Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
11 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 

Firewall : ประโยชน์ ของ Analog <-> Digital <-> Analog <-> Digital ในการสื่อความหมาย

คุยเรื่องหนังภาพยนตร์

หมายเหตุ นี่ไม่ใช่การ review ภาพยนตร์โดยละเอียด ผมเพียงแต่เขียน พูด พิมพ์ ในสิ่งที่ผมคิด และมองเห็นครับ

แต่มี Spoil



รู้สึกว่าหนัง Drama, Thriller (บางคนว่า Action กับ Crime ด้วย เอาเหอะ !) ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบมากกว่า ให้คะแนนมากสุดก็ B- มั้ง

แน่ล่ะ... บางคนก็ไม่เห็นด้วย บางคนอาจจะให้มากกว่านั้น (แต่บางคนให้ D- ด้วยซ้ำนะ)

ผมอาจจะให้แย่กว่านั้นอีกนะ ผมไม่ชอบตอนจบเท่าไหร่นะ เหมือนกับดู Air Force One ที่ Harrison Ford เคยเล่น ยังไงยังงั้น

เรื่องเนื้อเรื่องผมคงไม่พูดถึงมากครับ แต่จั่วหัวว่า Analog <-> Digital นี้คือความดีของเรื่องที่ผมพอจะเอามาเขียน blog ได้น่ะครับ พูดถึง Analog และ Digital นั้น เป็นคำที่ใช้ในชีวิตประจำวันของหลายคนอยู่แล้ว เพียงแต่มีคนเข้าใจมันมากน้อยแค่ไหนกันนะ

ที่จริง คำสองคำนี้ เคยถูกพูดในวงกว้างในสังคมไทยประมาณ 6 ปีที่แล้วนะครับ ถ้ามีใครพอจะจำได้ ตอนนั้นมีประเด็นว่า ทำงานแบบ Analog กับทำงานแบบ Digital ของคนในสังคมไทย โดยเฉพาะหน่วยงานราชการ




คนที่จุดประเด็นคำพูดก็คือ พตท ทักษิณ ชินวัตร ครับ ตอนนั้นฮือฮากันพอสมควร ไม่รู้ว่าฮือฮาเพราะ คนพูดพูดไม่รู้เรื่อง หรือ คนฟังฟังไม่เข้าใจ หรือคนพูดเองนั้นแหละที่ไม่เข้าใจ และคนฟังก็ไม่เคยรู้เรื่องคำว่า Analog กับ digital

ตอนนั้น พตท ทักษิณ พูดในทำนองว่า ควรจะทำงานแบบ Digital มากกว่า Analog ซึ่งข้าราชการปัจจุบันทำงานแบบ Analog

คือจะว่า Digital ดีกว่า Analog น่ะ

ความหมายของทั้งสองคำนี้ ถ้าเอาให้ง่ายที่สุด เอาตามคำอธิบายของ Bill Gates ในหนังสือชื่อ The Road Ahead ครับ เข้าใจง่ายมาก

อธิบายทำนองนี้นะครับ

สมมติว่ามีหลอดไฟอยู่หลอดหนึ่ง สามารถปรับความสว่างได้ตั้งแต่มากที่สุด 256 ระดับ คือตั้งแต่ 0 - 255 แสดงว่าถ้าเราต้องหรี่ไฟ ปรับระดับ ก็ต้องค่อย ๆปรับ และกะ ๆ ไปด้วย เพื่อให้กะให้ละเอียดแม่นยำ ก็ต้องคอย calibrate มันด้วย

แล้ว เราแน่ใจเหรอว่า ถ้าเราจะให้เปิด 210 มันจะได้ 210 ไม่ใช่ 205 หรือ 215

อีกวิธีคือ ใช้หลอดไฟ 8 หลอดครับ แทนที่จะใช้หลอดเดียว เพื่อร่วมกันให้ความสว่าง โดยแต่ละหลอดจะมีความสว่างเรียงลำดับตามนี้

128 64 32 16 8 4 2 1

โดยทั้ง 8 หลอดจะปิดก็ปิด จะเปิดก็เปิดที่ระดับเต็มที่เลย ไม่ต้องไปปรับลดมัน ลองบวกตัวเลขกันดูนะครับ ถ้าเปิดพร้อมกัน 8 ดวง ก็จะได้ความสว่างรวมกัน 255 พอดีครับ ถ้าปิดหมดก็ 0 ถ้าปิดหมดแต่เปิดตัวแรกตัวเดียว ก็ได้ 128

คุ้นตัวเลยไหมครับ ถ้าจะปรับให้เป็น 210 ที่เราต้องการ เราก็ต้องเปิดปิดตามนี้ครับ

128 64 0 16 0 0 2 0

0 คือปิด ตัวเลข 1 คือเปิด การที่ตำแหน่งต่าง ๆ แสดงค่าของมันหรือไม่แสดงค่าของมัน เช่นอาจแทนด้วย

1 1 0 1 0 0 1 0

ใช่ครับมันคือเลขฐานสอง และนี่คือ Binary / Digital ครับ
และแบบแรกคือ Analog


แล้วแบบไหนมันดีกว่ากันล่ะ มันอยู่ทีการมองครับ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มีการกลับไปกลับมาระหว่างกันอยู่

แต่ถ้าจะพูดอีกแง่นะครับ Digital จะคาดหวัง ความแน่นอน ความแม่นยำของผลลัพธ์ได้มากกว่า Analogue ครับ

เดาว่า ทักษิณ คงไม่อยากให้คนทำงานเช้าชามเย็นชาม วันนี้ได้งาน พรุ่งนี้ไม่ได้งาน อยากให้ได้งานเหมือน ๆ กัน แน่นอน คาดหวังได้ กระมัง

นี่ ๆ ไม่ได้ cheer ทักษิณนา

ทำไมผมถึงคิดถึง Analog กับ Digital ในหนังเรื่องนี้

ผมคิดว่า คนที่วิจารณ์หนังว่าดีหรือไม่ดี คงดูในแง่ความเป็นหนัง ความแปลกใหม่ (เรื่องโดยรวมไม่แปลกใหม่) การดำเนินเรื่อง (ก็สนุกดีนะ) การต่อเนื่องของอารมณ์ รวมถังตอนจบ (ซึ่งผมว่าตอนจบมันแย่นะ ไม่ค่อยดี)

แต่ถ้าสังเกตุดู หนังได้เสนอสินค้าที่ Analog <-> Digital หรือ Digital <-> Analog หลายตัวทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์, Mp3 player, Computer, Fax, โทรศัพท์, กล้องถ่ายรูป,

ดู ๆ ไปแล้ว คิดว่า คนทำหนังอาจอยากเสนอว่า สินค้าของพวกเขาทำเรื่องแบบนี้ได้มากกว่านะครับ

คิดดูสิ เอา ipod กับเครื่อง Fax มาทำอุปกรณ์ช่วยโจรกรรมได้น่ะ เทห์ไหม

ให้ความรู้สึกเดียวกับข่าวสัก 2-3 ปีก่อนว่า เครื่อง playstation สามารถดัดแปลงเป็นอุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องได้ หรือ หนักกว่านั้นคือ อุปกรณ์ควบคุมหัวรบนิวเคลียร์

หรือ digital camera.... ขนาดแค่แบบติดมือถือนะ ยังสามารถช่วยให้คุณรอดจากเหตุวิกฤตนั้นได้

(Harrison Ford ใช้กล้องจากมือถือ ถ่ายรูปจากหน้าจอ monitor แล้วมาแกะหาบัญชีลูกค้าธนาคารอีกที)

แบบถ่ายรูปไม่สวยไม่ใช่ปัญหา แต่มันสามารถสื่อความหมายได้ละกัน .... และนั่นแหละประเด็นแหละ !!! (แต่ตอนนี้กล้อง digital (แม้คิดมือถือ) ก็พัฒนาในเรื่องภาพให้มีคุณภาพสูงมาก ๆ ได้แล้ว)

ถ้าจำกันได้นะครับ CD เคยถูกปรามาสว่าห่วยกว่า แผ่นเสียง ภาพถ่ายและกล้อง digital ก็เคยถูกปรามาสว่า เป็นของเด็กเล่นเท่านั้น ไม่มีทางใช้ได้จริง ทั้งในแง่การประยุกต์ใช้กล้อง และ ภาพที่ได้ออกมา



จนกล้อง Digital QV-10 ของ Casio ออกมานั่นแหละ เป็นการปฏิวัติวงการเลยล่ะครับ และ QV-10 ก็ได้รับการยกย่องเป็นสิ่งประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของศตววรษที่ผ่านมาเลยนะครับ

เพราะเป็นครั้งแรกที่ระดับประชนชนทั่วไปสามารถนำเอากล้อง digital มาใช้ได้จริง แม้ว่าภาพที่ได้ตอนน้นจะยังไม่ละเอียดมากนัก

ประเด็นคือ ข้อมูล digital จะแทน analog ได้แบบสมบูรณ์นั้น ต้องใช้ข้อมูล digital มหาศาลมาก

ดังนั้นจึงต้องมีข้อยุติว่า จะเอาข้อมูลมากแค่ไหน ยอมรับได้แค่ไหนว่า แค่นี้ล่ะพอแล้ว เหมือนที่ อาจารย์หมอพรทิพย์เขียนในหนังสือบันทึกสึนามิว่า ต้องใช้กล้อง 8 ล้านพิกเซลขึ้นไป ถึงจะใช้ในงานพิสูจน์บุคคลของอาจารย์ได้

คือยอมรับที่ข้อมูลขนาดนั้น

สังเกตุดูนะครับว่า Casio ไม่ใช่บริษัททำกล้องหรือทำเลนส์ หรือทำ film มาก่อนเลย แต่ Casio เป็นบริษัททำเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเลคโทรนิคมากกว่า นั่นก็เพราะว่า Casio มองว่า อุปกรณ์ Digital หรือ อิเลคโทรนิค ดังกล่าว มีประโยชน์ในแง่การสื่อสาร หรือ การสื่อความหมายมากกว่าครับ

มีเรื่องเล่าว่า ก่อน QV-10 จะออก Casio มี TV พกพาอยู่แล้ว และจะพัฒนา TV พกพาที่ว่าเป็นกล้องไปด้วย ทำไปทำมา เอา TV ออกไปเหลือแต่กล้อง

TV ก็คืออุปกรณ์เพื่อการสื่อความหมายเช่นกัน และปัจจุบันก็มีการถ่ายถอดสัญญาณเป็นแบบ digital กันแล้ว กล้องของ Casio จึงมี concept ในแง่การบันทึกเพื่อสื่อความหมายมากกว่า

ซึ่งประเด็นนี้ต่างจากคำปรามาสว่าของเล่น เพราะในตอนนั้น คนที่ปรามาสมองในแง่คุณภาพของภาพ แต่ไม่ได้มองในแง่การสื่อสาร

ภาพที่ไม่ละเอียดนั้น เราก็ยังพอมองออกว่าเป็นใคร เป็นอะไร และยังพอจะมองออกว่า ข้อความที่ถ่ายมานั้นเขียนว่าอะไร

ผมว่าที่สุด ๆ แล้วของเรื่องนี้อยู่ที่ตอนเอา ipod รวมกับ Fax เพื่อจารกรรมครับ

เริ่มจาก Harrison Ford โทรศัพท์ไปสำนักงาน โทรไปบอกให้สำนักงานเปิด list บัญชีลูกค้า

ผ่านระบบเก็บข้อมูลแบบ digital ถูก run ผล ส่งผ่านตามสาย ผ่านการเปลี่ยน analog digital กลับไปกลับมา มี modulation -- demoduation มาปรากฎที่หน้าจอ แล้วเราก็มองมันแบบ analog ผ่านสายตา

ทันใดนั้น ก็เอาอุปกรณ์อ่านของ Fax บันทึกภาพที่ฉายแบบ analog run บนหน้าจอไปเก็บแบบ digital

แต่มันก็เป็นภาพ ไม่ใช่สัญญาณข้อมูล Text

ก็เปลี่ยนอีกทีด้วย software OCR หรือ Optical Character Recognition แปลงสัญญาณภาพแบบ digital อยู่แล้ว ให้เป็นสัญญาณ Text แบบ digital อีก

ดีครับ ในแง่ technique นะ แต่ในแง่หนังก็ไม่มีอะไรใหม่ ๆ

เอ.... คิดว่าคุณ ๆ คงพอจะเข้าใจประเด็นใช่ไหมครับ ผมว่า Analog หรือ Digital ที่เคยเป็นประเด็นนั้น ม้นไม่สามารถเปรียบเทียบได้หรอกว่าดีกว่ากันหรือไม่

เพราะมันก็มีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา และต้องอาศัยกันและกันอยู่

ที่สำคัญ ตามท้องเรื่อง ระบบ digital ม้นก็รักษาความปลอดภัยไม่ได้ร้อยเปอร์เซ้นต์ด้วย






คุณชอบบทความนี้ไหมครับ



ชอบมาก
ชอบ
เฉย ๆ
ไม่ชอบ
ไม่ชอบมาก



ผลการ Vote

Power by Thaimisc.com







 

Create Date : 11 มีนาคม 2549
2 comments
Last Update : 12 มีนาคม 2549 21:53:38 น.
Counter : 1295 Pageviews.

 

 

โดย: VSr. 12 มีนาคม 2549 3:48:20 น.  

 

good
//www.darinkamontano.com/
//www.awfmmellowtouch.net/
//www.rajasthantour-travels.com/
[url=//www.rajasthantour-travels.com/]cheap canada goose[/url]

 

โดย: cheap canada goose IP: 31.41.217.112 23 ธันวาคม 2556 2:44:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Plin, :-p
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]









Instagram






บันทึก ท่องเที่ยว เวียดนาม


e-mail : rethinker@hotmail.com


Friends' blogs
[Add Plin, :-p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.