Human won't die without love.
|
||||
Life In Malaysia : 1st Year ค่ะ เรามาเริ่มตั้งแต่ปีแรกกันเลยนะคะ พอมาถึงก็มีคนมารับแต่ที่สงสัยตอนนั้นคือ'มารับกันทั้งตระกูลรึป่าวเนี้ย' คนมารับเยอะมากค่ะเกือบสิบคนได้มั้ง แต่แม่ดันบอกว่ายังไม่ครบยังมีอีกรออยู่ที่บ้าน ตอนนั้นน้ำอายุเก้าขวบแล้ว(มั้ง) พอพูดคุยหยอกล้อกันเล็กน้อย(ตอนนั้นฟังไม่รู้เรื่องเลยได้แค่ยืนเอ๋อ)ก็ขึ้นรถ จำได้ว่ามีรถมาประมาณสองคัน(อัดกันมาได้ไงว่ะ)น้ำก็ได้ขึ้นไปนั่งบนรถเก๋งคันสวย เป็นครั้งแรกค่ะที่ได้นั้งรถเก๋ง ตอนนั้นดีใจมากกกตื่นเต้นด้วย(บ้านนอกจริงๆเลยเรา) ก็คิดว่าเป็นรถป๊าแต่ก็ไม่ไช่เป็นรถน้องสาวป๊าเองรถป๊าจอดอยู่บ้านอ่ะค่ะ ขอแทรกนิดนึง ที่จริงแม่ยังไม่อยากให้มาหรอกค่ะเพราะครอบครัวป๊าเขารับไม่ได้ที่แม่มีลูกติด พวกเขาหัวโบราณมาก ก็ตานประสาคนจีนอ่ะนะ โดยเฉพาะอากง(พ่อของป๊า)รับไม่ได้อย่างรุนแรง ตอนแรกอากงก็ไม่ยอมให้ป๊าแต่งงานกับแม่เพราะแม่ไม่ไช่คนจีนแถมมีลูกติดอีกต่างหาก! แต่ก็นะ ไม่ได้ไปแต่งกับอากงซะหน่อยเดือดร้อนอะไรกันนักหนา อีกคนที่รับไม่ได้คือป้าคนที่2,4&5 พวกนี้ก็หัวโบราณได้โล่จริงๆ ส่วนพวกลุงๆไม่มีปัญหา กลับมาต่อนะคะ อยู่ในรถก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย(เขียนถูกมั้ยน๊อ)ก็คิดว่าบ้านคงเป็นอย่างนั่นอย่างนี้ใหญ่โตหรูหรามีสระว่ายน้ำสรพัดสรเพ(เขียนถูกป่าวเนี้ย)ตามประสาเด็กน้อย(บ้านนอก) รถเริ่มชะลอก็คิดว่าไกลถึงแล้วมองไปข้างหน้า โอ้แม่เจ้า!มันใหญ่มากเจ้าค่ะ เป็นบ้านบังกาลอร์หลังใหญ่หกชั้นมองจากข้างนอกจะเห็นว่ามีลิฟ ชั้นด่านฟ้าเป็นสระว่ายน้ำมีสวนล้อมรอบ รอบๆบ้านก็มีสวนสวยงามมีน้ำตกเทียมที่ใหญ่พอสมควร มีคนกำลังเช็ดรถเบนซ์อยู่คงเป็นคนคับรถละซิท่า อย่าบอกนะว่านี่คือที่ๆฉันจะมาอยู่ พระเจ้าช่วยกล้วยทอดมันยอดมากจร้า งั้นไม่บอกก็ได้เพราะที่นี่ไม่ไช่ที่ๆแกจะมาอยู่(โรคบ้ากำเริบ เล่นกับตัวเองอีกละ) ค่ะ และรถก็เลยไปอย่างน่าเจ็บใจ ที่ชะลอเมื่อกี้คีอรถติดไฟแดงค่ะ ความเจ็บครั้งนั้นยังจำได้มาจนถึงวันนี้ ในที่สุดก็ถึงบ้านป๊า(?)ซะที เป็นบ้านสองชั้นข้างนอกดูเหมือนเล็กแต่ข้างในกว้างมาก ในบ้านมีคนมากมาย เขาจัดปาร์ตี้ต้อนรับน้ำอ่ะค่ะ(ถึงบางคนจะไม่ค่อยจริงใจ) ครั้งนี้มายกตระกูลจริงๆค่ะ เยอะมากเยอะจนไม่อยากนับ เอาเป็นว่าน้ำจะskipรายละเอียดพวกนี้และเรื่องที่หน้าเบื่อไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะเขียนช่วงclimaxเลย(อะไรของแกเนี้ย) ปีแรกเป็นปีที่ไม่ค่อยจะhappyเท่าไหรสำหรับน้ำ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าที่มาเลมีหลายชุมชน หลักๆก็มีจีนมาลายูและอินเดีย มันทำให้น้ำปรับตัวยากเพราะถึงแม้น้ำจะมาอยู่ในครอบครัวคนจีนก็ไม่ได้แปลว่าต้องปรับตัวให้เขากับคนจีนเท่านั้นเพราะยังไงวันนึงเราก็ต้องออกไปพบปะกับสังคมข้างนอก หลังจากเดินเรื่องอะไรต่างๆนาๆเรียบร้อยโรงเรียนมาเลก็ได้เวลาเข้าโรงเรียนละค่ะ ตอนแรกป๊าจะให้เข้าโรงเรียนจีนค่ะ แต่เขาไม่รับ ส่วนเหตุผลที่ให้เนี้ยน่าตบกบาลครูใหญ่มากๆค่ะ เขาบอกว่าน้ำเป็นคนไทยจะเรียนรู้เรื่องรึป่าวก็ไม่รู้และเขาไม่อยากมีภาระและกลัวว่าน้ำจะทำให้ชื่อเสียงอันเก่าแก่(แถมโบราณโครต)ของโรงเรียนเสื่อมเสีย น้ำก็แค่เด็กตัวน้อยๆคนนึงมันจะเสื่อมเสียอะไรขนาดนั้นเลยหรอ? ถ้ามันจะเสียก็เสียที่สันดานครูใหญ่นั่นแหละ ยุบหนอพองหนอ โอเคกลับสู่สภาพเดิม ต่อนะคะ ป๊าโมโหมาก(หนูก็โมโหค่ะสะบัดบอบ)เลยพาไปสมัครที่อื่นและแล้วก็มีโรงเรียนรับเป็นโรงเรียนรวมที่มีทั้งคนจีนมาลายูและอินเดียแต่โรงเรียนนี้จะไม่สอนภาษาจีน ก็ไม่เป็นไรเข้าไปเรียนเลย ที่นี่เขาสอนสองภาษาคือมาลายูกับอังกฤษ ช่วงแรกๆที่เรียนเนี้ยมึนตึบเลยค่ะ อายุก็เก้าขวบละแต่ครูให้ไปเรียนป.หนึ่ง ตัวสูงกว่าเพื่อนเยอะเลย พูดกะฟังอะไรก็ไม่ออก อังกฤษก็ห่วย(ก็เค้าเรียนถึงแค่ป.สามเองนิ)มาลายูไม่ต้องพูดถึง ขี้ไก่มาก เอาเป็นว่าเดือนแรกเข้าไปเนี้ยนั่งเอ๋อ มองหน้าครูอย่างเดียว ตอนอยู่ป.หนึ่งเนี้ยไม่มีเพื่อนเลย ก็เด็กมันไม่อยากคบกับคนใบ้(ก็ว่ากันไป) เข้าเดือนที่สองที่สามก็เริ่มปรับตัวได้ละแต่ก็ยังไม่มีเพื่อนอยู่ดี ก็น้ำยังพูดไม่เก่งเลยอายไม่กล้าพูดกับใคร อยากบอกว่าการบ้านเป็นอะไรที่อยากมากสำหรับน้ำเพราะไม่มีใครสอน ป๊าก็อ่านหนังสือไม่ออกอ่านได้แต่ภาษาจีนซึ่งน้ำไม่ได้เรียน แม่ก็เป็นแต่ภาษาไทย ญาติคนอื่นไม่ต้องพูดถึง จีนเหมือนกัน การบ้านต้องทำเอง แม่ไม่นิยมให้ไปเรียนพิเศษเพราะแม่บอกว่าคนเราถ้าตั้งใจเดี๋ยวก็เป็นเอง(เอ่อ คุณแม่ขาทำไรคุณแม่ไม่ลองมาเป็นหนูบ้างละคะจะได้รู้ว่ามันยากมาก) ก็เลยฟ่าฟัน(เขียนไงอ่ะบอกที)การบ้านและการเรียนมาด้วยตนเองตลอด ขอบอกเลยค่ะว่าเหนื่อยและท้อมาก ผ่านไปสามเดือนก็สอบ สอบยากรึป่าวจำไม่ได้แต่สอบครั้งนั้นได้Aหมดเลย(งงเหมือนกันค่ะได้มาได้ไง) ครูก็เลยให้โดดขึ้นไงชั้นป.๓ณ.ตอนนั้นเลย น้ำใช้เวลาสามเดือนกว่าๆในการเรียนรู้ภาษา พอขึ้นป.๓ก็พูดคุยรู้เรื่องละ ก็บ้ายบายนะจ้ะเด็กป.๑ที่หาว่าชั้นเป็นใบ้ ชิ ในเมื่อภาษาไม่ไช่ปัญหาอีกต่อไปน้ำก็มีเพื่อนน่ะสิคะ พวกเด็กป.๑ที่เคยเห็นน้ำต่างก็งง(มั้ง)ว่าเด็กใบ้คนนั้นทำไมจู่ๆก็เป็นรุ่นพี่พวกเขาไปซะแล้วนี่ 555+ สะไจมากค่ะตอนนั้น พอขึ้นปอสามก็ไม่มีอะไรมากมายหรอกค่ะ รู้จักเพื่อนใหญ่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆฯลฯ ก็ขอจบปีที่หนึ่งแต่เพียงเท่านี้นะคะ นี่ก็ย่อที่สุดแล้วค่ะรู้สึกว่ายาวมาก เขียนอะไรผิดก็บอกกันด้วยเน้อ ปล ติชมกันได้นะจ้ะรึจะเม้นอะไรก็ได้(แค่อยากให้ความหวังตัวเองว่ามีคนอ่านอ่ะ) เจอกันอีกปีที่สองจร้า บอกตอนนี้ทันไหมเนี่ย ฝ่าฟัน เขียนเเบบนี้จ้ะ : )
โดย: โตยธาร วันที่: 29 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:02:09 น.
|
phatchasesshou
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Nice to meet everybody! Group Blog All Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |