Welcome(ยินดีต้อนรับ)
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ปรีวิว 16 ทีมยูโร 2008 : กลุ่มเอ

กลุ่มเอ

สวิตเซอร์แลนด์

ประวัติศาสตร์บอกเรามาโดยตลอดว่าทีมชาติเจ้าภาพมักจะได้เปรียบในรายการใหญ่แๆบบนี้ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเราก็ยังไม่แน่ใจนักว่าสนามเซนต์ จาค็อบ สเตเดี้ยม จะมีส่วนช่วยเจ้าภาพเมือง "นาฬิกา" สวิตเซอร์แลนด์ได้แค่ไหนกัน?

ทีมสวิตเซอร์แลนด์ชุดนี้ได้รับการปลุกปั้นมาอย่างประคบประหงมโดยกุนซือสูงวัย ยาค็อบ "โคบี้" คูห์น ที่ปั้นทีมกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก วางรากฐากอันใหม่เป็นเวลาหลายปีเพื่อหวังจะประสบความสำเร็จให้ได้ในรายการยูโร 2008 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพเอง และรายการนี้ก็จะเป็นรายการสุดท้ายของคูห์นเช่นกัน โดยจะวางมือหลังจบรายการทันทีและมีทายาทอย่างอ๊อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันพร้อมสานงานต่อ

ทีมของโคบี้ คูห์นชุดนี้เล่นกันในระบบ 4-4-2 ใช้ผู้เล่นกลุ่มดาวรุ่งที่ช่วยกันปั้นมาเป็นเวลาหลายปีเป็นหลัก ซึ่งก็ทำผลงานได้ดีโดยเข้ารอบสุดท้ายทั้งในยูโร 2004 และฟุตบอลโลก 2006 โดยเฉพาะรายการหลังที่สวิตเซอร์แลนด์ทำได้น่าประทับใจมาก ด้วยสไตล์การเล่นแบบวินัยจัด ทีมสปิริตเยี่ยม เป็นเรื่องยากมากที่จะเจาะเกมรับของสวิสเข้าไปทำประตูได้

แต่ขณะเดียวกันปัญหาเรื่องเกมรุกก็ยังเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงอยู่ เนื่องจากทีมของโคบี้ คูห์น มีคนเดียวที่ไว้ใจได้ในเรื่องการทำประตูก็คือศูนย์หน้ากัปตันทีม อเล็กซานเดอร์ ฟราย ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้นำทีมให้ได้ โดยต้องดูว่าจะให้ใครมายืนเป็นคู่หน้าระหว่างโยฮัน โฟนลานเตน, เบลส เอ็นคูโฟ, มาร์โก้ สเตรลแลร์ หรือเจ้าหนูมหัศจรรย์ที่อายุน้อยที่สุดในยูโร 2008 ครั้งนี้ เอเรน เดอร์ดิยอค

นักเตะที่น่าจับตามอง : ฟิลิปป์ เดเก้น (แบ็กขวา), อเล็กซานเดอร์ ฟราย (กองหน้า)
โค้ช : โคบี้ คูห์น
โอกาสในการเข้ารอบ : อยู่ที่จะทำได้ดีแค่ไหนเมื่อเจอของแข็งอย่างโปรตุเกส-เช็ก
ระบบการเล่น : 4-1-3-2

เบนากลิโอ, เดเก้น, เซนเดอรอส, เอ็กกิแมน, มักนิน ;อินเล็ต ;เบรามี่, บาร์เน็ตต้า, เฟอร์นันเดส; ฟราย, สเตรลแลร์

รายชื่อผู้เล่น 23 คน
ผู้รักษาประตู : 1-ดีเอโก้ เบนากลิโอ (โวล์ฟสบวร์ก), 18-ปาสกาล ซูแบร์บูเลอร์ (นอยชาเตล ชามักซ์), 21-เอลดิน ยาคูโปวิช (กราสฮอปเปอร์ส ซูริค)

กองหลัง : 2-โยฮัน ฌูรู (อาร์เซนอล), 3-ลูโดวิช มักนิน (สตุ๊ตการ์ต), 4-ฟิลิปป์ เซนเดอรอส (อาร์เซนอล), 5-สเตฟาน ลิคสไตเนอร์ (ลีลล์), 13-สเตฟาน กริชติ้ง (โอแซร์), 17-คริสตอฟ สปีเชอร์ (ไอทรัค แฟรงค์เฟิร์ต), 20-ปาทริก มุลแลร์ (โอลิมปิก ลียง), ฟิลิปป์ เดเก้น (ลิเวอร์พูล)

กองกลาง : 6-เบนจามิน ฮักเกิ้ล (บาเซิล), 7-ริคาร์โด้ คาบานาส (กราสฮอปเปอร์ส ซูริค), 8-ก็อคคาน อินเลอร์ (อูดิเนเซ่), 10-ฮาคาน ยาคิน (ยัง บอยส์ เบิร์น), 14-ดาเนี่ยล ชีกั๊กซ์ (เม็ตซ์), 15-เกลสัน เฟอร์นันเดส (แมนฯ ซิตี้), 16-ทรังกิโญ่ บาร์เน็ตต้า (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น), 19-วาลอน เบห์รามี่ (ลาซิโอ), 22-โยฮัน โฟนลานเธน (ซัลซ์บวร์ก)

กองหน้า : 9-อเล็กซานเดอร์ ฟราย (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), 11-มาร์โก สเตรลแลร์ (บาเซิล), 12-อีเรน เดอร์ดียอค (บาเซิล)



โปรตุเกส

เต็งหนึ่งตัวจริงของกลุ่มและอยู่ในกลุ่มที่มีศักยภาพสูงถึงขั้นลุ้นแชมป์ได้อย่างสบายๆ สำหรับทีมของหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่

อดีตกุนซือผู้นำบราซิลเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 มีของดีอยู่ในมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะหมายเลขหนึ่งของโลกคนปัจจุบัน, นานี่ รุ่นน้องที่คลานตามกันมา, ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ปีกที่มีพรสวรรค์ไม่แพ้โรนัลโด้ หรือแม้แต่เดโก้, ซิเมา ซาโบรซ่า, เจา มูตินโญ่, มิเกล เวโลโซ่ รวมถึงโฮเซ่ โบซิงวา แบ็กขวาน้องใหม่ของเชลซีที่ค่าตัวถึง 16 ล้านปอนด์

แต่ระบบที่สโคลารี่ใช้ในยูโรหนนี้ก็จะยังเป็นระบบ 4-5-1 โดยเน้นไปที่ความแข็งแกร่งเหนียวแน่นของเกมรับเป็นพื้นฐานและใช้เกมสวนกลับเร็วเล่นงานคู่แข่ง ซึ่งก็ทำมาได้ดีทั้งในยูโร 2004 ที่ไปพลาดท่าพ่ายกรีซในรอบชิงชนะเลิศ และในฟุตบอลโลก 2006 ที่ไปได้ถึงในรอบตัดเชือกเช่นกัน

งานนี้ก็ยังเชื่อกันว่าโปรตุเกส เป็นทีมที่กินได้ยากเหมือนเดิมอีกทั้งฟอร์มของนักเตะอย่างโรนัลโด้ก็พร้อมจะดลบันดาลให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้ในสนาม โดยที่สโคลารี่ยังมีอาวุธเด็ดๆอีกเพียบรออยู่ และน่าจะเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นอย่างน้อยถ้าไม่สะดุดขาดตัวเองไปเสียก่อน

นักเตะที่น่าจับตามอง : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ปีก), เดโก้ (กองกลางตัวรุก)
โค้ช : หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่
โอกาสในการเข้ารอบ : เต็งหนึ่งประจำกลุ่ม
ระบบการเล่น : 4-2-3-1

ริคาร์โด้, มิเกล, เปเป้, คาร์วัลโญ่, เปาโล แฟร์เรยร่า; เวโลโซ่, เมยร่า; โรนัลโด้, เดโก้, กวาเรสม่า; อัลเมด้า

รายชื่อผู้เล่น 23 คน
ผู้รักษาประตู : 1-ริคาร์โด้ (เรอัล เบติส),12- ควิม (เบนฟิก้า),22-รุย พาตริซิโอ (สปอร์ติ้ง ลิสบอน)

กองหลัง : 2-เปาโล แฟร์เรยร่า (เชลซี),3-บรูโน่ อัลเวส (ปอร์โต้),14-จอร์จ ริเบโร่ (เบาวิสต้า),4-โฮเซ่ โบซิงว่า (เชลซี),13-มิเกล (บาเลนเซีย),16-ริคาร์โด คาร์วัลโญ่ (เชลซี),5-เฟอร์นันโด เมยร่า (สตุ๊ตการ์ต),15-เปเป้ (เรอัล มาดริด)

กองกลาง : 8-เปอตี (เบนฟิก้า),20-เดโก้ (บาร์เซโลน่า),6-ราอูล เมยเรเลส (ปอร์โต้),18-มิเกล เวโลโซ่ (สปอร์ติ้ง ลิสบอน),10-เจา มูตินโญ่ (สปอร์ติ้ง ลิสบอน)

กองหน้า : 21-นูโน่ โกเมส (เบนฟิก้า),11-ซิเมา ซาโบรซ่า (แอต.มาดริด),7-คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนฯ ยูไนเต็ด),9-ฮูโก้ อัลไมด้า (เบรเมน),19-นานี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด),17-ริคาร์โด้ กวาเรสม่า (ปอร์โต้),23-เอลเดอร์ ปอสติก้า (พานาธิไนกอส)




ตุรกี

เกาะหลังกรีซ แชมป์เก่ายูโร 2004 มาเป็นรองจ่าฝูงในกลุ่มซี ได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายแบบหืดนิดหน่อยเพราะออกสตาร์ทได้สวยหรูชนะรวด 3 นัดแรกแต่ก็มาเริ่มเป๋จนต้องมาเหนื่อยเอาในช่วงท้ายๆ

แต่ยังไงทีมของฟาห์ติ เตริม ก็ได้ผ่านเข้ามาถึงออสเตรีย-สวิตเซอร์แลนด์กับเขาด้วยจนได้!

ทีมของเตริม กุนซือระดับปรมาจารย์ของวงการลูกหนังแดนไก่งวง (อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นไก่ง่วงเชียว!) ใช้ระบบการเล่นแบบ 4-5-1 ที่เหมาะกับศักยภาพของทีมมากกว่าระบบ 4-4-2 ที่เตริมคุ้นเคยและใช้มาตลอดชีวิต เนื่องจากต้องการอัดแดนกลางให้แน่นเอาไว้ก่อนเป็นอย่างแรก

อย่างไรก็ตามเตริม จะมีปัญหาไม่น้อยเมื่อแดนหน้าหากทิ้งนิฮัต คาร์เวชี่ไว้คนเดียวก็ดูจะไม่น่ากลัวนักเนื่องจากเป็นศูนยหน้าร่างเล็กฉบับกระเป๋า ขณะที่ตัวทำเกมก็มีลักษณะทับซ้อนกันไม่ว่าจะเป็นยิลดิราย บาสเติร์ก, เอ็มเร่ เบโลโซกลู รวมถึงตัวที่โดนจับถ่างไปเล่นริมเส้นทางขวาแบบไม่ค่อยถนัดนักอย่างฮามิต อัลตินท็อป มิดฟิลด์ตีนระเบิด ส่วนทางซ้ายจะดูดีกว่ากับอาร์ดา ตูรัน ที่เป็นจอมเลื่อยตัวจริง แต่ตุนกาย ซานลี่ กองหน้าจากโบโร่ก็อาจโดนจับโยกมาเล่นทางซ้ายได้เหมือนกัน

ตุรกีชุดนี้ก็เป็นอีกทีมที่เน้นระบบเกมสวนกลับเร็ว และเตริมก็ชอบให้ทีมเล่นด้วยความเกรี้ยวกราดดุดัน การตัดสินใจหั่นจอมเก๋าอย่างฮาคาน ซูเคอร์ ศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์บอลตุรกีเป็นการประกันว่าจะไม่มีการเน้นเกมสาดโด่งอย่างเดียยวแน่นอน

แต่โอกาสจะเข้ารอบของทีมไก่งวงนี้ก็มีไม่ได้มากไปกว่าสวิสเลย เพียงแต่สิ่งหนึ่งในความเป็นตุรกีแท้ๆคือการเป็นทีมที่ไม่อาจคาดเดาอะไรจากพวกเขาได้ทั้งนั้น

นักเตะที่น่าจับตามอง : อาร์ดา ตูรัน (ปีกซ้าย), นิฮัต คาร์เวชี่ (ศูนย์หน้า)
โค้ช : ฟาห์ติ เตริม
โอกาสในการเข้ารอบ : ไพ่โจ๊คเกอร์ที่เดาอะไรไม่ได้เลย
ระบบการเล่น : 4-1-4-1

โวลคาน, ก็อกคาน โกนุล, ก็อกคาน, ซาน เซอร์เว็ต, ฮาคาน เบลต้า; ออเรลิโอ; ฮามิต อัลตินท็อป, บาสเติร์ก, เอ็มเร่, อาร์ดา; นิฮัต

รายชื่อผู้เล่น 23 คน
ผู้รักษาประตู : 23-โวลคาน เดมิเรล(เฟเนอร์บาห์เช่),1-รุสตู เร็คเบอร์ (เบซิคตัส),12-โทลก้า เซนกิน(แทรบซอนสปอร์)

กองหลัง : 20-ซาบรี้ ซาริโอกลู(กาลาตาซาราย),4-ก็อกคาน ซาน(เบซิคตัส),15-เอ็มเร่ อาซิค(การาตาซาราย),2-เซอร์เว็ต เซติน(กาลาตาซาราย),3-ฮาคาน บาลต้า(กาลาตาซาราย),16-อูเกอร์ โบราล(เฟเนอร์บาห์เช่),13-เอ็มเร่ กุนกอร์(กาลาตาซาราย)

กองกลาง : 7-เมห์เม็ต ออเรลิโอ(เฟเนอร์บาห์เช่),6-เมห์เม็ต โทปาล(กาลาตาซาราย),5-เอ็มเร่ เบโลโซกลู(นิวคาสเซิล),11-ตูเมอร์ เมติน(ลาริสซ่า),22-ฮามิต อัลตินท็อป(บาเยิร์น มิวนิค),19-เอยาน อัคมาน(กาลาตาซาราย), 14-อาร์ดา ตูรัน(กาลาตาซาราย),17-ตุนกาย ซานลี่(มิดเดิลสโบรห์),18-คาซิม คาซิม(เฟเนอร์บาห์เช่), 10-กอคเดนิซ คาราเดนิซ(รูบิน คาซาน)

กองหน้า : 8-นิฮัต คาห์เวชี่(บีญาร์เรอัล),9-เซมีห์ เซนเติร์ก(เฟเนอร์บาห์เช่),21-เมฟลุต เออร์ดิ้ง(โซโชซ์)



สาธารณรัฐเช็ก

ทีมขวัญใจคนชอบบอลม้ามืดตัวจริงเสียงจริง เพราะสาธารณรัฐเช็กภายใต้การคุมทีมของคาเรล บรู๊คเนอร์ เป็นทีมที่เล่นได้น่าเชียร์มากที่สุดทีมหนึ่งของยุโรปโดยแท้

เช็ก ภายใต้การนำของบรู๊คเนอร์ที่รับงานมาตั้งแต่ปี 2001 ได้พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเคยเกือบสร้างเซอร์ไพรซ์ในยูโร 2004 ที่โปรตุเกส เมื่อทำผลงานได้อย่างโดดเด่นสุดยอด เล่นกันได้มันสะแด่วขโมยหัวใจแฟนๆที่ไม่เคยคิดจะมองเช็กในสายตาได้ไปเพียบ และกลายเป็นหนึ่งในทีมขวัญใจมหาชนตั้งแต่นั้นมา

น่าเสียดายที่เช็กต้องโดนทีเด็ดเกมตีหัวเข้าบ้านของอ๊อตโต้ เรห์ฮาเก้ล ที่วางให้กรีซจนสร้างตำนานเป็นแชมป์ม้านอกสายตาไปในปีดังกล่าว ส่วนเช็กตกรอบรองอกหักไปตามระเบียบ

แต่สำหรับยูโร 2008 นี้อาการของเช็กไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เมื่อนักเตะหลายคนฟอร์มตก แถมยังต้องมาขาดจอมทัพในการบงการเกมอย่างโทมัส โรซิคกี้ ที่มีอาการบาดเจ็บยาวไปอีกคน พาเวล เนดเวด เองก็ไม่ขอกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง ทำให้มีการมองว่าเช็กปีนี้อ่อนลงไปพอสมควร

เอาเข้าจริงยังไงก็ประมาทเช็กไม่ได้อยู่ดี เพราะก็ยังมีตัวดีๆที่แค่อาจจะยังไม่ดังเท่านั้นอย่าง ยาโรสลาฟ พลาซิล, มาเร็ค มาเตยอฟสกี หรือดาวิด ยาโรลิม พวกนี้ก็เล่นได้ แถมในแดนหน้านี้ปีนี้ยังมีแยน โคลเลอร์ ยักษ์ปักหลั่นกลับมายืนค้ำอีกครั้งร่วมกับมิลาน บารอส ซึ่งเป็นคู่หูที่ดีที่สุดของเช็กในรอบสิบปีที่ผ่านมา

การกลับมาทันเวลาของโคลเลอร์จะช่วยเช็กได้มากเพราะยักษ์ปักหลั่นตนนี้มีส่วนสำคัญในการค้ำยันเกมแดนหน้าไว้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเช็กที่มีโคลเลอร์กับไม่มีโคลเลอร์นั้นต่างกันมาก ในฟุตบอลโลก 2006 พวกเขาต้องตกรอบแรกอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งก็ถูกมองว่าเพราะขาดโคลเลอร์นั่นเอง

เช็ก ยังเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลเกมรุกเป็นหลัก เล่นอย่างเมามัน สนุกสนาน และน่าเชียร์มาก จุดอ่อนของพวกเขาคือเกมรับที่แม้จะมีโคตรนายทวารอย่างปีเตอร์ เช็กอยู่ แต่ถ้าเกมรับยังหลวมเหมือนเดิมก็ไม่มีประโยชน์อะไร อาจจะผ่านรอบแรกไปได้แต่รอบลึกๆที่ความผิดพลาดเล็กน้อยก็โดนลงโทษได้ เช็กจะมีปัญหาแน่

เกือบลืมบอกไป รายการนี้จะเป็นรายการสุดท้ายของบรู๊คเนอร์ด้วย ไม่รู้ว่าจะมีส่วนช่วยให้ฮึดเพิ่มขึ้นหรือไม่?

นักเตะที่น่าจับตามอง : ปีเตอร์ เช็ก (ผู้รักษาประตู), โคลเลอร์ (กองหน้า)
โค้ช : คาเรล บรู๊คเนอร์
โอกาสในการเข้ารอบ : น่าจะตามโปรตุเกสเข้าไปได้ ถ้าไม่พลาดเกมแรกกับสวิส
ระบบการเล่น : 4-1-3-2

เช็ก; กรีเกร่า, โควัช, อูฟาลูซี่, แยนคูลอฟสกี้; กาลาเซ็ค; ซิออนโก้, มาเตยอฟสกี้, โพลัค; โคลเลอร์, บารอส

รายชื่อ 23 ผู้เล่น
ผู้รักษาประตู :1-ปีเตอร์ เช็ก(เชลซี), 16-ยาโรเมียร์ บลาเซค(เนิร์นแบร์ก), 23-ดาเนี่ยล ซิตก้า (อันเดอร์เลชท์)

กองหลัง :2-ซเดเน็ค กรีเกร่า (ยูเวนตุส), 6-มาเร็ค แยนคูลอฟสกี้ (เอซี มิลาน),13-มิเชล คัดเลช (สปาร์ต้า ปราก), 5-ราโดสลาฟ โควัช(สปาร์ตัก มอสโก),12-ซเดเน็ค ปอสเปช (โคเปนเฮเก้น),22-เดวิด โรเซห์นัล (ลาซิโอ), 18-โทมัส ซิว็อค (สปาร์ต้า ปราก), 21-โทมัส อูฟาลูซี่(ฟิออเรนตินา)

กองกลาง : 4-โทมัส กาลาเซ็ค (เนิร์นแบร์ก), 14-ดาวิด ยาโรลิม(ฮัมบวร์ก),17-มาเร็ค มาเตยอฟสกี้ (เรดดิ้ง), 20-ยาโรสลาฟ พลาซิล (โอซาซูน่า), 3-แยน โพลัค(อันเดอร์เลชท์), 19-รูดอล์ฟ สคาเซล(แฮร์ธ่า เบอร์ลิน),7-ลิบอร์ ซิออนโก้(โคเปนเฮเก้น), 11-สตานิสลาฟ วลาเซ็ค (อันเดอร์เลชท์)

กองหน้า : 15-มิลาน บารอส (ปอร์ทสมัธ),9-แยน โคลเลอร์ (เนิร์นแบร์ก),8-มาร์ติน เฟนิน (แฟรงค์เฟิร์ต), 10-วาชลาฟ สเวอร์คอฟ (บานิค ออสตราว่า)



กลุ่ม บี

ออสเตรีย

ออสเตรีย ผ่านเข้ามาเล่นในศึกชิงแชมป์ยุโรปรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง โปแลนด์ แม้ว่าพวกเขาจะเคยผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาได้ถึง 7 ครั้งแล้วก็ตาม และว่ากันว่าหากไม่ได้อานิสงส์ของการเป็นเจ้าภาพร่วมแล้ว ออสเตรีย ก็คงไม่สามารถเป็น 1 ใน 16 ทีมสุดท้ายในยูโร 2008 ได้

ก่อนลงชิงชัยในทัวร์นาเมนต์นี้เจ้าภาพร่วมมีสถิติในเกมระดับนานาชาติไม่ค่อยดีนักเมื่อชนะแค่ 33 เสมอ 13 และแพ้ถึง 34 โดยทำได้ทั้งสิ้น 146 ประตู และเสีย 125 ประตู และคาดว่าการแข่งขันครั้งนี้ ออสเตรีย ก็คงเป็นได้แค่เพียงไม้ประดับเท่านั้น ซึ่งพิสูจน์ได้จากผลงานในเกมกระชับมิตร 14 เกมหลังสุด พวกเขาเก็บชัยชนะได้แค่แมตช์เดียวเท่านั้น

โค้ช : โจเซฟ ฮิคเคอร์แบร์เกอร์ (ออสเตรีย)
กัปตันทีม : อันเดรียส อีวานซิตซ์
นักเตะที่น่าจับตามอง : อันเดรียส อีวานซิตซ์
โอกาสในการเข้ารอบ : แทบจะเป็นศูนย์
ผลงานที่ดีที่สุดในศึกยูโร : ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก
ระบบการเล่น : 4-5-1 : แมนนิงเกอร์, เพรอเดล, สตรานเซิ่ล, เอาฟ์เฮาเซอร์, การิคส์, โปกาเตทซ์, ไลท์เก็บ, อีวานชิทซ์, ฟุคส์, ซามูเมล, วาสติช

รายชื่อผู้เล่น 23 คน
ผู้รักประตู : 1- อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ (เซียน่า), 21 - เจอร์เก้น มาโช (เออีเค เอเธนส์), 23 - รามาซาน เอิซคาน (ฮอฟเฟนไฮม์)

กองหลัง : 2 - โยอาคิม สตันด์เฟสต์ (ออสเตรีย เวียนนา), 3 - มาร์ติน สตรานเซิ่ล (สปาร์ตัก มอสโก), 4 - โอมานูเอล โปกาเตทซ์ (มิดเดิลสโบรช์), 12 - โรนัลด์ แกร์คาลิว (ออสเตรีย เวียนนา), 13 - มาร์คุส คัตเซอร์ (ราปิด เวียนนา), 15 - เซบาสเตียน เพรอเดล (สตวร์ม กราซ), 16 - เจอร์เก้น ปาต็อคก้า (ราปิด เวียนนา), 17 - มาร์ติน ฮิเดน (ออสเตรีย คาร์นเท่น)

กองกลาง : 5 - คริสเตียน ฟุคส์ (แม็ตเตอร์สบวร์ก), 6 - เรเน่ เอาฟ์เฮาเซอร์ (ซัลซ์บวร์ก), 8 - คริสโตฟ ไลท์เก็บ (ซัลซ์บวร์ก), 10 - อันเดรียส อีวานชิทซ์ (พานาธิไนกอส), 11 - อูมิต คอร์คมาซ (ราปิด เวียนนา), 14 - กิออร์กี้ การิคส์ (นาโปลี, อิตาลี), 19 - เจอร์เก้น ซามูเมล (สตวร์ม กราซ)

กองหน้า : 7 - อิวิก้า วาสติช (แอลเอเอสเค ลินซ์), 9 - โรลันด์ ลินซ์ (สปอร์ติ้ง บราก้า), 18 - โรมัน คีนาสท์ (ฮาม คาม), 20 - มาร์ติน ฮาร์นิค (แวร์เดอร์ เบรเมน), 22 - แอร์วิน โฮฟเฟอร์ (ราปิด เวียนนา)



เยอรมัน

ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ไหน "อินทรีเหล็ก" มักจะถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์เสมอ และครั้งนี้ลูกทีมของ โยอาคิม เลิฟ คงจะต้องมุ่งมั่นเป็นพิเศษ เพื่อแก้ตัวหลังจากที่จอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่มในศึกยูโร 2 ครั้งล่าสุด


เยอรมัน ซึ่งคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2006 ยังไม่เคยเก็บชัยชนะในศึกชิงแชมป์ยุโรปรอบสุดท้ายได้เลย นับตั้งแต่ที่พวกเขาคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ได้เมื่อปี 1996 โดยมีสถิติเสมอ 3 แพ้ 3 ยิงได้แค่ 3 ประตู แต่โดนเจาะตาข่ายถึง 8 ครั้ง


ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาขุนพลเลือดด๊อยช์ มักจะได้รับการยอมรับว่าเป็นทีมที่เล่นได้อย่างมีวินัยมากที่สุด และความมั่นใจจากศึกเวิลด์ คัพ เมื่อ 2 ปีก่อน ก็ทำให้พวกเขาเล่นด้วยความมั่นใจและกลายเป็นทีมแรกที่ผ่านควอลิฟายเข้ามาเล่นในศึกยูโร 2008 ครั้งนี้ โดยที่ตัวผู้เล่นส่วนใหญ่ก็แทบไม่ต่างจากสมัยที่ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ คุมทีม

โค้ช : โยอาคิม เลิฟ (เยอรมัน)
กัปตันทีม : มิชาเอล บัลลัค
นักเตะที่น่าจับตามอง : มิชาเอล บัลลัค, มิโรสลาฟ โคลเซ่
โอกาสในการเข้ารอบ : ถ้าไม่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์อีกคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวกันแล้ว
ผลงานที่ดีที่สุดในศึกยูโร : แชมป์ 3 สมัย (1972, 1980, 1996)
ระบบการเล่น : 4-4-2 : เลห์มันน์, แยนเซ่น, ลาห์ม, เมอร์เตซัคเกอร์, เม็ตเซลเดอร์, ฟริตซ์, ฟริงก์ส, บัลลัค, ชไวน์สไตน์เกอร์, โคลเซ่, คูรานี่

รายชื่อผู้เล่น 23 คน
ผู้รักษาประตู : 1 - เยนส์ เลห์มันน์ (อาร์เซน่อล), 12 - โรเบิร์ต เอ็งเค่ (ฮันโนเวอร์ 96), 23 - เรเน่ อ๊าดเลอร์ (เลเวอร์คูเซ่น)

กองหลัง : 21 - คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์ (เรอัล มาดริด), 17 - เพอร์ เมอร์เตซัคเกอร์ (แวร์เดอร์ เบรเมน), 16 - ฟิลิปป์ ลาห์ม (บาเยิร์น มิวนิค), 3 -อาร์เน่ ฟรีดริช (แฮร์ธ่า เบอร์ลิน), 2 - มาร์เซล แยนเซ่น (บาเยิร์น มิวนิค), 4 - เคลเมนส์ ฟริทซ์ (แวร์เดอร์ เบรเมน), 5 - ไฮโค เวสเตอร์มันน์ (ชาลเก้ 04)

กองกลาง : 13 - มิชาเอล บัลลัค (เชลซี), 15 - โธมัส ฮิตเซิ่ลสแพร์เกอร์ (สตุ๊ตการ์ท), 6 - ไซม่อน โรลเฟส (เลเวอร์คูเซ่น), 8 - ทอร์สเท่น ฟริงก์ส (แวร์เดอร์ เบรเมน), 7 - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (บาเยิร์น มิวนิค), 14 - ปิเอเตอร์ โทรชอฟสกี้ (ฮัมบูร์ก), 18 ทิม โบรอฟสกี้ (แวร์เดอร์ เบรเมน), 19 - ดาวิด โอดอนคอร์ (เรอัล เบติส)

กองหน้า : 11 - มิโรสลาฟ โคลเซ่ (บาเยิร์น มิวนิค), 20 - ลูคัส โพดอลสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค), 9 - มาริโอ โกเมซ (สตุ๊ตการ์ท), 22 - เควิน คูรานี่ (ชาลเก้04), 10 - โอลิเวอร์ นอยวิลล์ (โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค)



โครเอเชีย

ขุนพลตราหมากรุก ทำให้แฟนบอลในบ้านเราต้องหงอยกันไปเป็นแถบเพราะพวกเขาเขี่ยทีมขวัญใจมหาชนอย่าง อังกฤษ กระเด็นตกรอบคัดเลือก และความดีความชอบส่วนใหญ่ก็คงต้องยกให้ สลาเวน บิลิช กุนซือคนหนุ่ม ที่ผสมผสานแข้งเก๋ากับดาวรุ่งอายุน้อยได้อย่างลงตัว

แม้ว่าจะมีประสบการณ์ในการคุมทีมน้อย แต่ บิลิช ซึ่งเป็นอดีตกองหลังทีมชาติโครเอเชีย ก็แสดงให้เห็นถึงฝีมือที่ยอดเยี่ยมภายใต้ระบบการเล่นแบบ 4-4-2 ที่มีดาวเด่นอย่าง ลูก้า โมดริช และ มลาเดน เพทริช นำทีม


ดูจากเพื่อนร่วมกลุ่มแล้ว คาดว่า โครเอเชีย น่าจะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ได้ไม่ยาก เพราะมีแค่เยอรมัน เท่านั้น ที่ชื่อชั้นและศักยภาพเหนือกว่า

โค้ช : สลาเวน บิลิช (โครเอเชีย)
กัปตันทีม : นิโก้ โควัช
นักเตะที่น่าจับตามอง : ลูก้า โมดริช, มลาเดน เพทริช
โอกาสในการเข้ารอบ : น่าจะกอดคอเยอรมันเข้ารอบน็อคเอาต์ได้แบบไม่ยากเย็น
ผลงานที่ดีที่สุดในศึกยูโร : รอบก่อนรองชนะเลิศ 1996
ระบบการเล่น : 4-4-2 : เปลติโกซ่า, ชอร์ลูก้า, พรานยิช, โรเบิร์ต โควัช, ซิมูนิช, นิโก้ โควัช, เซอร์น่า, โมดริช, ครานชาร์, โอลิช, เปทริช

รายชื่อผู้เล่น 23 คน
ผู้รักษาประตู : 1 - สติเป้ เปลติโกซ่า (สปาร์ตัก มอสโก), 12 - มาริโอ กาลิโนวิช (พานาธิไนกอส), 23 - เวดราน รุนเย่ (ล็องส์)

กองหลัง : 5 - เวดราน ชอร์ลูก้า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), 2 - ดาริโอ ซิมิช (เอซี มิลาน), 4 - โรเบิร์ต โควัช (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), 3 - โจซิป ซิมูนิช (แฮร์ธ่า เบอร์ลิน), 15 - ดาริโอ คเนเซวิช (ลิวอร์โน่), 6 - เฮอร์โวเย่ เวยิช (ทอม ทอมส์ค)

กองกลาง : 10 - นิโก้ โควัช (ซัลซ์บวร์ก), 11 - ดาริโอ เซอร์น่า (ชัคเตอร์ โดเนตส์ค), 14 - ลูก้า โมดริช (ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส), 19 - นิโก้ ครานชาร์ (พอร์ทสมัธ), 16 - เยอร์โก้ เลโก้ (โมนาโก), 22 - ดานิเยล พรานยิช (ฮีเรนวีน), 7 - อิวาน ราคิติช (ชาลเก้ 04), 8 - อ็อกเยน วูโคเยวิช (ดินาโม ซาเกร็บ), 13 - นิโคล่า โปคริวัช (โมนาโก)

กองหน้า : 21 - มลาเดน เพทริช (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), 18 - อิวิก้า โอลิช (ฮัมบูร์ก), 20 - อิกอร์ บูดาน (ปาร์ม่า), 17 - อิวาน คลาสนิช (แวร์เดอร์ เบรเมน), 9 - นิโคล่า คาลินิช (ไฮจ์ดุ๊ค สปลิท)



โปแลนด์

หลังจากที่เพียรพยายามมาถึง 13 ครั้ง ในที่สุด โปแลนด์ ก็ได้ผ่านเข้ามาเล่นเข้ารอบสุดท้ายในศึกยูโรได้สำเร็จ ในฐานะอันดับหนึ่งของกลุ่มรอบคัดเลือก


ลีโอ บีนฮัคเกอร์ โค้ชจอมเก๋าชาวดัตช์ สมควรได้รับเครดิตอย่างสูงในการพาทีมอย่าง โปแลนด์ ผ่านเข้ามาเป็น 1 ใน 16 ทีมของศึกชิงแชมป์ยุโรปได้โดยเน้นการเล่นแบบเคาน์เตอร์แอ็ทแทค และมี เอบี้ สโมลาเร็ค ดาวเตะจากราซิ่ง ซานตานเดร์ เป็นกำลังสำคัญ


แม้ว่า โปแลนด์ จะไม่ได้บอลแบบสวยงาม แต่มั่นใจได้ว่าผู้เล่นทุกคนล้วนเล่นอย่างมีวินัย บวกกับความฮึกเหิมในการได้มาอวดฝีเท้าเป็นครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ ก็น่าจะทำให้ โปแลนด์ สร้างปัญหาให้เพื่อนร่วมกลุ่มได้เช่นกัน

โค้ช : ลีโอ บีนฮัคเกอร์ (ฮอลแลนด์)
กัปตันทีม : มาซีจ ซูราฟสกี้
นักเตะที่น่าจับตามอง : เอบี้ สโมลาเร็ค
โอกาสในการเข้ารอบ : น่าจะสร้างความลำบากให้ทีมอย่าง เยอรมัน หรือ โครเอเชีย ได้ไม่น้อย แต่สุดท้ายก็ยังไม่น่าจะดีพอสำหรับรอบน็อคเอาต์
ผลงานที่ดีที่สุดในศึกยูโร : ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก
ระบบการเล่น : 4-5-1 : โบรุค, เซฟลาคอฟ, วาซิเลฟสกี้, บัค, จ็อป, ดุ๊ดก้า, เลวานดอฟสกี้, บราซซีคอฟสกี้, ซูรอฟสกี้, เคอร์ซีโนเว็ค, สโมลาเร็ค

รายชื่อผู้เล่น 23 คน
ผู้รักษาประตู : 1 - อาร์เทอร์ โบรุค (เซลติก), 12 - โทมัส คุสแซ็ค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), 22 - ลูคัส ฟาเบียนสกี้ (อาร์เซน่อล)

กองหลัง : 13 - มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ (อันเดอร์เลชท์), 4 - พาเวล โกลันสกี้ (สเตอัว บูคาเรสต์), 2 - มาริอุส จ็อป (เอฟซี มอสโก), 6 - ยาเซ็ค บัค (ออสเตรีย เวียนนา), 14 - มิชาล เซฟลาคอฟ (โอลิมเปียกอส), 23 - อดัม โคคอสซ์ก้า (วิสล่า คราคอฟ), 3 - ยาคุบ วาเวอร์ซีเนียค (ลีเกีย วอร์ซอ)

กองกลาง : 18 - มาริอุส เลวานดอฟสกี้ (ชัคเตอร์ โดเนตส์ค), 5 - ดาริอุส ดุ๊ดก้า (วิสล่า คราคอฟ), 16 - ยาคุบ บราซซีคอฟสกี้ (โบรุสเซียดอร์ทมุนด์), 19 - ราฟาล มูรอฟสกี้ (เลช พอซแนน), 15 - มิชาล พาซดาน (กอร์นิค ซาเบอร์เซ่), 10 - ลูคัส การ์กูล่า (จีเคเอส เบลชาตอฟ), 8 - ยาเซ็ค เคอร์ซีโนเว็ค (โวล์ฟสบวร์ก), 20 - โรเจอร์ เกร์เรโร่ (ลีเกีย วอร์ซอ)

กองหน้า : 9 - มาเซียจ ซูรอฟสกี้ (ลาริสซ่า), 7 - เอบี้ สโมลาเร็ค (ราซิ่ง ซานตานเดร์), 11 - มาเร็ค ซากานอฟสกี้ (เซาธ์แฮมป์ตัน), 21 - โทมัส ซาฮอร์สกี้ (กอร์นิค ซาเบอร์เซ่), 17 - โวจ์เช็ก โลบ็อดซินสกี้ (วิสล่า คราคอฟ)



ที่มา:msn.com


Create Date : 09 มิถุนายน 2551
Last Update : 9 มิถุนายน 2551 16:26:30 น. 0 comments
Counter : 2352 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nunjoy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




การเป็นตัวของตัวเองอะแหละดีที่สู้ดดดดด!
Friends' blogs
[Add nunjoy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.