MI นี่ย่อมาจาก Military intelligence เป็นหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษครับ ใครเป็นแฟน "เจมส์ บอนด์" คงจะรู้ว่า ป๋าแกสังกัด MI6 : Military Intelligence, Section6
MI6 หรือ Secret Intelligence Service (SIS) ทำหน้าที่เกี่ยวกับข่าวกรองต่างประเทศ ผู้อำนวยการ มีรหัสเรียกคือ C แต่ในหนัง/นิยาย James Bond เรียกผู้อำนวยการ MI6 ว่า M MI6 ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีต่างประเทศ (Foreign Secretary) รหัส 00 นั้นหมายถึงสถานะที่เรียกว่า licence to kill คับ คือ ฆ่าได้โดยไม่ผิดกฏหมายในการปฏิบัติหน้าที่
KGB คือหน่วยสืบราชการลับรัสเซียเป็นองค์กรข่าวกรองแบบรวมศูนย์ คือรับผิดชอบทั้งภายในและภายนอกประเทศ เหมือน MI6 ของอังกฤษ และ CIA ของสหรัฐอเมริกาครับ (ปัจจุบันยุบไปแล้ว)
บรรดาสายลับ KGB 8แสนคนตกงาน กลายเป็น รปภ. ให้กับบริษัทห้างร้านหรือสำนักงานของรัฐ ที่เคยเป็นชนชั้นหัวหน้าก็ไปเป็นบอดี้การ์ดให้กับเศรษฐีใหม่ รัสเซียที่ร่ำรวยขึ้นมาด้วยการค้าขายกับรัฐบาลหรือรับสัมปทานน้ำมันและทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ หรือไม่ก็ตั้งแก๊งค์รีดไถ คุ้มครองธุรกิจหรือเรียกค่าไถ่ หมดศักดิ์หมดศรีของการเคยเป็น KGB ที่มีสมญานามว่า เลือดสีน้ำเงิน คือตำรวจลับหรือสายลับหรือเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติไปเลย
ประธานาธิบดีเยลท์ชินไม่ต้องการถอนรากถอนโคนแกนหลักของระบอบคอมมิวนิสต์คือ KGB ให้ราบคาบ ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายทำกบฏ เขาได้รื้อฟื้นหน่วยงานรักษาความมั่นคงแห่งรัฐขึ้นใหม่ชื่อว่า สำนักงานความมั่นคงของสหพันธรัฐหรือ FSB แทน KGB
ทำให้เจ้าหน้าที่ KGB เก่าๆ ได้กลับเข้ามารับราชการอีก ซึ่งในการนี้ก็มีนายวลาดิมีร์ปูติน เป็นหัวหน้าตำรวจลับ KGB เซนต์ปีเตอร์เบิร์กเข้ามาร่วมรัฐบาลของเขาด้วย และต่อมาก็แต่งตั้งเขาเป็นนายกรัฐมนตรี
ในยุคสงครามเย็น พวกกลุ่มอิทธิพลชาวรัสเซียพวกนี้จะได้รับการติดต่อจาก KGB จากสหภาพโซเวียตให้เป็นสายลับให้ในทุกพื้นที่ ในโลก คู่แข่งที่สำคัญคือ CIA ของสหรัฐอเมริกา
อดีต เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CIA ท่านหนึ่งที่เคยเป็นทั้งผู้กำหนดนโยบายชั้นสูง และ เป็นผู้ที่เคยฝึกเจ้า หน้าที่ชั้นผู้ปฎิบัติงานของ CIA มาแล้ว เล่าว่า..การต่อสู้ของ CIA กับ KGB เป็นเรื่องหลัก เพราะ ความเก่งกาจไม่แพ้กัน จนกระทั่ง KGB ซบเซาไป ช่วงที่สหภาพโซเวียตซบเซาไป แต่ก็ไม่ได้สูญสิ้นไปจากโลก ยังพอเหลือซากที่จะฟื้นคืนชีพได้
จนกระทั่ง สามารถฟื้นคืนชีพได้ในสมัยที่ปูติน ขึ้นมามีอำนาจ ในรัสเซียถึง ๒ สมัยกว่า ๆ ความเข้มแข็งของ KGB จึงเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งอย่างเป็นทางการ
การฝึกฝนเจ้าหน้าที่ KGB กับ CIA ไม่ค่อยจะแตกต่างกันนักทั้งหญิงและชาย กิจกรรมทุกอย่างที่จะให้ได้มาซึ่งข่าวสารและข่าวกรองของฝ่ายตรงข้ามเจ้าหน้าที่ข่าวลับของทั้งสองฝ่ายจะไม่ลังเลและรีรอจะกระทำ ทั้งนั้น
ด้วยการที่สาวชาวรัสเซียมีหน้าตาที่ค่อนข้างจะสะสวยเร้าใจ เรื่องนี้จึงกลายมาเป็นจุดขายของการใช้กลยุทธหญิงงามตามแบบอย่างกลยุทธ์จีน สาวชาวรัสเซียส่วนหนึ่งได้รับการฝึกฝนดังเช่นที่ CIA ฝึกเจ้าหน้าที่หญิงของตนออกหาข่าวลับ