ปัญหาอีกอย่างที่พบหลังจากเลือกมือถือในดวงใจได้เเล้วก็คือ จะซื้อที่ไหนล่ะ ? เเต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสียเเตกต่างกันไป เอาเป็นว่า มาดูกันดีกว่า ว่าเราจะซื้อไหนได้มั่ง 1. ศูนย์บริการ
ถ้าคุณเดินห้างบ่อยๆ จะพบว่า ร้านขายมือถือที่มีมาตรฐานที่สุดคือ ศูนย์บริการครับ เนื่องจากมีมาตรฐานการบริการที่ดี เเละสามารถหาได้เเทบทุกห้างเลยทีเดียว เเม้จะตามต่างจังหวัดก็ตาม จะว่าไปเเล้ว มาดูนิยามของศูนย์บริการกันครับ
- ราคาเเพงกว่าข้างนอก แต่บางครั้งก็จัดโปรเด็ดกระชากใจได้เหมือนกัน ต้องติดตามดีๆ
- มีสาขาให้บริการทั่วไทย
- มีมาตรฐานในการบริการ (ขึ้นอยู่กับร้านนั้นๆ)
- เคลมตามเงื่อนไขของบริษัท (ยุ่งยากแต่ชัวร์)
- มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย (เรียกบ้านๆ ว่า โปรโมชั่น)
- สามารถใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ พร้อมโปร 0 เปอร์เซ็นต์บ่อยครั้ง
- เวลาซื้อสมาร์ทโฟนบางแบรนด์เช่น HTC, Acer ร้านใหญ่ๆ นี่แหละมีแน่นอน
2. ร้านขายส่ง
ถ้าคุณต้องการมือถือซักเครื่อง เเต่ดูราคาที่ศูนย์เเล้ว เเพง !! บางทีก็ของหมด ดังนั้น ร้านขายส่งจึงเป็นอีกทางเลือกสําหรับผู้ที่ต้องการของราคาถูกกว่า (คุณภาพเท่าซื้อศูนย์) เเต่ของดีอย่างนี้ ไม่ได้หากันได้ทั่วไทยเเน่นอน เรามาดูนิยามการซื้อเครื่องร้านส่งกันเถอะ
- ขายเฉพาะเครื่องมือ 1 เท่านั้น จะไม่มีมือ 2 ปนเด็ดขาด (ถ้าเป็นร้านส่งเเท้ 100%)
- มักมีตามเเหล่งมือถือเท่านั้น เช่น มาบุญครอง, ฟิวเจอร์รังสิต ส่วนตามต่างจังหวัด จะพบเฉพาะในเมือง เช่น เเม่วังสื่อสาร
- บางแบรนด์จะไม่มีในร้านดังกล่าว เช่น HTC, Acer, Oppo
- ราคาถูกกว่าศูนย์บริการ 5-10 เปอร์เซ็นต์จากราคา End-User
- เครื่องที่นํามาขายส่วนใหญ่จะไม่ค้างสต๊อกเกิน 1-2 เดือน ยกเว้นรุ่นที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม
- การให้บริการลูกค้าขึ้นอยู่กับร้านนั้นๆ
- ส่วนใหญ่ไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย
- การเคลมเครื่อง บางร้านจะไม่รับเคลมทุกกรณี เเต่บางร้านรับเคลมตามเงื่อนไข ตรวจสอบให้ดีๆ
- รับบัตรเครดิตเป็นบางร้านเท่านั้น (รับแล้วชาร์จ 2.5-3 เปอร์เซ็นต์)
- เหมาะสําหรับผู้ที่มีความรู้ในการเช๊คเครื่องบ้าง ซื้อเหมาเยอะๆ บุคคลทั่วไปก็ซื้อได้เช่นกัน
3. ร้านตู้
ตามเเหล่งมือถือส่วนใหญ่เราจะพบร้านตู้มากที่สุดครับ เพราะใช้ต้นทุนในการเปิดไม่มาก เเต่ได้กําไรค่อนข้างดี เน้นรับ-ขายมือ 2, ฝากเครื่อง ส่วนการขายเครื่องมือ 1 นั้น เเม้ว่าจะไม่ได้ขายโดยตรง เเต่ก็สามารถจัดให้ได้ครับ มาดูกันว่า นิยามสําหรับการซื้อเครื่องร้านตู้นั้นคือ ..
- สามารถต่อรองราคาได้ ทั้งมือ 1-2
- ผู้ซื้ออาจจะโดนชาร์จราคาบ้าง เเต่บางครั้งก็สบายสําหรับผู้ที่ไม่ต้องการหาหลายๆ ร้าน
- มักจะมีบริการเสริมให้เช่น ติดฟิล์ม ลงเพลง ลงโปรแกรมให้
- ต้องใช้ความสามารถในการดูเครื่องมากพอสมควร ทั้งภายนอกเเละภายใน (กรณีที่คลางเเคลงใจ)
- การบริการหน้าร้านขึ้นอยู่กับร้านนั้นๆ
- การเคลมของค่อนข้างยากเล็กน้อย เนื่องจากไม่ใช่ผู้ขายโดยตรง
- ส่วนใหญ่ไม่รับบัตรเครดิต
4. ร้านค้าออนไลน์
ปัจจุบันการค้าผ่านระบบออนไลน์ (E-Commerce) ฮิตเป็นเทน้ำเทท่า ดังนั้นจึงเกิดร้านค้าต่างๆ ในอินเตอรเน็ตมากมาย อย่างร้านมือถือหลายๆ ร้านก็หันมาเปิด/รับสั่งบนเน็ตมากขึ้น แต่ก็ต้องดูดีๆ ครับ เพราะการฉ้อโกงบนเน็ตทำได้ง่าย และโดนกันมาเยอะแล้ว ...
- tohome น่าไว้ใจสุดในบรรดาร้านมือถืออนไลน์ เพราะเปิดมา 11 ปีละครับ แต่ผมก็ยังไม่เคยใช้บริการนะ เหอๆ
- ส่วนมากจะให้จ่ายตังผ่านการโอน หรือบัตรเครดิต
- ราคาส่วนมากจะปกติ แต่บางครั้งก็มีโปรโมชั่นเสริม เช่น Tarad.com จัดโปร Dell Streak 19900 บาท เป็นต้น
- บนเว็บบอร์ดควรศึกษาผู้ขายให้ดี หากทำมานาน ไม่มีประวัติก็ไว้ใจได้ แต่ก็อย่านิ่งนอนใจไปนะจ๊ะ
- เนื่องจากการซื้อแบบดังกล่าว ไม่ได้จับเทสของสดๆ ต่อหน้า ดังนั้นต้องศึกษาเงื่อนไขการเคลมจากผู้ขายให้ดี
บทความนี้ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อที่ไหนเป็นพิเศษนะครับ ซึ่งผู้ซื้อต้องตัดสินใจให้เหมาะสมด้วยตนเอง เพื่อที่จะได้เครื่องที่ดีที่สุดที่เราต้องการ