บทที่ 22 .จะเป็นชาวกรุง อีกแค่ 2 วันเท่านั้น
8 ปีที่ใช้ชีวิตเป็นคนกรุง
ยังจำได้ดีในวันที่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านพ่อใหม่ ๆ
ตอนนั้นยังนอนร้องให้ทุกวัน คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่จากมา คิดถึงแม้กระทั่ง
โต๊ะเขียนหนังสือ โคมไฟ ปากกา แก้วน้ำ
เป็นอย่างนั้นอยู่ 2 อาทิตย์ ก็เลยหนีออกจากกรุงเทพ
กลับไปบ้านยายที่โคราช พอได้กลับไฟชาร์ตพลังให้ตัวเอง ก็กลับมาเรียน
และทำงาน จนจบราม ในเวลา 4 ปี ระหว่างนั้นก็นาน ๆ ถึงได้ไปหายายที
พักหลัง ๆ ก่อนจะเรียนจบ ก็บ้าทำงาน ทำงานวันนึง ๆ มากกว่า 15 ชั่วโมง
ทำงาน 2 ที่ ไม่มีวันหยุด ประกอบกับต้องไปเรียนด้วย ไม่งั้นก็จะไม่จบ
ทำให้ไม่ได้ไปหายายอีกเลย
..
ตอนนี้จบมาก็ 3-4 ปีแล้ว ครั้งล่าสุดที่กลับไป
โดนยื่นคำขาดให้ ลาออกจากงาน ไอ้เราก็อึ้งไปพักนึง แต่เพราะคำพูด
ที่ยายพูดว่า "ถ้าเราไม่กลับไปตอนนี้ และถ้าเค้าตายไป เราจะเสียใจ"
ทำให้ตัดสินใจลาออก
และกลับไปอยู่บ้าน ขายของชำ ไปเป็นอาเจ้
สังคมที่เคยมีทุกอย่างจะหายไป เกือบหมด
ไม่ต้องทำงานเป็นกะ นอนไม่เป็นเวลา
เพื่อนที่ในพันทิป ที่เคยกินข้าวกันทุกวันศุกร์ ก็จะไม่มีอีกแล้ว..
ห้องที่เคยอยู่คนเดียว โลกส่วนตัวที่เคยอยู่ทุกวัน ก็จะไม่มี
มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเรื่องที่ร้านทั้งหมด
คิด ๆ ไปก็ใจหาย
ไอ้เราก็ติดเพื่อน ติดเน็ต ติดสังคมที่นี่ จากไปก็คงจะเหงาเหมือนกัน
แต่อย่างน้อยก็ยังดี ที่มีอินเตอร์เน็ต อย่างน้อย ก็ทำให้ระยะทางความคิดถึง
มันสั้นลงบ้าง
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้กลับเข้ามาอีกซะเมื่อไร
เพราะมันมีบางอย่างที่ยังเลิกไม่ได้ นั่นก็คือ "เด็ก ๆ"
มิใช่เด็กหนุ่ม ๆ แต่อย่างได
เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ค่าย smart D camp ที่ไปเป็นพี่เลี้ยงมาเกือบ ๆ 3 ปีแล้ว
และจะยังทำต่อไป
27 ธันวาคม นี้ เป็นวันสุดท้ายที่จะใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ
11-18 มกราคม มาเข้าค่ายกับเด็ก ๆ
อิอิ
เสียบางอย่าง แต่สิ่งที่ได้ ก็มีอีกตั้งหลายอย่าง คุ้ม ...
Create Date : 24 ธันวาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 24 ธันวาคม 2552 2:53:34 น. |
Counter : 556 Pageviews. |
|
|
|
ย่างเข้าปีใหม่สุขใจทุกวัน
ไม่ว่าปีไปวันไหม่เวียนผ่าน
กาลเวลาแสนนาน
ขอให้ยังเบิกบานในใจ
ขอให้มีความสุขตลอดปี
ไม่ว่าปีนี้หรือปีไหนๆวันเปลี่ยนเวียนไป
ขอให้สุขใจจริงเอย