ไปมาแล้ว Gothenburg ;)
ไปมาแล้ว Gothenburg เมื่อ Weekend ที่ผ่านมาตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อขับรถรวดเดียวไปถึงที่ซื้อของ ที่เขาว่ากันว่าถูกที่สุดในยุโรปกระนั้นทีเดียวไปถึงประมาณ 9โมง เช้า แต่คิวเพื่อจะเข้าไปซื้อของนั้นยาวมาก เอ๊ะ ทำไมถึงมีคิวนี้ล่ะ เมื่อก่อนมาตั้งหลายหนมิเห็นเคยเจอ เห็นคิวยาวชักท้อ อยากจะกลับ คุณพ่อบ้านบอกว่า เอาเหอะไหนๆ ก็มาแล้ว เขาจะเข้าคิวเอง ให้เรากับลูกๆ เข้าไปอยู่ข้างในที่อุ่นๆตกลงตามนั้น ก็เดินไปห้องน้ำ มีแต่น้องเท็นที่ตามมาเพราะน้องจีนอาสาอยู่เป็นเพื่อนป๊ะปา เข้าห้องน้ำเสร็จเอ๊ะ มันมีทางเข้าไปในห้างนี่นา ก็เดินเข้าไปธรรมดาๆนี่แหละไม่ต้องไปต่อคิวกับคนที่ปรารถนาจะเอารถเข็นเข้าไป ว่าแล้ว เราก็เข้าไปหยิบๆของที่ต้องการใส่ตะกร้าไว้ก่อน แล้วพอรถเข็นเข้ามาค่อยเอาใส่รถเข็นอีกที เดินเดินเดินประมาณ 1.30 ชั่วโมง ถึงได้รถเข็นเข้ามา สงสารแฟนกับน้องจีนเป็นที่สุด โทรไปทีไร ยังไม่ถึงคิวที่จะเข้ามาสักทีเราก็ร่ำๆจะกลับตอนรอคิวหลายหน แต่คนรอทั้งสองคนบอกเขารอได้ไม่เป็นไร โอ้ว นี่เสียเงินซื้อของนะ ไม่ได้มารับแจกฮือๆๆๆ คิดแล้วบอกตัวเองจะไม่มาอีกแล้ว หรือไม่ก็คราวหน้าไม่เอารถเข็นแล้วจะซื้อๆใส่ตะกร้า แล้วเดินหลายรอบหน่อยเพื่อไปเก็บที่รถ แต่ของในนั้นถูกจริงๆ ซื้อผ้านี่ราคาเท่ากับ หรือถูกกว่าเมืองไทยและคุณภาพพอใช้ได้เลย ซื้อๆ จนรถเข็นเต็ม เลยพากันกลับรถจอดไกล คุณสามีก็บอกให้รอตรงนี้จะไปเอารถมาให้ สักพักเดินหน้าจ๋อยกลับมาว่า รถลืมปิดไฟหน้า แบตเตอรี่หมดอีก โอยย ชีวิต แต่โชคดี มีพนักงานของที่นั่นเข้ามาช่วยเหลือเลยได้ออกมากัน มาเช็คอินเข้า รร ช้าอีก เกือบจะ 5โมงได้ ทีแรกกลัวเขาจะเอาห้องให้คนอื่นไป ก็ได้พี่คนไทยใจดี แกโทรไปคอนเฟิร์มให้ว่าเอาแน่ แต่มาช้าหน่อย เอาของเก็บเข้าโรงแรมกันแล้วก็วิ่งๆ กลับมาที่รถ เพื่อจะไปให้ทันสวนน้ำในร่ม จะปิด 6โมงเย็นไปถึง จะซื้อตั๋วเขาย้ำแล้วย้ำอีกว่า เธอเล่นได้อีก 1 ชม.เท่านั้นนะเอาค่ะเอา พวกหนูอยากเล่นน้ำค่ะ แต่ไม่วายต่อรองว่า เอไม่มีส่วนลดเลยเหรอ เล่นได้แค่ชั่วโมงเดียว พูดเสร็จยิ้มหวานๆให้อีก 1 ที (แต่เขาอาจจะเห็นว่าน่ากลัว? ) เลย ลดราคาให้อีกนิดหน่อย ฮิฮิ ดีกว่าไม่ได้ลดละเนอะ เข้าไปได้ก็ว่ายๆๆๆ เข้าซาวน่า(ที่บ้านก็มีนะซาวน่านี่น่ะ แต่เข้าไม่ได้เพราะเป็นที่เก็บของไปซะแว้วววว) แป๊ปเดียว 1 ชั่วโมง เดินออกมาตัวเบาไปตามๆกัน สดชื่นจริงๆแล้วก็กลับมา รร อีกคราเพื่อมาเอาของฝาก ไปหาพี่คนไทยใจดี ที่มีลูกสาวสวยและสามีรวย(เป็นล้าน) เรานัดเจอกันที่ร้านอาหารอินตะระเดียเวลา 19.15 ทีแรกกะว่ารับประทานอาหารแล้วจะคุยกันสัก 20.30 แล้วจะพาลูกไปต่อที่สวนสนุก เพราะเขาเปิดตอนกลางคืนไฟสวยมาก(แต่ไม่สวยเท่าเมืองไทยหรอกจ๊ะ) คุยกันไปคุยกันมา เม้าธ์เรื่องนั้นเรื่องนี้ เช่น ข่าวอัพเดทวงการบันเทิงประเภท มิตร ชัยบัญชาเสียชีวิตแล้วนะ พี่เขาก็ไม่ยอมแพ้ บอกข่าวอัพเดทสุดๆมาเหมือนกันว่าร็อค ฮัทซัน ก็เสียชีวิตแล้วเช่นกัน ...จริงๆแล้วไม่ใช่ เม้าธ์เรื่องลูกเรื่องสามี เรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ไปถึงเรื่องการเรียน และดิฉันพยายามจะหาจังหวะที่จะขอยืมเงินพี่เขา แต่แกบอกเหมือนจะรู้แกว บอกเปรยๆว่า พี่ซื้อบ้านใหม่(ใช่ซินะซื้อบ้านใหม่ต้องใช้เงินเยอะ) คริคริ ไม่ใช่นะ ไม่ได้จะยืม(แต่อย่าเผลอนะ)สรุปคุยกันจนเจ้าของร้านร่ำๆจะไล่ ดูนาฬิกาอีกที อ้าวจะสามทุ่มครึ่งแล้วได้เวลาเช็คบิล ตัวสามีดิฉันก็ทำตามแผนการที่ซ้อมกันมาอย่างดีคือ แว่บไปเข้าห้องน้ำ ทำให้คุณอีริค สามีพี่เจิน แกทนไม่ได้ต้องจ่ายแทน คราวหน้าถ้าเจอกันอีก แผนปวดชิ้งฉ่องคงไม่ได้ผลต้องคิดแผนดีๆ หน่อยว่าจะอะไรกันดี เช่นๆๆ ลืมกระเป๋าตังค์ไว้ในรถ? หรืออะไรดีน๊า เอ่อ ไว้ใกล้ๆก่อนแล้วค่อยคิดกันอีกที(จะมีใครอยากนัดเจอเราไหมเนี๊ยะ จริงๆ คือคุณErickแกสิงห์ปืนไวมาก) ร่ำลากันด้วยความอาลัย ปีหน้าฟ้าใหม่คงจะได้เจอกันอีกครา Tack för senast !! ระหว่างทางเดินมาที่รถอิชั้นก็พยายามปลอบโยนน้องเท็นน้องจีนว่าเราคงไปสวนสนุกไม่ได้แล้ว เขาใกล้ปิดเต็มที่แล้ว แต่ปรากฎว่าทั้งสองลูก บอกพร้อมกันว่า ไม่เอาล่ะจ๊ะแม่ จริงๆแล้วพวกเราก็ไปสวนสนุกนี้มาประมาณ 5 ครั้งได้แล้ว คราวนี้ไม่ได้ไปก็ไม่เป็นไรหรอก (เอ๊า กลายเป็นลูกปลอบแม่ จนพ่อหันมาถามว่าตกลงใครกันแน่ที่อยากจะไป? ) อ่ะกลับโรงแรมกันเลยงั้นตอนเช้าตื่นมาเกือบ 9โมง แต่งตัวออกไปสู้กันฝูงชนที่บุฟเฟ่ต์ไลน์ยอมรับเลยว่า อาหารเช้าเขาเยอะมาก สมกับเป็นโรงแรมสี่ดาว อิชั้นกระซิบบอกลูกๆ และสามีว่า กินไปเยอะๆนะจ๊ะ แล้วไปกินอาหารอีกที สัก บ่ายๆ หน่อย แหะแหะ เสร็จก็ตระเวณไปร้านขายของไทย ซื้อของเสร็จ นึกได้ เอ๊ะ เราลืมอะไรไปหรือเปล่านะ กรี๊ดด เราลืมถ่ายรูปนี่เองมานึกได้ก็ตอนจะกลับ ก็เลยไปถ่ายได้สัก 10 กว่ารูปแล้วทำเวลา ไป IKEA ต่อ ที่นี่เองที่ ดิชั้นและสามี มีปัญหากันหลังจากเอาลูกไปเก็บ เอ้ย ไปฝากที่มุมเด็กเล่นแล้ว ก็จะเดินซื้อของกันจะหยิบจะจับอะไร จะมีเสียงกระซิบแผ่วๆ ว่า " รถเราที่ไม่พอแล้วนะ" หรือไม่ก็ " รถแน่นแล้วเมียจ๋า" เอ๊ะ ใครที่ไหนมากระซิบ อ้อ อีนังสามีนี่เอง เลยหันไปเม้งว่า อ้าว รถไม่มีที่ขน แล้วจะพามาทำไมล่ะ มาให้เกิดกิเลสแล้วซื้อก็ไม่ได้ ว่าแล้วก็งอนๆๆๆๆ ไป 1 นาที คุณนังสามีก็บอกว่า เอาเหอะ ซื้อไปเลย ตามใจ แล้วให้เขาส่งทางไปรษณีย์ไปก็ได้ ยอมแล้ว แต่อย่างอน ไม่งอนยังน่ากลัวอยู่แล้ว งอน ๆ แบบนี้ น่ากลัวมาก ฉันลืมใส่พระมาซะด้วยเลิกงอนเถอะ ขนหัวลุกหมดแล้ว ดิฉันก็เลยโอเคเลิกงอนเพราะตกใจที่เห็นสามีที่ศีรษะไม่ค่อยมีผม แล้วยังอุตส่าห์ขนหัวลุกแต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้ซื้ออะไรมากเท่าไหร่(เชื่อกันไหม?)ขากลับขับรถกลับรวดเดียวถึงบ้าน เราแม่ลูก มากอดป๊ะปา พร้อมทั้งบริการนวด แม่นวดหลังลูกทั้งสอง นวดขาคนละข้าง เป็นการเอาใจที่ป๊ะปาพาไปเที่ยวทริปนี้ ขอบคุณค่ะคุณสามีและคุณพ่อที่ร๊ากปล. มีรูปให้ชมแค่นี้นะคะ เพราะลืมถ่ายจริงๆ รูปแรกนี่จัดว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยนั่นคือรถรางค่ะ