การผจญภัยสู่โลกกว้างของเด็กชายสัตว์น้ำ ตอนที่ 9 น้องปลาไม่ได้เถียงกันกะนางงามน๊า
น้องปลานั่งสักพัก รอไปพลางเหลือบตามองดูนางงามทำงานไปแล้วช่างมีความสุข 55+ แบบว่าตูได้พักแล้ว พวกเมิงทำงานไป แต่ก็ว่าไปแล้วน้องปลาทำงานหนักกว่ามันตั้งหลายเท่า มันก็แค่ยืนทำเบอร์เกอร์ในครัวตามสเตปของมันไป เอาเหอะน้องปลาได้พักแล้ว นั่งกินเบอร์เกอร์ไป เบอร์เกอร์นี่ใหญ่มาก แบบว่าเนิ้อวัว 2 ชิ้น กับเบอร์เกอร์ น้องปลาก็คิดว่าทำไมน้องปลาไม่ลองสั่งให้นางงามทำให้สามชิ้น 55+ ตายกันพอดีถ้ากินขนาดนี้ เนื่องจากว่าน้ำย่อยในกระเพาะมันคงย่อยกระเพาะน้องปลาไปแล้ว จนน้องปลาไม่รู้สึกหิวอะไร พอกินเข้าไปทำไมไมนไม่อิ่มซักที กินได้ตลอด น้องปลาก็นึกในใจว่าถ้าได้อีกอันคงอิ่มพอดี ฮ่าๆๆ สักพักน้องกิ๊บก็เดินออกมาจากเนื่องจากน้องกิ๊บออกมาพักแล้ว ซึ่งก็คือเลิกงานแล้ว น้องปลาก็ชวนให้มานั่งตรงมุมนี้ มานินทาพวกอเมริกันชนต่อ เริ่มจาก E ดาก หัวหน้าใหญ่ที่คอยจัดการทุกเรื่องน้องกิ๊บเล่าให้ฟังว่ามันจะร้องโหวกเหวกเรียกคนนั้นคนนี้ตลอดเวลา ซึ่งวันนี้น้องเดชไม่มามันก็เรียกขึ้นมาซะงั้น น้องปลาก็อดขำไม่ได้ พอน้องเดชไม่มามันก็เรียกน้องปลาแทน ซึ่งน้องปลาใช้ชื่อว่า " PM " ซึ่งมันเรียกทุก 5นาที --" อันนี้เรื่องจริง น้องปลาพูดกะน้องกิ๊บว่าชาติก่อน E ดากมันคงเกิดเป็นชะนีแน่เลย มันเรียกแบบว่าทุกห้านาทีได้ จนน้องปลาเกลียดชื่อ PM ไปเลยไม่อยากได้ยินชื่อนี้อีกแล้ว คนที่สองคือ แม่ใหญ่ฟันหล่อ( 55+ ) แอบขำด้วย เนื่องจากว่าฟันแกหลอจริงๆ ที่จริงแกชื่อเจนนี่ เป็ฯพี่สาวแท้ๆของ E ดาก แต่ e ดากเป็นผู้จัดการใหญ่ที่สุดในร้าน มันเลยกร่างกะทุกคน แม่ใหญ่ฟันหลอเป็นคนใจดีแต่จะออกแนวตามน้ำน้องสาวตัวเอง น้องสาวว่าไงก็ว่าตาม สั่งไรเจ๊แกทำหมด คนต่อมาเป็น คริสตี้ คนที่ไปรับน้องปลามาอยู่ที่นี่ น้องปลาจำได้เลย ซึ่งคริสตี้ก็ใจดีมากออกแนวทำไรก็ทำตามสไตล์เจ๊แก คนต่อมาเป็น เจ๊ฟันงาม (55)เนื่องจากฟันแกหลอเพราะดูดบุหรี่บ่อย จึงทำให้ฟังดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ถ้าอยากรูลองดูที่ซองบุหรี่ที่ขายตามท้องตลาดได้เลย แนวนั้นแหละ แบบว่าหน้าตาสวยแต่เสียอยู่เรื่องเดียวฟันสวยเกิน 55 คนต่อมาเป็นไอดอลของน้องปลาเลย คือเอมี่ ใจดีที่สุดในโลก เป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นที่รักของลูกน้องหลายคนรวมทั้งน้องปลาด้วย คนสุดท้ายจำชื่อไม่ได้อ่ะ นางงามเคยเล่าให้ฟังว่ามันร้องไห้เพราะว่าคนนี้มาแล้วอ่ะ เพราะว่าเนื่องจากช่วงแรกๆที่นางงามไปทำงานพอกลับดึกแถวนี้มันมืดแล้วเจ๊แกไม่ไปส่งนางงามจนนางงามมันร้องไห้ สุดท้ายแล้วเค้าต้องไปส่งนางงามที่บ้านน้อยแสนรัก ท่านทั้งหลายที่กล่าวมานั้นล้วนเป็นผู้จัดการร้านทั้งหมดแต่อยู่ภายใต้การปกครองของ E ดาก แต่เพียงผู้เดียว น้องปลากะน้องกิ๊บก็คุยกันเพลินสักพักนางงามก็ออกมา แล้วพวกเราก็นั่งคุยกันสักพัก และแล้วสาวน้องร่างบางคนนึงก็เดินออกมาพร้อมกิ้งแล้วมานั่งกับพวกเราเธอคือ นิ๊กกี้สาวน้อยผู้น่ารักน่าเกลียด เฮ้ย!! น่ารักน่าชัง แล้วถามว่ากลับกันยังไงเหรอ พวกเราก็บอกว่าคาร่ามารับ แล้วสาวร่างบางคนนั้นก็นั่งเล่นกับพวกเราสักพักเนื่องจากเธอรอแม่มารับเช่นกัน และแล้วนางงามก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาคาร่าให้มารับได้แล้ว 55+ ยังกะคนรับใช้จริงๆ บอกแล้วว่าช่วงโปรโมชั่น ระหว่างที่รอน้องปลาและนางงามก็คุยกันเรื่องเงินต่อ เงินจากไอ้กากีนั่นแหละ ว่าเราจะวางแผนกันยังไงแล้วน้องปลาก็คิดแผนได้ว่าจะให้เพื่อนอีกคนนั่งคือ ยิม ที่อยู่ฟรอริด้าโทรไปหามันอีกทีเนื่องจากว่าน้องปลาให้โทรศัพท์ไปหาไอ้กากีอีกทีว่าให้เอาเงินมาคืนพวกน้องปลา ไม่งั้นเห้นดีกันแน่ แล้วน้องปลาก็ลองให้โทรศัพท์นางงามโทรไปหาไอ้กากี และแล้วผลที่ได้คือมันไม่รับโทรศัพท์ น้องปลานี่จี๊ดมากกก แบบว่าเมิงทำกะกูได้นะ ระวังตัวให้ดีเดี๋ยวจะเอาขี้(พี่โด)ไปปาบ้านเมิง ที่ใช้ของพี่โดเพราะว่าน่าจะเยอะ 55+ แล้วสักพักรถคาร่าก็มาจอดเทียบท่า (พูดยังกะนั่งเรือท่าพระจันทร์ - วังหลัง) แล้วพวกเราก็วิ่งไปที่รถเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านเพราะว่าอยากกลับไปบ้านน้อยแสนรักของพวกเราเต็มทีแล้ว แล้วนิ๊กกี้(สาวน้อยร่างบางก็เดินไปกับพวกเราด้วย) แล้วคาร่าก็คุยกับนิ๊กกี้สักพัก คุยเรื่องที่เราไม่ได้เงินกัน แล้วนิ๊กกี้ก็บอกว่าไอ้กากีกับ E ดาก พวกมันสองคนแต่งงานกันเพื่อจะเอากรีนการ์ด คือไอ้กากีมันจ้าง e ดาก แต่งงานเพราะว่าจะได้กรีนการ์ดเนื่องจากไอ้กากีมันเป็นคนตุรกี น้องปลากับนางงามถึงกับร้องโอ้ววววว ขบวนการจริงๆ น้องปลานั่งในรถนี่แบบว่าจี๊ดดๆๆๆๆ นางงามก็บอกว่าให้สงบอารมณ์ก่อนทำไรไปก็เท่านั้น แล้วก้มาถึงบ้านพวกเรา น้องปลาก็เข้าห้อวคุยกะนางงามแบบว่าถึงพริกถึงขิง คุยกันต่างๆนานา แบบว่าเสียงดังมาก คุยเรื่องไอ้กากีแบบว่าอารมณ์เครียดมาก นางงามก็เสริมเข้าไปอีก กูว่า ยังงั้นยังงี้ น้องปลาก็เอาเข้าไปกันใหญ่ ปกติน้องปลาจะพูดเสียงดังอยู่แล้ว ประมาณว่าได้ยินไปสามบ้าน แล้วนางงามอีกเสียงแหลมๆแสบหูชั้นในอย่างมาก สักพักคาร่าวิ่งเข้ามาในห้อง ตกใจว่า PM กะกิ้ง ทะเลาะกันเหรอ 55+ พวกเราหัวเราะแล้วบอกว่านี่คือการสนทนาของพวกเรา แล้วพวกเราก็คุยกันว่าอยากให้คาร่าพาไปที่บ้านไอ้กากีอีกครั้ง คาร่าก็ตกลง ระหว่างทางที่ขับไปบ้านไอ้กากีนั้นนางงามก็อธิบายว่า นี่แหละทางเดินที่มันเดินมากะน้องกิ๊บน้องเดช น้องปลาดูระยะทางแล้วนึกสงสารเลยอ่ะ พากันเดินออกมาจากบ้านไอ้กากีนั่น แล้วสักพักก็ไปถึงบ้านไอ้กากี น้องปลาเห้นรถจอดแล้วก็ดีใจคิดว่ามันต้องอยู่บ้านแน่นอนแล้วน้องปลาลงรถไม่รอช้าที่จะไปเคาะประตูบ้านมัน แล้วสักพักก็มีคนมาเปิดประตูซึ่งคนนั้นก็คือเพื่อนมันนั่นเอง น้องปลาไม่รอช้าที่จะถามประเด็นสำคัญเลยว่า เพื่อนเมิงไปไหน อยู่บ้านไหม มันบอกว่าไม่อยู่ แต่ตูเห็นรถจอดนี่ไม่อยู่ได้ไง โกหกกันหน้าด้านๆได้ไง แล้วมันก็บอกว่าไม่อยู่จริงจิ๊ง น้องปลาเลยบอกว่าไหนตูขอเข้าไปดูหนังหน้าไอ้โกหกหน่อยดิ นางงามก็ดึงแขนน้องปลาเอาไว้ ว่าใจเย็นๆเค้าเอาผิดเราได้ น้องปลาด้วยอารมณ์โมโหบอกว่าไม่สนอ่ะ ใครจะยังไงก็ช่างกูต้องมีไรกลับบ้าน ว่าแล้วน้องปลาก็บอกว่างั้นตุจะเอาเครื่องเพลย์เมิงไปเป็นตัวประกัน เพื่อนมันก็บอกว่า ของไอ้กากีเอาไปไม่ได้นะ น้องปลาบอกว่าในเมื่อไม่จ่ายเงินคืนก็ต้องเอาไรแลกเปลี่ยน แล้วน้องปลาก็เดินเข้าไปในบ้าน คาร่าร้องตะโกนออกมาจากรถว่า "PM อย่าเข้าไปนะ" นางงามก็ลากแขนน้องปลาออกมาจากบ้าน แล้วบอกว่าวันนี้อาจไม่ใช่วันของเรา น้องปลาก็เลยสงบลงได้นิดนึงแล้วบอกเพื่อนมันว่า ให้เอาเงินไปคืนด้วย ตูไม่ได้ค้างบ้านเมิงเลย ตูอยากได้เงินคืน ด่วนมาก ถ้าไม่ได้จะเรียกตำรวจ แล้วน้องปลาก็เดินขึ้นรถคาร่าด้วยอารมณ์โมโหอย่างแรง ถึงบ้านน้อยแสนรักน้องปาก็ไม่มีอารมณืทำไรแล้วได้แน่นอนอยู่บนเตียงเล่นเนด สักพักเอมเอสเอนพี่เยียร์ก็เด้งขึ้นมา น้องปลาก็เลยได้ทีระบายกันใหญ่เลย น้องปลาแบบว่าถ้าได้จี๊ดแล้วเอาให้ถึงที่สุดใครจะยังไงก็ไม่สน กูจะชนลูกเดียวถึงไหนถึงกัน แล้วพี่เยียร์ก็บอกว่าใจเย็นๆ พี่จะบอกนายพี่ น้องปลาก็บอกว่าบอกแล้วจะได้อะไรเหรอ นายมาช่วยอะไรได้ ขนาดตัวพี่เองยังช่วยผมไม่ได้เลย น้องปลาก็บ่นเสดแล้วก็หายไปหาไรกินเพราะว่าหิว มองหน้าน้องๆและนางงามก็สงสาร ทั้งสมเพชตัวเองด้วยเลยบิดทุกคนว่าวันนี้พอแค่นี้ไปหาไรกินกัน วันนี้จะเป็นการกินปลากระป๋องที่อร่อยที่สุดในโลกเช่นเคย แล้วน้องปลาก็ออกไปหุงข้าว อากาศเย็นลงๆน้องปลาก็ไปอาบน้ำรอให้ข้าวสุก สักพักทุกคนก็มาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารรอกินข้าวแล้วก็นั่งกินข้าวก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเข้ามุม เฮ้ยย อย่าคิดไปโน่น ก็มุมคือเตียงใครมันเนื่องจากต้องทำงานแล้วพรุ่งนี้ เวลาได้ประมาณสี่ทุ่มแล้วน้องปลาก็นั่งเล่นคอมไปพร้อมอากาศข้างนอกน่าจะประมาณ 7-8 องศาได้ หนาวกายและหนาวใจมาก น้องปลาคิดในใจว่า จะไม่มาลำบากแบบนี้อีกแล้วถ้าจะมาต้องมาอีก 2 ปีแน่นอน คุยกะนางงามแบบว่าไม่อยากมาอีกแล้ว นางงามมันก็บอกว่า กูจะคอยดูหนังหน้าคนที่พูดแบบนี้ สักพักน้องปลาก็ได้ยินแต่เสียงโทรทัศน์ที่น้องเดชเปิดไว้ น้องปลาก็ปิดคอมแล้วฟังเสียงนั้นไปเรื่อยๆ สักพักเสียงก็หายไป ...
Free TextEditor
Create Date : 05 ตุลาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 0:39:43 น. |
Counter : 268 Pageviews. |
|
|
|