ORIENTAL PHOENIX CONSULTANT
"MOVE ON TOGETHER"
|
||||
สมรรถนะ (Competency Model) มีอะไรบ้าง ? ผู้เขียน : อาจารย์วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ ปัจจุบันระบบสมรรถนะมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยมีการกำหนดให้สอดคล้องไปตามนโยบายและขอบเขตการพัฒนาองค์กร ขึ้นอยู่กับความสำคัญและความจำเป็นแต่ละหน่วยงาน มีบางคำถามสงสัยว่า ทำไมสมรรถนะแต่ละหน่วยงานจึงมากน้อยไม่เท่ากันแล้วจะเอาอะไรมาประเมินว่าแผนกดังกล่าวทำงานดีหรือทำงานมากไป คำตอบคือก่อนอื่นนั้นนักทรัพยากรมนุษย์ต้องมาวิเคราะห์งานเสียก่อนจึงจัดทำใบพรรณางานให้เป็นรูปแบบหรือเรียกกันว่า JD (Job Description) หากองค์กรไหนไม่มีการกำหนดหน้าที่งานเป็นกิจลักษณะจะพบปัญหาความไม่เท่าเทียม ความไม่รู้หน้าที่งานสูง ตำแหน่งนั้นลาออกไปมักจะไปพร้อมกับหน้าที่งานด้วยหัวหน้างานต้องมานั่งพรรณางานให้พนักงานใหม่จดกันหน้าดำคร่ำเครียด เป็นการทำงานซ้ำซ้อนเสียเวลาในส่วนที่ควรจะพัฒนาด้านอื่นๆไป ดังนั้น เมื่อองค์กรต้องการพัฒนาระบบงาน หรือมาตรฐานการปฏิบัติงาน SOP(Standard Operating Procedure) สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้จัดเก็บข้อมูลกำหนดหน้าที่งานอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายอีกทั้งยังช่วยเรื่องการสรรหาบุคลากรที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งที่ต้องการได้ทันเวลา สำหรับเรื่องสมรรถนะในการทำงานนั้น ขอยกตัวอย่างโดยสังเขป เพื่อทำความเข้าใจสำหรับนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกท่าน สำหรับ Competency(สมรรถนะ) นั้น แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1. สมรรถนะหลักองค์กร (Core Competency: CC) หมายถึงทักษะและคุณลักษณะที่ทุกคนในองค์กรจำเป็นต้องมี เป็นพื้นฐานที่จะนำองค์กรไปสู่วิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น การบริการที่ดี (Service Mind),ความร่วมแรงร่วมใจ (Teamwork), จริยธรรม (Integrity) ,ความชำนาญในงานสายอาชีพ (Expertise) ,การยืดหยุ่นปรับตัว (Flexibility) เป็นต้น 2. สมรรถนะตามบทบาทหน้าที่ (Functional Competency: FC) หมายถึง ความรู้ ทักษะและ คุณลักษณะที่บุคลากรจำเป็นต้องมี เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ สมรรถนะตามบทบาทหน้าที่ ประกอบด้วย การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking),ความมั่นใจของตนเอง (Self Confidence),การสื่อสารจูงใจ (Communication &Motivate),การประสานงาน (Coordination) ,การวางแผน (Planning),การติดตามงาน (Follow up),การเจรจาต่อรอง (Negotiation),การแก้ปัญหา (Problem Solving),การให้คำปรึกษา (Consultation) เป็นต้น 3. สมรรถนะด้านการบริหารจัดการ (Management Competency: MC) หมายถึง ความรู้ ทักษะและ คุณลักษณะด้านการบริหารจัดการที่จำเป็นสำหรับพนักงานที่มีหน้าที่ในระดับบริหารจัดการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายวางไว้ ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจและการแก้ปัญหา(Decision Making &Problem Solving),การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management),การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management),การโค้ชสอนงาน (Coaching) เป็นต้น 4. ความรู้เฉพาะตามสายงาน (Job Competency: JC) หมายถึง ความรู้เฉพาะสายงานที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่เพื่อบรรลุเป้าหมายวางไว้ ประกอบด้วย ความรู้ด้านงานพัฒนาฝึกอบรม (Human Resources Development Knowledge),ความรู้ด้านงานบัญชี (Accounting Knowledge),ความรู้ด้านการตลาด (Marketing Knowledge)
คำถามน่ารู้ 1. Core Competency ในองค์กรท่านมีกี่ข้อ อะไรบ้าง ? ................................................ 2. Competency แต่ละตำแหน่งงาน(Job Competency) ควรกำหนดกี่ข้อ ? .................................................. 3. ใครควรเป็นผู้กำหนด Competency ? .................................................. บทความ บทเรียน Competency JD พฤติกรรม IT องค์กร HR HRD บริหาร ผู้จัดการ การตลาด ที่ปรึกษา https://www.consultthailand.com/blog/info-blog.php?blog_id=2&web=Competency-Model |
สมาชิกหมายเลข 2640183
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] วิทยากรและที่ปรึกษาองค์กร ภาครัฐ เอกชน ประสบการณ์ 1,500 องค์กร ทั้งในและต่างประเทศ ด้านจัดฝึกอบรม ที่ปรึกษา การออกแบบระบบ ติดตามประเมินผล การพัฒนาองค์กร และวิจัยองค์กร และบริหารทีมวิทยากรผู้มากประสบการณ์ในการอบรม การทำงานจริง มากว่า 20 ปี Group Blog
All Blog
Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |