ประสบการณ์คลอด (ท้องนี้ต้องผ่า)

9 เดือนที่รอคอย จากวันที่รู้ว่าตั้งครรภ์ จนกระทั่งครบ 9 เดือน มันดูเหมือนว่าจะนานมากๆ แต่พอถึงวันที่ได้เห็นหน้าลูกแล้วทำให้รู้สึกว่าไม่นานเลย มันคุ้มค่าแห่งการรอคอย ที่ได้เห็นทารกเพศหญิงที่สุดแสนจะน่ารัก สำหรับคนที่เป็นแม่อย่างเรา เป็นคนที่ชอบเด็กทารกเล็ก ๆ มาก แต่ไม่เคยคิดว่าจะตั้งท้องด้วยตัวเอง เพราะกลัวการอุ้มท้อง และการคลอดมาก ๆ เห็นคนท้อง ท้องโต ๆ และเดินอุ้ยอ้าย ทำให้คิดว่ามันต้องลำบากแน่ ๆ แล้วผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเราเวลาท้องคงดูน่าเกลียดพิลึก แต่พอได้ตั้งท้องจริง ๆ อะไร ๆ เราก็สามารถฝ่าอุปสรรคไปได้ ถึงแม้ว่าแพ้ท้องหนักหนาสาหัส อีกทั้งอยู่ไกลบ้านเกิดเมืองนอน ต้องมาอยู่ต่างประเทศ ๆ ที่ไม่คุ้นเคย ทั้งเรื่องอาหารการกิน อากาศ ภาษา และ ไม่มีญาติพี่น้องอยู่เลยซักคน มีแต่สามีที่เป็นที่พึ่ง ทำให้ร้องไห้อยากกลับบ้านมาเป็นหลายสิบหน แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี และพอตอนคลอด ซึ่งหมอคิดว่าเราสามารถคลอดเองได้ เพราะหมอส่งเราไปทำ CT Scan เพื่อตรวจดูว่าเชิงกรานเราสามารถเปิดขยายออกได้กี่มากน้อย และผลออกมาว่า ลูกเราสามารถคลอดแบบธรรมชาติได้ แต่พอเอาเข้าจริง ถุงน้ำคร่ำแตกไปโรงพยาบาลเข้าห้องคลอด ปวดท้องจะคลอด หมอและพยาบาลเยอะแยะไปหมด แต่ว่าลูกเราดันไม่ยอมคลอดออกมา สุดท้ายลูกในท้องหัวใจเต้นแรงแบบไม่ยอมลด หมอเห็นท่าไม่ดีเลยบอกเราว่าคงต้องผ่าแล้ว และเข็นเราไปผ่า เรียกว่าเราเจ็บ 2 ต่อ ทั้งปวดท้องคลอดลูก และท้ายที่สุดหลังผ่าตัด แผลผ่าตัดนั้นเจ็บที่สุด และหลังจากออกจากโรงพยาบาลได้หนึ่งสัปดาห์ รอบ ๆ แผลที่ผ่าตัดนั้นก็แข็งและมีสีม่วง ทำให้เรากังวลหนักเข้าไปอีก หมอที่นี้ก็โทรหาตัวยากมาก เลยได้คุยกะพยาบาล คุณพยาบาลก็บอกเราว่าเรื่องแผลที่เราบอกนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับการผ่าตัดให้เอาครีมมาทาก็หาย หาว่าเราคิดมากไปเอง แต่หลังจากนั้นได้วันสองวัน แผลที่ผ่านั้นก็มีเลือดสีน้ำตาลเข้มไหลออกมาตามรอยที่ผ่าไว้ ทำให้เราตกใจจนร้องไห้ สามีต้องรีบพาไปหาหมอประจำบ้าน หมอก็ทำแผลให้ แล้วบอกให้เราไปหาหมอที่ผ่าตัดให้เรา ซึ่งก็ต้องโทรนัดอีก พอได้พอเจอหมอที่ผ่าตัดให้ เธอก็บอกว่าเป็นเคสที่เกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อย เลือดที่ไหลออกมาคือน้ำในร่างกายที่เกิดการหลังจากการผ่าตัด หมอก็ทำการกรีดตามรอยแผลที่ผ่าตัด เพื่อให้น้ำและเลือดที่คลั่งอยู่ไหลออกมา ซึ่งกว่าเลือดและน้ำที่คลั่งอยู่จะหมดก็ต้องไปหาหมอเพื่อเปลี่ยนผ้าพันแผลละทำความสะอาดก็เป็นอาทิตย์ เรียกว่าเคสเรานั้นซวยจริง ๆ คนอื่นเขาผ่าการเยอะแยะดันไม่เป็นไร เฮ้อ กว่าจะได้ลูกมาคนทำเอาเราแทบแย่ แต่ยังไงซะก็คุ้มค่าละ แต่ตอนนี้ก็เหนื่อยกับการเลี้ยงดูลูกสาวตัวน้อย ซึ่งทั้งเราและลูกต่างอยู่ในช่วงปรับตัวเข้าหากัน

นางฟ้าคนแรกของแม่ จัสมิน มาริสา แอน น้ำหนัก 4320 กรัม 55 ซม.

Create Date : 23 ตุลาคม 2552 Last Update : 23 ตุลาคม 2552 13:49:40 น. Counter : 1390 Pageviews.		8 comments
Share Tweet