Group Blog |
Honey sweet หวานนักรักนี้ 1 โฮ้ง! โฮ้ง!โฮ้ง! โฮ้ง! เสียงฝีเท้าคนวิ่งแข่งกับเสียงเห่าของเจ้ากระปุกหมาพันธุ์ไทยตัวใหญ่ไม่สมชื่อเรียกพิยดาที่พึ่งกลับเข้าบ้านมาในตอนสายออกมาดูด้วยความเป็นห่วงเพราะเจ้ากระปุกไม่เคยไว้หน้าหรือไว้ใจคนแปลกหน้าเลยสีกครั้งแต่ถ้าได้รู้จักคุ้นเคยแล้วก็เชื่องเสียยิ่งกว่าแมวเลยทีเดียว "คุณๆช่วยด้วยครับ หมามันจะกัดพวกผม" ขาทีพึ่งก้าวออกมาจากตัวบ้านได้ไม่กี่ก้าวชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าคนยืนเกาะประตูรั้วร้องเรียกแต่พอสายตาเหลือบไปเห็นเจ้ากระปุกวิ่งเข้ามาใกล้สองหนุ่มทุกทีขาเรียวก็ก้าวอย่างรวดเร็วและเปิดประตูให้โดยไม่ลังเล "เข้ามาในบ้านก่อนก็ได้ค่ะ" "ขอบคุณครับ" พิยดายิ้มบางๆให้คนเอ่ยคำขอบคุณแต่ภายใต้ใบหน้าอ่อนหวานกับท่าทีอ่อนโยนนั้นสองหนุ่มไม่ได้รู้เลยว่าหัวใจของคุณหมอกำลังเต้นโครมครามคร่อมจังหวะและมันเต้นถี่และแรงเสียจนเจ้าตัวกลัวว่ามันจะทะลุออกมานอกหน้าอก "กระปุกหยุด..จุ๊..จุ๊...ไม่เอา ไม่เห่า คุณเขามาดี...มานี่มา ว่าง่ายๆ นั่นแหละแล้วก็นั่งลงตรงนี้...ดีมาก" "หมาของคุณหรือครับ"คเชนทร์อดถามไม่ได้หลังจากหายกลัวและหายทึ่งกับการสื่อสารระหว่างคนกับหมาเพราะสาวสวยตรงหน้าตัวไม่ได้ใหญ่กว่าเจ้ากระปุกเลย แต่ว่าก็สามารถปราบมันซะอยู่หมัดในขณะที่เมื่อสักครู่ผู้ชายตัวใหญ่สองคนพากันวิ่งหางจุดตูดเพื่อหนีการถูกกัดซึ่งก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด หากว่าสาวสวยตรงหน้าจะไม่มาช่วยเอาไว้ "ไม่ใช่หรอกค่ะของคุณยายข้างบ้านน่ะค่ะ แต่ว่ามันมากินข้าวที่บ้านบ่อยก็เลยคุ้นเคยกัน" "แล้วทำไมแกปล่อยมันออกมาล่ะครับรู้สึกมันจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าเท่าไหร่นะผมว่า" "แกคงจะลืมปิดประตูน่ะค่ะปกติไม่ได้ออกมาเพ่นพ่านแบบนี้หรอก แล้วแกก็อยู่คนเดียว หูตาก็ไม่ค่อยดีด้วยคงจะไม่รู้ว่าเจ้ากระปุกมันแอบออกมาเกเรข้างนอก" คเชนทร์พยักหน้าน้อยๆแล้วก็หันไปหาคนมาด้วยกัน "เราจะยังไงต่อครับคุณต่อ"เพราะตอนนี้ทีมงานหาเสียงที่จะเดินทางมาสมทบยังเดินทางมาไม่ถึง "ทั้งซอยมีแค่เจ้ากระปุกนี่ล่ะค่ะที่ออกมาซ่า"เห็นสายตาคมของคนไม่พูดไม่จาปรายมาที่เจ้ากระปุกที่นอนหมอบอยู่กับเท้าเธอด้วยสายตาระแวงหญิงสาวก็เลยช่วยให้ความมั่นใจว่าถ้าเขาเดินหาเสียงต่อรับรองว่าไม่ถูกหมาบ้านไหนไล่กัดเอาอีกแน่นอน "แต่ถ้าไม่รังเกียจจะเข้าไปนั่งรออยู่ในบ้านก็ได้นะคะ" "คุณรู้หรือครับว่าพวกผมมาทำอะไร"เป็นคเชนทร์อีกตามเคยที่เป็นคนถาม "ช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้งไม่ใช่หรือคะ"อยากจะบอกว่าเธอก็ไม่ได้อยู่ในไหนะถึงจะทำงานจนแทบไม่มีเวลาพักแต่ก็พอรู้ข่าวสารบ้านเมืองเหมือนกันโดยเฉพาะเหตุการณ์นั้นๆ มี 'เขา' เข้าร่วม "งั้นผมขอเดาแบบเข้าข้างพวกเรากันเองหน่อยนะครับว่าคุณมีเจ้านายของผมอยู่ในใจแล้ว" คนพูดไม่ได้หมายความมากไปกว่าเรื่องของการเลือกตั้งเลยแต่ว่าคนฟังหัวใจกระตุกไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เจ้านายของคเชนทร์ยังคงเงียบได้เงียบดีราวกับเป็นใบ้ก็ไม่ปานซึ่งมันผิดปกติของการลงพื้นที่หาเสียงเป็นอย่างมาก "ใช่ไหมครับ" "ค่ะ"คำตอบนั้นเพราะหญิงสาวอยากเห็นปฏิกิริยาของเขาแท้ๆ ซึ่งก็ได้เห็นจริงๆ รอยยิ้มและคำขอบคุณ "ขอบคุณนะครับ" พอสิ้นเสียงทุ้มเสียงโทรศัพท์ของคเชนทร์ก็ดังขึ้นพอดี ซึ่งเป็นทีมงานนั่นเองที่โทร.มา "มาถึงกันแล้วครับตอนนี้อยู่ปากซอย" "งั้นก็ไปกันเลย" คำว่า'เสียดาย' แวบเข้ามาในหัวใจของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัวแต่ว่าภาระหน้าที่ที่รออยู่ก็ทำให้ชายหนุ่มไม่ใส่ใจความรู้สึกบางเบาที่ก่อตัวขึ้น "ขอบคุณนะครับสำหรับน้ำใจหวังว่าคราวหน้าเราคงจะได้รับการต้อนรับที่ดีแบบนี้อีกนะครับ" "ยินดีค่ะ" "ถ้ายังไงก็ฝากด้วยนะครับ"คนลงพื้นที่หาเสียงเอ่ยปากขอคะแนนด้วยประโยคที่สั้นที่สุดเท่าที่เคยหาเสียงมาขณะที่คเชนทร์ยื่นแผ่นพับหาเสียงที่มีเบอร์ผู้สมัครให้อย่างรู้หน้าที่ "ถ้าอย่างนั้นเราสองคนขอตัวก่อนนะครับ...สวัสดีครับ" พิยดายิ้มอ่อนๆตอบรับคำบอกลาแล้วก็ยืนมองแขกที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอและได้ต้อนรับเดินออกจากประตูบ้านไปจนลับตา "ในที่สุดเราก็ได้เจอเขา"หญิงสาวพึมพำอยู่คนเดียว "ขอบคุณนะคะ" เธอตั้งใจจะบอกเขาแบบนี้หากว่าได้เจอเขาในวันใดวันหนึ่งแต่พอเขามายืนอยู่ตรงหน้า เธอกลับไม่ได้พูด ไม่รู้ว่าเพราะมัวแต่ตื่นเต้นดีใจหรือว่าไม่สบโอกาสที่จะพูด "เฮ้อ!" โฮ้ง เสียงเพื่อนตัวเดียวในบ้านดังแทรกเสียงพึมพำเรียกความสนใจซึ่งมันก็ได้สมใจจริงๆ เมื่อสาวสวยข้างบ้านย่อตัวลงนั่งข้างๆ "เป็นอะไรอีกเรา...อย่าบอกนะว่าสมเพชน้ำผึ้งน่ะ" โฮ้ง "นี่ไม่เห็นใจกันเลยใช่ไหมเนี่ย" โฮ้ง..โฮ้ง "เอา...ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ"ปากกับมือไม่ได้เป็นไปในทางเดียวกันเลย เพราะปากว่าแต่มือลูบหัวลูบหลังเจ้ากระปุกไปมาด้วยความเอ็นดู "แต่มันก็จริงของแกแหละรู้ทั้งรู้ว่าเขามีคู่หมั้นแล้วก็ยังจะละเมอเพ้อพกถึงเขาอีก แล้วไหนจะกิ๊กกั๊กเยอะแยะมากมายที่เขาควงที่เขาซ่อนเอาไว้อีกข่าวก็มีออกมาตลอด แบบนี้ควรจะตัดใจดีที่สุดใช่ไหมกระปุก" โฮ้ง "ตกลงว่าเห็นด้วยหรือซ้ำเติม" โฮ้ง ทุกคำพูดทุกคำถามมีคำตอบจากเพื่อนสี่ขาหมดเพียงแต่ว่าคนชวนคุยจะแปลความหมายไปในทางใดเท่านั้นเอง "ไม่เอาดีกว่าเลิกพูดเรื่องนี้นะ เดี๋ยวกระปุกปวดหัวด้วย...ลุกเร็ว ไปหาอะไรกินกันเดี๋ยวจะหาอะไรให้กิน" ไม่ต้องให้หญิงสาวเอ่ยซ้ำเลยแถมยังชิงลุกขึ้นยืนก่อนคนชวนด้วย จากนั้นทั้งคนทั้งหมาก็พากันเดินไปยังหลังบ้านโดยที่ทั้งสองไม่รู้เลยว่าตอนที่คณะหาเสียงของสส.คนดังประจำพื้นที่เดินผ่านบ้านนั้นมีสายตาคมกริบมองผ่านประตูรั้วบ้านเข้ามาสอดส่องภายในบ้านด้วยความสนใจและพินิจพิจารณาเป็นพิเศษ |
S_ISAN
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] แบ่งปัน รับฟัง เข้าใจ
Link |