== ไปไหว้พระ == วันนี้พาไปปสักการะพระร่วงทองคำ ที่วัดมหรรณพาราม
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดมหรรณพาราม, กรุงเทพมหานคร พระนคร Thailand
พิกัด GPS : 13° 45' 14.95" N 100° 29' 55.87" E



ดูแผนที่เพิ่มเติม




สนใจติดตามอ่านเรื่องราวที่นำเสนอชมภาพสวยๆได้ที่ www.facebook.com/paiwaipra
ส่วนแกลลอรี่ภาพที่วัดต่างๆเข้าไปชมในเพจเฟสบุ๊คนะครับ ส่วนเพื่อนคนไหนไปเที่ยววัด ทำบุญที่วัดสามารถถ่ายภาพและอัพโหลดภาพสวยๆ ผ่าน อินสตาแกรม ได้นะครับ 
เพียงแค่พิมพ์ #paiwaipra หน้าข้อความที่โพสภาพถูกแชร์ในเพจ ไปไหว้พระครับ

Instagram

ประวัติความเป็นมาของวัด : วัดมหรรณพาราม

วัดมหรรณพาราม ตั้งอยู่บนถนนตะนาว วัดแห่งนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 โดย กรมหมื่นอุดมรัตนราษี ทรงมีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอรรณพ ทรงเป็นพระโอรสใน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 หลังจาก กรมหมื่นอุดมรัตนราษ ได้สิ้นพระชนม์แล้วรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามว่า วัดมหรรณพาราม ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ซึ่งลักษณะสถาปัตยกรรมในวัดแห่งนี้ เป็นแบบไทยผสมจีน ซึ่งเป็นแบบที่นิยมมากในสมัยรัชกาลที่ 3 หลังคาพระอุโบสถจะไม่มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันมีการตกแต่งลวดลายด้วยกระเบื้องแบบจีน งานจิตรกรรมเขียนประดับลวดลายแบบจีน ซึ่งด้านหลังวัดมีพระเจดีย์ซึ่งอยู่ในระหว่างการบูรณะหลังพังลงมาเมื่อ เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ส่วนพระประธานในวิหารจะเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ซึ่งล่องมาจากสุโขทัยซึ่งที่วัดแห่งนี้วิหารและโบสถ์จะมีขนาดเท่ากัน และสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบเดียวกันด้วย ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนัก 











"หลวงพ่อพระร่วง" หรือ ที่ชาวบ้านเรียกจนติดปากว่า "หลวงพ่อร่วง" ประดิษฐานอยู่ที่พระวิหาร
หลวงพ่อพระร่วง เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ขนาดหน้าตักกว้าง 1 วา 1 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 1 วา 3 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว องค์พระเป็นโลหะทองมีรอยต่อ 9 แห่ง โดยมีหมุดเป็นเครื่องเชื่อมที่รอยต่อชุกชีที่ประดิษฐาน ยาว 2 วา 1 ศอก 7 นิ้ว กว้าง 2 วา 2 ศอก ซึ่งการเชื่อมแบบนี้นั้นหายากมากในการสร้างพระพุทธรูปสมัยต่อมา รวมถึงปัจจุบันด้วยการเชื่อมต่อปราณีตจนสังเกตุรอยต่อได้ยากมาก ซึ่งองค์พระมีส่วนผสมทองคำถึง 60 %ในการหล่อ

ฐานบัลลังก์ ทำเป็นลายดอกบัวคว่ำบัวหงายและดอกไม้เครือกระจังลงรักปิดทอง ประดับด้วยกระจกสีต่างๆ ได้อัญเชิญมาจากกรุงสุโขทัยในราวปี พ.ศ.2393 ในรัชกาลที่ 3 เมื่อครั้งที่ กรมหมื่นอุดมรัตนราษี ทรงสร้างวัดอยู่นั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้พระราชทานเงินสมทบ 1,000 ชั่ง สร้างพระอุโบสถ แล้วทรงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ทางเมืองเหนือเสาะหาพระพุทธรูปใหญ่ เพื่อนำมาเป็นพระประธาน ครั้นได้พบแล้วก็ทราบรับสั่งให้อัญเชิญลงมากรุงเทพฯ เพื่อให้ทันกับการฉลองพระอุโบสถและผูกพัทธสีมา แต่การเดินทางสมัยนั้นลำบากมาก ต้องอาศัยเรือหรือแพเท่านั้นเป็นพาหนะ  แต่การเดินทางล่าช้ามาก มาไม่ทันกำหนดเวลาที่พระอุโบสถสร้างเสร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งให้สร้างพระประธานด้วยหินปูนก่ออิฐให้ทันกับเวลาฉลองพระอุโบสถและใช้เป็นพระประธานในพระอุโบสถจนกระทั่งบัดนี้ฯ ครั้นสร้างพระประธานเสร็จเรียบร้อย หลวงพ่อพระร่วงจึงถูกอัญเชิญมาถึงกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งให้สร้างพระวิหารขึ้นทางด้านทิศใต้ของพระอุโบสถให้เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระร่วงตั้งแต่นั้นมา













วัดนี้เดินทางไม่ยากนะครับ จากสี่แยกคอกวัว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนตะนาว เข้ามาสัก 200 เมตรจะพบ
วัดอยู่ทางซ้ายมือครับ วัดนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะและเงียบสงบดีครับใครว่างลองไปเที่ยวชมความงามของพุทธศิลปะในสมัยสุโขทัยว่างดงามเพียงใดลองไปชมกันครับวันนี้ ขอจบเพียงเท่านี้อาทิตย์หน้าพบกันใหม่ครับ... สวัสดีครับ










Create Date : 19 มกราคม 2556
Last Update : 20 มกราคม 2556 18:22:31 น.
Counter : 3630 Pageviews.

1 comments
  
โดย: Kavanich96 วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:6:03:52 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

DJ.piggypop
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มกราคม 2556

 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog