++ Life is Beautyful ++
lozocat
lozocatlozocat
เหินฟ้า ข้ามน้ำ..สู่อังกฤษ (ครั้งแรก)

ตื่นแต่เช้า ตื่นเต้นชะมัด อาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวปลุกสามีและน้องชายอาบน้ำอาบท่า พอแปดโมงกว่าๆ แท๊กซี่โทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่หน้าปากซอยกำลังจะเข้ามาแล้ว แต่เรานัดไว้เก้าโมง อืม ก็ดี คุณสามีเดินไปเดินมากว่าจะเก็บของเสร็จก็เกือบเก้าโมง พอรถกำลังจะออก ริชาร์ดนึกได้ว่า ลืมกระเป๋าตังค์ไว้ในห้องนอน โถ..จะบ้าตายของสำคัญขนาดนี้ลืมได้งัยฟะ!!!


พอถึงแอร์พอร์ตก็รีบไปเช็คดูตารางเช็คอินว่าเปิดหรือยัง โชคดีเคาน์เตอร์เปิดแล้วไม่ต้องแบกกระเป๋านาน

พวกเราตรงดิ่งทันทีเพื่อโหลดกระเป๋าเข้าเครื่อง แต่..อุเหม่! หนักไม่ใช่เล่นแฮะ ริชาร์ดหันมากระซิบบอกเราว่า “ยิ้มไว้ที่รัก ยิ้มไว้ ชวนคุยเยอะๆ เพราะจะได้ไม่ต้องชั่งน้ำหนักกระเป๋า” โห..นี่กะว่าให้ชั้นเป็นหน่วยกล้าตายเลยนะเนี่ย แต่ในที่สุดก็ผ่านด่านฉลุย....ทีนี้ก็ได้เวลายื่นเอกสาร VAT Refund แล้ว (เอาตังค์ชั้นคืนมา)
โอ้ว!!~ เสร้จสรรพได้คืนมา 5 พันกว่าบาท อิอิ ^_^ Happy!!!

ว่าแต่ว่าตอนนี้หาอะไรกินก่อนดีกว่า หิวแล้ว ..เราสั่งผัดไทกุ้งสด คุณสามีสั่งแซนวิช คุณน้องชายสั่งกระเพราไก่ (สิ้นคิด) กินพอรองท้องเพราะเด๋วไม่มีที่ว่างสำหรับอาหารบนเครื่องบิน จากนั้นเมื่อท้องอิ่มก็แยกย้าย เซย์ Good bye กันเป็นที่เรียบร้อย
ถึงเวลาต้องผ่าน Immigration ต่อแถวไม่นาน ก็เดินดูนู้นดูนี่ไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่ถึงเวลาเดินทาง ก็ไปแวะที่เคาน์เตอร์ Bobbi brown ตั้งใจว่าจะแวะดูครีมรองพื้นสักหน่อยเพราะใกล้หมดแล้ว เลยได้มาชิ้นหนึ่ง แล้วก็เดินดูนาฬิกาที่ริชาร์ดอยากจะโชว์เหลือเกิน (แต่ไม่ได้ซื้อ) ราคาแพงหูฉี่ 3 แสนกว่าบาท เอาไปดาวน์บ้าน หรือซื้อรถดีกว่าป่ะ?? เดินไปเรื่อยๆ ริชาร์ดก็อยากแวะจิบชาที่แบล็คแคนยอน เพื่อเป็นการฆ่าเวลา ก็ดีอ่ะ เพราะตอนนี้รองเท้ากัดแล้วง่ะ - -“

ระหว่างนั้นเราก็ว่างไม่รู้จะทำอะไรดี ก็หยิบโทรศัพท์โทรฯไปหาแม่ น้า และลุง เพื่อกล่าวลาก่อนจะขึ้นเครื่อง หลังจากนั้นก็โทรหาเพื่อนส้ม ซึ่งเราไม่ได้คุยกันนานมากแล้ว ก็ใช้เวลาคุยกันนานทีเดียวล่ะ เฮ้อ! ว่าแล้วก็ใจหายถึงแม้ว่าเราจะเดินทางแค่สามเดือน แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ต้องเดินทางข้ามซีกโลกของเรา และต้องอยู่นานซะด้วยสิ หลังจากที่จิบชาแล้วก็ดูเวลาก็ใกล้จะต้องไปที่ Gate แล้ว ขณะที่เดินกำลังจะไปขึ้นเครื่อง เพื่อนเก๋โทรมาหาเราและอวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ซึ้งอีกแล้วอ่ะ


ที่ GATE คนค่อนข้างเยอะ รอไม่นานเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เท่าๆ ที่คะเนด้วยสายตาทริปนี้น่าจะประมาณเกือบสี่ร้อยคน เพราะคนเยอะมากๆ ทั้งเด็กน้อย ทั้งคนแก่ แต่ไม่ค่อยมีคนไทยเท่าไหร่ จะเป็นแต่พวกฝรั่งทั้งนั้นเลย

เราได้ที่นั่ง 51J และ 51K เราเลือกที่นั่งริมหน้าต่างแต่มันเป็นที่นั่งสามคน เรากับริชาร์ดลุ้นกันว่าจะมีใครมานั่งหรือเปล่า..

ในที่สุดก็มีชายวัยกลางคนมานั่งข้างริชาร์ด ส่วนที่นั่งด้านหน้าเราเป็นสาวเกาหลีหรือจีนไม่แน่ใจ ออกจะวัยรุ่นนิดๆ สองคน ยังว่างอีกหนึ่งที่ ส่วนด้านหลังเป็นชายผิวหมึกนั่งคนเดียว (สงสัยจะเลือกให้เป็นพิเศษ) แต่ทำไมอีตาคนนี้ไม่ไปนั่งกับชายผิวหมึกวะ???

ริชาร์ดกับเรามองหน้ากัน จากนั้นไอเดียจากริชาร์ดก็บรรเจิด (แต่ไม่สร้างสรรค์เท่าไหร่) เป็นแผนการไล่ชายผู้ไม่พึงประสงค์คนนี้ไปนั่งทีอื่น “ที่รักเดี๋ยวยู fart นะ ผู้ชายคนนี้จะได้ไปนั่งที่อื่น” ดูสิ. ยังมีน่ามาวางแผนให้เราตดไล่อีก เห็นเราเป็นอะไรเนี๊ย?? ก่อนขึ้นเครื่องก็ให้ชั้นชวนเจ้าหน้าที่เช็คอินคุย ตอนนี้จะให้ชั้นตดอีกแล้ว ตาบ้านี่..
และแล้วพอได้เวลาเครื่องก็เหินสู่เวหา เราก็เริ่มหาอะไรทำทันทีเหมือนกัน ไปเห็นจอเล็กๆ ติดกับเบาะด้านหน้าเรา จริงๆ แล้วด้านหลังของทุกเบาะเป็นจอเล็กๆ เพื่อที่จะให้ผู้โดยสารได้ ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์ หรือเลือก Entertain ได้ตามใจฉันกันไปเลย เราก็เริ่มสนุกกับของเล่นชิ้นใหม่ที่ว่านี้ เลือกที่จะดูว่ามันมีอะไรน่าสนใจบ้าง ก็ไปเจอเกม Jewely สุดโปรด ก็เล่นสักพักใหญ่ อาการเบื่อก็มาเยือน เลยหันไปเลือกอย่างอื่นเล่นแทน หลังจากที่คลิ๊กไปคลิ๊กมาสักพักก็เปลี่ยนใจไปอ่านคู่สร้างคู่สมดีก่าเรา

ระหว่างที่อ่านหนังสืออยู่ก็มีแอร์โฮสเตรสหน้าตาจิ้มลิ้ม เดินมาถามเราว่า “คุณระบุอาหารซีฟู๊ดใช่มั้ยคะ” อ้าว. คนไทยนี่หน่า หน้าตากระเดียดไปทางเจแปนหรือไม่ก็เกาหลีอ่ะ เราก็ตอบไปว่า “ใช่ค่ะ” เธอก็บอกต่อว่า “เดี๋ยวอาหารจะเอามาเสริฟให้นะคะ กรุณาอย่าเปลี่ยนที่นั่ง”

จากนั้นประมาณ 3 นาที (เหมือนรอเวลาต้มมาม่า) อาหารก็ทยอย
เสริฟมาที่เรากับสามี แต่เท่าที่สังเกตุดูคนอื่นยังไม่ได้อาหารเลยนี่หว่า ได้แต่แอบกระหยิ่มในใจ อิอิ..เรามันเป็นลูกค้าวีไอพีเฟ้ย ให้พวกฝรั่งมันอิจฉาซะบ้าง คนไทยก็มีอภิสิทธิ์เหมือนกันน๊า...เพราะระหว่างที่พวกยูอยู่เมืองไทย คนไทยคงเทคแคร์พวกยูดีน่าดู คราวนี้เราคงโดนอิจฉาน่าดูอ่ะ...กลิ่นหอมยั่วยวนน้ำลายดีแท้ อย่างนี้ต้องจัดการซะให้หมด อืม...มี อ.ย. (อาหย่อย) ด้วยใช้ได้ มีขนมหม้อแกงด้วย หวานเชี๊ยบ แต่หน้าเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกัน

ทีนี้ก็เป็นเด็กน้อยที่ว่านอนสอนง่าย หลังจากกินอิ่มก็นอนหลับตามระเบียบ หุหุ...จะมีอะไรดีไปกว่านี้เล่า. Zzzzz





Create Date : 01 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 29 สิงหาคม 2552 22:14:49 น. 6 comments
Counter : 468 Pageviews.

 
Hello Hello บ้านนี้ มีใครอยู่ไหมน๊า อิอิ เค้าแอบมาทักทายจ้า อิอิ ดีใจ ดีใจ ได้เจิมบล๊อกตัวเองด้วยอ่ะ เย้ เย้

เอารูปที่ไปเที่ยวมาลงให้ดูด้วยน๊า


โดย: Jeab's Story วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:01:24 น.  

 
แวะมาทักทายอีกคน...นั่งอ่านซะเพลินเลย


โดย: duen norway วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:28:23 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ

แอนน์ก็อยู่อังกฤษค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ


โดย: yr_naughty_annie วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:51:27 น.  

 
ดีจ้า...สรุปว่าทริปนี้เป็นทริปที่ดีอ่ะซิ เพราะทุกอย่างผ่านไปด้วยดี...เสียอย่างเดียว มีคนแก เอ้ย วัยกลางคนมานั่งซะงั้น...ขนมหม้อแกงอร่อยมั้ย ..

มีความสุขมากๆจ้า


โดย: Katja วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:59:56 น.  

 
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำทักทายนะจ้ะ

นี่เพิ่งหัดทำบล็อกอ่ะ ยังงงๆ มึนๆอยู่เลย

จะพยายามต่อไปน๊า


โดย: nokojang วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:10:27:30 น.  

 
เจ้าของบล็อกอย่าเพิ่งงง+มึนไปค่ะ
เราเองก้อมึน+งง จนถอดใจไปพักหนึ่ง
ทีนี้พอเห็นบล็อกคนอื่นน่ารักเหลือเกิน
เลยกลับไปฝึกอีกที..คราวนี้พอได้บ้างแล้ว
แต่แค่ขั้นพื้นฐานนะคะ..ไว้ให้มีเวลามากกว่านี้
บล็อกคงสวยกว่านี้..
..สู้ๆ ค่ะ


โดย: DolphinRoll วันที่: 8 เมษายน 2552 เวลา:20:24:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

nokojang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ บล็อกนี้เขียนไว้แก้เหงา..บางทีก็มีสาระ บางทีก็หาสาระไม่ได้ แต่คิดว่าอย่างน้อย..คงได้รู้จักกันบ้าง ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็มาทักทายกันอีกน๊า

lozocat
เพื่อนที่กำลังเข้าชมบล็อคคน free counters
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
1 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nokojang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.