|
WWR3 : เรื่องเล่าจากหนูโรงเรียน
เรื่องเล่าจากหนูโรงเรียน โอคะดะ จุน เขียน พิไล สุธีจินดารัตน์แปล สำนักพิมพ์ JBOOK 154 หน้า 145 บาท
ผมเป็นหนูโรงเรียนครับ หนูโรงเรียนต่างจากหนูทั่วไปยังไงน่ะเหรอ ต่างสิต่างมากด้วย ผมอาศัยอยู่บนฝ้าเพดานห้องเรียนและเรียนหนังสือไปพร้อมเด็กๆ ผมพูดภาษามนุษย์ได้แถมยังเขียนหนังสือและเดินสองขาเหมือนมนุษย์ด้วยนะ
ปกติผมไม่ออกมาให้ใครเห็นตัวหรอก แต่ผมมีเรื่องสนุกๆที่หนูโรงเรียนตัวอื่นๆเล่าต่อกันมามากมาย และผมก็เป็นหนูโรงเรียนตัวสุดท้ายแล้ว เลยอยากจะเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ใครสักคนฟัง
สะอึก : เรื่องเล่าของหนูประถมหนึ่ง
เรื่องนี้ว่าด้วยเรื่อง สะอึก ต้นต่ออยู่ที่ห้องประถม 1/1 ดญ ซัจจัง คือผู้ริเริ่ม อยู่ดีๆเธอก็สะอีกขึ้นมาจนทำให้ ดช ยูกิโอะ ตลกขบขัน แล้วยูกิโอะก็เริ่มสะอึก ทำให้คุณครูผู้สอนมาตักเตือนแล้วคุณครูก็สะอึกไปอีกคน จนทำให้นักเรียนในห้องหัวเราะกันยกใหญ่ แล้วทั่วทั้งห้องก็เกิดอาการสะอึก ทำให้ครูห้องข้างๆรำคาญจนต้องมาเตือนแล้วครูคนนั้นก็สะอึกกลับไป แล้วอาการสะอึกก็ลุกลามใหญ่โตจนทั่วทั้งชั้น ป1 ติดไปถึงครูใหญ่ ผู้ช่วยครูใหญ่ ทั่วทั้งโรงเรียน แม่บ้านที่มาติดต่องานสมาคม คนในเมือง นักข่าวโทรทัศน์ วิทยุ ติดไปทั่วทั้งญี่ปุ่น ลามไปถึงจีน อเมริกา ฝรั่งเศสและทั่วโลก จนทำให้คนทั่วโลกสะอีกพร้อมกัน วิธีทำให้หายสะอึกคือทำให้คนสะอึกตกใจ เมื่อคนทั้งโลกสะอึกพร้อมกัน ด้วยแรงมหาศาลจนทำให้เกิดแผ่นดินไหว เมื่อเกิดแผ่นดินไหวทุกคนตกใจอาการสะอึกก็เลยหายไป แล้วทุกคนบนโลกก็เป็นเพื่อนกัน
อะไรอยู่ในมือเอ่ย : เรื่องเล่าของหนูห้องยาม
เรื่องราวของคุณอิโนะอุเอะ ยามของโรงเรียน ที่ระหว่างเวลาเข้างานได้เจอเด็กหญิงกระโปรงเหลืองที่มาพร้อมกับคำถาม "อะไรอยู่ในมือเอ่ย" ด้วยความแปลกใจคุณอิโนะอุเอะตอบออกไปว่าไม่มี แล้วมันก็เป็นจริง เด็กหญิงวิ่งกลับไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย วันต่อมาเธอกลับมาพร้อมคำถามเดิมอีก "อะไรอยู่ในมือเอ่ย" ด้วยความไม่อยากเห็นหน้าตาที่เศร้าสร้อยของเด็กหญิง คุณอิโนะอุเอะพยายามหาคำตอบที่ผิด แต่เค้าก็ตอบถูกว่าในมือของเด็กหญิงมีคาราเมลอยู่ วันที่สามก็ตอบถูก วันที่สี่เค้าก็ยังตอบถูก แต่สุดท้ายถึงแม้ไม่รู้ว่าเค้าตอบถูกได้ยังไง ทั้งๆที่คิดหาคำตอบที่แน่ใจว่าผิด เค้าก็มีรอยยิ้มและอบอุ่นในใจพร้อมการจากไปของเด็กหญิงลึกลับ
เรือดำน้ำสีแดง : เรื่องเล่าของหนูประถมสอง
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กหญิงชั้น ป2 นามว่าเอทสึโกะที่หนูประถมสองแอบไปเห็น ณ ริมทะเลใกล้โรงเรียน ทะเลแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยสะอาดและมีปลานกกระจอกบินขึ้นมาเหนือน้ำ แต่เนื่องจากการถมทะเลออกไป พร้อมซ้ำยังปล่อยน้ำเสีย ทิ้งขยะ จึงทำให้ทะเลกลายเป็นสีดำปี๋ ระหว่างที่เอทสึโกะกำลังเดินเล่นอยู่นั้นเธอเห็นวัตถุสีแดงขนาดใหญ่ลอยขึ้นมาเหนือน้ำซึ่งเธอคิดว่าเป็นเรือดำน้ำ และทันใดนั้น เธอได้ลื่นหล่นลงไปในทะเล เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าเธอมาอยู่ในท้องเรือดำน้ำสีแดงที่เห็น แต่มันไม่ใช่เรือดำน้ำจริงๆหรอก มันคือปลานกกระจอกที่กลายพันธุ์ไป ตัวใหญ่ขึ้น มีสีแดง มีหน้าต่างตรงกลางตัวและที่สำคัญมันอาศัยอยู่และกลืนแต่น้ำสกปรก เธอใช้เวลาพูดคุยสนุกอยู่ในท้องของปลานกกระจอกตัวนั้นจนควรแก่เวลา ปลานกกระจอกอาสาไปส่งโดยบินจากทะเลไปสู่สระว่ายน้ำของโรงเรียนที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน แล้วเธอก็สลบไปอีกครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นคอนกรีตข้างสระ วันต่อมาที่สระว่ายน้ำของโรงเรียนเกิดความโกลากล เพราะสระว่ายน้ำที่ทำความสะอาดไว้กลายเป็นสระน้ำเน่าส่งกลิ่นเหม็นและเต็มไปด้วยขยะ และภายในสระก็ได้พบกับซากปลานกกระจอกโทรมๆ สกปรกๆ ตัวหนึ่ง มันทำให้เอทสีโกะน้ำตาซืมกอดปลานกกระจอกตัวนั้นไว้ท่ามกลางสายตาสงสัยของเด็กๆคนอื่นๆ
เกลียดคนช่างพูดที่สุด : เรื่องเล่าของหนูสนามกีฬา
เรื่องนี้ออกจะเว่อร์หน่อยๆ ทำไมหน่ะเหรอ - ก็เพราะว่าเป็นเรื่องราวของต้นไม้พูดได้นะสิ ต้นเพลน - ต้นไม้ที่มีเปลือกสีเขียวเข้ม สีเขียวแกมเหลืองและสีน้ำตาล ดูเหมือนแผนที่ มีผลแข็งใหญ่ประมาณลูกปิงปอง และต้นไม้ชนิดนี้เกลียดการพูดเป็นที่สุด เรื่องราวเริ่มต้นที่ต้นเพลนด้านตะวันออกสุด ได้ชวนต้นเพลนต้นที่สองพูด มันพูดว่า "เงียบจังนะ" ปีถัดมามันก็พูดอีกว่า "เงียบจริงๆเนอะ" ต้นเพลนทุกต้นเอือมระอากับความพูดมากของมัน (_ _!) พอปีที่สามมันก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ฉันชอบความเงียบที่สุดเลย" จึงทำให้ต้นเพลนต้นที่สองไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงถอดรากหนีออกมาให้ห่างจากมัน แค่นั้นแหล่ะจบ
โรงเรียนน่ากลัว : เรื่องเล่าของหนูห้องดนตรี
ตอนนี้น่ารัก เป็นเรื่องเล่าจากหนูห้องดนตรี แน่นอนว่าต้องมีเสียงเพลง วันนี้เจ้าหนูโรงเรียนมาพร้อมกีตาร์และเพลงน่ารักๆที่เกี่ยวกับทาก ทากกลัวเกลือ และแน่นอนว่าทากเหล่านี้อาศัยอยู่ในโรงเรียน ด้วยความสงสัยว่าโรงเรียนคืออะไร ดังนั้นทากทั้งห้าตัวจึงได้ผลัดกันมาสอดแนม เริ่มต้นที่ตัวแรก นาเมตะ ไปสอดแนมที่ชั้นเรียนภาษาญี่ปุ่น กลับมาด้วยลูกตาที่ถลนเพราะสิ่งที่เห็นคือนักเรียนพากเพียรเขียนคำว่าเกลือ โรงเรียนน่ากลัว โรงเรียนน่ากลัว วันที่สองเป็นคิวของ นาเมคิจิ เค้าไปสอดแนมที่ห้องเรียนวิทย์ที่เด็กกำลังทดลองละลายเกลือ กลับมาหาเพื่อนหางแทบละลาย โรงเรียนน่ากลัว โรงเรียนน่ากลัว คิวต่อไปเป็นของนาเมโอะ วันนี้ไปเยี่ยมห้องเรียนสังคม เป็นการเรียนรู้เรื่องประชาชนซึ่งมีอาชีพประจำตั้งแต่โบร่ำโบราณ อาชีพที่ว่านั้นคือการทำเกลือ โรงเรียนน่ากลัว โรงเรียนน่ากลัว เข้าวันที่สี่ นาเมโซ ไปที่ห้องเรียนดนตรีกลับมาด้วยตัวแข็งทื่อ พูดจาขาดห้วง เพราะเพลงที่ร้องและทำนองที่สนุก เค้าร้องกันว่า กุเลือ กุเลือ กุเลือ กุเลือ โรงเรียนน่ากลัว โรงเรียนน่ากลัว สุดท้าย นาเมเอมง ตรงไปที่โรงเรียนแล้วต้องกลับมาด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย เพราะวิชาเรียนจบสิ้น ทุกคนกินอาหาร เมนูวันนี้คือไข่ต้มที่เวลากินต้องโรยเกลือลงไป โรงเรียนน่ากลัว โรงเรียนน่ากลัว หยุดคาบวิชาหลังเลิกเรียน : วันนี้หนูโรงเรียนงดเล่าเรื่องเหตุเพราะเป็นวันปิดภาคเรียน
แต่สมัยก่อนครั้งที่ยังมีหนูอยู่เต็มโรงเรียนจะมีเทศกาลงานเล่าเรื่อง ในฤดูใบไม้ผลิเป็นการเล่าเรื่องสนุกสนานเพื่อแสดงความยินดีกับหนูที่จบใหม่ ส่วนฤดูร้อนจะเป็นงานเล่าเรื่องที่ใหญ่ที่สุด จัดต่อเนื่องกันหนึ่งสัปดาห์ และงานเล่าเรื่องในฤดูหนาว เรื่องที่เล่าจะต้องเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดที่ตั้งขึ้น เช่น เล่าเรื่องที่มีขลุ่ย
รูน้ำตา : เรื่องเล่าของหนูประถมสาม
ทาเคจัง เด็กหนุ่มอารมณ์อ่อนไหว ขี้แย ชอบร้องไห้ หกล้มก็ร้อง ถูกชนหน่อยก็ร้อง ไม่เข้าใจครูพูด ลืมของ ร้องได้ทุกเรื่อง - แต่ไม่ชอบให้ใครเห็นน้ำตา วันหนึ่งขณะที่จะร้อง เค้าได้วิ่งไปที่หลังห้องวิทยาศาสตร์ แล้วเริ่มต้นบรรเลงเพลงน้ำตา ระหว่างที่น้ำตาร่วงลงบนพื้น เค้าก็สังเกตุเห็นรูบนพื้น จากความอ่อนไหวกลายเป็นความสนุกเมื่อเค้าเริ่มฝึกวิทยายุทธ์ บังคับให้น้ำตาตกลงไปในรูนั้น หลังจากนั้นสองอาทิตย์ฝีมือเค้าดีขึ้นและทั้งๆที่น้ำตาลดลง ผ่านไปสามเดือนระหว่างที่จะบรรเลงเพลงน้ำตาลงรูเหมือนเช่นทุกครั้ง ก็เกิดเห็ดน้ำตา โป่งลอยขึ้นมาจากรู แล้วลอยจากไป ทาเคจัง ลงความเห็นว่ามันลอยไปร้องไห้ที่อื่น โดยที่ไม่อยากให้เค้าเห็นน้ำตาของมันเช่นกัน แล้วหลังจากนั้นเค้าก็เลิกไปที่หลังห้องวิทยาศาสตร์และเลิกร้องไห้ได้ในที่สุด
แมวสีแห่งห้องศิลปะ : เรื่องเล่าของหนูห้องศิลปะ
เรื่องเกิดขึ้นจากความสะอาดของห้องเรียนศิลปะ ที่ดูสะอ๊าด..สะอาดจนผิดหูผิดตา มีอยู่วันหนึ่งครูสอนศิลปะเผลอหลับไป และตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงประหลาด มันเป็นเสียงแมวที่เลียโต๊ะ เฮ้ย ไม่ใช่มันเลียสีที่โต๊ะ จากสีขาว เป็นเขียวและเป็นสีอื่นๆ สีของแมวเปลี่ยนไปตามสีที่เลีย และนั่นคือคำตอบว่าทำไมห้องศิลปะจึงสะอาดขึ้น เมื่อเห็นดังนั้นจึงเกิดแผนในใจ ครูจึงนำสิ่งของที่สกปรกเปรอะเปื้อนไปด้วยสี ไปบำรุงบำเรอให้แก่แมวสี ทุกอย่างสะอาดเอี่ยมอ่องอรทัย แต่เมื่อให้สีแก่แมวมากไปตัวมันก็ใหญ่ขึ้นและต้องกินสีมากขึ้น เอาล่ะซวยแล้ว ทุกสิ่งที่เป็นสีหายไปแม้กระทั่งผลงานของนักเรียน ครูจึงต้องออกไปกวาดซื้อสีมาให้แมวกินจนหมดปัญญาในการหาสี วันนั้นจึงตัดสินใจซุ่มดูแมวสีตัวนั้น แล้วต้องตกใจเมื่อมันมีตัวใหญ่เท่าสิงโต เมื่อแมวสีเผชิญหน้ากับครูศิลปะ - มันเดินเข้ามาเลียหัวครู และหลังจากนั้นแมวสีก็หายไปพร้อมกับผมขาวบนหัวครูที่มากขึ้นนั่นเอง งงมั๊ย?? - งงเหมือนกัน
แล้วหิมะก็เริ่มโปรยปราย : เรื่องเล่าของหนูประถมสี่
เรื่องเล่าจากเทศกาลเล่าเรื่องฤดูหนาวที่ต้องเล่าเรื่องตามกฏเกณฑ์ข้อบังคับ "แล้วหิมะก็เริ่มโปรยปราย" นั่นคือหัวข้อของเรื่อง ในคาบเรียนคณิตศาสตร์ท่ามกลางวันหิมะตก เวลา 11:16:23 เกิดเหตุไม่คาดฝันเพราะทุกอย่างหยุดนิ่ง ไม่เว้นแม้แต่หิมะที่ค้างอยู่กลางอากาศ ยกเว้นทาเคชิเด็กหนุ่มที่อยู่ในอาการสงสัย ระหว่างที่งุนงงเค้าก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่พุ่งตรงมา จึงแกล้งแข็งไปกับคนอื่น และสิ่งที่เห็นคือ กระต่ายสีขาวตัวหนึ่งที่มีขาข้างหนึ่งเป็นสีดำ ทำท่าเหมือนกำลังหาของ แล้วเค้าก็สงสัยว่าสิ่งที่เจ้ากระต่ายกำลังหาคืออะไร อ๋อมันคือถุงมือสีขาวขนนุ่มราวกับขนกระต่ายที่เค้าเก็บได้กลางสนามเมื่อเช้านั่นเอง เค้าจึงตามเจ้ากระต่ายไปแล้วยื่นถุงมืออันนั้นคึนให้ เจ้ากระต่ายดีใจพลันบอกให้เค้ากลับไปที่ห้องตามเดิม เมื่อทาเคชิมองลงมาจากห้องมาตรงกึ่งกลางสนามก็เห็นเจ้ากระต่ายโบกมือให้เค้าแล้วเริ่มสวมถุงมือ "แล้วหิมะก็เริ่มโปรยปราย" ทุกอย่างกลับมามีชีวิตเช่นเดิม
ผู้ช่วย : เรื่องเล่าของหนูประถมห้า
ในคอร์ตดอดจ์บอลที่เด็ก ป5 กะ ป6 กำลังแข่งกันเพื่อแย่งคอร์ต ใครชนะเอาคอร์ตไป ด้วยความแข็งแกร่งของ ป6 ทำให้ได้เปรียบและตอนนี้ก็เหลือผู้เล่นของ ป5 อีกเพียงสามคนเท่านั้น และการปรากฎตัวเข้ามาช่วยของเด็กชายสีฟ้ากับเด็กหญิงสีชมพูที่มีผ้าพันแผลที่ขาก็ทำให้ฝ่ายทีม ป5 ตีตื้นขึ้นมา เกมกำลังสนุกแต่เสียงสัญญานปิดโรงเรียนก็ดังขึ้นทำให้ทุกคนต้องเลิกเล่น ระหว่างทางกลับบ้านเด็ก ป6 ก็เข้ามาถามหาเด็กสองคนแต่เด็ก ป5 ไม่รู้จักเค้าซักคน ระหว่างที่หาว่าสองคนนั้นคือใครทำไมถึงรู้จักพวกเค้า ทั้งหมดก็เคลื่อนขบวนไปที่บริเวณก่อสร้าง มีการโค่นต้นซากุระ ทุบผนังห้องน้ำเพื่อปลูกสร้างอาคารเรียนตรงพื้นที่นั้น แล้วพวกเค้าก็เหลือบไปเห็นป้ายห้องน้ำรูปคน ป้ายของห้องน้ำชายสีฟ้า ของห้องน้ำหญิงสีชมพูซึ่งทาสีแดงตรงรอยแตกที่ขาข้างหนึ่ง
เกาะมหาสมบัติบนโต๊ะ : เรื่องเล่าของหนูประถมหก
ในโรงเรียน โต๊ะเรียนคือสมบัติตกทอดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะสมัยก่อนโต๊ะเรียนเป็นไม้ มักโดนสลักปักชื่อและลวดลายไว้มากมาย เช่นเดียวกับโต๊ะของคิโยชิ ในชั่วโมงที่แสนน่าเบื่อเค้าได้จ้องลองไปบนพื้นหน้าโต๊ะแล้วใช้ปากกาเชื่อมต่อลวดลายที่ถูกทิ้งไว้ กลายเป็นเรือใบที่เค้าชอบหลังจากนั้นจินตนาการเริ่มมาเมื่อเค้าสรรหาลวดลายให้กลายเป็นเกาะ ทะเล คลื่น หิน แล้วเค้าก็เผลอหลับไป ปรากฏตัวอีกครั้งกลางทะเลด้วยเรือใบคู่ชีพ เค้าแล่นเรือใบไปเจอเกาะซึ่งคิดว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ เมื่อขึ้นไปบนเกาะก็โดนชายหนุ่มลึกลับจับตัวแล้วให้ตอบคำถามว่าเค้าผู้นั้นชื่ออะไร ชื่อที่คิโยชิตอบกลับไปคืออิโนะอุเอะ โคโซ รุ่นที่สอง ชื่อที่สลักไว้บนโต๊ะของเค้านั่นเอง เพื่อนๆในห้องต่างพากันหัวเราะ เค้าเจ็บใจจนขีดฆ่าชื่อนั้นด้วยปากกาเป็นวงกลม แล้วต่อเติมส่วนลำต้นลงไป กลายเป็นต้นไม้ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะเป็นที่ซ่อนสมบัติ แล้วก็เผลอหลับไปอีกครั้ง แต่ใต้ต้นไม้ที่เค้ากากบาทมาร์กจุดไว้กลับหาสมบัติไม่เจอ เมื่อเดินทางต่อไปบนต้นไม้อีกต้นที่อยู่จุดสูงสุดของเกาะและคาดว่าน่าจะเป็นที่ซ่อนสมบัติ ปรากฏว่าเค้าไปเจอเพื่อนร่วมชั้นคนนึงนอนพึงต้นไม้อยู่ สงสัยใคร่รู้ว่าเพื่อนมาได้ยังไง จึงถามออกไปเพื่อนตอบว่ามาที่นี่เป็นประจำแล้วเค้าก็ถูกปลุก เพื่อนๆต่างหัวเราะอีกครั้งยกเว้นคนที่เค้าเจอในฝัน คิโยชิถูกลงโทษโดยการให้ทำความสะอาดห้อง แล้วเค้าก็พบว่าโต๊ะของเพื่อนนักเรียนคนนั้นมีพื้นไม้หน้าโต๊ะ ลวดลายบนโต๊ะเหมือนโต๊ะของเค้านั่นเอง
ร่างเดิม : เรื่องเล่าของหนูห้องพักครู
เรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่สืบเชื่อสายมาจากแม่มดใจดี เธอคนนี้ใช้เวทย์มนตร์ได้แบบเดียวคือเวทย์มนตร์คืนร่าง ระหว่างนั่งอยู่ที่บึงของโรงเรียน หนูน้อยเธอแปลกใจว่าทำไมกบสามตัวถึงนั่งเรียงกันจ้องหน้าเธอ คิดได้ดังนั้นเธอก็นึกว่ากบเหล่านั้นคือเจ้าชายที่ถูกสาป ด้วยความใจดีปนอยากรู้เธอจึงใช้เวทย์มนตร์คืนร่างให้กบ แล้วทันใดนั้นกบก็กลายร่างเดิมกลับไปเป็นลูกอ๊อด เมื่อครูสาวเดินผ่านมา เธอรู้สึกแปลกๆ หรือว่าเป็นเจ้าหญิงผู้ถูกสาปให้กลายเป็นครู เธอจึงใช้เวทย์มนตร์คืนร่าง ครูสาวจึงคืนร่างเป็นเป็ด เมื่อครูหนุ่มเดินผ่านมา เธอรู้สึกแปลกๆ หรือว่าเป็นเจ้าชายผู้ถูกสาปให้กลายเป็นครู เธอจึงใช้เวทย์มนตร์คืนร่าง ครูหนุ่มจึงคืนร่างเป็นตัวแบดเจอร์ และหลังจากนั้นเธอจึงใช้เวทย์มนตร์คืนร่างให้ทุกคนในโรงเรียน จนทำให้โรงเรียนไม่เหลือเงามนุษย์เลยแม้แต่คนเดียว
คาบวิชาหลังเลิกเรียน หรือหนูใส่รองเท้าบูต : เรื่องเล่าของหนูห้องพยาบาล
เป็นเรื่องราวของหนูโรงเรียนที่ทำตัวเลียนแบบแมวในหนังสือที่เค้าอ่าน แมวใส่รองเท้าบูตที่ช่วยเหลือลูกชายคนทำแป้งให้ประสบความสำเร็จแต่งงานกับเจ้าหญิง หนูใส่รองเท้าบูตจึงช่วยเด็กไม่เอาไหนคนหนึ่งที่เผอิญไปเจอในห้องพยาบาล ให้กลายเป็นนักเรียนดีเด่น ด้วยการช่วยเหลือและสอนวิชาแก่เค้า วันเวลาผ่านเปลี่ยนจากเด็กชายที่ไม่เอาไหนกลายเป็นประธานนักเรียน และอยู่มาวันหนึ่งเด็กชายคนนั้นก็ของยกเลิกคาบวิชาหลังเลิกเรียนที่หนูใส่รองเท้าบูตต้องสอนวิชาแก่เค้า เนื่องด้วยนิสัยไม่เอาไหนที่มาพร้อมตำแหน่งประธานนักเรียนนั่นเอง
หุ่นสายในตู้ : เรื่องเล่าของหนูห้องอุปกรณ์ศิลปะ
เรื่องราวสุดท้ายจากหนูโรงเรียน ที่เฝ้าแอบดูครูสอนศิลปะ ในวันสุดท้ายของการสอนที่โรงเรียนนี้ หนูได้มอบของขวัญสั่งลาให้เค้าหนึ่งเรื่อง อบอุ่นหัวใจอยากรู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไงอ่านเองดีกว่าแล้วกัน (^_^)
มิตรภาพระหว่างหนูโรงเรียนตัวสุดท้ายกับคุณครูศิลปะที่ก่อตัวขึ้นพร้อมการเล่าเรื่องแสนสนุก ผลงานของนักเขียนรางวัลโนมะ และรางวัลนานาชาติแอนเดอร์เซน ส่วนเรื่องนี้ โฮคะโกะ โนะ จิคังวะริ - เรื่องเล่าจากหนูโรงเรียน ทำให้เขาโอคะดะ จุน ได้รับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่จากสมาคมวรรณกรรมเยาวชนแห่งญี่ปุ่น ยืดอกยกมือว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบงานของคุณโอคะดะ มากเพราะหลงเสน่ห์จินตนาการและลายเส้น ของเค้าจากโคะโสะอาโดะ ป่านั้นนี้โน้นไหนจนติดงอมแงม ส่วนเล่มนี้เพิ่งมีโอกาสอ่าน เป็นอีกเรื่องในกองดองที่ต้องบอกว่าไม่ได้อ่านแล้วคงเสียใจ สนุกตามสไตล์วรรณกรรมเยาวชน อ่านไปอมยิ้มไปกับเรื่องเล่าจากจินตนาการ
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2553 0:58:31 น. |
Counter : 611 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สวัสดีเพื่อนใหม่ทุกคนนะครับ ผมเป็นมือใหม่หัดเล่น จริงๆรู้จักมานานแล่ะ แต่ไม่ได้เล่น หลังจากแวะเวียนไปมาหาสู่บล็อกคนอื่นๆมานานชักอยากจะมีเป็นของตัวเอง ก็เลยจัดการสร้างซะเลย
ผมชอบอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลงมีความสุขดีครับ สำหรับคอเดียวกันทำความรู้จักกันได้นะครับ ยินดีอย่างยิ่งเลย
|
|
|
|
|
|
|