ครั้งหนึ่งกับ The Scenery ราชบุรี

เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2548 ผมมีเพื่อนมาจากต่างประเทศแวะมาเยี่ยม ก็เลยคิดว่าจะพาเพื่อนไปเที่ยวต่างจังหวัดซักหน่อย ทีนี้ถ้าจะไปพัทยาหรือทะเลที่อื่นก็ไปมาบ่อยแล้ว ก่อนหน้านั้นผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ส่วนไลฟ์สไตล์ เจอรีสอร์ทที่เพิ่งเปิดใหม่ชื่อ The Scenery ที่จังหวัดราชบุรี พอเห็นภาพรีสอร์ทที่สวยแปลกตา ก็เกิดความสนใจทันที เลยจัดแจงหาเบอร์โทรศัพท์แล้วโทรไปสอบถาม ก็ได้จองบ้านพัก ซึ่งเป็นหลังขนาดกลาง พักได้ 2+2 คน ไว้เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2548

ผมออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ช่วงสายๆ แล้วก็แวะทานอาหารเที่ยงที่ตัวเมืองราชบุรี จากนั้นก็แวะเที่ยวที่ในเมือง ซึ่งมีวัดเก่าๆ อยู่หลายวัด บางวัดได้ยินแต่ชื่อ แต่ไปไม่ถูก ก็ได้คุณลุงใจดี ขับรถนำไปให้ ขอบคุณมากๆ ครับ

ระหว่างทางไปอำเภอสวนผึ้ง ผมก็แวะเที่ยว ถ้ำจอมพล เข้าไปดูในถ้ำซักพักนึง คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ลิงเยอะมากข้างนอกถ้ำ จากนั้นก็ไปต่อ เพราะว่าใจจดจ่ออยู่ที่ The Scenery ซึ่งอยากจะไปให้เห็นใจจะขาด
ขับรถไปตามแผนที่ บนถนนเส้นที่จะไปบ่อน้ำร้อนบ่อคลึงไม่นานก็เจอไก่น้อยสีขาว และป้ายชื่อรีสอร์ทเล็กๆ ก็เลี้ยวเข้าไปเลยครับ

ถึงแล้วครับ The Scenery รีสอร์ทเล็กๆ แต่สวยมากๆ ตอนที่ผมไปนั้น มีห้องพักเพียงสามห้อง สามแบบ หลังแรกเป็นบ้านใหญ่ สองห้องนอนพร้อมห้องครัว หลังต่อมาบ้านขนาดกลางพักได้สี่คน (ผมและเพื่อนพักบ้านนี้แหละ) และบ้านหลังเล็กแต่สวยสุดๆ เพราะเป็นแบบสวีท มีเตาผิง อ่างน้ำวน แถมห้องน้ำแบบไม่มีประตูอีก อืม...ม บรรยากาศสุดยอดเลยอ่ะ
หลังจากเช็คอิน, เก็บของเข้าที่พัก และตื่นตะลึงกับห้องพักที่สวยงามน่ารักแล้ว ก็เริ่มอยากจะชมบ้านหลังอื่น และชมสถานที่โดยรวม ก็เริ่มออกสำรวจครับ

จุดแรกที่อยากไปชมก็คงเป็นบ้านสวีท เพราะดูแล้วน่าสนใจมาก พอเข้าไปทุกคนก็ร้องว้าว กันเลยครับ เพราะสวย น่ารัก บรรยากาศดีมาก เหมาะสำหรับมาสวีทจริงๆ อ่ะ ที่เป็นไฮไลท์ของห้องนี้คงเป็นห้องน้ำ ที่เด่นและเก๋มาก พวกเราเห็นแล้วก็ชื่นชมในไอเดียของคนออกแบบที่ทำได้น่ารักมาก

เสียดายที่บ้านหลังใหญ่มีแขกเข้าพัก เราเลยอดเข้าไปชมว่าห้องเป็นอย่างไรบ้าง ที่บ้านหลังใหญ่มีส่วนของครัวให้ประกอบอาหารด้วยครับ เหมาะแก่การมาเป็นหมู่คณะ
ช่วงบ่ายของพวกเรา หมดไปกับการสำรวจรีสอร์ท จากนั้นเราก็วางแผนเกี่ยวกับกิจกรรมในช่วงเย็น น้องที่รีสอร์ทก็แนะนำร้านอาหารแถวๆ นั้น และแนะนำกิจกรรมน่าสนใจยามค่ำ คือการไปแช่น้ำร้อนที่บ่อคลึง ท่ามกลางแสงเทียน พวกเราฟังแล้วก็ตัดสินใจไป ในทันทีเลยครับ

พอได้เวลาซักค่ำๆ น้องที่รีสอร์ทก็ขับรถพาพวกเราออกไปยังบ่อน้ำแร่บ่อคลึง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทมากนัก ที่นี่เราจ่ายค่าเข้าเองครับ จริงๆ แล้ว เวลานั้นที่บ่อน้ำแร่จะไม่เปิดให้แขกทั่วไป หรือแม้แต่แขกที่พักที่บ้านพักของบ่อน้ำร้อนเข้าไปแช่น้ำ แต่อันนี้เค้าเปิดพิเศษให้กับแขกของ Scenery เลยครับ จึงมีแต่ผมและเพื่อนเท่านั้น ที่มาแช่น้ำแร่ท่ามกลางแสงเทียน ได้บรรยากาศสุดๆ ครับ

หลังจากสบายตัวจากการแช่น้ำแร่แล้ว พวกเราก็เดินทางกลับ และแวะซื้ออาหารที่ร้านแถวๆ นั้น เพื่อเอาไปทานกันที่รีสอร์ท เพราะได้บรรยากาศกว่าครับ
ที่รีสอร์ทยามค่ำคืน มีการจุดเทียนและคบไฟตามจุดต่างๆ บรรยากาศสวยมากครับ เราก็เลยถือโอกาสยืมจาน ชาม จากที่รีสอร์ท แล้วนั่งทานข้าวกันบนดาดฟ้า ใต้แสงเทียนและแสงดาว สุขสุดๆ ครับ

ตื่นเช้ามา อากาศแจ่มใส แม้จะไม่ค่อยเย็นเท่าไร แต่ก็ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ แสนจะสบายใจ ผมและเพื่อนไปเดินสำรวจที่ลำธารท้ายรีสอร์ท เนื่องจากบรรยากาศเงียบสงบมาก เลยถือโอกาสนั่งสมาธิซักพัก อืมรู้สึกสบายใจหายเครียดไปเลยอ่ะ
จากนั้นเราก็เตรียมเก็บข้าวของ เพื่ออำลา Scenery ระหว่างเก็บข้าวของ ก็เห็นข่าวโทรทัศน์ว่าเกิดอุบัติเหตุที่รถไฟใต้ดิน ซึ่งชนกันที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม ผมได้ข่าวแล้วยังตกใจ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะดูว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างปลอดภัยระบบหนึ่งทีเดียว

ออกจาก Scenery ก็ไปเที่ยวกันต่อ ก็ขับรถไปชมไร่กุหลาบ และแวะชิมเห็ดหอมสด ซึ่งเอามาทำอาหารได้อร่อยมากครับ จากนั้นก็ตะลอนไปเรื่อยๆ แวะเที่ยวเรื่อยเปื่อย กลับถึงบ้านด้วยความสุขใจและประทับใจในความงามและบริการอันอบอุ่นจาก The Scenery ครับ ซักครั้งจะกลับไปเยือนอีกครับ

บ้านพักหลังที่ผมและเพื่อนไปพักมาครับ


บ้านสวีท มองจากดาดฟ้าบ้านผมครับ


อ่างน้ำ กับบรรยากาศที่ชวนให้น่าลงไปแช่


บรรยากาศยามเย็นในรีสอร์ท


บ้านพักของผม ถัดไปเป็นบ้านสวีทครับ


น้องหมากำลังนอนเล่นที่ริมบ่อน้ำ หน้าบ้านหลังใหญ่

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2550		4 comments
Last Update : 1 มกราคม 2554 10:50:33 น.
Counter : 1789 Pageviews.
Share Tweet