Group Blog All Blog
|
เรื่องของลูกกลมๆ กับสังคมเวียดนาม หลังจากที่เราตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของชาวเวียดนามในวันที่เวียดนามกับมาเลย์ฟาดแข้งกัน แล้วปรากฏว่าเวียดนามชนะ เราก็เลยต้องทำตัวกลมกลืนกับชาวเวียดนามด้วยการร้อง เฮ ไปกับเค้าด้วยการที่ไปติดอยู่บนถนนวันนั้นทำให้เราได้คิดว่า ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามสมควรอย่างยิ่งที่จะทำตัวให้กลมกลืนกับคนรอบข้างเพื่อไม่ให้ใครเขาสังเกตได้ง่ายๆ ถ้าพูดภาษาเค้าไม่ได้ขอแกล้งเป็นใบ้ดีกว่าอะไรประมาณนั้น ซึ่งการที่เราทำตัวแบบนี้ก็รู้สึกว่าได้ผลเหมือนกัน เพราะจากเมื่อก่อนที่เราซื้อของได้ในราคาต่างชาติ เดี๋ยวนี้เราเริ่มซื้อได้ในราคาถูกลง โดยการแกล้งทำหน้าเครียดๆ แล้วไม่พูดภาษาเค้า แต่ฟังภาษาเค้าออกในเรื่องของราคา แถมด้วยการไม่ทำท่าเงอะงะ เวลาที่ต้องจ่ายตังค์หรือบางทีก็แกล้งคุยโทรศัพท์มือถือ แล้วพูดแต่คำว่า รอยๆๆๆ ซึ่งน่าจะแปลว่า Yes อะไรประมาณนั้น (ไว้จะไปหาคำแปลจริงๆ มาให้) แล้วก็ยื่นเงินให้แม่ค้า ก็สามารถซื้อของได้ในราคาLocal (อิอิ แผนนี้ทำได้ไม่บ่อย และรอบเวลาในแต่ละครั้งไม่นานนะขอบอก) วันอาทิตย์ตอนกลางวันก่อนเวลาที่ไทยจะแข่งฟุตบอลกับเวียดนาม เราไปเที่ยวสถานที่แห่งนึงที่เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวเวียดนามมาก นั่นก็คือ Independent Palace โดยสรุปแล้วสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พัก และที่ทำงานของประธานธิบดีเวียดนามในสมัยสงครามโลก และสงครามเวียดนาม แล้วก็ยังใช้เป็นศูนย์บัญชาการในการรบเพื่อต่อต้านอเมริกาด้วยคำถามต่างๆ ที่เราเคยสงสัยว่าทำไมต้องสงครามเวียดนามก็ได้รับการเฉลย ณ ที่แห่งนี้เอง จากที่ไกด์เขาเล่ามานั้นเป็นเพราะแม้เวียดนามใต้ในตอนนั้นจะเป็นประชาธิปไตย แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองต้องอยู่ภายใต้การปกครองของอเมริกา กับฝรั่งเศส ก็เลยพยายามต่อสู้เพื่อความเป็นเอกราชของตนเอง โดยทางเวียดนามเหนือนั้นรับสังคมคอมมิวนิสก์เอาไว้เต็มๆ แล้วล่ะ แล้วก็กำลังพยายามถ่ายทอดลงมาทางเวียดนามใต้ ผ่านเส้นขนานที่ 17 องศาเหนือ ขึ้นชื่อว่าสงครามมันก็ต้องโหดร้ายเป็นธรรมดา เพราะเราเคยไปดูพิพิธภัณฑ์สงครามของเค้าแล้วปรากฏว่าใจหวิวๆ เลยล่ะ เพราะไม่คิดว่าคนจะกระทำกับคนแบบนี้ได้ตอนอยู่ที่ Independent Palace มีฝรั่งคนนึงถามเกี่ยวกับฟุตบอลที่จะแข่งกันเย็นนี้ ก็ได้คำตอบที่น่าคิดจากไกด์เหมือนกันนะ เขาบอกว่า คงยากที่เวียดนามจะชนะ เพราะทีมไทยแข็งแกร่งมาก แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ (Anything can happen) ทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าการแข่งขันจบลง แล้วไทยเป็นฝ่ายชนะ ก็คงไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นเกิดกับเราแน่ เว้นแต่ว่าเราจะไปนั่งตามร้านที่เขากำลังดูบอลกันอยู่ แล้วตะโกนว่า Thailand Thailand แบบนั้นเราคงไม่รอดมาเขียนไดอารีแน่นอน เข้ามาทักทายครับ
โดย: zouthfern (fern_south ) วันที่: 6 ธันวาคม 2548 เวลา:22:46:33 น.
ไม่ได้ติดตาม ไปทำอะไรที่เวียดนามครับ เรียนหรือทำงาน แหม จะเชียรบอลทั้งที แหะๆ มาทักทายครับ
โดย: zez@ วันที่: 7 ธันวาคม 2548 เวลา:0:06:17 น.
|
ปีกไม้หอม
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] เป็นนักเขียน เป็นอาจารย์ เป็นพ่อบ้าน เป็นพ่อครัว เกิดในตระกูลหมอดู รับสอน VBA บน Access และ VBA บน Excel ทั่วราชอาณาจักร รับแนะแนวทางชีวิตด้วยไพ่ทาโร่ต์และเบอร์มือถือ
Link |