[Cosmetics] Skincare Regiment Update (31/August/2008)
สวัสดีขอรับ ผ่านไปเกือบจะ 4 เดือนแล้วหลังจากแนะนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ประจำวันไป มีหลายท่านถามกันมามากมายว่ามีลำดับขั้นตอนใช้ยังไงบ้าง? ปัจจุบันยังใช้อยู่ไหม? มีเปลี่ยนหรือนอกใจไปหาของใหม่บ้างรึเปล่า? วันนี้ปูเป้มีเวลาว่างเลยมา Update ให้ได้รู้กันแบบละเอียดยิบเลย สภาพผิวปัจจุบัน T-Zone : ผิวมัน U-Zone : ผิวธรรมดาไปทางมัน อาการพิเศษ : บางครั้งจะมีอาการแห้งลอกช่วงรอบปากและแก้มบ้าง (ส่วนใหญ่เป็นเพราะ Differin) ผิวไม่อุดตันง่ายมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะใช้ Differin กับ AHAs/BHA เป็นประจำ แพ้หรือไวต่อส่วนผสมอะไรเป็นพิเศษ : - น้ำมันหอมระเหย (Essential Oil) เป็นพิเศษ อาการที่เกิดขึ้นคือสิวอักเสบจะเห่อ หน้าจะแดงแสบ (แต่ Fagrance ธรรมดาสามารถใช้ได้แต่ไม่ค่อยชอบ) - Alcohol Denat หรือแอลกอฮอล์น้ำหนักโมเลกุลต่ำอื่น ๆ ใช้แล้วจะแสบหน้า ผิวจะหยาบกร้านมาก ใช้ติดต่อไปสักพักผดและสิวจะเริ่มตามมาDay Time Regiment Cleanser Boots : No 7 Beautifully Balanced Purifying Cleanser, for Oily or Combination Skin Ingredients : Aqua (Water), Polysorbate 20, Butylene glycol, Carbomer, Sodium laureth sulfate, Phenoxyethanol, Tocopheryl acetate, Propylene glycol, Methylparaben, Camelia oleifera leaf extract, Benzophenone-4, Tetrasodium EDTA, Laminaria digitata extract, Retinyl palmitate, Zinc chloride, Disodium phosphate, Propylparaben, Butylparaben, Isobutylparaben, Ethylparaben, Tocopherol, Cl 19140 (Yellow 5), Cl 42090 (Blue 1) ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? ส่วนผสมอ่อนโยน (คล้าย Physiogel : Cleanser หรือ Cetaphil : Gentle Skin Cleanser) เหมาะกับการทำความสะอาดในตอนเช้าที่ผิวไม่ได้ผ่านการผจญกับสิ่งสกปรก เหงื่อ ฝุ่น หรือแต่งหน้า ไม่มีฟอง ล้างออกได้สะอาดไม่มีคราบลื่นบนผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ปราศจากน้ำหอม (แต่ดันมีสี) หาซื้อได้ง่าย ราคาปกติ 395 บาท ต่อ 200ml ซึ่งถือว่าไม่แพงนัก แต่พอดีเจอตอนโปรโมชั่นลดเหลือ 199 บาท... ถูกมาก!!!! เลยซื้อมาลองใช้... ปรากฏว่าโดนใจเลยทำการตุนเก็บไว้แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อประหยัด Cleanser ของ Paulas Choice ที่สั่งซื้อได้ยากกว่า... (แบบว่าจะได้ใช้ได้นาน ๆ )Toner Paulas Choice : Healthy Skin Refreshing Toner Ingredients : Water, Camellia Oleifera (Green Tea) Leaf Extract (antioxidant), Epilobium Angustifolium (Willow Herb) Extract (anti-irritant), Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract (antioxidant), Sodium Hyaluronate (water-binding agent), Glycerin (water-binding agent), Methyl Gluceth-20 (humectant), Sodium PCA (water-binding agent), Allantoin (anti-irritant), Butylene Glycol (water-binding agent), Caprylyl Glycol, Hexylene Glycol (preservatives), Bisabolol, Panthenol (anti-irritants), Polysorbate-20 (emulsifier), PEG-90M (stabilizer), Sodium Chloride, Sodium Citrate, Citric Acid, Potassium Phosphate (pH adjusters), Phenoxyethanol (preservative) ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? ปุเป้พนันได้เลยว่าคุณแทบจะหาโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมแบบนี้แทบไม่ได้ตามท้องตลาด สิ่งที่ชอบมากคือมันให้ความชุ่มชื้นดี ช่วยต้านการระคายเคืองให้กับผิวด้วย มีสารแอนติออกซิแดนท์หลายตัว ที่สำคัญไม่ทำให้หน้าเหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเมืองเรามาก เป็นโทนเนอร์สารพัดประโยชน์เพราะนำมาปรับใช้ได้หลากหลาย เทแบ่งขวดสเปรย์เล็ก ๆ เก็บติดตัวเอาไว้ฉีดพ่นบนใบหน้าระหว่างวันเพื่อให้ความสดชื่น (ต้องเป็นขวดทึบแสง ถ้าหาไม่ได้เอาขวดใสนี่แหล่ะแล้วใช้อลูมิเนียมฟลอย์ดห่ออาหารหุ้มเอา) หรือจะชุบสำลีจนชุ่ม แปะเอาไว้บนผิวบริเวณที่ระคายเคือง แห้งตึง หรือต้องการดูแลเป็นพิเศษก็ช่วยได้เยอะ ถ้ามีมาสค์กระดาษอัดเม็ดของ Kose ก็เอามาใช้วิธีเดียวกับน้ำโสมเลย คือชุบมาสค์ให้ชุ่มแล้วโปะหน้าทิ้งไว้จนกว่าจะพอใจ ช่วย Sooth ผิวดีนักแลCorollary Product for Toner : Boots Cotton Wool Pads ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? เป็นสำลีจาก Cotton 100% นำเข้าจากประเทศอินเดีย ดีตรงที่เช็ดแล้วไม่เป็นขุย (คือใช้แล้วไม่เป็นขุยจริงๆ ไม่เหมือนยี่ห้ออื่น ๆ บางยี่ห้อ ที่โฆษณาว่าไม่เป็นขุย แต่พอใช้จริงแล้วแบบว่า...) ราคาก็ไม่แพงเมาก สามารถซื้อได้สบาย ๆ ประหยัดกว่าไปซื้อของแบรนด์ตามเคาเตอร์เยอะExfoliant Paulas Choice : 2% Beta Hydroxy Acid Liquid Ingredients : Water, Methylpropanediol (slip agent/penetration enhancer), Salicylic Acid(beta hydroxy acid/exfoliant), Camellia Oleifera (Green Tea) Extract (anti-irritant/antioxidant), Butylene Glycol, Polysorbate-20 (water-binding agents), Sodium Hydroxide (pH balancer), Disodium EDTA (preservative). ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? เพราะว่า Salicylic Acid เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับผิวมัน (ถ้าคุณไม่แพ้) ประโยชน์ของมันมีเยอะแยะมากมาย ช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ และเนื่องจากมันละลายในน้ำมัน มันจึงซึมลงไปในรูขุมขนเพื่อ Exfoliate ได้ แถมยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้ออ่อน ๆ และต้านการอักเสบอีกด้วย เนื้อผลิตภัณฑ์เหลวเป็นน้ำเหมือนโทนเนอร์ อาจจะแอบทิ้งฟิลม์บาง ๆ ทำให้หน้าดูมันบ้างเล็กน้อยเพราะส่วนผสมของ Methylpropanediol แต่การที่มันไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน wax หรือ Thickener เลย จึงทำให้มันมีโอกาสอุดตันผิวต่ำมากกกกกกกกกกกกกกกก ในส่วนผสมยังพ่วงสารต้านการระคายเคืองและสารแอนติออกซิแดนท์มาให้ด้วยซึ่งก็ถือว่าดีทีเดียว ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ แต่แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องชุบสำลีเช็ดเพราะเปลือง!!! เทลงบนฝ่ามือแล้วใช้นิ้วเกลียวให้ทั่วหน้าก็ได้เหมือนกันTreatment Oriental Princess : Natural Intensive C Skin Boosting Serum Ingredients : Water, Niacinamide, Isononyl Isononanoate, Medicago Sativa (Alfalfa) Extract, Glycerin, Polyacrylamide C13-14 Isoparaffin Laureth-7, Ammonium Acryloyldimethyl Taurate/ VP Copolymer, Ascorbyl Tetraisopalmitate, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Oil, Methylparaben, Tocopheryl Acetate, Aloe Barbadensis Leaf Extract, Bisabolol, Propylparaben, Disodium EDTA, Phenoxyethanol, BHT, BHA, Fragrance. ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? เพราะปูเป้ชอบ Niacinamide มาก เนื่องจากเป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติหลายอย่างในตัวแถมยังเสถียรและคงทนสุด ๆ อีกด้วย ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มี Niacinamide มาเป็นอันดับสองซึ่งเข้มข้นสะใจ แถมมีสารแอนติออกซิแดนท์อย่าง Alfalfa กับ วิตามินซีและวิตามินอี เนื้อเซรั่มก็ซึมง่ายและไม่ทิ้งความมันเท่าไหร่ กลิ่นน้ำหอมพอรับได้ไม่มีปัญหา บรรจุภัณฑ์เป็นขวดปั้มทึบแสงซึ่งก็เหมาะสมดีแถมกดใช้สะดวก ที่สำคัญราคาประหยัดมาก และแบรนด์นี้ชอบมีโปรโมชั่นบ่อย ๆ ยิ่งถูกลงไปอีก ตัวนี้ใช้ทั้งกับใบหน้าและลำคอเลยขอรับ สำหรับปูเป้ที่มีผิวผสมไปทางมันก็จะใช้ตัวนี้เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ในตัวไปเลยMoisturizer Clinique : Continuous Rescue Antioxidant Moisturizer Dry Combination skin Ingredients : Water, Cetyl Ethylhexanoate, Dimethicone, Silica, Jojoba Esters, Cetearyl Alcohol, Glycerin, Butylene Glycol, Glyceryl Stearate, Pentaerythrityl Tetraethylhexanoate, Peg-100 Stearate, Petrolatum, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Extract, Curcuma Longa (Turmeric) Root Extract, Laminaria Saccharina Extract, Echinacea Pallida (Coneflower) Extract, Arabidopsis Thaliana Extract, Perilla Ocymoides Seed Extract, Plankton Extract, Laurdimonium Hydroxypropyl Hydrolyzed Soy Protein, Lauroyl Lysine, Creatine, Adenosine Phosphate, Chamomilla Recutita (Matricaria), Sorbitol, Sea Whip Extract, Sodium Hyaluronate, Tocopheryl Acetate, Micrococcus Lysate, Trehalose, Niacinamide, Cetearyl Glucoside, Caprylyl Glycol, Polyethylene, Cholesterol, Carbomer, Tromethamine, Caffeine, Cetyl Alcohol, Sodium Rna, Astrocaryum Murumuru Butter, Linoleic Acid, Lecithin, Ascorbyl Tocopheryl Maleate, Isodecyl Salicylate, Zinc Pca, Mannitol, Ethylbisiminomethylguaiacol Manganese Chloride, Disodium Nadh, Aminopropyl Ascorbyl Phosphate, C1-8 Alkyl Tetrahydroxycyclohexanoate, Hydroxyethylcellulose, Potassium Sulfate, Maltodextrin, Ferulic Acid, Dextrin, Xanthan Gum, Nordihydroguaiaretic Acid, Hexylene Glycol, Sodium Chloride, Disodium Edta, Phenoxyethanol ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? ปกติแล้วปูเป้จะใช้ตัวนี้ทารอบดวงตา เนื่องจากมีเนื้อที่เข้มข้นพอเหมาะไม่มากไม่น้อยเกินไป ส่วนผสมก็ดีมากทีเดียว ไม่มีน้ำหอมและสีที่จะระคายเคืองผิวรอบดวงตา สารแอนติออกซิแดนท์ก็เยอะและหลากหลาย ก็จะมีบ้างที่จะใช้กับบริเวณ U-Zone ที่บางครั้งจะรู้สึกตึง ๆ บ้างในบางครั้ง (โดยเฉพาะตอนใช้ Differin) เหตุผลที่ใช้เพราะว่ามันมีเนื้อเข้มข้นพอประมาณ ไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับกระผม (ในตอนสภาพผิวปกติ) ขนาด Sample ก็หาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพง (กระผมซื้อขนาด 15ml. ในราคาแค่ 180 บาทเอง เพราะว่าสนิทกะเจ้าของร้านเพราะชอบไปซื้อของขนาดทดลองบ่อย ๆ เวลาอยากจะลองของใหม่ ๆ ) Sunscreen Paulas Choice : Ultra-Light Weightless Finish SPF 30 Sunscreen Spray Active Ingredients : Octinoxate 7.5.%, Homosalate 6%, Octisalate 5.0%, Oxybenzone 4.5%, Avobenzone 3%, Octocrylene 2.4% (all FDA-approved sunscreen ingredients) Other Ingredients : Cyclopentasiloxane, Cyclohexasiloxane (silicone slip agents), Isododecane (dry-finish solvent), Hexyldecanol (skin-conditioning agent), Tetrahexyldecyl Ascorbate (stabilized vitamin C/antioxidant), Nordihydroguaiaretic Acid (plant-based antioxidant), Tocopheryl Acetate (vitamin E/antioxidant), Ferulic Acid (antioxidant), Stearyl Glycyrrhetinate, Bisabolol (anti-irritants). ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? สิ่งที่สำคัญคือมันสามารถกันแดดได้ครบทั้ง UVA และ UVB โดยใช้สารกันแดดแบบดูดซับรังสี หรือแบบ Chemical ทั้งหมด ซึ่งมีโอกาอุดตันผิวต่ำกว่าแบบสะท้อนรังสี หรือแบบ Physical และปูเป้เป็นคนไม่แพ้สารกันแดดแบบ Chemical ก็โชคดีไป ทำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้แบบไม่ต้องกังวล เนื้อผลิตภัณฑ์นี้เป็นสิ่งที่ Unique ไม่เหมือนใครมาก ๆ เพราะนี่เป็นกันแดดในเบสซิลิโคนใส ๆ ที่แทบจะไม่หนักหน้าเลย เนื้อผลิตภัณฑ์อาจจะดูมัน ๆในตอนแรกที่ทา แต่ต้องรอสักพักให้ซิลิโคนมันเซทตัวก่อนสักแปปก็จะได้แบบ Soft-Matte Finish (แต่ถ้าทาผลิตภัณฑ์ที่มันเยิ้ม ๆ มาก่อน เนื้อซิลิโคนคงไม่สามารถพอที่จะทำให้ผิวดู Matte ได้หรอกนะขอรับ) แน่นอนว่ามันพิเศษตรงที่ไม่มีส่วนผสมของ Alcohol Denat. ที่กันแดดแบบใสเป็นน้ำส่วนใหญ่จะผสมมาด้วย (ซึ่งเป็นสารก่อการระคายเคือง) นอกจากนี้ยังมีสารแอนติออกซิแดนท์กับต้านการระคายเคืองมาให้ด้วย วิธีใช้ก็คือให้ฉีดลงบนฝ่ามือหรือนิ้วก่อนค่อยเกลี่ยลงบนผิวหน้า โดยเว้นรอบดวงตาเอาไว้ เพราะปูเป้คิดว่าสารกันแดดแบบ Physical จะอ่อนโยนกับผิวรอบดวงตากว่าจึงต้องแยกกันแดดที่จะใช้กับรอบดวงตาไว้อีกตัวหนึ่งClinique : City Block Sheer Oil-Free Daily Face Protector SPF 25 Active Ingredients : Titanium Dioxide (7.3%), Zinc Oxide (6.9%) Other Ingredients : Water, Trioctyldodecyl Citrate, Butylene Glycol, Cyclopentasiloxane, Dimethicone, C12-15 Alkyl Benzoate, Steareth-2, Stearyl Heptanoate, Aluminum Stearate, Silica, Lecithin, Gentiana Lutea (Gentian) Root Extract, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Hordeum Vulgare (Barley) Extract, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Extract, Betula Alba (Birch) Bark Extract, Cucumis Sativus (Cucumber) Fruit Extract, Laminaria Saccharina Extract, Saccharomyces Lysate Extract, Helianthus Annuus (Sunflower) Seedcake, Sodium Hyaluronate, Sorbitan Tristearate, Linoleic Acid, Polyquaternium-51, Caprylyl Methicone, Sorbitol, Sodium Rna, Phospholipids, Peg-40 Stearate, Magnesium Aluminum Silicate, Caprylyl Glycol, Tocopheryl Acetate, Phytantriol, Stearic Acid, Hydrogenated Lecithin, Cellulose, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Stearyl Dimethicone, Ascorbyl Tocopheryl Maleate, Nordihydroguaiaretic Acid, Linolenic Acid, Pantethine, Bisabolol, Hydroxyethyl Urea, Ceteth-2, Peg/Ppg-18/18 Dimethicone, Polyglyceryl-6 Polyricinoleate, Steareth-20, Isopropyl Titanium Triisostearate, Propylene Glycol Dicaprate, Sodium Stearate, Nylon-12, Citric Acid, Nylon-6, Hexylene Glycol, Xanthan Gum, Disodium Edta, Bht, Phenoxyethanol, Titanium Dioxide, Iron Oxides ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? เพราะนี่เป็นครีมกันแดดแบบ Physical ล้วน (Titanium Dioxide กับ Zinc Oxide) ที่อ่อนโยนกับผิวรอบดวงตากว่าแบบ Chemical ทางด้านเบสครีมก็ให้ความชุ่มชื้นดี มีสารแอนติออกซิแดนท์เยอะ ราคาก็พอถูไถไม่แพงเกินไปสักเท่าไหร่ แถมใช้ได้นานมาก (ก็ทาแต่รอบดวงตานี่นะ) ผลพลอยได้คือ Titanium Dioxide กับ Silica จะช่วยกระจายแสงให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลงได้เป็นของแถม!!!Finishing Touch Paulas Choice : Skin Perfecting Loose Powder - Translucent Light Contains : Talc (absorbent), Tocopheryl Acetate (vitamin E/antioxidant), Caprylic/Capric Triglyceride (emollient), Potassium Sorbate, Caprylyl Glycol, Phenoxyethanol (preservatives), Zinc Stearate (anti-caking agent), Hexylene Glycol (preservative), Hydroxylated Lanolin (texture enhancer). May Contain : Titanium Dioxide, Iron Oxides (earth minerals used as pigments), Ferric Ferrocyanide, Chromium Hydroxide Green, Chromium Oxide Green, D&C Red No. 27 Aluminum Lake, D&C Red No. 6, D&C Red No. 7 Calcium Lake, FD&C Blue 1 Aluminum Lake, FD&C Red 40 Aluminum Lake, FD&C Yellow 5 Aluminum Lake, Carmine, Manganese Violet, (pigments) ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? ไม่มีน้ำหอม ราคาไม่แพง คุมมันได้บ้าง เนื้อบางเบาดี ปัดด้วยแปรงแล้วดูเป็นธรรมชาติ ดูไม่แห้งเหมือนโบ๊ะแป้งมากเกินไป M.A.C. : Mineralized Skinfinish Medium ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? เพราะชอบมากหลังได้ลองใช้ครั้งแรก ทำให้หน้าดูใสและสว่างขึ้นโดยมองไม่เห็นเม็ดสีที่ช่วยสะท้อนแสงวิ้ง ๆ เลย ดูเหมือนผิวสุขภาพดีเป็นธรรชาติมากจนเหมือนไมได้ทาแป้ง ค่าความปกปิดต่ำ แต่ก็ช่วยพรางรอยจาง ๆ ได้เหมือนกัน ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น ราคาพันต้น ๆ แต่ใช้ได้น๊านนาน เสียตรงไม่คุมมันเท่าไหร่ แต่ใช้กระดาษซับมันซับแล้วผิวก็ยังดูดีอยู่ ไม่ต้องมาคอยเติม (เว้นแต่เหงื่อจะออก)Night Time Regiment Cleanser Paulas Choice : One Step Face Cleanser - Normal to Oily/Combination Skin Ingredients : Water, Glycerin (water-binding agent), Sodium Laureth Sulfate (surfactant), Sodium PCA, Sodium Lactate, Glycine, Fructose, Urea, Niacinamide, Inositol (water-binding agents), Sodium Benzoate (preservative), Lactic Acid (water-binding agent), Allantoin (soothing agent), Sodium Hyaluronate (water-binding agent), PEG-7 Glyceryl Cocoate (thickener), Sodium Hydroxymethylglycinate (stabilizer), Sodium Methyl Cocoyl Taurate (surfactant), Xanthan Gum (thickener), Triethanolamine (Ph balancer), Carbomer (gel-based thickener), Benzophenone-3 (stabilizer), Methylparaben (preservative), Propylparaben (preservative). ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? ทำความสะอาดได้ดี มีส่วนผสมอ่อนโยน ล้างกันแดดและเครื่องสำอางแบบไม่กันน้ำได้ในขั้นตอนเดียว ไม่แสบตา ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ไม่ทิ้งความมันหรือฟิลม์ลื่น ๆ เอาไว้บนผิว ล้างแล้วรู้สึกสดชื่น เบาสบายผิว ไม่เหนอะหนะ วิธีการใช้ที่ถูกต้องคือ 1. ใช้น้ำอุ่นวักใส่หน้าให้เปียกก่อน (สำคัญว่าต้องเป็นน้ำอุ่น เพราะน้ำเย็นจะทำให้ล้างพวกไขมันหรือ wax ออกได้ยากขึ้น) 2. ใช้ Cleanser ปริมาณเท่าเหรียญ 5 หรือ 10 บาท นวดเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือ เน้นบริเวณซอกจมูกและส่วนที่มันหน่อย (แต่อย่าใช้แรงมากนะขอรับ) 3. ใช้ผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม ชุบน้ำอุ่นและบิดให้หมาด ๆ เช็ดหน้าเพื่อเอาสิ่งสกปรกที่ละลายหลุดติดมากกับ Cleanser ออก 4. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง และตบท้ายด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน (วิธีการใช้แบบนี้สามารถประยุกต์ใช้กับ Water-Soluble Cleanser ได้ทุกยี่ห้อ) เท่านี้ก็สามารถล้างทั้งแป้งฝุ่น ครีมกันแดด และสิ่งสกปรกออกได้หมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อพวก Make-Up Remover มาใช้เพิ่มให้เปลืองเงิน ถ้ากังวล วิตกจริต กลัวว่าจะทำความสะอาดไม่พอ ก็ใช้ Cleanser ตัวเดิมนี่แหล่ะ ล้างซ้ำอีกรอบแต่ไม่ต้องใช้ผ้าขนหนูช่วยเช็ดแล้วก็พอ แต่ถ้าคุณใช้มาสคาร่า ลิปสติค หรือเครื่องสำอางแบบกันน้ำ ก็ต้องใช้ Make-Up Remover ก่อนทุกครั้งนะขอรับToner Paulas Choice : Skin Balancing Toner - Normal to Oily/Combination Skin Ingredients : Water, Glycerin, Butylene Glycol (water-binding agents), Niacinamide (vitamin B3/cell-communcating ingredient), Adenosine Triphosphate (cell-communicating ingredient/skin conditioning agent), Anthemis Nobilis (Chamomile) Flower Extract (anti-irritant), Arctium Lappa (Burdock) Root Extract (antioxidant), Hydrolyzed Jojoba Esters, Hydrolyzed Vegetable Protein (skin conditioning agents), Sodium PCA, Panthenol, Sodium Hyaluronate (water-binding agents), Sodium Chondroitin Sulfate (skin conditioning agent), Ceramide 3, Ceramide 6 II, Ceramide 1, Phytosphingosine, Cholesterol (lipid-based water-binding agents), Tetrahexyldecyl Ascorbate (vitamin C/antioxidant), Oleth-10, DEA-Oleth-10 Phosphate, Sodium Lauroyl Lactylate (emulsifiers), Polysorbate-20 (skin conditioning agent), Caprylyl Glycol, Hexylene Glycol (preservatives), Sodium Citrate (pH adjuster), Carbomer (gel-based thickener), Xanthan Gum (thickener), Trisodium EDTA (chelating agent), Phenoxyethanol (preservative) ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? ปูเป้ใช้เพราะมันเป็นเนอร์ที่ส่วนผสมอลังการ มีสารบำรุงให้ครบทุกรสชาติ (มี Niacinamide ของชอบปุเป้ด้วย) ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นและช่วย Sooth ผิวได้น้อยกว่า Paulas Choice : Healthy Skin Refreshing Toner หน่อย แต่มีสารบำรุงมากกว่า... จริง ๆ จะเลือกใช้ตัวเดียวก็ได้ แต่แบบว่ารักพี่เสียดายน้อง ใช้มันทั้งสองตัวแบ่งเช้าเย็นเลยละกัน... แน่นอนว่าใช้คู่สำลีของ Boots เช่นเดิมSpecial Treatment Toner SK-II : Facial Treatment Essence Ingredients : Saccharomycopsis Ferment Filtrate (Pitera), Butylene Glycol, Pentylene Glycol, Water, Sodium Benzoate, Methylparaben, Sorbic Acid ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? เป็นความชอบส่วนบุคคลขอรับ ประจวบเหมาะว่าปูเป้ลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้วโชคดีที่มันถูกกับผิว รู้สึกได้ว่าหน้าใสและกระจ่างขึ้นกว่าตอนที่ไม่ได้ใช้ แต่ปูเป้ขอบอกว่ามันไม่ได้ผลกับทุกคนนะขอรับ บางคนก็ไม่เห็นผลอะไร บางคนใช้แล้วก็แพ้ เพราะส่วนผสมหลัก ๆ มีแต่ Saccharomycopsis Ferment Filtrate (Pitera) ขอรับ หลังจากโทนเนอร์ซึมดี ก็เทเจ้าน้ำเหม็นบูดตัวนี้ลงบนฝ่ามือ ตบ ๆให้ซึมเข้าผิวทั้วใบหน้าและลำคอ รอให้ซึมแล้วค่อยเข้าสู่ขั้นต่อไปExfoliant Paulas Choice : 8% Alpha Hydroxy Acid Gel Ingredients : Water, Glycolic Acid (alpha hydroxy acid/exfoliant), Sodium Hydroxide (pH adjuster), Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Extract (chamomile/soothing agent), Aloe Barbadensis Leaf Juice (water-binding agent), Camellia Oleifera (Green Tea) Leaf Extract (antioxidant), Sodium Hyaluronate, Panthenol, Sodium PCA (water-binding agents), Propylene Glycol, Butylene Glycol (slip agents/penetration enhancers), Hydroxyethylcellulose, Polyquaternium-10 (thickeners), Phenoxyethanol, Methylparaben, Ethylparaben, Propylparaben, Butylparaben, Isobutylparaben (all preservatives). ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? เพราะส่วนผสมไม่ก่อการระคายเคือง มีบอกความเข้มข้นของ AHA ชัดเจน บอกค่า pH ของผลิตภัณฑ์มาด้วยว่าเหมาะสมรึเปล่า เนื้อเจลนั้นก็ข้นกว่าน้ำเล็กน้อย ทาง่ายดี ไม่หนักหน้า (แต่จะรู้สึกเหนียว ๆ บ้าง ตามแบบฉบับของผลิตภัณฑ์เนื้อเจล) ข้อดีของการใช้ AHAs แบบน้ำหรือเจลนั้น คือมันซึมลงผิวดีกว่าแบบ ครีมหรือโลชั่น เพราะว่า AHAs เป็นสารที่ละลายในน้ำ การใช้ผลิตภัณฑ์เบสครีมที่ยิ้งข้นหรือหนัก จะทำให้ประสิทธิภาพของ AHAs ลดลง จะใช้โดยการเทบนสำลีแล้วเช็ดก็ได้ (เพราะว่ามันเหลวมากอ่ะ ไหลย้อยเลย) แต่แบบว่าเปลืองไปหน่อย เทลงบนปลายนิ้วแล้วค่อย ๆไล่เกลี่ยเอาก็ได้ สำคัญที่สุดคือราคาไม่แพง...Acne Treatment Differin : Adapalene 0.1 % Gel ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? เพราะปุเป้ใช้ Retin-A แล้วหน้าลอกกระจุยกระจาย แบบว่ามันอาจจะแรงไปสำหรับกระผม ก็เลยหันมาหา Differin ที่ใช้ตัวยา Adapalene ซึ่งมีโอกาสระคายเคืองน้อยกว่า เนื้อผลิตภัณฑ์แบบเจลก็ทำให้เกลียได้ง่ายกว่าแบบครีม ทำให้สามารถควบคุมปริมาณการใช้ได้ไม่ยาก (ไม่เหมือนกับ Retin-A ที่เป็นครีม เม็ดเท่าถั่วเขียวจะทายังไงให้ได้ทั่วหน้าเนี่ย? ทาแค่แก้มก็หายไปหมดแล้ว...) ยาตัวนี้ช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตันได้ดี หรือกับผิวที่ย้ำแย่เพราะโดนแสงแดดทำร้ายเนื่องจากไม่ได้ทาครีมกันแดดเป็นประจำ (หรือไม่เคยทามาก่อนเลย) ก็สามารถช่วยปรับสภาพให้ผิวดูดีขึ้นเหมือนก่อนได้ (อาจจะดีกว่าเดิมด้วย)***Note*** ถ้าคืนไหนใช้ Differin ก็ห้ามใช้ AHAs นะขอรับ ส่วน BHA นี่สามารถใช้ได้ แต่ถ้าคุณมีผิวระคายเคืองง่ายหรือ Sensitive ก็ให้งดไปเลยจะดีกว่า วิธีการใช้ก็ไม่ยุ่งยาก พึงจำกฎไว้สองข้อคือ 1. ยามาก่อน บำรุงมาทีหลัง 2. ไล่ลำดับการใช้จากเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหลวที่สุด ไปยังข้นที่สุด Differin จึงต้องทาหลัง Toner ขอรับ โดยต้องรอให้ Toner ซึมจนแห้งสนิทดีก่อน ก็ค่อย ๆ เกลี่ย Differin บาง ๆ ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและรอบปากเอาไว้ ถ้าคุณมีผิว Sensitive มากก็ให้เว้นขอบจมูกไว้ด้วยก็ได้ หลังจากนั้นก็รอให้ซึมดีก่อน ค่อยเริ่มบำรุงขั้นต่อไปด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์แบบอ่อนโยนTreatment ขั้นนี้เปลี่ยนไปเรื่อย ตามใจอยาก ไม่ได้ Fix สักวันขอรับ เวียนไปเรื่อยตามใจอยาก.... เลยไม่รู้จะบอกว่าใช้อะไรดี... ส่วนใหญ่จะเป็นขนาดทดลองมากกว่า เพราะเป็นคนชอบลองเซรั่มมาก ๆ (เนื่องจากมันเบาและไม่ทำให้หนักหน้า รายชื่อของที่สลับใช้ไปเรื่อยก็มีดังนี้- Oriental Princess : Natural Intensive C Skin Boosting Serum - Estee Lauder : Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher - Dermalogica : MAP 15 Regenerator - Clinique : Repairwear Deep Wrinkle Concentrate for Face and Eyes - Preme : Pure C White - Lancome : Blance Expert NeuroWhite X3 Spot Eraser Moisturizer Paulas Choice : HydraLight Moisture-Infusing Lotion Ingredients : Water, Neopentyl Glycol Diheptanoate (skin-conditioning agent), Cyclopentasiloxane (silicone/skin-conditioning agent), Butylene Glycol (water-binding agent), Dimethicone (silicone/skin-conditioning agent), Propylene Glycol Isoceteth-3 Acetate (water-binding agent), Squalane (emollient), Bis-Diglyceryl Polyacyladipate-2 (gel-based thickener), Potassium Cetyl Phosphate (emulsifier), Glyceryl Stearate, PEG-100 Stearate (thickeners), Cholesterol (skin-conditioning agent), Avena Sativa (Oat) Kernel Extract (anti-irritant), Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract, Punica Granatum (Pomegranate) Extract, Vaccinium Macrocarpon (Cranberry) Fruit Extract (antioxidants), Sodium Hyaluronate (water-binding agent), Dimethicone Crosspolymer (suspending agent), Glycerin (water-binding agent), Superoxide Dismutase (antioxidant), Tocopheryl Acetate (vitamin E/antioxidant), Tetrahexyldecyl Ascorbate (vitamin C/antioxidant), Sodium PCA, Phytosphingosine (water-binding agents), Magnesium Aluminum Silicate (thickener), Cetyl Alcohol (emollient), Xanthan Gum (thickener), Laureth-4 (emulsifier), Laureth-23 (solubolizing agent), Phenoxyethanol, Chlorphenesin, Benzoic Acid, Sorbic Acid (preservatives). ทำไมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้? ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับส่วนผสมที่ได้ เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา ให้ความชุ่มชื้นปานกลาง เหมาะกับคนผิวผสมไปทางมันหรือผิวมันมาก (แต่ถ้าช่วงไหนผิวลอก ๆนี่ช่วยอะไรไม่ได้เลย) ส่วนตัวใช้แล้วไม่มีปัญหาสิวอุดตันขึ้น สารบำรุงก็เยอะและหลากหลายในตัวเดียว ไม่มีน้ำหอมและสี โอกาสที่จะระคายเคืองต่ำ สามารถทารอบดวงตาได้ไม่มีปัญหา ทาไปแรก ๆ จะรู้สึกว่าหน้าดูเงา ๆ ต้องรอไปสักแปปให้เริ่มเซ็ทตัวก็จะออกมาเป็น Soft-Matte Finish ข้อเสีย... คือเหม็นมาก (โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ชินกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมน้ำหอม) และฝาพลาสติคก็เปราะมาก เปิดใช้ไม่กี่ครั้งก็เริ่มร้าว หัวปั้มก็พิลึกแบบบอกไม่ถูก... คือมันปั้มโลชั่นออกมาได้ไม่เหมือนชาวบ้านเขาอ่ะ... อ้อ!!! แล้วก็ชอบแห้งตันบ่อย ๆ ด้วย (เพราะว่าฝามันแตกจนลมมันเข้าไปยังไงล่ะ) ถ้าเปลี่ยนฝา เปลี่ยนหัวปั้มจะปลื้มกว่านี้มาก....Eye Moisturizer อันนี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อย เพราะปกติมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ทาหน้า จะเลือกให้อ่อนโยนจนทารอบดวงตาได้อยู่แล้ว แต่ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาขายเป็น Eye Moisturizer โดยเฉพาะที่มีติดบ้านเอาไว้ก็มีดังนี้- Oriental Princess : Natural Intensive C Glowing Eye Essence - ANEW : CLINICAL Eye Lift - Clinique : All About Eye Rich ก็สลับ ๆใช้ไปเรื่อย ๆ แก้เบื่อ :P ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ที่ยกขึ้นมาเพราะว่าใช้บ่อยที่สุดนะขอรับ จริง ๆ ก็จะมีของเยอะกว่านี้อีกหลายสิบชิ้น ส่วนใหญ่ซื้อเพราะอยากลอง แล้วก็จะเอามาเป็นข้อมูลรีวิวด้วยส่วนหนึ่ง (คือซื้อเอาส่วนผสม ว่างั้นเหอะ...) รูปข้างล่างก็คือรูปของที่เหลือในปัจจุบัน เพราะโละแจกจ่ายไปเยอะแล้ว ตัวไหนที่แย่มาก ๆ ก็ทิ้งเลยไม่กล้าเอาไปให้คนอื่นหรือขายต่อ ตัวไหนที่ขายต่อทางเนทได้ก็ขายไป ตัวไหนรู้ว่าเพื่อใช้อยู่แล้วใช้ได้ก็แจกไป... จากรูปนี้มีแค่ Skincare ที่ใช้กับหน้าเท่านั้น!!! (ยังไม่รวมผมกับผิวตัว) ไม่รู้ว่าบ้าซื้อมาได้ยังไง (แต่ก็อยากให้เห็นว่า ไอ้ที่รีวิวไปว่าดีหรือไม่ดียังไง หรือเคยบ่นว่าตัวนั้นตัวนี้ทำให้แพ้หน้าแหก หรือส่วนผสมไม่ได้เรื่อง ทาไปแล้วเฉย ๆ มาเนี่ย เคยลองใช้จริงนะขอรับ... ไม่ได้พูดปากเปล่า) อย่างไรก็ดี สภาพผิวของแต่ละคนก็ต่างกันไป แพ้หรือระคายเคืองต่อสารแต่ละตัวไม่เหมือนกัน ยังไงก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับตนเองด้วยนะขอรับ
Create Date : 31 สิงหาคม 2551
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2551 3:02:43 น.
126 comments
Counter : 16066 Pageviews.
สวัสดีคับ คุณ ปูเป้
แวะมาล้วงความลับในบล๊อคคุณปูเป้มาคับ
เยอะมากกกกกกกกกกก
ยี่ห้อ Paulas Choice รู้จักเพราะคุณ ปูเป้เลยเชียว
แต่ก็ได้แค่อยาก แหะ ๆๆๆ
ขอบคุณมากคับ สำหรับความรู้ดี ๆ