Life In Malaysia : 3rd Year
หุหุ สวัสดีค่ะ เขาปีที่สามแล้วนะจ้ะ

ปีนี้น้าก็อยู่ป.ห้าละ ขอเลาเรื่องในโรงเรียนก่อนแล้วกันเน้อ ปีนี้เป็นอีกปีนึงที่น้ำจำได้แม่นยำ

อย่างที่ทราบกันมาว่าปีที่แล้วน้ำได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นlibrarian ซึ่งมันทำให้น้ำได้รู้จักสนิทสนมกับผู้ชายคนนึง เขาชื่อเมลวิน เมลวินเป็นรองประธานlibrarianและเป็นเพื่อนร่วมห้องที่สนิทกับมินยี น้ำก็ได้รู้จักเขาเพราะมินยีเนี่ยหละค่ะ

เมลวินเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูด ตอนแรกน้ำก็ไม่ได้ไส่ใจอะไรหรอกค่ะ คิดว่ามันเป็นนิสัยเขา แต่ก็มารู้ทีหลังว่ามันไม่ใช่

มินยีเล่าให้น้ำฟังว่าเมลวินมีปัญหาครอบครัว เมลวินมีน้องสาวที่อายุน้อนกว่าเขาสองปี ก็เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันนั้นแหละค่ะ น้องเขาเป็นคนเก่งในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นการเรียนกีฬาและฯลฯ เป็นเด็กน่ารักร่าเริงแจ่มใสใครๆก็ชอบ ต่างจากเมลวินที่ดีแต่การเรียนแถมเป็นคนเงียบไม่ค่อยมีคนสนใจ รูปร่างผอม กีฬาเนี่ยไม่เคยแตะเลย ซึ่งมันก็ทำให้ครอบคร้วเมลวินนั้นรักน้องของเขามากกว่าอย่างออกหน้าออกตาไม่เคยแคร์เมลวินเลย มันทำให้เมลวินกดดันและคิดมากเพราะคิดวาพ่อแม่ตัวเองไม่รัก ลำเอียงอย่างแรง

จนบางครั้งเขายังว่าที่บ้านเขาน่ะก็นรกดีๆนี่เองและเขาก็เกลียดน้องตัวเองด้วย

ที่มินยีเล่าให้น้ำฟังไม่ใช่เพราะเขาปากสว่างหรอกแต่เพราะเห็นเราเป็นเพื่อนสนิทและเป็นคำตืนให้น้ำอย่าไปพูดเรื่องที่เกี่ยวกัยครอบครัวต่อหน้าเมลวินเพราะเขาเป็นคนsensitiveเรื่องนี้มาก

แล้วหลังผ่านไปสามกว่าๆเดือนเมลวินก็ไม่มาโรงเรียนอีกเลย น้ำก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรมินยีก็ไม่รู้เหมือนกัน พอผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ก็มีครูที่สนิทกันมาบอกว่าเมลวินเขาโรงพยาบาลแต่ไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร

และแล้วพอผ่านมาอีกสามวันครูใหญ่ก็ออกมาพูดว่าเมลวินมีเนื้องอกในสมองและจะได้เขารับการผ่าตัดในวันนั้นและอย่างให้นักเรียนทุกคนภาวนาให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี ตอนนั้นน้ำก็ตกใจแต่ไม่ได้คิดอะไรมากมายเพราะคิดว่าสมัยนี้หมอเก่งๆมีเยอะ คิดแบบว่ารอดแน่ๆ ไม่ห่วงอะไรกินเข้านอนหลับตามปกติ

วันรุ่งขึ้นไปถึงโรงเรียนก็พูดคุยกับเพื่อนฝูง พอครูเข้ามาครูบอกว่าวันนี้ไม่สอน นักเรียนทุกคนโห่ร้องดีใจ กรี้ดกันลั่นห้องเพราะครูคนนี้เหี้ยมมาก ก่อนหน้านี้จะขอแกพักแค่ห้านาทียังไม่ได้เลย

แต่แล้วทุกคนก็ต้องอยุดชะงักเพราะล้มลงไปบนเก้าอี้และปล่อยโหอย่างแรง น้ำตาใหลอาบแก้มครูจนต้องเอามือปาดไปปาดมา นักเรียนที่ตั้งสติได้ก็พากันแห่ไปปลอบครูแล้วถามว่าครูร้องให้ทำไม ครูก็ตอบแบบเสีองสะอึกสะอื้นว่า

เมลวินเสียแล้ว

เท่านั้นแหละค่ะ พวกที่ปลอบครูเมื่อกี้ก็ร้องตามครูไปด้วย พวกที่ยืนเอ๋อก็เอ๋อต่อไปซึ่งน้ำนี่แหละค่ะหนึ่งในนั้น ยืนเอ๋อได้พักนึงก็ไปนั่งที่โตะตัวเองเงียบๆ คือตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าตอนนั้นเสียใจดีใจร้องให้หรืออะไรทั้งสิ้น ถามว่าช็อกมั้ย ก็ไม่รู้เหมือนกัน อธิบายไม่ถูก

พอครูเริ่มจะหยุดร้องก็บอกต่ออีกนิดนึงม่าเมลวินเพิ่งเสียเมื่อเช้านี้เองการผ่าตัดไม่สำเร็ทเพราะเนื่องอกนั้นใหญ่มาก

พวกเพื่อนที่รู้จักเมลวินก็ร้องห้มร้องไห้กันไป ส่วนไม่รู้จักบางคนก็เงียบบางคนก็คุยกันหัวเราะกันตามปกติ(ก็เด็กอ่ะเนอะมันคงไม่คิดอะไร) ส่วนน้ำก็นั่งเงียบค่ะไม่ได้ร้องไห้ เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง ในสมองแบบว่าว่างเปล่าไม่คิดอะไรเลย

พอถึงเวลาพักเที่ยงก็ต้องไปเข้าเวรที่ห้องสมุด พอเปิดประตูเข้าไปก็จะเห็นlibrarianหลายคนกำลังร้องไห้อยู่หนึ่งในนั้นก็มี่มินยีอยู่ด้วยซึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟา น้ำก็เดินเข้าไปหาเขาแล้วก็นั่งข้างๆคอยลูบไหล่แล้วบอกว่าไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องร้อง(เพี้ยนค่ะไม่รู้พูดออกไปได้ไงเลวสุดๆ) เพื่อนสนิทที่เรียน้องเดียวกันถึงกับพูดแบบปากสั่นเลยค่ะว่าน้ำไม่รู้สึกอะไรเลยหรอเห็นตั้งแต่อยู่ในห้องเรียนละ ไม่ใจดำไปหน่อยหรอ แบบว่าจำได้ขึ้นใจเลยค่ะ

น้ำก็ไม่ตอบและคอยปลอบมินยีอยู่นั่นแหละ จนน้ำเหนื่อยเขาก็ยังไม่หยุดทุกคนยังร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเดิม และแล้วน้ำก็มีอาการแน่นอกเหมือนเพิ่งคิดอะไรได้ น้ำก็เอามินยีมากอดแล้วเอาหน้าซบไหล่เขา แล้วมินยีก็ลูบหลังน้ำเบาๆ เท่านั้นแหละค่ะน้ำตาก็ไหลออกมาจากตาของน้ำเหมือนถ่อแตก ที่ลูบนี่หมือนเป็นเชิงว่าปล่อยออกมาเหอะอะไรประมาณนั้น

ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้น้ำความรู้สึกช้าหรือว่ารับรู้แต่ไม่อยากรู้สึกกันแน่ เหมือนกลั้นไว้แต่ไม่รู้ตัว จำได้ว่าตอนนั้นร้องนานมากเยอะมากจนแขนเสื้อมินยีเปียก ตอนแรกคอยแต่ปลอบเขา ตอนนี้ตัวเองเป็นฝ่ายโดนปลอบเพราะคนอื่นเขาหยุดร้องกันไปนานแล้ว

เชื่อมั้ยค่ะ วันนั้นร้องไห้จนเป็นลมโดนหามเขาห้องพยาบาลแถมดอนครูตบหน้าให้ฟื้นอีกหลายชาด จนครูโทรเรียกแม่ไห้มารับเพราะไม่ไหวแล้ว พอถึงบ้านก็นอนเป๊ปนึงตื่นขึ้นมาโดนแม่ด่ายาวเลยค่ะ เหอๆ

วันรุ่งขึ้นไปโรงเรียนแบบตาบวมฉึ่ง ก็ไม่อายหรอกค่ะเพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา และก็มีคนนินทาด้วยค่ะว่าที่น้ำร้องไห้เนี่ยเพราะไม่อยากถูกตราหน้าว่าใจดำ

น้ำรู้ค่ะว่าถูกนินทาลับหลังแต่ไม่สแดงออกเฉยๆและไม่คิดจะแก้ข่าวอะไรด้วยเดี๋ยวเรื่องมันจะยาว (แหม...ทำยังกะตัวเองเป็นดารา) ก็ใครจะว่าอะไรก็ช่างหัวเขาเถอะค่ะ น้ำก็ทำตัวไม่สนใจใครเหมือนเคยๆ

พอถึงวันเผาศพก็มีนักเรียนในโรงเรียนไปกันหลายคนซึ่งครูขับรถไปส่ง แต่น้ำไม่ได้ไปกับเขาหรอกค่ะเพราะป๊าไม่ให้ไปเขาถือ แต่มินยีไปค่ะ น้ำจำได้ตอนครูมาส่งพวกที่ไปงานกลับมาโรงเรียนทุกคนลงรถพร้อมกับน้ำตา น้ำก็คอยปลอบมินยีไป ครั้งนี้ไม่ร้องแล้วค่ะ ทำใจได้แล้ว คิดซะว่ากรรมใครกรรมมัน เมลวินคงทำบุญมาได้แค่นี้เอง หลังจากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็ใช้ชิวิตตางปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขอเรียนเรื่องการจัดงานศพนิดนึงน้า

คนจีนส่วนมากจะนิยมฝังศพค่ะ แต่ที่เผาศพเมลวินเพราะเขาตายผิดธรรมชาตินั้นก็คือไม่ได้แก่ตาย บางคนที่แก่ตายแต่ถูกเผาก็มีเพราะการจัดการศพแบบเผาจะใช้เงินน้อยกว่าในการทำพิธีถ้าเทียบกันกับแบบฝัง

ถ้าฝังศพญาติผู้ตายต้องซื้อที่ซึ่งแพงมากเกือบแสนหรือแสนกว่าๆก็มีแล้วแต่ความกว่างของที่และทำเลที่ฝัง ที่ๆฝังยัถูกตกแต่งด้วยหินอ่อนแต่บางรายที่ไม่ตกแต่งก็มีเพราะค่าตกแต่งหินและที่ฝังศพนั้นแพงมาก นอกจากนั้นยังต้องให้ค่าจ้างทำความสอาดทุกๆปีด้วย

ส่วนชิวิตในครอบครัวก็ยังเหมือนเดิม น้ำได้เรียนรู้ว่าอยู่อย่างนี้ก็ดีไปอีกแบบเพราะถ้าไม่มีใครรักเราเราก็ไม่ต้องไปรักใคร มีรักจากแม่กับป๊าก็พอ มันสอนให้น้ำรู้ว่าความรักเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่สำคัญกับชีวิตน้ำเลย น้ำก็ได้เรียนรู้ด้วยว่าการที่ต้องอยู่ในที่ๆมีแต่คนเกลียดและดูถูกเราต้องทำต้วยังไง

ซึ่งไม่อยากค่ะ ก็ทำตัวให้เขาเกลียดและน่าหมั่นไส้มากยิ่งขึ้นไงค่ะ อย่าเพิ่งเขาใจผิดนะคะ ที่ทำตัวให้น่าหมั่นไส้ไม่ได้แปลว่าเราต้องทำตัวเลวแต่ทำตัวเองให้ดูดีกว่าเดิมต่างหาก เพราะน้ำรู้ว่าความเกลียดชังทำให้จิตใจของคนไม่สงบและความเกลียดที่พวกเขามีต่อน้ำเกิดขึ้นเมื่อเห็นว่าน้ำได้ดีกว่า

ยกตัวอย่างเช่นอยู่ๆน้ำก็มาเป็นลูกป๊าซึ่งป๊านั้นเป็นคนที่มีฐานะดีที่สุดในครอบครัวและป๊าก็ตามใจน้ำมากๆอยากได้อะไรก็ซื้อให้ ปกติน้ำก็ไม่ชอบซื้ออะไรหรอกแต่น้ำจะซื้อเวลาอยู่อยู่ต่อหน้าพวกป้าๆ แบบว่าจะทำประชดไง ซึ่งปีนี้น้ำขอซื้อโทรศัพท์มือถือ ขอต่อหน้าพวกป้านั่นแหละ แหมพอพูดจบเนี่ยเสียงคัดค้านลอยมาเลยค่ะ บอกว่าเด็กบ้างละไม่จำเป็นต้องมีบ้างละแพงบ้างละฯลฯ

โอ็ย คุณป้าทั้งหลายขาน้ำก็ไม่อยากได้หรอกค่ะ ที่น้ำอยากได้คือความสะใจและสีหน้าแตกตื่นของพวกป้าเนี่ยแหละค่า

และวันรุ่งขึ้นป๊าก็ไปซื้อโทรศัพท์มือถือมาให้จำได้ว่าเป็นโนเกีย เวลาไปบ้านป้าก็เอามากดเล่นต่อหน้า เอาเลยค่ะ จะด่าจะว่าจะแช่งหรืออะไรก็เชิญเพราะป้าคงทำได้ก็แค่คิดมันอยู่ในใจ

อีกอย่างนึงก็คือในครอบครัวนี้ไม่เคยมีใครเรียนดีเลย น้ำก็เลยทำตัวเป็นเด็กดีที่โรงเรียนเพื่อที่จะได้รางวัลมากมายมาอวดและสอบให้ได้ที่หนึ่งที่สองทุกปี ไม่ใช่ว่าชอบเรียนอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่เพื่อความสะใจน้ำทำได้ทุกอย่าง เฉพาะเรื่องดีดีนะคะ

ผลที่ได้ไม่ใช่แค่ความสะใจแต่ได้ทั้งความภาคภูมิใจด้วย

น้ำขอเป็นคนพูดน้อยแต่จัดแรงดีกว่าเป็นคนพูดแรงแต่จัดน้อย

ฆ่า(ไม่)ได้หยามไม่ได้นะจ้ะ

จบแล้วจร้า เจอกันปีสี่นะคะ ^o^

ปล. นิสัยที่น้ำทำไม่ค่อยดีอย่าเอาเป็นตัวอย่างเด้อ



Create Date : 13 มีนาคม 2554
Last Update : 13 มีนาคม 2554 16:31:13 น.
Counter : 430 Pageviews.

1 comments
  
น้ำนี่ไม่ธรรมดาเลยครับ
โดย: aodbu วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:21:14:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

phatchasesshou
Location :
Kuala Lumpur  Malaysia

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Nice to meet everybody!
มีนาคม 2554

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
13 มีนาคม 2554