วัดใหม่ทองเสน เกียกกาย พาไปทำบุญไหว้พระป่าเลย์ไลยก์องค์ใหญ่ อันศักดิ์สิทธิ์


แผนที่การเดินทาง //g.co/maps/n65ya

แฟนเพจเฟสบุ๊คไปไหว้พระ //www.facebook.com/paiwaipra

เว็บไซต์ของเรา //www.paiwaipra.com

สวัสดีครับทุกท่านที่ติดตาม BLOG ของผมถ้าชื่นชอบในงา
นเขียนหรือมีข้อเสนอแนะในงานเขียนรบกวนช่วยแวะเวียนไปเป็นแฟนเพจไปไหว้พระดอทคอมได้นะครับที่ facebook และเร็วๆนี้เตรียมพบกับเว็บไซต์ของเรา paiwaipra.com เพราะในเฟซบุ๊คจะมีการอัพเดทรูปหรือรายละเอียดต่างและพูดคุยเเลกเปลี่ยนข้อมูลข้อคิดเห็นกันเพื่อจะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นในเรื่องข้อมูลครับ



พระอุโบสถวัดใหม่ทองเสน

วันนี้พาไปไหว้พระปางป่าเลย์ไลยก์กันครับไม่ไกลครับอยู่ในกรุงเทพนี่เอง แถวเกียกกาย เลยไปหน่อยก็บางโพธิ์ มีร้านอาหารอร่อยเยอะแยะ หรือบางคนอาจนึกถึงเพลงพี่ตู้ ดิเรก สาวบางโพธิ์นั้นโก้จริงๆ วัดใหม่ทองเสนนี้อยู่ที่สี่แยกเกียกกาย ก่อนจะเลี้ยวซ้ายไปโรงเรียนโยธิน หรือจะไปบางกระบือ การเดินทางแสนสะดวกครับถ้านั่งรถเมล์จากสนามหลวง ทุกสายที่มุ่งหน้าไปนนทบุรีจะผ่านเส้นนี้สามารถลงรถที่ป้ายโรงเรียนโยธินแล้วข้ามถนนมาเดินมาสี่แยกก็จะเจอ หรือขับรถมาก็มุ่งหน้ามาเกียกกายวัดอยู่ตรงข้ามกรม ปตอ.ครับ ถ้าจะล่องเรือมาลงท่าวัดแก้วฟ้านั่งมอไซค์รับจ้างต่อมาก็ได้ วัดนี้มีอายุเก่าแก่ถึง ๒๐๐ กว่าปีแล้ว ก่อสร้างโดยพระเถรสองรูปคือพระธรรมอุดม (ถึก) ผู้ซึ่งเป็นพระคู่เทศน์กับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) ท่านทั้งสองร่วมกันสร้างวัดไว้หลายที่ โดยที่วัดใหม่นี้ท่าน พระธรรมอุดม (ถึก) ต้องการสร้างอุทิศแด่โยมพ่อและโยมแม่ของท่าน ซึ่งชาวบ้านละแวกนั้นได้ร่วมบุญบริจาคที่ดินไว้กว้างขวาง และท่านทั้งสองไต้งชื่อว่าวัดใหญ่ทองเสน ในเบื้องต้น





หน้าวิหารพระป่าเลย์ไลยก์ ที่สมเด็จพระอาจารย์ โต สร้าง

ต่อมาทางกรมทหารได้เข้ามาขอเช่าที่ไปจึงเหลือพื้นที่เล็กๆอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อท่านพระธรรมอุดม ได้สร้างวัดแล้ว ท่านสมเด็จโตท่านเลยทรงสร้างวิหารพระป่าเลย์ไลยก์ ถวายเป็นพุทธบูชาด้วย ในวิหารแต่เดิมองค์พระนั้นมีแค่ลงรักสีดำเท่านั้น ต่อมาเมื่อมีการซ่อมแซมไม่นานนี้ได้มีการปิดทองลงไปสวยงาม





พระป่าเลย์ไลยก์ องค์ใหญ่ปิดทองสวยงาม ปัจจุบันทองที่ปิดเริ่มมีการชำรุดบางส่วน

ในวิหารยังมีจิตรกรรมลายดอกโบตั๋นประดับที่ผนัง ซึ่งตอนนี้เสียหายพอสมควร และทางวัดเองได้รับบริจาคเพื่อที่จะซ่อมแซมอนุรักษ์ไว้ซึ่ง เป็นงานเขียนตั้งแต่ในยุครัชกาลที่ ๓ จะเป็นแบบจีนปนไทย



ในวิหารยังมีจิตรกรรมลายดอกพิกุลร่วงประดับที่ผนัง ซึ่งตอนนี้เสียหายพอสมควร และทางวัดเองได้รับบริจาคเพื่อที่จะซ่อมแซมอนุรักษ์ไว้ซึ่ง เป็นงานเขียนตั้งแต่ในยุครัชกาลที่ ๓ จะเป็นแบบจีนปนไทย

ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าสิ่งที่ขอพรไปนั้นได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยถ้ามาทำบุญแล้วก็ถือได้ว่าได้ต่ออายุพระพุทธศาสนาแล้ว ส่วนโบสถ์นั้นจะอยู่ทางขวามือของวิหาร ด้านหลังโบสถ์มีหอพระไตรปิฎก ฝีมือการสร้างสวงามก่อนจะบูรณะนั้นเค้าดครงก็สวยนะครับ พอบูรณะแล้วยิ่งสวยขึ้น ภายนอกโบสถ์มีซุ้มประตูและหน้าต่างประดับด้วยเครื่องกระเบื้องแบบจีน ซึ่งเป็นที่นิยมสร้างแบบนี้ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ลายกระบื้องสีสวยงามแต่ปัจจุบันทางวัดซ่อมแซมทาสีทับกระเบื้อง แต่ลวดลายการเรียงร้อยนั้นเรายังพอเห็นได้ชัดเจน ภายในโบสถ์มีพระประธานปางสมาธิองค์ไม่ใหญ่ ด้านหลังพระประธานมีห้องเก็บพระและสิ่งของๆวัด สิ่งที่น่าสนใจคือภาพจิตกรรมที่บานประตูและบานหน้าต่าง เขียนทวารบาลเทวดาแบบจีน เลยไม่ใช่แบบจีนปนไทย ลวดลายบางบานยังชัดเจนแม้จะผ่านมา ๒๐๐ ปี แต่น่าเสียดายบางบานก็เสียหายไปเยอะ ส่วนผนังแต่เดิมเท่าที่จำได้น่าจะเป็นลายดอกพิกุลเหมือนในวิหาร แต่ลอกไปแยอะทางวัดเลยทาสีขาวทับไว้ อันนี้เท่าที่จำได้เลือนๆเพราะนานแล้ว

















ด้านล่างภาพหอไตรก่อนที่จะมีการบูรณะ





ด้านล่างภาพหอไตรมีการบูรณะเรียบร้อยแล่วสวยงามดั่งเช่นในอดีต



ด้านล่างภาพภาพในโบสถ์และจิตรกรรมที่ยังเหลือที่บานประตูและหน้าต่างของโบสถ์ งานเขียนจิตรกรรมแบบจีนสมัยรัชกาลที่ 3















ด้านล่างภาพเจดีย์ที่อยู่ด้านข้างโบสถ์และมีต้นโพธิ์ใหญ่เก่าแก่หน้าวัด ซุ้มประตูด้านบนมีการปั้นเจดีย์สามองค์







วัดนี้ผมเองเดินทางมาสักการะเป็นประจำเพราะอยู่ใกล้บ้าน และชอบมาทำไมไม่รู้ วัดนี้มีหลวงพ่อพระปางป่าเลย์ไลยก์ที่ทั้งทหารและชาวบ้านในละแวกให้ความนับถืออย่างมาก ทั้งที่มาขอพระและมาทำบุญถวายสังฆทาน ซึ่งสิ่งก่อสร้างในปัจจุบันได้มีการซ่อมแซมพัฒนาไปพอสมควร ในวันสำคัญทางศาสนามีกิจกรรมทางศาสนาเช่นฟังเทศน์ ถือศีลที่วัด เป็นต้น









และต่อมาในปี 2510 กว่าๆมีการขุดพบกรุพระสมเด็จที่พระอาจาย์โตท่านได้สร้างและฝังไว้ ขุดพบเยอะพอสมควรทั้งที่สมบูรณ์และชำรุด ซึ่งในระยะแรกๆยังไม่นิยมแต่กรุนี้ไปเป็นที่นิยมของนักสะสมทางภาคใต้ก่อนและพอนิยมแล้วก็มีคนเสาะหาไปสะสมกัน ปัจจุบันไม่มีแล้วครับ อันนี้เท่าที่ทราบมา ครับวันนี้ถ้าใครอยู่ละแวกนี้หรือผ่านมาแถวนี้หรือจะตั้งใจมาทำบุญก็แวะเวียนมาได้ครับ แค่มาทำบุญก็สุขใจแล้วครับพระศาสนาจะยั่งยืนอยู่ได้พวกเราต้องช่วยทำนุบำรุงสานต่อคำสอนพระพุทธเจ้าครับ วันนี้สวัสดีครับพบกันใหม่คราวหน้าครับ




Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 13:47:21 น.
Counter : 14472 Pageviews.

1 comments
  

โดย: Kavanich96 วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:7:30:26 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

DJ.piggypop
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มีนาคม 2555

 
 
 
 
1
2
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
All Blog