ในแต่ละองค์กรต่างก็มีพนักงานหลากหลายประเภททำงานร่วมกัน มีทั้งคนที่โดดเด่นเป็นพิเศษและทั้งคนที่ดูธรรมดาแต่มีความสามารถ ในฐานะหัวหน้าเราควรจะต้องแยกแยะให้ได้ว่าลูกน้องคนไหนมีฝีมือจริง หรือมีความสามารถซ่อนอยู่เพียงแต่รอคนสนับสนุนและขัดเกลา สำหรับคนที่โดดเด่นอยู่แล้วคงไม่ยากที่จะสังเกตเห็น แต่ยังมีพนักงานแบบใดอีกหรือไม่ ที่หัวหน้าทั้งหลายไม่ควรมองข้าม
พนักงานอายุน้อยหรืออายุงานน้อย
พวกเขาเป็นกลุ่มที่อาจเรียกได้ว่ามีไฟในการทำงานมากที่สุดเป็นลำดับต้นขององค์กร พนักงานกลุ่มนี้กำลังพยายามสร้างผลงานเพื่อการยอมรับ ดังนั้นหัวหน้าควรเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีมือบ้าง จริงอยู่ที่งานบางอย่างอาจต้องอาศัยประสบการณ์แต่คุณสามารถเริ่มจากการให้พวกเขาได้ทำงานร่วมกับพนักงานที่มีอายุงานมากกว่า และคอยติดตามดูว่าพวกเขาเรียนรู้ได้เร็วแค่ไหน หรือมีความตั้งใจเพียงใด อย่ามองคุณค่าคนอยู่ที่เพียงอายุหรือประสบการณ์การทำงานเพียงอย่างเดียว หากคุณสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานกลุ่มนี้ได้ตั้งแต่ช่วงแรกของการทำงาน พวกเขาจะกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่า มีฝีมือ จะรักและภูมิใจที่ได้อยู่กับองค์กรที่เห็นคุณค่าในตัวพวกเขา
พนักงานพูดน้อยแต่งานดี
พวกเขาเหล่านี้คือกำลังชั้นเยี่ยมในองค์กร ตั้งใจทำงาน ไม่บ่น ไม่สนใจชื่อเสียงและตำแหน่ง ทำงานได้ดีแต่ไม่เคยแสดงตนหรือผลงานมากนัก หากคุณมีพนักงานแบบนี้อยู่ในทีมลองสังเกตหรือพูดคุยกับพวกเขาดูว่ามีเป้าหมายอะไรในการทำงาน อยากจะฝึกฝนความกล้าแสดงออกมากขึ้นหรือไม่ พนักงานบางคนอาจพอใจแล้วกับตำแหน่งและหน้าที่ที่เป็นอยู่ หัวหน้าควรสนับสนุนให้เขาได้ใช้ความสามารถเต็มที่ คนพูดน้อยไม่ชอบเข้าสังคมอาจจะไม่เหมาะกับตำแหน่งด้านบริหาร แต่ถ้าผลงานดีก็ควรได้รับความก้าวหน้าเช่นกัน อาจมีการสนับสนุนให้ทำงานในเชิงลึกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย โครงการ โปรเจค รวมไปถึงการให้ตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา แต่ยังมีคนอีกกลุ่มที่แม้จะดูเงียบและไม่แสดงตน พวกเขาก็รอวันที่เจ้านายจะสังเกตเห็นถึงความตั้งใจจริงและผลงาน ดังนั้นคุณควรสนับสนุนให้พวกเขาเติบโตได้เต็มที่โดยช่วยฝึกฝนและเสริมทักษะด้านการแสดงออกเพิ่มเติมให้
พนักงานที่ดูงานไม่ยุ่ง
หมดสมัยของการทำงานหนักแต่ผลลัพธ์น้อย สำหรับยุคนี้ งานที่ดีจะต้องเกิดจากการ work smart คือทำงานให้ได้ดีที่สุดโดยใช้เวลาและทรัพยากรให้น้อยที่สุด พนักงานกลุ่มนี้มักจะเป็นกลุ่มคนที่บริหารจัดการเวลาได้ดี ทำงานทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องอยู่ดึกหรือหอบงานกลับไปทำที่บ้าน มีความสุขกับการทำกิจกรรมส่วนตัวจนดูเหมือนเป็นคนงานน้อยหรือไม่ตั้งใจทำงาน ดังนั้นเพื่อความเป็นกลาง หัวหน้าควรพิจารณาให้ดีว่าปริมาณและคุณภาพงานที่พวกเขาทำนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจริงหรือไม่ พนักงานกลุ่มนี้จะเป็นกำลังสำคัญให้คุณได้ เพราะพวกเขามีความสามารถในการทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ในขณะที่หลายกรณีเราอาจจะพบว่าคนที่ทำงานไม่เสร็จและต้องอยู่ดึกเป็นประจำนั้น เกิดจากการจัดลำดับความสำคัญของงานไม่เป็น งานอย่างเดียวกันกลับใช้เวลาทำงานมากกว่าคนอื่น หัวหน้าจะต้องเข้ามาช่วยให้คำแนะนำ หรือถ้าเขาขาดความรู้ความเข้าใจในการทำงานอาจจะต้องเสริมด้วยการฝึกอบรม และในหลายกรณีที่งานหนักไปจริง หัวหน้าก็ต้องเข้ามาดูแลเช่นกัน ดังนั้น สำหรับคนทั้งสองกลุ่มนี้ คุณควรจะให้ความสนใจโดยดูจากข้อมูล ไม่ใช่จากภาพที่เห็นเท่านั้น
กล่าวโดยสรุปแล้วหัวหน้าที่ดีไม่ควรมองข้ามลูกน้องทุกคนของตัวเอง เพราะแต่ละคนต่างก็มีความสำคัญต่อทีม ต่างมีความรู้ มีความสามารถด้วยกันทั้งนั้น สิ่งที่หัวหน้าควรทำคือมองลูกน้องอย่างเท่าเทียมด้วยใจเป็นกลางและให้ความสำคัญกับความสามารถของพวกเขามากกว่าภาพลักษณ์ที่คุณเห็น จากนั้นหาทางช่วยให้พวกเขาได้แก้ไขจุดด้อยและได้พัฒนาความสามารถของตัวเองในรูปแบบที่พวกเขาพึงพอใจ เช่นนี้แล้วลูกน้องก็จะทำงานอย่างเต็มความสามารถและมีความสุขที่จะอยู่กับองค์กรต่อไป ในขณะที่องค์กรก็จะได้ผลงานที่ดี ถือเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย
นึกถึงตัวเอง เพราะมักถูกมองข้ามเสมอ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ