Bloggang.com : weblog for you and your gang
"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
<<
มีนาคม 2556
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
15 มีนาคม 2556
[Beauty Talk] Scotch Collagen-Aora
All Blogs
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2015
[Beauty Talk] Kiehls Dermatologist Solutions 10 Years Anniversary
[Beauty Talk] Botox - Filler ฉีดแล้วสวย กับ ฉีดแล้วซวย ต่างกันอย่างไร
[Beauty Talk] Rii Pure Wata Cotton Pads สำลีธรรมชาติไม่ฟอกสีแสนอ่อนโยน
[Beauty Talk] Scotch Collagen-LeffUp
[Beauty Talk] Start Better with Clinique
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2014
[Beauty Talks] Rii Less Toner 52 สำลีประหยัดโทนเนอร์ ไม่เป็นขุย
[Beauty Talk] Clarins V Shape Challenge
[Beauty Talk] Belif Essence
[Beauty Talk] L'Oréal Revitalift Laser X3
[Beauty Talk] eMAX Facial Rejuvenation (IPL+RF) at Meko Clinic
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2013
[Beauty Talk] 3 Musketeers from Jergens for this winter
[Beauty Talk] One of my best skin treatment experience at Clarins Skin Spa
[Beauty Talk] Aveda lands in Bangkok
[Beauty Talk] BRAND'S InnerShine RubySignature Essence
[Beauty Talk] Cottage Happy Shower Series
[Beauty Talk] Crabtree & Evelyn Somerset Meadow Bath & Body Collection
[Beauty Talk] Scotch Collagen-Aora
[Beauty Talk] It's a soap? No, it's Dove!!!
[Beauty Talk] มอบของขวัญที่ตราตึงแน่นในความทรงจำ ด้วยผลิตภัณฑ์จาก Crabtree & Evelyn
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2012
[Preview] Pure Beauty : Pomegranate
[Trend] BRANDS InnerShine Marine Collagen Essence Strip
[Trend] "ฟันขาวสะอาด" อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ขาดไม่ได้
[Beauty Talk] Lancome Genifique VS L'Oreal Youth Code
[Product Testing] Babi Mild Sweety Pink Plus
[Beauty Talk] PuPe's Five Favorite Item of Year 2011
[Beauty Talk] "รวม 16 สุดยอดไอเทมสุดกรี๊ดแห่งปีจาก 16 บล็อกเกอร์สุดแซ่บ"
[Product Testing] LANCOME : Renergie Yeux Multiple Lift Ultimate Rejuvenating Eye Duo
[Product Testing] Renokin : Hair Revitalizing Series
[Beauty Talks] SK-II 2011 Festive Set
[Beauty Talk] Hair-Removal Laser with Immagini Clinic & Daisy Diva Clinic
[Product Testing] The Body Shop : Rainforest Radiance Shampoo & Conditioner
[Product Testing] Bioderma : Sébium Purifying Foaming gel
[Product Testing] Kanebo : Impress IC White line
[Beauty Talk] BOTOX with Immagini & Daisy Diva Clinic
"Fresh Cosmetic" คืออะไร?
มาเช็คปัญหาริ้วรอยแห่งวัยทั้ง 8 จุดสำคัญกันเถอะ
เมื่อพิราบขาวบุกตลาดเสริมหล่อสำหรับท่านชายด้วย DOVE Men +Care
[Beauty Talk] Dermal Filler with Immagini & Daisy Diva Clinic
"Biotherm" not just 'Spring Water' in a jar
'Lancôme Rénergie Lift Volumetry' The new way to defy gravity?
Interview with "LIM Siok Hua" Kiehl's Training Manager
"Aviance UV Expert" Mission : 3rd Week
My heaven @ 'My Spa'
"Aviance UV Expert" Mission : 2nd Week
"Aviance UV Expert" Mission : 1st Week
'PuPe_so_Sweet' Skincare Regiment January 2010
[News] Reveal Your Skin with Olay
[ Preview ] New!!! OLAY White Radiance Intensive Brightening Serum & OLAY Natural White
Beauty Freak : Episode 2
PuPe_so_Sweet 'on' Buzzidea.tv
Happy Birthday to ME!!!
PuPe_so_Sweet on Video!!!
เรื่องเสียเงิน เสียสุขภาพจิต และเสียโฉม ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา...
รีวิว "กันแดด" ที่ลองใช้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
การอ่าน Ingredients List นั้นจำเป็น... แต่มันไม่ใช่ทุกอย่าง
[Cosmetics] Beauty Talks ปิดท้ายเดือนมกราคม
Shopping ฉลองปีใหม่ + รีวิวเล็ก ๆ น้อย ๆ + เอารูปที่ถ่ายเอาไว้มาให้ชม
"แว่นขยาย" อุปกรณ์ที่จำเป็นชิ้นใหม่ & Mini Review ส่งท่ายปีเก่า
"อย่าหมิ่นเงินน้อย" + โรค "ชอบลอง" กำเริบ / เปิดกล่อง Pre Order
[Cosmetics] ของฝากจากพี่ซินดี้ (รอบสอง)
[Cosmetics] เปิดกล่อง Paula's Choice & ของฝากจาก "พี่ซินดี้"
[Cosmetics] Skincare Regiment Update (31/August/2008)
[Beauty Talk] Scotch Collagen-Aora
เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง Scotch ได้ส่งผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มาให้ ตอนแรกรู้แค่ว่าเป็นเครื่องดื่มผสมคอลลาเจนตัวใหม่ก็ไม่ได้สนใจเพราะว่าเคยทำข้อมูลเรื่องคอลลาเจนไปแล้ว แต่พอทางทีมงานแจ้งว่ามีสารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศสด้วยก็รีบตกลงและรับของมาลองดื่มดูทันที สงสัยแล้วใช่ไหมว่าทำไมเจ้าสารสกัดจากเปลือกสนที่ว่านี้ถึงทำให้ปูเป้สนใจขึ้นมาได้
สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศสนั้นหลายคนน่าจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง สารสกัดนี้มาจากเปลือกของต้น French Maritime Pine ซึ่งสกัดให้มีความบริสุทธิ์สูงโดยมีสารประกอบของ Procyanidin ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ที่มีประสิทธิภาพสูงเข้มข้นอยู่ถึง 70% ต่อน้ำหนัก โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Pycnogenol® ถูกนำมาใช้ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบำรุงผิว และมีการศึกษามากว่า 40 ปี
จริง ๆ แล้ว Pycnogenol ก็เหมือนกับสารสกัดชนิดอื่น ๆ ที่ผู้ผลิตสารนั้นพยายามทำการศึกษาเพื่อให้เห็นคุณสมบัติ สรรพคุณในแง่ของการบำรุงสุขภาพมากมายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ถึงแม้ว่าการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนบางชิ้นก็ดูอ่อนในแง่ของความน่าเชื่อถือ แต่ก็มีหลายส่วนที่ทางเวปไซต์
MedicinePlus
ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลของอเมริกาที่ให้ข้อมูลว่า Pycnogenol มีความเป็นไปได้ที่จะช่วยลดปัญหาความดันโลหิตสูง เพิ่มการไหลเวียน เพิ่มสมรรถภาพของนักกีฬา ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น และลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้
ในแง่ของการบำรุงผิว Pycnogenol นั้นถูกใช้เป็นทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบรับประทาน และรวมถึงการผสมลงในครีมเพื่อบำรุงผิว ในที่นี้ปูเป้คงจะขอพูดถึงเฉพาะข้อมูลในส่วนของการรับประทานดีกว่า
มีการศึกษาว่า Pycnogenol ช่วยเรื่องปัญหาจุดด่างดำและคุณภาพของผิวโดยรวมเอาไว้อยู่บ้าง โดยการศึกษาในประเทศจีนเมื่อปี 2002 พบว่า Pycnogenol นอกจากจะมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามิน C และ E แล้ว ยังช่วยรีไซเคิลวิตามินที่ว่านี้ให้กลับมาทำงานได้ใหม่ด้วย การทดสอบกับผู้หญิงที่มีปัญหาฝ้า 30 คน โดยใช้สารสกัด Pycnogenol 75 มิลลกรัม (แบ่งทาน 3 มื้อ) พบว่าร่องรอยของฝ้านั้นจางลงโดยไม่มีผลข้างเคียง สารสกัดจากเปลือกสน Pycnogenol ยังมีข้อมูลที่ทำเอาไว้นานแล้วว่าช่วยทำให้ผิวทนต่อการทำร้ายจากแสงแดดได้ โดยการศึกษานี้ใช้สารสกัด 1.10 - 1.66 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์
ในแง่ของคุณภาพผิว การศึกษาเมื่อปี 2012 นั้นช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณได้ โดยการทดสอบทำกับหญิงวัยหมดประจำเดือนจำนวน 20 คนเป็นเวลา 12 สัปดาห์ โดยพบว่ามีการเพิ่มขึ้นในการแสดงออกของยีนที่ผลิต Collagen Type I และ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นส่วนสำคัญใน Extracellular Matrix ที่ทำให้ผิวแน่นขึ้น(Collagen) และมีความเด้งหยุ่นชุ่มชื้น (Hyaluronic Acid) ซึ่งโครงสร้างสองส่วนนี้มีผลต่อการสะท้อนของแสงที่ตกกระทบเข้ามาของผิว ถ้ามีคอลลาเจนที่ดี ไม่เหลืองเพราะถูกทำร้าย โครงสร้างผิวแน่น ก็ทำให้ผิวดูมีความใสนั่นเอง
การศึกษาชิ้นหนึ่งทำขึ้นโดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี Pycnogenol ผสมกับวิตามิน C และ E กับกรดอะมิโน แร่ธาตุบางชนิด พบว่าความยืดหยุ่นของกลุ่มทดสอบดีขึ้นกว่า 9% และความเรียบเนียนของผิวมีมากขึ้น 6% เมื่อเทียบกับกลุ่มทดสอบที่ใช้ยาหลอก
โดยรวมปูเป้มองว่าสารสกัดจากเปลือกสนฝรังเศส หรือ Pycnogenol นี้ดูน่าลงทุนที่จะลองรับประทานดูเพราะอย่างน้อยก็มีการศึกษามาอ้างอิง
(Source :
Pycnogenol® in Oral Skin Care
,
Treatment of melasma with Pycnogenol.
,
Solar ultraviolet-induced erythema in human skin and nuclear factor-kappa-B-dependent gene expression in keratinocytes are modulated by a French maritime pine bark extract.
,
Pycnogenol® effects on skin elasticity and hydration coincide with increased gene expressions of collagen type I and hyaluronic acid synthase in women.
,
Supplementation with Evelle improves skin smoothness and elasticity in a double-blind, placebo-controlled study with 62 women.
)
สำหรับประเด็นเรื่องคอลลาเจนที่รับประทานเข้าไปมีผลอะไรกับผิวหนังหรือไม่ ปูเป้เคยทำบทความเอาไว้ซึ่งสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ (ย้อนกลับไปหาอ่านกันดูได้) โดยการสรุปเนื้อหาจากบทความ
Effect of Marine Collagen Peptide on Skin Condition
โดย Kenji Sato and Yasutaka Shigemura จากหนังสือ Marine Cosmeceuticals: Trends and Prospects ซึ่งตีพิมพ์ออกมาในเดือน ธันวาคม ปี 2011 ที่ผ่านมา
โดยข้อมูลสรุปว่าคอลลาเจนในรูปแบบรับประทานอาจส่งผลกับการทำงานของ Fibroblasts ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของ Extracellular Components ซึ่งรวมถึง Collagen และ Hyaluronic Acid แต่ยังไม่ทราบถึงกลไกการทำงาน การรับประมานคอลลาเจนที่ทำการศึกษานั้นอยู่ที่ 5,000 - 10,000 มิลลิกรัม โดยกลุ่มทดสอบที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีเป็นต้นไป จะเห็นความเปลี่ยนแปลงเรื่องความชุ่มชื้นและความนุ่มของผิวได้มากกว่ากลุ่มอายุที่น้อยกว่า 30 ปี ซึ่งไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเมื่อมองในเชิงสถิติ
เกริ่นมานาน ก็มาขอพูดถึงตัวผลิตภัณฑ์
Scotch Collagen-Aora
(45ml / 48 THB) กันซะหน่อย
จริง ๆ แล้วเหตุผลหลักที่ปูเป้ยอมลองทานผลิตภัณฑ์ตัวนี้เพราะว่าสารสกัดจากเปลือกสนนี่แหล่ะ เพราะว่าเคยได้ยินมานานแล้ว สนใจมานานแล้ว แต่ว่าราคามันก็สูงจึงไม่ได้ซื้อมาลองทานดูสักที คราวนี้โอกาสดีมีคนให้ลองมาทานฟรี ๆ ก็รีบคว้าไว้
ข้อมูลที่ข้างกล่องไม่ได้ระบุปริมาณของสารสกัดจากเปลือกสนมาเป็นมิลลิกรัม (บอกแค่ว่ามี 0.08%) แต่จากการสอบถามข้อมูลก็ทราบว่า ผลิตภัณฑ์ Scotch Collagen-Aora ใส่สารสกัดจากเปลือกสนหรือ Pycnogenol มา 40 มิลลิกรัม และมีคอลลาเจน 5,000 มิลลิกรัม พร้อมกับวิตามิน A C E และ B รวม ในเบสน้ำองุ่นขาวและราสเบอรี่ ใช้ Xylitol เป็นสารให้ความหวาน เพื่อปรับรสชาติและกลิ่นสามารถทานได้ง่าย ๆ
จากความเห็นส่วนตัว ปริมาณของสารสกัดเปลือกสน 40 มิลลิกรัมก็ถือว่ากำลังเหมาะสม หรือถ้าอยากจะทานให้ถึงโดสก็ทานวันละ 2 ขวด จะได้ปริมาณ Pycnogenol ที่ 80 มิลลิกรัม ซึ่งใกล้เคียงกับการศึกษาซึ่งใช้ที่ 75 มิลลิกรัม (ข้อมูลจาก MedicinePlus ระบุว่าได้สูงสุดถึง 450 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 6 เดือน) ส่วนคอลลาเจนก็จะได้ที่ 10,000 มิลิกรัมซึ่งก็เป็นขีดสูงสุดที่ใช้ในการศึกษา
ประสบการณ์ส่วนตัว ปูเป้มองว่ารสชาติทานง่ายดีและสะดวกมากเพราะไม่ต้องผสมชงน้ำหรือต้องดื่มน้ำตาม แค่บิดฝาดื่มก็จบแล้ว แอบโชว์โง่นิดนึงตรงที่เรารู้มาว่าคอลลาเจนควรทานตอนท้องว่าง ก็เลยทาน Scotch Collagen-Aora วันละ 1 ขวดในตอนตื่นนอนตอนเช้า แต่กลายเป็นว่าทางเจ้าของผลิตภัณฑ์แนะนำให้ทาน 3 ชั่วโมงหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอนล่ะ เอาเป็นว่าใครที่สนใจอยากจะลองทานก็ทานเป็นตอนก่อนนอนละกัน (แต่ใครจะทานวันละ 2 ขวด ก็คือ 1 ขวด ก่อนนอน และ 1 ขวดหลังตื่นนอน)
จากการลองทานมา 15 วัน ปูเป้ไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่หวือหวามากมาย คือรู้สึกได้ว่าผิวดูอิ่มและใสขึ้นนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าจะลองทานต่อไปเพื่อดูผลว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้าสารสกัดจากเปลือกสน หรือ Pycnogenol จะช่วยเรื่องลดรอยแดงและรอยดำจากสิวที่ชอบแวะมาเยี่ยมเยียนเราบ่อย ๆ ได้ดีแค่ไหน
ความเห็นในแง่ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ชี้จุดขายให้ผิวเด้งมีออร่า ปูเป้มองว่าการผสมสารสกัดจากเปลือกสน ดูมีเครดิตที่ดีและน่าเชื่อถือมากกว่าการใช้กลูต้าไธโอนที่ถึงแม้จะเป็นที่รู้จักกันมาก แต่ก็ไม่มีข้อมูลหรือการศึกษาที่มาช่วยอ้างอิงว่าว่าปริมาณ 250 mg ที่ อย. ปล่อยให้ใช้ในอาหารเสริมนั้นจะสามารถดูดซึมได้รึเปล่า และมีประโยชน์กับร่างกายอย่างไรบ้าง (นั่นหมายความว่า อะไรก็ตามที่โฆษณาว่ามีกลูต้าไธโอนเกิน 250 มิลลิกรัม ถือว่าผิดกฏหมายทั้งสิ้น)
สุดท้ายนี้ปูเป้มองว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อหวังผลในการบำรุงผิว เป็นเพียงแค่เสี้ยวส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่การที่เราจะมีผิวสวย สุขภาพดี มีความใส เราต้องดูแลสุขภาพโดยรวม ทั้งการออกกำลังกาย การพักผ่อน การรับประทานอาหารให้ได้รับสารอาหารครบ ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอกจากนี้ยังต้องใช้ผลิตภัณฑ์บำรงผิวชนิดทาที่ช่วยกันรังสี UV เป็นประจำทุกวัน เติมความชุ่มชื้นและเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิวด้วย หากทำได้ทั้งหมดนี้ก็จะสามารถมีผิวที่ดีได้ ฟังดูยุ่งยากแต่ก็คงไม่ยากเกินพยายามเนอะ
Create Date : 15 มีนาคม 2556
Last Update : 26 มีนาคม 2556 13:05:42 น.
4 comments
Counter : 24085 Pageviews.
Share
Tweet
ลองแน่นอน
ขอบใจนะจร้า
โดย: Tannthai Tenten IP: 125.24.243.120 วันที่: 18 มีนาคม 2556 เวลา:20:45:03 น.
เคยกินอาหารเสริมที่ผสมสารสกัดจากเปลือกสน 40ม.ก.
กินไป 2เดือน เห็นผลชัดเจนคือผิวขาวขึ้นทั้งตัว
แต่...ราคาแรงมาก ตอนโน้นซื้อกล่องนึงก็เกือบ 2พันบาทแล้ว
โดย: lallalitz IP: 171.99.172.68 วันที่: 19 มีนาคม 2556 เวลา:1:28:59 น.
ขอบคุณสำหรับความรู้คร้า อยากลองเหมือนกัน
โดย: Andlove IP: 101.108.13.176 วันที่: 21 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:42:04 น.
สอบถามมาแล้วค่ะ คนกินเจ ทานได้ค่ะ ขิขิ
โดย: ๋Kodomo IP: 182.52.99.122 วันที่: 7 มีนาคม 2557 เวลา:17:07:10 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [
?
]
Advertisement
หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ
Web Counter
Counter Start on 29 September 2008
Search by Google
ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ
Custom Search
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ขอบใจนะจร้า