I call it Destiny You call it Love...
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
17 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
once time for love ... กาลครั้งหนึ่ง .. ความรัก





ประกาศ



ใจจริงจะเลิกอัพเรื่องนี้แล้ว เพราะว่าต่อไม่ถูก แต่ก็เป็นคนไม่ชอบอะไรค้าง ๆ คา ๆ เหมือนกัน บวกกับ รู้สึกเสียดายและได้รับแรงกระตุ้นจากสมาคมมาพอประมาณ ฉะนั้น พุดดี้จะอัพต่อฮะ


แต่ว่า อาจนานหน่อย รักแล้วคงรอกันได้นะฮะ แล้วจะพยายามให้มากที่สุด เพื่อให้ฟิกนี้จบโดยสมบูรณ์
ขอบคุณมากมายฮะ



.
.
.
.
.

บางช่วงเวลาที่โหดร้าย เจ็บเจียนตาย แต่ไม่เคยจำ







Special Fic Woo-Dong


กาลครั้งหนึ่ง ความรัก...





(เมื่อคุณขอมา(ใครขอเมิงงงงงง) ง้านเราก็จัดให้)







Intro


.
..
...
....
...
..
.
.


คุณคงเป็นคนหนึ่งที่เคยมีอดีตใช่มั้ย เคยยึดติดอยู่กับอะไรบางอย่าง ความทรงจำสวยงามที่ฝังรากลึกอยู่ภายในใจ ... ต้นไม้ที่เติบโตขึ้นทุกวัน ๆ แม้ร่มเงาที่ทอดผ่าน ที่คอยก่อร่างสร้างความอบอุ่นให้นั้น ก็เป็นแค่ความสุขของสิ่งที่ผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีวันหวนคืน...


ต่อให้คุกเข่าอ้อนวอน และร้องขอ ...แต่ก็ไม่มีวันกลับมา
..

.
.


แต่แล้ววันหนึ่ง ใครบางคนก็เดินเข้ามาหยั่งรากความสัมพันธ์ขึ้นใหม่ จำเป็นมั้ยที่ความรักในใจต้องโค่นลำต้นลงไปให้เหลือแค่ 1 เดียว ...




...มินอู ... ผมรักคุณ....
..
.
.
.
.
.
มันพูดยากลำบาก และมันก็เป็นคำที่ไม่สมควรจะหลุดออกจากปากคนที่เป็นแค่ผู้ช่วยอย่างผม ..

แต่ทำไงได้ ในเมื่อผมกำลังรู้สึกแบบนั้น และตอนนี้หัวใจผมก็จวนเจียนระเบิดกับการทนเก็บกักความรู้สึกที่เรียกว่ารักนั้นไว้


..
...
...
..
..
.
.

ทางเลือกของผม ...
1. คือหนี

และ 2. เผชิญหน้า


ส่วนทางเลือกของคุณ มีแค่ข้อเดียว

คือ ..ก้าวต่อไปโดยไม่มีผม ...

ก็แค่นั้น...






..




Ep.1 Memory of love

กลิ่นหอมของความทรงจำ



.
.

.

....
..
.
.
.
แอร์พอร์ตยามเช้าตรู่แบบนี้ ผู้คนที่เดินผ่านผมไปมาแต่ละคน ดูท่าทางน่าเหนื่อยเหมือนผม กระเป๋าใบโตที่ลากอยู่ในมือเริ่มมีเหงื่อซึม การเดินทางหลายชั่วโมง ทำเอาความอ่อนเพลียคลืบคลานเข้ามาคลอบงำทุก ๆ ส่วนของร่างกายผมไว้

คิดถึงอ่างอาบน้ำอุ่น ๆ คิดถึงเตียง คิดถึงหมอนที่บ้านชะมัด


ผมเปิดประตูแท็กซี่เข้าไปนั่ง บอกจุดหมายปลายทางให้คนขับรู้ ดวงตาที่เมื่อยล้ากำลังจะปิดไม่ปิดแหล่ แต่ทัศนียภาพที่เปลี่ยนไปรอบตัวค่อนข้างมาก สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ไม่น้อย จนยากจะข่มตาลง เวลาเช้า ๆ ที่รถรายังไม่วุ่นวายจอแจบนถนนเกินไปนักแบบนี้ ช่วยให้ความเคลียดจากการเดินทางละลายไปได้โขเหมือนกัน


โซลวันนี้กับวันก่อน ให้หาข้อเปรียบเทียบถึงความแตกต่าง ก็ยากอยู่ซักหน่อย จะว่าไป คงเป็นที่ความรู้สึกมากกว่าล่ะมั้ง เพราะวันนี้กับ 2 ปีก่อน ไม่เหมือนกัน แน่ล่ะ ผมก็เปลี่ยนไปมาก มากพอ ๆ กับโซลตอนนี้เลยก็ว่าได้



รถแท็กซี่เข้าจอดเลียบกำแพงเตี้ย ๆ ของบ้านหลังเล็กสีขาวสะอาดหลังหนึ่ง ผมเปิดประตูลงมาเหยียบผืนดินที่แสนคุ้นเคย สูดอากาศเข้าเต็มปอด ก่อนจะค่อย ๆ ผลักรั้วบ้านเข้าไปด้วยหัวใจที่ยังเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้น ..


ม่านหน้าต่างสีฟ้าไหวน้อย ๆ ทันทีที่เปิดหน้าต่างอ้ารับอายแดดยามเช้า ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์สีขาวถูกเปิดขึ้นก่อนความทรงจำครั้งเก่าจะค่อย ๆ ไหลประดังเข้ามาในหัวของผม ...

2 ปีก่อน ผมคลุมมันไว้ด้วยตัวเอง นึกดีใจมากที่ไม่คิดสั้นขายบ้านหลังนี้ไป ไม่งั้นคงเศร้าน่าดู




RRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr~~~

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แทบไม่ต้องมองหน้าจอก็รู้ว่าใคร เพราะว่าผมยังคงใช้เบอร์เมื่อครั้งที่อยู่ญี่ปุ่น คนที่นี่ที่รู้เบอร์ผม ก็คงมีแค่คน ๆ เดียวเท่านั้น

“ครับ .. ว่างัยพี่” ผมกรอกเสียงเพลีย ๆ ลงในโทรศัพท์ วางผ้าสีขาวในมือไว้มุมนึงของบ้าน ตั้งใจจะหลับซักตื่นก่อนจะลุกขึ้นมาทำความสะอาดครั้งใหญ่ซักที

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะดงวาน เพิ่งมาถึงใช่มั้ย”

“ครับ เพิ่งถึงซักครู่เอง”

“อืม! งั้นก็พักผ่อนก่อนเถอะ พร้อมเมื่อไหร่ก็เข้ามาหาชั้นนะ”

“คือ .. ผมยังไม่พร้อมจะทำงานอะไรเลยนะพี่”

“เอาเป็นว่าเข้ามาก่อนเหอะ แค่อยากคุยด้วย เรื่องงานนายน่ะเอาไว้ก่อนก็ได้ เอาเป็นว่าชั้นจะรอนายละกัน โอเคมั้ย”

“ผมรู้สึกว่า... ผม..”

“ว่างไปนายก็คิดมาก ทำงานให้ชีวิตมันยุ่ง ๆ จะไม่ดีกว่าเหรอ ชั้นจะปล่อยให้นายได้พักเท่าที่นายสบายใจแล้วกัน อย่าลืมนะ เย็นนี้เข้ามาหน่อย จะพาไปฉลองกลับบ้าน ทุ่มตรง เจอกันที่เดิม”

“ที่เดิม??”

“เออ ก็ที่ที่เราไปดื่มกันเมื่อก่อนนั่นแหละ แค่นี้นะ แล้วเจอกัน”

“ครับผม”




ดงวานวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะรับแขกหน้าทีวี ก่อนทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน

คิดแล้วก็เหมือนฝัน เมื่อวันก่อนผมยังคงเดินอยู่แถว London Tower Bridge ถ่ายรูปมุมสวย ๆ ของสะพานอย่างสนุกสนานกับใครอีกคน 1 อาทิตย์ในการเที่ยวเล่นไปตามเมืองต่าง ๆ ใช้เวลาให้หมดไปกับคนรัก เสียงหัวเราะ และการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แม้จะรู้ว่าหลังจาก 1 อาทิตย์ผ่านไป เราทั้งคู่จะต้องเดินหันหลังให้กันตลอดไปก็เถอะ แต่ความกังวลอันนั้น ก็ถูกเก็บซ่อนไว้ในใจ โดยไม่มีใครแสดงออก

ภาพทั้งหมดที่ถ่ายได้ ผู้จัดการคนใหม่ของนามิจังลบทิ้งไปจากกล้องจนหมดแล้ว แต่ยังมีภาพหนึ่งที่คงหลงเหลือเก็บไว้อยู่ในโทรศัพท์มือถือของเค้า ตั้งใจไว้อย่างดีว่าจะลบตอนกลับมาถึงบ้าน แต่เอาเข้าจริงก็ไม่กล้าพอ

ภาพ ๆ เดียว คงไม่เป็นไรหรอกนะ ขอเก็บไว้เป็นความทรงจำที่สุดแสนพิเศษหน่อยเหอะ ..

มือที่ยังสั่นไหวน้อย ๆ เอื้อมหยิบโทรศัพท์ของตนอีกครั้ง กดเลือกโฟลเดอร์รูปภาพ ด้วยความรู้สึกวูบไหวในใจ ตั้งสติจนคิดว่าตนแข็งแรงพอแล้ว จึงกดเปิดโฟลเดอร์รูปภาพขึ้นมา



ชายหญิงคู่หนึ่งยืนเบียดกันในกรอบเล็ก ๆ ของหน้าจอมือถือแข่งกันยิ้มสดใสให้เค้า ดงวานเพ่งมองภาพนั้นอยู่นาน เหมือนต้องการซึมซับความรู้สึกแห่งรอยยิ้มในเวลานั้นออกมาชโลมใจที่แห่งผาดให้ชุ่มชื่นขึ้นมาซักหน่อย

ดวงตาคู่คมหลับพริ้ม ปิดหน้าจอและวางมือถือลงเบา ๆ บนโต๊ะก่อนจะไหลตัวราบไปกับโซฟาตัวนุ่ม

แล้วความเมื่อยล้าทั้งร่างกายและหัวใจ ก็ดูดกลืนความเจ็บปวดออกไป หลงเหลือไว้เพียงลมหายใจสม่ำเสมอก่อนเข้าสู่ห้วงนิทราแสนหวาน...



....................




กลางวันก็ชีวิตคนทำงาน กลางคืนก็แสงสีแห่งผีเสื้อราตรีสินะ ราวทุ่มตรงที่ผมแต่งตัวง่าย ๆ ออกมาจากบ้าน ตั้งใจว่าจะไปทานข้าวมื้อง่าย ๆ แต่คนเลี้ยงนี่สิ กลับอยากดื่ม นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่ยอมให้แอลกอฮอล์เข้ามามีอิทธิพลอยู่เหนือสติของตน เพราะเหตุการณ์ ในวันนั้น ผมก็รู้สึกผิดมาตลอด การต้องสูญเสียจรรยาบรรณในอาชีพตัวเอง แลกกับความรู้สึกที่เรียกว่ารัก .. ไม่แน่ใจนักว่ามันจะทดแทนกันได้มั้ย แต่สิ่งที่ทำให้เศร้าใจอยู่ทุกวัน หาใช่ความรู้สึกผิดในใจไม่ มันกลับกลายเป็นความทรงจำที่ประคับประคองให้เค้ากลับมายังบ้านเกิดตัวเองได้อย่างปลอดภัย ไม่บ้าตายไประหว่างทางซะก่อน แต่สิ่งนั้นคือความผิดหวังในตัวเอง ใครอีกคนเลือกความรักเป็นอันดับแรก .. แน่ล่ะ .. ผมควรดีใจที่เค้าเลือกผม แล้วทำไมกลายเป็นผมเองที่เลือกจะจากมาเพื่อคนที่ผมรัก ไม่ว่ามองมุมไหน เราก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดี ขืนดึงดันต่อไปเส้นทางอันยาวไกลในอาชีพของเธอผู้นั้นคงต้องพังทลายลง สุดท้ายใครคนนั้นกลับให้คำนิยามในการเสียสละครั้งนี้ของผมว่า “มันคือการเห็นแก่ตัว..”

ใช่แล้ว ผมกลับมาพร้อมกับแบกคำ ๆ นั้นไว้บนบ่ามาตลอด


“รอนานมั้ยดงวาน”

“อ่า ไม่น่าครับ ที่นี่ยังคึกคักเหมือนเดิมเลย เพิ่งจะหัวค่ำแท้ ๆ” ดงวานดึงสติกลับมายังปัจจุบันได้ทันทีที่เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้น

“อืม ก็งี้แหละ ส่วนมากก็จะเป็นคนที่เพิ่งเลิกงานน่ะ เอาอะไรดี”

“เหมือนพี่แล้วกันครับ”

“ไปอยู่ญี่ปุ่นซะนาน คงลืมสาว ๆ เกาหลีไปแล้วล่ะมั้ง”

“ฮ่ะ ๆ ๆ ถึงได้มารำลึกความทรงจำไงพี่ เดี๋ยวนี้มีแต่สาวสวย ๆ เนอะ ลานตาไปหมดแล้ว”

ผมรู้สึกว่าผมลืมแนะนำคู่สนทนาของผมไปใช่มั้ย พี่ซองฮุน คือรุ่นพี่ที่เคยทำงานด้วยกันที่ค่ายเพลง เค้านี่แหละเป็นคนแนะนำให้ผมร่วมงานกับศิลปินญี่ปุ่น ผมมีประสบการณ์ด้านเขียนเพลง และก็ทำเพลงมาก่อน แต่มาตอนหลังก็ผันตัวเองไปดูแลศิลปิน มันอาจแปลก แต่มันก็มีที่มานะ ..


“มีงานนึงอยากให้ช่วยน่ะ”

“ผมไม่อยากพูดเรื่องงานตอนนี้เลยพี่”

“ก็แค่ฟังไว้แล้วกัน นักร้องคนนี้เพิ่งมีชื่อและโด่งดังไม่นาน เรียกได้ว่ากำลังเป็นดาวรุ่ง ทำเพลงเองก็ได้ นายดูแลศิลปินนี่ น่าจะรู้จักบ้าง”

“ผมไม่ได้ทำงานเพลงมานานแล้วเหมือนกันนะ ยิ่งเป็นเกาหลีนี่ แทบไม่ได้ติดตามเลย ว่าแต่เค้าทำไมเหรอครับ”

“เค้าเพิ่งเซ็นต์สัญญากับบริษัทของเรา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเลือกเรา ทั้ง ๆ ที่มีค่ายยักษ์ใหญ่หลายค่ายคอยรุมจ้องเค้าทั้งนั้น ฝีมือเค้าดีมาก ชั้นว่าถ้าได้นายช่วย น่าจะไปได้สวย”

“ช่วย?”

“ก็ทั้งเรื่องเพลง ทั้งเรื่องดูแลทั่วไปนั่นแหละ”

“เค้าเป็นคนยังงัยเหรอ พี่ถึงต้องส่งเค้าให้ผม ทั้ง ๆ ที่มีใครอีกตั้งเยอะ”

“วันเซ็นต์สัญญาน่ะ ชั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกับเค้ามากหรอก เจ้านายเรียกเค้าไปคุยด้วยตัวเอง แต่เห็นผ่าน ๆ ก็น่าสนใจนะ เค้ามีความเป็นตัวของตัวเองสูง สูงจนบางทีคนทั่ว ๆไปอาจทนเค้าไม่ไหว แต่สำหรับนาย ชั้นว่าน่าจะผ่าน”

“ผมไม่เก่งแบบนั้นหรอก ยิ่งถ้านักร้องฝีมือดี กำลังรุ่ง สงสัยนิสัยจะแย่”

“จีฮุนเอาแต่ใจแค่ไหนนายยังเอาอยู่ รู้เปล่าว่าทุกวันนี้มันยังบ่นถึงไม่ขาดปากน่ะ”

“ผมยังไม่อยากดูแลใครหรอกครับ อยากพักผ่อนมากกว่า”

“ก็บอกแล้วงัยว่าให้พักจนสบายใจเลย ไว้อยากทำงานเมื่อไหร่ ค่อยโดดลงมา” สีหน้ายิ้ม ๆ ของซองฮุนทำเอาดงวานต้องเลิ่กคิ้วมอง รุ่นพี่รู้จักเค้าดีที่สุด ตลอดเวลาที่ผ่านมา ดงวานไม่เคยอยู่เฉย ๆ ได้นานถึงเดือน ข้อนี้เค้าก็รู้ตัวเองดี แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไป เค้ายังอยากอยู่เฉย ๆ ไปเที่ยวตามสถานที่สวย ๆ เพื่อถ่ายภาพ ปล่อยชีวิตให้สบาย ๆ ซักพัก หัวสมองที่มันมีแต่ใครบางคนอัดแน่นเต็มหัวตอนนี้ แม้มันจะสร้างความเจ็บปวดให้แค่ไหน แต่เค้าก็ยังต้องคงต้องการคิดถึงมันอยู่ดี ...

“เค้าชื่ออะไรครับพี่”

“ทำไม?? สนใจขึ้นมาแล้วเหรอ”

“ก็แค่ถามไว้ อย่างที่บอกแหละว่าผมยังไม่พร้อมกับการทำงาน”

“อัลบั้มของเค้าวางแปลนไว้ประมาณสิ้นปีนี้ ฉะนั้นให้นายพักเต็มที่ไปเลยเดือนเต็ม ๆ จะไปหัวหกก้นขวิดที่ไหนชั้นจะไม่ตามซักนิด ถ้านายไม่ขาดใจตายเพราะไม่ได้ทำงานไปซะก่อนอ่ะนะ”


“ฮ่ะ ๆ ๆ งั้นผมจะรับไว้พิจารณาแล้วกัน”

“อืม งั้นดื่มให้กับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ชีวิตใหม่ และเพื่อนร่วมงานใหม่นะ”

“ผมแค่จะรับไว้พิจารณานะ”

“นั่นก็ดีมากแล้วล่ะ” ..


...
..
.
.
..
...
..
..
.
.
.
ผมกลับมาถึงบ้านด้วยอาการมึน ๆ นิดหน่อย อากาศของที่นี่คล้าย ๆ ญี่ปุ่น เวลาก็ต่างกันแค่เล็กน้อย แต่ส่วนประกอบรอบ ๆ ตัวไม่มีอะไรเหมือนกันซักอย่าง นั่นแหละ มันถึงทำให้ผมหลับตาลงได้ยากเต็มที

นั่งกินลมเอื่อย ๆ ก็พลันนึกถึงสิ่งที่พูดกับพี่ซองฮุนขึ้นมา .. ลืมไปซะสนิทว่าพี่เค้ายังไม่ได้บอกชื่อคน ๆ นั้นกับผมเลย ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนแท็กซี่จากคลับถึงบ้านก็คิดมาตลอดทาง 1 อาทิตย์ต่อไปนี้ ผมจะขอให้เวลากับตัวเอง ทำอะไรที่อยากทำซักพัก แล้วหลังจากนั้น ข้อเสนอของพี่ซองฮุน มันก็ทำเอาผมอยากลองดูอีกหน ..

ถึงผมอยากได้เวลาอยู่กับตัวเอง แต่ถ้ามากจนเกินไป ผมก็กลัวนะ ข้อนี้พี่เค้าคงเดาออก ถึงได้ยิ้มมีเลศนัยซะขนาดนั้น
.
.

.

ดวงดาวหลากหลายดวง ทอแสงระยิบระยับอยู่บนม่านสีดำสนิทเหนือท้องฟ้า เวลาที่ผมรู้สึกสบายใจ ผมก็มองมันอย่างมีความสุข แสงสว่างเหล่านั้น เหมือนแข่งประชันส่งความยินดีปรีดาลงมาให้ผม แต่เวลาที่ผมเหงามากมายอย่างตอนนี้ มันกลับทำให้ยิ่งทุกข์ระทม ความรู้สึกของคนเราส่งผ่านไปได้ไกลขนาดไหนเชียวนะ ถ้าจากพื้นดินถึงหมู่ดาวพวกนั้น..ยังตอบรับความเศร้าใจที่ผมมี ใครอีกคนที่ไม่ไกลห่างนัก จะเห็นถึงความรู้สึกนี้รึเปล่า ...





Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 13 เมษายน 2552 21:21:39 น. 12 comments
Counter : 909 Pageviews.

 
พี่พุดคะ ขอสมัครคลับนี้ด้วยคนค่ะ อิอิ
ปล.ไม่ได้มาส่องบล็อกพี่พุดตั้งนาน อัพฟิคใหม่ด้วย สู้ๆนะคะ


โดย: keiropi IP: 125.26.133.164 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:21:46 น.  

 
กรี๊ดดดด พี่พุด
แค่อินโทรก็ทำเอาแม่ยกอินจัดแระ
รออ่านๆๆๆ ท่าทางจะดราม่านะคะเนี่ย
มาปูเสื่อจองแถวหน้าพร้อมป๊อปคอร์นค่า ^^

ปล.ท่านพี่ใจดีจริงๆขอมาแล้วจัดให้ทันที
แบบนี้ชมรมเราต้องโลดแล่นแน่นอน ฮี่ๆๆๆ


โดย: keiropi IP: 202.28.51.71 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:39:25 น.  

 
ตามอ่านฟิกพี่พุดมาทุกเรื่อง ชอบคู่นี้ที่สุดเลยค่ะ ไม่ใช่เพราะว่าชอบพี่เอ็มเป็นการส่วนตัวหรอกนะ
แต่พอพี่พุดเขียนถึงคู่นี้ทีไรเนื้อหาดูละเมียดละไมมากๆ ทั้งการใช้ภาษา คำที่บรรยายความรู้สึก อ่านแล้วอินสุดๆ
เรื่องนี้ท่าทางจะเศร้าแต่ยังไงก็เอาใจช่วยทั้งลุงและพี่เอ็มนะฮะ
ขอบคุณสำหรับฟิกสนุกๆค่ะ จะสมัครคลับนี้ต้องทำไงคะ ^-^


โดย: *NaM* IP: 124.121.141.47 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:50:26 น.  

 
แค่อินโทร...ก็ซึ้งถึงความเหงาของดงวานแล้ว
ให้อารมณ์เหมือนดูภาพที่ลุงชอบถ่ายเลย.......สวยแต่เหงา...โดดเดี่ยว

เอาให้ดราม่าสุดๆไปเลยพุด....Y_Y



โดย: piyawan IP: 118.172.249.15 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:35:44 น.  

 

มาแว้ววววววว

แฟนคลับพี่อูกับพี่ด้ง

ชอบๆๆ


โดย: woodong FC IP: 117.47.195.86 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:34:57 น.  

 



พี่อูเป็นนักร้องป่ะ

แล้วพี่ด้ง เป็นผู้จัดการส่วนตัว

อ๊ะอ๊างงง รออ่านต่อ

อยากเห็นหน้านักร้องที่มีความเป้นตัวของตัวเองสูง

แต่น่าจะส่วนสูงไม่สูง ใช่มะ 555



โดย: woodong FC IP: 117.47.195.86 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:56:32 น.  

 
อูด้ง หนูกำลังอย่างอ่านมากถึงมากที่สุด ขึ้นเรื่องมาดงวานน่าสงสารอ่ะ
เราทำเพื่อเขา แต่เขาว่าเราเห็นแก่ตัวเศร้าอ่ะ T^T


โดย: ket_dd IP: 117.47.184.151 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:14:14 น.  

 
เรื่องโน้นก็น่ารัก... เรื่องนี้ก็น่าติดตาม...
ฟิคลุงกะมินนี่แบบเป็นเรื่องเป็นราวก็หา
อ่านยากมั่กๆ ส่วนมากชอบเป็นบทเล็กๆ
ที่มีอยู่ในฟิคเรื่องอื่นๆ บทน้อยน่ะ เจอ
แบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย ขอแบบออก
ทะเลหรือมหาสมุทรอีกนะ หุ หุ หุ......

ลุงมีเวลาพักเป็นเดือน น่าจะได้เจอกะ
นักร้องคนนั้นก่อนร่วมงานกันนะ แบบ
ประมาณว่ายังไม่รู้ว่าเป็นคนที่ตัวเองต้องดูแลอะไรเงี้ย น่าลุ้นดี เพราะคงจะนิสัยเสียน่าดู (หมายถึงนักร้องน่ะ) ส่วนคนรัก
เก่าก็ไม่ต้องไปยึดติดหรอกเนอะ มันน่า
เศร้าออก แล้วจะมาใหม่นะ................


โดย: JM IP: 116.58.231.242 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:04:51 น.  

 
พี่พุดดดดดด~
อ่านแล้วสงสารลุงจับขั้วหัวจายยย
T^T

ขอเป็นสมาชิก WooDong FC อีกคนนะค่า
รอ Ep ต่อไป TT เศร้า~


โดย: da friday child วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:23:35:07 น.  

 
Ahhh...it's so sad..poor wannie...but I do love it naaaa...Cant' wait for more!!!


โดย: Miwmiw IP: 124.122.234.253 วันที่: 24 มีนาคม 2552 เวลา:10:07:36 น.  

 
และเข้ามาเยี่ยมเยียน เผื่อฟลุ๊ค.......
อยากอ่านตอนต่อไปจัง แล้วจะลอง
แวะเข้ามาใหม่นะ.........................


โดย: JM IP: 116.58.231.242 วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:3:52:43 น.  

 
เข้ามาให้กำลังใจพี่พุดดี้
หลังจากหายหัวไปนานมากกกกกก
ฟังแถลงการแล้ว สมาชิกคนนี้ก็จะยังคงรอต่อไปนะคะ อิอิ


โดย: keiropi IP: 125.26.133.144 วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:1:02:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พุดดิ้งของซอนโฮ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พุดดิ้งของซอนโฮ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.