Welcome(ยินดีต้อนรับ)
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
ว่าที่คุณแม่ใช้มือถือระหว่างท้อง ลูกน้อยเสี่ยงมีปัญหาพฤติกรรม

ผลศึกษาพบการใช้โทรศัพท์มือถือขณะตั้งครรภ์เพียงวันละ 2-3 ครั้ง มีแนวโน้มทำให้ลูกที่คลอดออกมามีปัญหาพฤติกรรม เช่น สมาธิสั้น หรือปัญหาทางอารมณ์ นอกจากนี้ นักวิจัยยังแนะนำไม่ให้พ่อแม่ปล่อยลูกใช้โทรศัพท์มือถือก่อนอายุ 7 ขวบ
นับเป็นงานวิจัยชิ้นล่าสุดที่สะท้อนความกังวลว่าอุปกรณ์สื่อสารไร้สายชนิดนี้อาจมีผลต่อสุขภาพ รวมถึงเป็นคำเตือนใหม่สำหรับว่าที่คุณแม่ นอกเหนือจากเรื่องการดื่ม สูบบุหรี่ สัมผัสยาฆ่าแมลง อาหารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ และความเครียด

งานวิจัยนี้ยังเป็นการติดตามผลการศึกษาขององค์กรติดตามตรวจสอบด้านการแพร่กระจายรังสีของรัสเซีย ที่ระบุว่าอันตรายจากโทรศัพท์มือถือที่มีต่อสุขภาพของเด็กไม่ได้น้อยไปกว่าอันตรายจากบุหรี่หรือเหล้าเลย

สำนักงานปกป้องสุขอนามัยของอังกฤษกล่าวว่า ผลการศึกษานี้เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมาย และตอกย้ำความจำเป็นในการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างระมัดระวัง อย่างไรก็ดี ไม่มีการออกคำเตือนให้สตรีมีครรภ์เลิกใช้อุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้แต่อย่างใด โดยโฆษกของสำนักงานแจงว่า จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป และอาจมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดผลเช่นนี้ อย่างไรก็ดี ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้เด็กใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป

ในรายงานซึ่งถือเป็นการศึกษาแง่มุมนี้ครั้งแรก และครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างกว่า 13,000 คนนั้น พบว่าผู้หญิงที่ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างตั้งครรภ์มีแนวโน้มถึง 54% ที่จะรายงานว่าลูกมีปัญหาพฤติกรรม ซึ่งรวมถึงอาการสมาธิสั้น ปัญหาด้านอารมณ์และความสัมพันธ์

นอกจากนั้น เด็กที่แม่ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างตั้งท้อง และตัวเด็กเองใช้อุปกรณ์นี้ก่อนอายุ 7 ขวบ มีแนวโน้มมากขึ้นถึง 80% ที่จะมีปัญหาพฤติกรรม ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่เคยใช้โทรศัพท์มือถือเลย

เด็กเหล่านี้มีความเสี่ยงมากขึ้น 25% ที่จะมีปัญหาด้านอารมณ์, 24% สำหรับปัญหาในการเข้ากับเด็กอื่น, 35% สมาธิสั้น และ 49% ในส่วนปัญหาด้านพฤติกรรมอื่นๆ โดยความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้โทรศัพท์และการได้รับรังสี

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผลการศึกษานี้มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากหนึ่งในผู้จัดทำรายงานเป็นผู้ที่เคยข้องใจคำกล่าวอ้างที่ว่าโทรศัพท์มือถือมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ

ก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์ลีกา ไคเฟตส์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย, ลอสแองเจลีส เคยจัดทำเอกสารระบุว่าไม่พบหลักฐานพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ชนิดนี้ส่งผลลบต่อสุขภาพ

แต่ล่าสุด ศาสตราจารย์ไคเฟตส์และผู้ร่วมจัดทำรายงานอีกสามคนสรุปว่ามีหลักฐานบ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างโทรศัพท์มือถือกับปัญหาพฤติกรรม แต่สำทับว่า อาจมีคำอธิบายที่เป็นไปได้อื่นๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งรวมถึงการที่แม่ที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นประจำระหว่างท้อง อาจยังคงพฤติกรรมนี้หลังคลอดจึงมีเวลาให้ลูกน้อย

นอกจากนั้น แม้เชื่อกันว่า รังสีจากโทรศัพท์มือถือสามารถทะลุทะลวงเข้าสู่ผิวหนังในระดับความลึกเพียง 1-2 เซนติเมตรจึงไม่สามารถเข้าถึงทารกในครรภ์ได้ กระนั้น การศึกษาในอดีตพบว่า รังสีดังกล่าวอาจส่งผลต่อระดับเมลาโทนิน หรือฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับที่แม่ถ่ายทอดผ่านรกไปยังทารกน้อยในครรภ์

อนึ่ง งานวิจัยชิ้นนี้ซึ่งจัดทำโดยทีมนักวิจัยของไคเฟตส์และนักวิชาการในอาร์ฮัส เดนมาร์ก จะเผยแพร่ในวารสารการแพทย์เอปิเดไมโอโลจีฉบับเดือนกรกฎาคม

ที่มา:


Create Date : 21 พฤษภาคม 2551
Last Update : 21 พฤษภาคม 2551 17:14:26 น. 1 comments
Counter : 322 Pageviews.

 
โอ้...ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับความรู้ จะระวังให้ดีค่ะ


โดย: วินนี่ย์หมีพูห์ วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:49:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nunjoy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




การเป็นตัวของตัวเองอะแหละดีที่สู้ดดดดด!
Friends' blogs
[Add nunjoy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.