~ เด็กชายสัตว์น้ำ With stories in his life ~

<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 สิงหาคม 2552
 

การผจญภัยสู่โลกกว้างของเด็กชายสัตว์น้ำ ตอนที่ 2

.........ตึง ดึ่ง ตึ่งดึ่ง เสียงดังเตือนขึ้นมา เนื่องจากเครื่องบินตกหลุมอากาศ พร้อมทั้งประกาศว่าใกล้จะถึง มหานครนิวยอร์ก เมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆคน เด็กชายสัตว์น้ำก็เดินไปเข้าห้องน้ำพร้อมเตรียมตัวลงจากเครื่อง พนักงานบริการหรือแอร์โฮสเตสก็มาแจกเอกสารให้กรอกเพื่อเข้าประเทศอเมริกา มันเรียกว่า I 94 หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ก็กรอกๆไปให้เสร็จ ตื่นเต้นมาก Smiley  ทั้งๆที่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของการมาอเมริกาแต่ยังไม่เคยมานิวยอร์ก คงจะเป็นเพราะว่าจะได้ไปเดินในเมืองที่ไม่เคยหลับใหลอย่างที่เค้าว่ากัน อีกใจนึงเด็กชายสัตว์น้ำก็กลัวๆเพราะว่าเดินทางมาคนเดียว แล้วก็ต้องเดินทางด้วย Subway คนเดียว ซึ่งคิดแล้วก็คงลำบากมากเพราะว่าต้องถือกระเป๋าเดินทางอันใหญ่หลวงนัก พร้อม Notebook ที่อยู่บนหลัง แล้วจะรอดไหมเนี่ย Smiley ก่อนมาก็ได้เบอร์พี่คนไทยคนนึงซึ่งเป็นเพื่อนกับพี่เอเจนซี่ในไทย เค้าให้เบอร์โทรศัพท์มาบอกว่าให้ไปพักกะพี่คนนี้ ชื่อโทนี่มั้งถ้าจำไม่ผิด และแล้วกัปตันก็ประกาศว่าจะนำเครื่องลงจอดในอีก 30 นาที น้องปลาก็ต้องรัดเข็มขัดแล้วก็สำรวจรอบนอกแล้วอุทานในใจว่า โอ้วววว Smiley กูมาถึงนิวยอร์กแล้วววว... หลายคนคงคิดว่าบ้านนอก เออ!!! ยอมรับว่าบ้านนอก แต่ก็ยังได้มาละว้า พอเครื่องลงจอดเท่านั้นเค้าก็ประกาศว่าอากาศข้างนอกประมาณ 7-8 องศา น้องปลาก็ดีใจอ่ะเพราะว่าจะได้อยู่กับอากาศที่เย็นๆ ซึ่งใฝ่ฝันมานาน น้องปลาก็ลุกจากที่นั่งแล้วก็สำรวจความเรียบร้อยพร้อมทั้งเตรียมเอกสารเพื่อให้ ตม.ตรวจ เออลืมบอกไปว่าเครื่องมันลงจอดล่าช้าไป 30 นาที ซึ่งตอนนั้นก็คือ 5 ทุ่มแล้ว กว่าจะเดินเข้าไปใน ตม.อีกคิดในใจว่า ตีหนึ่งแน่นอนเลยกู



       

พอเดินเข้าไปใน ตม. คนก็เยอะมากเนื่องจากช่วงนั้นมีสายการบินอื่นบินลงพร้อมกัน กว่าจะผ่าน ตม.ก็เกือบเที่ยงคืน แอบคิดในใจว่าถ้าไม่ผ่าน ตม.จะทำยังไงเนี่ย  มันก็เป็นความตื่นเต้นเท่านั้นแหละบวกกับความคิดมากไปเอง เหอะๆ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี น้องปลาก็เดินผ่าน ตม. แล้วก็ไปหากระเป๋า เดินออกมาข้างนอกสนามบินแบบว่าหนาวมาก เกิดมายังไม่เคยอยู่ในอากาศที่หนาวแบบนี้มาก่อนเดินตัวสั่นเลย ขนาดมีเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ แล้วก็เดินขึ้น Sky train ของสนามบิน JFK อันเลื่องชื่อ ในระหว่างที่จะซื้อตั๋วนั้น น้องปลาก็ต้องมาเสียเวลากับการแลกเงินซื้อตั๋วเนื่องจากตู้ซื้อบัตรมันไม่รับแบงค์ 20 ดอลล์ ซึ่งน้องปลามีแบงค์ต่ำสุดก็ 20 ดอลล์ แบบว่าเครียดอยู่นานก็ไม่มีใครมาช่วย เจ้าหน้าที่ก็ไม่อยู่ น้องปลาก็พยายามหยอดเงินเข้าไปหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ .....   


            ระหว่างนั้นก็มีหญิงสาวคนดำ 2 คนเดินผ่านมา เค้าก็ถามว่าให้ช่วยไรไหม น้องปลาก็บอกว่าแลกเหรียญไม่ได้ช่วยที เค้าก็ช่วยเหลือน้องปลาเอาแบงค์ไปแลกให้ พอสักพักเค้าก็ได้มาให้น้องปลา ซึ่งน้องปลาต้องขอบพระคุณเค้าเป็นอย่างมาก คนอื่นๆไม่คิดที่จะช่วยน้องปลาเลย เฮ้อออ เนี่ยแหละนะคนเราจะดูกันภายนอกไม่ได้ ต้องดูกันที่จิตใจมากกว่า Smiley สักพักน้องปลาก็เจอหญิงใทย 2 คน น้องปลาก็ยิ้มๆแล้วได้ยินเค้าพูดกันเป็นภาษาไทย น้องปลาไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปคุยเนื่องจากตกที่นั่งลำบาก อิอิ น้องปลาก็ได้คุยกับเค้ารู้ชื่อว่าน้องสายฝน เค้ามาเรียนที่อเมกา มารับเพื่อนที่มาเที่ยวอเมกาเนื่องจากเพื่อนน้องเค้าเรียนจบแล้ว(จุฬาน่ารัก อิอิ) ซึ่งเพื่อนของสายฝนบินลำเดียวกันแต่น้องปลาไม่รู้จักเค้า น้องปลาก็บอกว่าขอแลกเหรียญหน่อย เค้าบอกว่าเค้าใช้บัตรเครดิต เลยหาแลกไม่ได้ อีกอย่างเราต้องโทรหาคุณโทนี่เนื่องจากต้องไปพักกับเค้า น้องสายฝนเลยให้ยืมโทรศัพท์มือถือ น้องปลาก็เลยโทรหาพี่เค้า ที่แท้พี่โทนี่ก็คือคนไทยนี่แหละ เราก็นึกว่าเป็นฝรั่ง เค้าบอกเราว่าให้ลงสถานีอะไรซักอย่างแล้วจะไปรอรับที่นั่น พวกเราหมายถึงน้องสายฝนกะเพื่อนก็รอรถไฟนานมาก ประมาณ 30 นาทีได้ เวลานั้นก็ประมาณตีหนึ่งได้แล้ว น้องปลาก็นั่งรถไฟขบวนเดียวกันไปที่สถานีที่นัดกับพี่โทนี่ไว้ และแล้วก็มาถึงสถานีที่ต้องแยกจากกันเนื่องจากที่พักน้องสายฝนไปอีกทาง Smiley น้องสายฝนก็เอาเหรียญ 25 cent 2 เหรียญให้น้องปลาเพราะว่าน้องปลาไม่มีเหรียญไว้โทรหาพี่โทนี่เลย น้องปลาก็ขอเบอร์น้องสายฝนไว้ เผื่อขอความช่วยเหลือ Smiley อิอิ ผลประโยชน์ต้องมาก่อน และแล้วน้องปลาก็ต้องจากกับน้องสายฝนโดยน้องสายฝนต้องแยกไปอีกสายนึง น้องปลาก็นั่งไปที่สถานีปลายทาง และแล้วต้องมาเปลี่ยนขบวนรถไฟอีกเนื่องจากมันขบวนที่น้องปลานั่งไปนั้นมันไม่จอดสถานีที่นัดกับพี่โทนี่ไว้ น้องปลาก็ต้องไปลงสถานีนึงแล้วนั่งรถย้อนกลับมา ระหว่างที่เปลี่ยนขบวนรถนั้นความยุ่งยากก็บังเกิดขึ้นเนื่องจากกระเป๋าของน้องปลาหนักมาก แบบว่าไม่ไหวแล้ว ต้องยกกระเป๋าขึ้นไปอีกชั้นนึงแล้วยกลงอีกฝั่ง  Subway ที่นั่นไม่เหมือนเหมืองไทยที่มีบันไดเลื่อน แบบว่าน้องปลากว่าจะยกไปอีกฝั่งเพื่อนั่งรถย้อนกลับก็ใช้เวลา 10 นาทีได้ คิดในใจว่ากูจะทิ้งอะไรได้บ้างเนี่ย ข้าวสารก็ปาไป 5 กิโลแล้วว Smiley แต่ก็เสียดายเลยต้องทนไปก่อนพอข้ามไปอีกฝั่งก็เจอกับพวกเม็กซิกันกลุ่มนึง คือแบบว่าจะขอแลกตังกะเค้า น้องปลาเลยขอแลก 1 ดอลล์เพื่อจะใช้โทรหาพี่โทนี่ ทั้งๆที่ในใจกลัวมากถ้ามันมาปล้นน้องปลาแล้วจะทำยังไงเนี่ย แต่เค้าก็ให้แลก น้องปลาก็มองหาตู้โทรศัพท์แต่ก็ไม่มี  จังหวะที่รถไฟมาพาดีน้องปลาก็ขึ้นโดยสารไปเลย และแล้วความซวยก็มาถึงน้องปลาเพราะว่ารถมันไม่จอดสถานีนั้น โอยยยย ซวยแล้วละสิตายแน่เลยกรู ทั้งง่วง ทั้งหนัก ทั้งกลัว ถ้ามีเพื่อนมาด้วยซักคนก็คงจะดี แต่นี่แบบว่าตัวคนเดียว อีกซ้ำ Subway ที่นิวยอร์กน่ากลัวมากกกก  Smiley น้องปลาก็ลงสถานีไรไม่รู้อ่ะ ก็ไปโทรศัพท์หาพี่โทนี่ พี่เค้าบอกว่ามารอนานแล้วเลยกลับบ้านไปแล้ว Smiley โอยย เอาเข้าไป น้องปลาเลยบอกว่าไม่เป็นไรครับน้องปลาจะไปรอที่สถานีเกรฮาวน์ไม่รบกวนพี่เค้าแล้ว จริงๆก็เกรงใจพี่เค้าอ่ะเพราะว่ามันจะตีสองได้ แล้วน้องปลาก็ต้องยกของข้ามไปอีกฝั่งนึงเพื่อรอรถไปสถานีเกรฮาวน์ และแล้วความซวยยังไม่หมด เออเป็นไงเป็นกันวะ น้องปลาก็รอรถไฟที่มันจะไปสถานีเกรฮาวน์ สรุปแล้วเค้าบอกว่าสถานีนั้น(ที่น้องปลารออยู่) ขบวนรถที่จะไปสถานีเกรฮาวน์ไม่จอดเวลาเที่ยงคืน – ตีห้า ของวันที่ 23  Smiley Smiley น้องปลาจำได้เลย เซงแม่งรอตั้งนานเพิ่งได้เห็นประกาศ แล้วแบบว่าสถานีนั้นน่ากลัวมาก คนไม่มีเลย และแล้วก็มีกลุ่มคนดำเดินผ่าน 3 – 4 คน น้องปลานี่แทบอยากจะหายตัวให้ได้เลยเพราะว่ากลัวมาก เกิดมาในชีวิตเพิ่งรู้ว่ากลัวมากที่สุดในโลกมันเป็นยังไง คิดในใจเลยว่าถ้าโดนฆ่าแล้วพ่อแม่จะรู้สึกยังไง คิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่เพื่อนๆ โอยยกลัวมากๆๆ แล้วน้องปลาถึงกับยิบเงินเก็บไว้ตามที่ต่างๆของร่างกาย เผื่อว่าถ้าโดนขโมยเงินจะได้มีเหลือติดตัวบ้าง แล้วก็มีขบวนรถมาน้องปลาก็เลยขึ้นไปแล้วไปลงสถานีใหญ่เพื่อต่ออีกสายนึงไปสถานี 42 (ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งเป็นสถานีเกรฮาวน์ และแล้วน้องปลาก็มาถึงจนได้ อีกเรื่องที่น้องปลาเซงก็คือต้องยกกระเป๋าขึ้นเอง โอยย เอาเข้าไปเกิดมาเพิ่งเคยทรมานสุดๆเนี่ยแหละ พอขึ้นมาได้ก็รู้สึกตื่นเต้นเพราะว่าสถานีที่น้องปลาขึ้นมานั้นเป็นสถานีเดียวกันกับที่ละครเรื่อง Stardust มาถ่ายทำ(ดูตอนอยู่บนเครื่อง) ทั้งที่รู้สึกเหนื่อย ง่วง ก็แอบดีใจ ฮ่าๆๆๆ แล้วน้องปลาก็เดินหาสถานีให้วุ่นเลย แสงสีนิวยอร์กนี่มันช่างสวยงามอะไรเยี่ยงนี้ อากาศก็หนาวได้ใจมาก น้องปลาก็ถามคนแถวนั้นว่าสถานีอยู่ที่ไหน แล้วเดินไปที่สถานีนั้น และพอไปถึงสถานีก็ไปซื้อตั๋ว แล้วลงไปรอรถเกรฮาวน์ ซึ่งตอนนั้นประมาณตี สาม น้องปลาต้องรอขึ้นรถตอน 8 โมงเช้า น้องปลาแบบว่าง่วงก็ง่วง แต่จะหลับไม่ได้เพราะว่าสิ่งของ ประเป๋า และอีกอย่างน้องปลาก็ไม่รู้ว่าถ้าหลับแล้วจะตื่นตอนไหนกลัวรถออกไปก่อน โอยย ทรมานที่สุดเลย รอตั้ง 5 ชั่วโมง แต่ทำไงได้คิดไว้ว่าถ้าได้นั่งรถแล้วน้องปลาจะหลับไปตลอดทางเลย  ในช่วงที่ไปชั่งน้ำหนักกระเป๋า น้ำหนักของน้องปลาเกินเยอะมากเลยต้องมาจัดของกันยกใหญ่ ที่หนักก็คงเป็นข้าวสารเนี่ยแหละ น้องปลาเลยเอาข้าวมาแบกไว้กะโน๊ตบุ๊คข้างหลัง แล้วพอไปชั่งก็ผ่าน เหอะๆๆ เป็นกรรมกรที่นิวยอร์กจริงๆเลยกรู.......แบกข้าวสารไว้บนหลัง น้องปลาก็รอ รอ รอ แล้วก็รอเพื่อที่จะให้ถึง 8 โมงเร็วๆเพราะว่าง่วง หนาว เบื่อ หลากหลายอารมณ์มาก แบบว่าไม่ไหวแล้ว พอถึงแปดโมงน้องปลาไม่รอช้าที่จะรีบขึ้นรถแล้วก็จัดของทุกสิ่งอย่างให้เรียบร้อย พอรถออกซักพักน้องปลาก็ยังไม่หลับ ดูวิวทิวทัศน์เมืองนิวยอร์กไปเรื่อยๆ จนรถเข้าอุโมงโผล่ขึ้นมาอีกทีก็เห็นเมืองนิวยอร์กอยู่ไกลออกไป น้องปลาก็ผลอยหลับไป.....

 






Free TextEditor


Create Date : 21 สิงหาคม 2552
Last Update : 21 สิงหาคม 2552 16:55:27 น. 3 comments
Counter : 256 Pageviews.  
 
 
 
 
อ่านแล้ว น่ารักจัง
 
 

โดย: bkpapaok IP: 115.67.130.218 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:18:58:58 น.  

 
 
 
 
 

โดย: 360D Gallery วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:10:25:05 น.  

 
 
 
โอ้ยที่สุดอะคนคนนี้สมเพชจิง จิง
แบบว่าโดนแบบนี้มาก่อนประมาณ
10 ก่อนน่านายจะมาเลยความสมเพช55+
 
 

โดย: thai-max IP: 118.173.5.60 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:14:15:12 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

เด็กชายสัตว์น้ำ
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เด็กชายสัตว์น้ำ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com