล่กันไปนอนพร้อมกล่าวฝันดีนะ ฉันตัดสินใจอยากไปเรียนต่อ ป.โท ที่รัสเซีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา แรงบันดาลส่วนหนึ่งก็มามาจากเขา ,หลักสูตรและฉันก็อยากได้ภาษาที่สามและประสบการณ์ใหม่ๆ ฉันอ้ำอึ้งอยู่นานแต่ก็ตัดสินใจบอกเขาและขอเรียนภาษารัสเซียด้วย เขายิ้มๆและบอกว่าได้ยินมาบ้างจากเพื่อนๆเรา แต่เขาไม่ชอบสอนภาษาเลยให้ไปเรียนกับแม่เขาแทน! ฉันผวามาก ลูกดุขนาดนี้แล้วแม่จะดุขนาดไหน แต่ความจริงคือ วันแรกที่เขาพาฉันไปที่บ้าน ฉันกังวลมาก ทำตัวไม่ถูกควรจะวางตัวยังไงดี? พอไปถึงก็พบว่าคุณแม่ใจดีมากๆๆ แม่เขารู้เรื่องของฉันหมดเลย บอกว่าลูกชายเล่าให้ฟังบ่อยๆ บอกว่าดูเด็กและเรียบร้อยกว่าที่คิดไว้!? (เอิ่ม ไปเล่าอะไรให้แม่ฟังเนี่ย)หมาที่เขาเลี้ยงก็ซนและคึกเหลือเกินแต่น่ารักดี พอเจ้านายมานี่วิ่งรอบบ้านเลย ฉันไปเรียนที่บ้านเขาสัปดาห์ละ 2 วันช่วงบ่ายๆ วันไหนเขากลับบ้านเร็วจะได้เห็นเขาในโมเม้นพ่อบ้านด้วย พูดรัสเซียใส่หมารัวๆ คุณแม่จะรายงานเขาเสมอว่าสอนอะไรไปแล้วบ้าง มีพัฒนาการเป็นยังไง แล้วเขาก็ลองใช้ภาษารัสเซียกับฉันเลย ในไลน์ก็เริ่มเป็นภาษารัสเซีย สวัสดี/ฝันดี แล้วก็มาเป็นประโยค เขาก็ชอบแหย่ว่าเมื่อไหร่จะอ่าน/พูดรัสเซียคล่องๆ ฉันก็พยายามพูดกับเขา แต่มันมีเสียง "ซ" หลายแบบมาก บางเสียงไม่มีในภาษาไทย ไม่รู้จะออกเสียงยังไง เขาก็ขำแต่ไม่ล้อนะ เขาช่วยแก้ให้ฉันด้วย ต่อมาฉันเริ่มเรียน russian hand-writing ยากมาก แต่เขาก็มาช่วยดูการบ้านให้ฉันด้วย เขาเขียนภาษาไทยได้แต่เขาไม่กล้าเสียงเพราะลายมือเหมือนเด็ก ฉันเลยบอกไปว่าไม่เป็นไรเลยลายมือแบบนี้อ่านง่ายดี เขาเลยเขียนภาษาไทยบ่อยขึ้น เรื่องที่ฉันจะไปเรียนต่อเขาก็บอกว่าเป็นห่วงเหมือนกันหากฉันต้องไปอยู่ต่างประเทศครั้งแรกด้วย รัสเซียหนาวและอันตราย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ดีนะและถ้ามันเป็นความต้องการฉัน เขาก็ยินดีช่วยเหลือ ได้ยินใครหลายคนพูดว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ ความเป็นจริงเป็นอย่างไรฉันไม่รู้ ฉันก็ลองคิดนะว่าถ้าเขามีใครหรือแต่งงานฉันจะเสียใจมั้ย? ก็ไม่นะถ้าคนนั้นเป็นคนดีและทั้งคู่รักกัน ฉันอยากทำให้เขามีความสุข อยากดูแลเขาตลอดไปแต่ไม่ได้คิดถึงขนาดว่าจะครอบครองเพราะมันเป็นไปไม่ได้ ฉันไม่มีค่าขนาดนั้น ฉันคิดว่าคงจะมี someone like him อยู่สักที่บนโลก ถึงแม้ว่าฉันจะแต่งงานหรือไม่แต่งงานฉันก็อยากจะดูแลเขาไปตลอด เพราะเขาเป็นคนสำคัญของฉัน เหมือนเป็นผู้ปกครอง เป็นคนในครอบครัว ฉันแหย่เขาเรียกเขาว่า ป่าป๊า ภาษารัสเซียแปลว่า พ่อ เขาก็ขำๆแล้วก็ยิ้ม แต่วันหนึ่งเขาก็บอกขำๆว่าอย่าเรียกว่า ป่าป๊าเลย ผมไม่ได้แก่ขนาดนั้น ฉันก็หัวเราะแล้วถามไปว่า อาจารย์ไม่อยากมีลูกสาวแบบหนูเหรอคะ? เขาส่ายหน้าแล้วไม่พูดอะไรขับรถต่อ ฉันค่อนข้างเครียดเรื่องคอนเสริตจบ เขาเองก็เช่นกัน เรามีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่เขาก็ใจเย็นกับฉันเสมอ เรายังเล่นเปียโนด้วยกันเช่นเคย เหมือนจะบ่อยขึ้นด้วย ฉันไม่ตกใจและสะบัดมือจากเขาแล้ว ฉันเริ่มคิดว่าหากเรียนจบแล้วคงไม่ได้มานั่งเล่นเปียโนกับเขาแบบนี้อีก คงไม่ค่อยได้เจอ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ดังนั้นตอนนี้พยายามเก็บความทรงจำที่ดีก็แล้วกัน หลายครั้งที่ฉันนั่งทำงานในห้องเขา เขาจะชอบพูดว่าเขาเหมือนเป็นโรงงานผลิตสินค้า ผลิตสินค้าแล้วส่งขาย ไม่มีสินค้าที่อยู่กับเขาตลอด บางทีเขาก็จะซื้อช็อกโกแลตมาให้กินและนั่งทำงานด้วย ฉันชอบเวลาที่เขาตั้งใจทำอะไรมากๆ เขาทุ่มเทกับสิ่งนั้นมากๆ ฉันเริ่มคิดว่า ถ้าเรียนจบไปแล้ว ไม่มีเขาอยู่ใกล้ ไม่เจอหน้าเขาอย่างนี้ทุกวัน ฉันจะเป็นอย่างไร ฉันจะอยู่ได้มั้ย? ฉันจะได้ดูแลเขามั้ย? แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป? วันเกิดของฉันปีนี้มีเขาให้ฟลอเรโรฯกล่องใหญ่เป็นของขวัญ ฉันดีใจเพราะชอบมากแต่ไม่กล้ากินเลยให้รูมเมทกินก่อน และฉันก็เก็บฐานกระดาษสีน้ำตาลเข้มเอาไว้ ไม่กล้าทิ้งรู้สึกมันมีค่ามากๆ ลูกศิษย์คนอื่นแซวกันใหญ่เพราะไม่เคยเห็นเขาซื้อของขวัญให้ใครเลย ที่แปลกไปคือ เขาขอโทษฉันเวลาที่เขารู้สึกว่าพูดแรงกับฉันเกินไป ฉันก็บอกเขาไปว่าฉันไม่เคยโกรธเขาเลย เขาก็ไม่ยอมหยุดขอโทษ เขาเป็นคนแรกที่มองออกว่าฉันเป็นคน sensitive มาก ทั้งๆที่หลายคนตราหน้าว่าฉันเงียบ เย็นชา ไร้หัวใจ เพียงเพราะฉันไม่ค่อยแสดงออกว่ารู้สึกอะไรและไม่สนใจผู้ชายเท่าไหร่ รู้สึกเฉยๆตลอด ความจริงคือฉันมีความรู้สึกสนใจใครคนหนึ่งมาตลอดแต่ฉันไม่มั่นใจในตนเองและกลัวความแตกต่าง ความเหมาะสมทั้งหลาย ที่กลัวที่สุดคือความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม เราได้ฉลองคริสต์มาสด้วยกันปีนี้ ไปดินเนอร์ด้วยกันและไปกินชูครีม แน่นอนว่าไม่ได้ไป 2 คน แต่มีรุ่นพี่ที่สนิทไปด้วย ฮีลุกไปเลือกเค้ก ไฟในร้านสีส้มอ่อนๆ เสียงคนและเสียงเพลงลอยอยู่เต็มไปหมด เราต่างยิ้มและจิบโกโก้ร้อนอย่างเงียบๆ แต่ในใจฉันมีความสุขมาก เป็นวันคริสต์มาสที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีเลย เราคุยเล่นกันไปเรื่อยเปื่อย พอดีมีเพื่อนที่คณะมาร้านนี้พอดีก็งงเบาๆว่าอาจารย์มากับสาวที่ไหน แต่พอเห็นว่ามาสามคนพวกนางก็ไม่ได้สนใจอะไร โล่งเลยยยย เราเดินเล่นกันต่อสักพัก รุ่นพี่แยกตัวไปซื้อของที่อื่น ฉันเดินเล่นดูแสงไฟกับเขาสองคน ฉันทำตัวไม่ถูกเบาๆ เขินด้วยเห็นเขายิ้มฉันก็ยิ้ม เราต่างเดินอมอยิ้มดูแสงไฟอย่างเงียบๆไม่ได้คุยอะไรกัน นอกจากดูนั่นสิ! สวยมากเลย! เขาขับรถมาส่งที่หอเหมือนเคยพร้อมกล่าว Merry Christmas
ก่อนจะหยุดยาวปีใหม่ฉันจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเอาไปเรียนด้วย พอเรียนเสร็จจะได้เดินทางกลับต่างจังหวัดเลย พอเรียนเสร็จรุ่นน้องที่เรียนต่อจากฉันก็เข้ามาพอดี เขาก็พูดขึ้นมาว่า นี่เป็นวันสุดท้ายของปีนี้ที่ผมจะได้พบคุณใช่รึเปล่า ผมอยากไปบ้านคุณบ้างจัง เอ่อ อยากไปดูวัดทุกวัดในจังหวัดของคุณ ขอให้คุณมีความสุขเดินทางปลอดภัย แล้วเจอกันนะ รุ่นน้องอึ้งไป ฉันก็ค่ะๆ เช่นกันค่ะ แล้วสวัสดี กลายเป็นความเคยชินว่าต้องส่ง sms ตอนเที่ยงคืนวันปีใหม่หาเขาทุกปีไปแล้ว ส่งสติกเกอร์วุ่นวายแล้วค่อยนอน ปีนี้ซื้อขนมไปฝากเพียบเลย มีขนมไข่ตรา ขนมไข่ใจรัก ฉันไม่ได้สังเกต แต่เขาล้อตลอด ใจรักๆ วันเกิดเขาปีนี้ฉันซื้อกระเป๋าใส่เครื่องเขียนไหมพรหมถักเป็นรูปกระต๋ายสีฟ้า เพราะเห็นเขามีปากกาเยอะเต็มไปมันวางกระจายเต็มโต๊ะ เลือกกระต๋ายให้เวลาเขามองจะได้อารมณ์ดี มุ้งมิ้ง แต่เขามองว่ามันเหมือนหมา แล้วเขาตั้งชื่อมันว่า เซอร์เกรย์ |
สมาชิกหมายเลข 2120426
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |