โรค Bell's Palsy (2 สัปดาห์ผ่านไป)
ครบ 2 สัปดาห์แล้ว สำหรับการเป็นโรคนี้
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (22 - 28 มิ.ย. 52) อาทิตย์นี้ที่ทำงานให้ลาพัก 1 สัปดาห์เต็ม จริง ๆ หมอก็บอกว่าให้ไปทำงานได้ แต่ในเมื่อที่ทำงานให้หยุด เราก็หยุดดีกว่า ถือว่าทำใจ แล้วฝึกความอดทนกับการใช้ใบหน้าได้แค่ด้านเดียว
ยอมรับว่าลำบากมาก ไหนจะเรื่องการทานอาหาร ดื่มน้ำ พูดคุย ทานอาหาร เนื่องจากริมฝีปากขยับไม่ได้ ลิ้นไม่สามารถกวาดเศษอาหารในกระพุงแก้มด้านที่มีปัญหาได้ กิน ๆ ไป ต้องใช้นิ้วดันเศษอาหารที่อยู่อีกด้านออกมา หรือเวลากัดอาหารประเภทเส้น ก็กัดได้ลำบาก คือ ความรู้สึกกัดได้ไม่เต็มปาก
ดื่มน้ำ นี่ก็เรื่องใหญ่ ไปทานร้านอาหารนึง หรูพอควร แต่เราสั่งนำเปล่า ไม่มีหลอดให้ พอจิบจากแก้ว ต้องใช้นิ้วดึงริมฝีปากเพื่อให้ปากมันกว้างขึ้น แล้วช่วยอุดไม่ให้น้ำมันไหลจากปากด้่านที่มีปัญหา
พูดคุย ก็แน่นอน ริมฝีปากไม่ทำงาน การออกเสียงก็จะอู้ ๆ สงสารคนฟัง เวลาคุย บางทีต้องดึงแก้ม ดึงริมฝีปาก เพื่อให้ลมออกจากปากมากขึ้น เสียงจะได้ไม่อู้
ส่วนที่ลำบากอีกเรื่องคือสายตา เวลาอาบน้ำ น้ำไหลเข้าตานี่ เจ็บสุด ๆ แถมเวลาล้างหน้าหรือสระพผม ก็ต้องเอามือปิดตากันพวกน้ำยาเคมีเข้าตา อันตรายสุด ๆ ตอนนอนก็ต้องทาขี้ผึ้งป้ายตา แล้วก็หาที่ครอบตาเพื่อกันฝุ่น
สำหรับกิจกรรมของอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็มีไปฝังเข็มอีก 2 ครั้ง ครั้งที่สองไปกับน้องสาว ไปวันอังคาร น้องสาวคุยจีนได้ เลยได้คุยกับเหล่าซือเรื่องโรคเรา ก็อธิบายคร่าว ๆ ในทางการแพทย์จีน สรุป ก็ให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ แล้วออกกำลังกาย นวดใบหน้า ส่วนครั้งที่สามไปเอง ฝังเข็มครั้งนี้เจ็บ เลือดไหลด้วย แต่สามครั้งก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่หมอไม่ได้นัด เลยกะว่าจะไม่ไปแล้ว หมดเวลาแล้วหละ
อีกเรื่องคือ ย้ายจากพญาไท 2 มาที่โรงพยาบาลสำโรง ถือวิสาสะย้ายเอง ก็รู้ว่าไม่ดีกับการหาหมอหลายคน แต่ไปคุยสองครั้ง เค้าก็ให้เรารอ โรคนี้ต้องใช้เวลา ยาแค่ช่วยภายนอกเท่านั้น พอถึงจุดนึงก็ต้องหยุดยา (สเตอรอยด์นี่)
แล้วทำไมถึงย้ายไปโรงพยาบาลสำโรงหละ ก็ประกันสังคมอยู่โน่นนี่ หาพญาไท ค่ายา 400 กว่า ๆ ค่าหมอค่าพยาบาลค่าเครื่องมือ 600 บาท เสียดายตังก์มาก (ยา 2 อย่างนะเนี่ย 400 บาท กินอาทิตย์เดียว) พอไปสำโรง ก็ได้คุยกับหมอด้านประกันสังคม แล้วเค้าส่งต่อให้ทางโรงพยาบาลสำโรงตรวจ เพราะเป็นด้านสมอง ประกันสังคมไม่มีแพทย์เฉพาะทาง ตอนคุยกับหมอ หมอก็บอกว่าประมาณ 2 เดือน (ก็ตามเพื่อน ๆ ในบลอกและในเนตพูดกันว่าจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2 เดือน)
แต่ทางคุณหมอก็ตรวจ ๆ คือเป็นมา 2 อาทิตย์ เราก็รู้ตัวแล้วหละ มันไม่หายในเวลาอันใกล้หรอก แต่เราอยากมารับยาเท่านั้น เช่นพวกยาหยอดตา ยาป้ายตา หรือพวกวิตามิน เพราะถ้าไปซื้อ ก็คงหลายร้อย ยังไงก็จ่ายประกันสังคมแล้ว ก็ใช้ซะหน่อย ปีที่ผ่านมาไม่ได้มาใช้เลยซักครั้ง
คุณหมอก็ใจดี ก็ถามว่าเราอยากได้พวกพวกไหน เราก็บอกไปเลย ยาหยดตากับยาป้ายตา เค้าก็จัดให้อย่างละชุด ก็คงพอใช้ไป 1 เดือน ส่วนยาเสตอรอยด์ หมอให้ลดจากวันละ 3 มื้อ เหลือ 2 มื้อ พร้อมกับวิตามินที่โดนลดเหลือ 2 มื้อเช่นกัน
สรุปไปหาที่โรงพยาบาลสำโรง ไม่เสียอะไรเลย เพราะประกันสังคมจ่าย ได้ยากินมาอาทิตย์นึง ยาทามาชุดนึง ก็ดีกว่าไปเสียพันกว่าบาทหละกัน แต่นัดหมออีกที เดือนหน้าแหนะ นานจัง ยาหมดแล้วด้วย จะต้องกินพวกวิตามินต่อมั้ยน้อ
สำหรับสภาพโดนรวม 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา วันนี้ก็รู้สึกว่าอ้าริมฝีปากด้านล่างได้กว้างขึ้นนิดนึง รู้เทคนิคในการดื่มน้ำไม่ให้ไหลออกจากด้านข้าง (ดื่มจากขวด) หรือทานข้าวจะเคี้ยวยังไงไม่ให้ติด (แต่ก็ยังค้างอยู่) หรือเรื่องสายตาที่รู้สึกว่าปิดได้มิดขึ้นซัก 0.2 มิล (เยอะมั้ยเนี่ย เพื่อนบอก)
สิ่งที่รู้สึกผิดปกติขึ้น ไม่รู้เพราะยาหรือเปล่า คือ นอนไม่หลับ ขนาดทำโน่นนี่ทั้งวัน มานอนเกือบตี 1 ดันตื่นซะตีห้าครึ่ง (แต่ตื่นแบบกะปรี้กะเปร่านะ) เป็นมาสองสามวันแล้ว แถมไม่ถ่ายด้วย ทั้ง ๆ ที่กินผักเยอะนะ เฮ้อ
อาทิตย์หน้าทำงานแหละ ก็ทนต่อไป แต่พยายามไม่เครียด (จะได้มั้ยเนี่ย)
Create Date : 28 มิถุนายน 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 28 มิถุนายน 2552 19:07:17 น. |
Counter : 1343 Pageviews. |
|
|
|
ตลอดมามองว่าโรคนี้มันเป็นโรค rare และมองเฉพาะอาการและสาเหตุของโรคเท่านั้น
ปรากฏว่ามีหลายท่านได้เป็น และอัพเรื่องราวให้อ่านกัน
ทำให้กระจ่างแจ้งว่า bell's palsy นี่มันใกล้ตัวจริงๆ
เห็นใจคนเป็นมากค่ะ
เอาใจช่วยให้สู้ต่อไปค่ะ