มิถุนายน 2553

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ตอนที่ 15 +++ เห็น(ความรู้สึกดีๆ ที่มีแก่กันและกัน) +++





“อย่าทะเลาะกัน” นักกายภาพบำบัดหนุ่มตะโกนเสียงดังเพื่อดึงความสนใจของคนอื่นๆ ด้วยความตกใจที่ได้ยินเสียงของก้อง กระเทยอ้วนญาติผู้พี่จึงสะดุดขาตัวเองไปชนจนหุ่นลองชุดล้มลงไปกับพื้น



หุ่นตัวนั้นล้มลงไปยังร่างของนักกายภาพบำบัดหนุ่มที่เพิ่งกลับจากอเมริกาไม่นาน ท่ามกลางสายตาและเสียงร้องตกใจของทุกคนในบ้าน พียืนอยู่ที่ประตู ไกลเอาการที่จะเข้ามารับหุ่นไว้ได้ทัน แต่กระนั้น ชายหนุ่มผิวเข้มก็รีบวิ่งเข้ามาเพื่อจะช่วยคนรัก ฟองจันทร์และเจ๋งที่อยู่ใกล้กว่าก็ตกใจมากเกินกว่าจะเข้าไปช่วยได้ ทั้งคู่ยืนนิ่งเหมือนโดนสะกด หุ่นตัวนั้นมีน้ำหนักไม่น้อยเลย ถ้าล้มลงมาทับใครก็ตาม คนนั้นจะต้องเจ็บตัวไม่เบา ยิ่งถ้าโดนอวัยวะสำคัญเช่นศีรษะก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาอย่างน่าใจหาย



มือขวาลอยขึ้นไปคว้าจับตรงบริเวณหัวไหล่ซ้ายของหุ่นได้ทัน มือซ้ายเข้าไปช่วยรองรับน้ำหนักอีกข้าง และดันหุ่นลองชุดให้ยืนขึ้นในสภาพเดิม กระดุมข้อมือขลิปทองเม็ดหนึ่งหลุดออกมาจากรังดุม หล่นลงไปยังพื้น ชายหนุ่มตั้งหุ่นเรียบร้อยแล้วก็ก้มลงไปเก็บท่ามกลางสายตาของคนอื่นๆ



“พี่ตุ่มระวังหน่อยสิครับ ดูสิ กระดุมแขนเสื้อก้องหลุดหมดเลย แต่สีนี้สวยดีนะ ก้องชอบจังเลยแม่” คำพูดของก้องทำเอาคนอื่นๆตกใจ เพราะไม่คาดว่าก้องจะรับหุ่นไว้ได้ และยังมองเห็น
แขนเสื้อกับกระดุมอีกด้วย



“ก้องชอบกระดุมสีทองหรอลูก” ฟองจันทร์เอ่ยถาม



“ชอบสิแม่ สีสวยดี เข้ากับเสื้อดีด้วย”



“ตอนที่แม่เลือกให้ก้อง พี่ยังนึกว่าเม็ดมันเล็กไปหน่อยเลย” แก้วลองถามบ้าง



“ไม่เล็กหรอกพี่แก้ว กำลังดีต่างหาก ขืนใหญ่กว่านี้ ได้เด่นเกินเสื้อแน่ๆ”



“แล้วน้องก้องว่า ถ้าน้องก้องได้ใส่แล้วจะหล่อรึเปล่าล่ะ” ตุ่มถามอีกคน



“หล่อสิพี่ตุ่ม คนหน้าตาดี ใส่อะไรก็ดูดี”



“ใช่ๆ หล่อๆอย่างน้องก้องน่ะ ใส่อะไรก็หล่อ” เจ๋งร่วมบอกด้วย ซึ่งก้องก็หันไปมองทางเจ๋งด้วยความเขินที่ถูกชมก่อนจะตอบ



“เฮ้ยยย... พี่เจ๋ง ไปตัดผมทรงอะไรมาเนี่ย ก้องเคยบอกพี่เจ๋งแล้วไง ว่าไม่ชอบสกินเฮด”



“ก็..........” เจ๋งตื่นเต้นบางอย่างจนพูดไม่ออก



“ก้อง...” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังจากหน้าประตู นักกายภาพบำบัดหนุ่มหันไปทางต้นเสียงของคนที่คุ้นเคย ซึ่งกำลังยืนยิ้มเผยอรอยเขี้ยวชัดเจน



“ฮึ...” ก้องขานรับ ทันใดนั้น ชายคนดังกล่าวก็โยนพวงกุญแจรถส่งมาให้ ซึ่งนักกายภาพบำบัดหนุ่มก็สามารถรับได้อย่างชำนาญ ภาพการรับพวงกุญแจรถของก้องสะท้อนเข้าไปในสายตาและห้วงความรู้สึกของทุกๆคน



“ก้อง....นี่คุณ” พีเอ่ยเรียกพลางปาดคราบน้ำตาบนใบหน้า



“ว่าไงพี” ก้องตอบรับ ขณะเดียวกัน ทุกๆคนก็มารุมล้อมรอบตัวก้อง



“ก้อง...ลูก” ฟองจันทร์เป็นคนแรกที่เข้ามากอดลูกชายพร้อมน้ำตา ก้องกอดกลับพร้อมกับทำสีหน้างงเล็กน้อย มองเสื้อสีเหลืองหม่นลายดอกของแม่แล้วยิ้มออกมา



“ก้องชอบให้แม่ใส่เสื้อตัวนี้จังเลย”



“ก้อง... นี่ก้อง...” แก้วเองก็น้ำตาไหลเช่นกัน แล้วเข้ามากอดน้องชายด้วยคน ตุ่มกับเจ๋งก็กอดกันเองด้วยความปลาบปลื้มดีใจ



น้องชายคนเล็กของบ้านเหมือนจะจำได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน กับทุกๆคน กับความรู้สึกและน้ำตาที่คนในบ้านแสดงออกมา กระพริบตาช้าๆแล้วพูดออกมาด้วยความปิติใจ



“ก้องมองเห็นแล้ว.... แม่... พี่แก้ว ก้องมองเห็นแล้ว” น้ำตารื้นขึ้นบนสองตาที่ส่องประกายสดใสของชายหนุ่ม ก้องมองไปที่ประตูบ้าน ชายหนุ่มผิวเข้มที่ก้องโหยหาอยากเห็นใบหน้ามานาน ยืนส่งยิ้มพร้อมใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตามาให้ ก้องยิ้มตอบพีอย่างมีความสุข ขณะที่สองมือก็โอบกอดแม่กับพี่สาวอยู่





........





........






“ก้อง... ผมดีใจนะ ที่คุณ....” พีนั่งใช้หลังของตน อิงกับหลังของก้องในศาลาหน้าบ้าน ชายหนุ่มทั้งสองนั่งลงคุยกันบนพื้น โดยไม่สนใจเก้าอี้แต่อย่างใด



“ขอบคุณนะ....” ก้องขัดจังหวะการพูดของพี พร้อมกับใช้น้ำหนักตัวออกแรงพิงหลังพีแรงขึ้น



“ก้อง.....” พีว่าก้องที่แกล้งดันหลังของตนแรงๆ แต่ก็แอบรู้สึกชอบใจเหมือนกัน นักแข่งรถหนุ่มจึงแกล้งล้มตัวลงไปข้างหน้า ทำให้ก้องล้มหงายหลังของตนไปบนหลังของพี



“พีอะ..” ก้องแกล้งทำเสียงหงุดหงิดหลังจากลุกขึ้นนั่งอย่างเดิม แล้วเปลี่ยนจากการนั่งหลังพิงหลัง มาเป็นการหันหน้าเข้าหากัน ประสานสายตาต่อกัน จ้องสะท้อนไปในแววตาของกันและกัน



“ขอบคุณนะ....” ก้องพูดซ้ำประโยคเดิม



“ขอบคุณผมทำไมก้อง...”



“ก็เพราะคุณพาผมไปรักษาที่อเมริกา ผมถึงได้มีโอกาสมองเห็นอีกครั้ง ทีนี้ คุณก็ไม่ต้องมาเป็นตาให้ผมแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องรบกวนคุณอีก”



“แต่ผมเต็มใจและมีความสุขที่ได้เป็นตาให้คุณนะก้อง ถ้าคุณไม่ให้ผมเป็นตาแล้ว แล้วใครจะเป็นยายให้ผมล่ะ อีกอย่างนะ...ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณนะก้อง เพราะถ้าคุณไม่ช่วยผมไว้ตอนนั้น คนที่ตาบอด อาจจะเป็นผมก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะ....”



“ไม่เอา.. ไม่ต้องพูดแล้ว ผมเคยบอกแล้วไง ผมเต็มใจเสียสละเพื่อคุณ...”



“ใช่ก้อง ผมรู้ ผมถึงกำลังจะบอกอยู่นี่ไง ว่าเพื่อทำให้คุณกลับมามองเห็นเหมือนเดิม ผมก็เต็มใจทำทุกอย่างเช่นกัน ผมไม่มีวันทิ้งคุณ เราจะไม่มีวัน...”



“แยกจากกัน.. ผมรู้พี ผมรู้” ก้องพูดจบก็สวมกอดพีไว้ ทั้งคู่นั่งกอดกันซักพัก แล้วพีก็หยิบกระดุมเสื้อสีทองที่หลุดออกจากเสื้อของก้องออกมาโชว์ให้ก้องดู



“พี .... นี่มัน”



“ก็กระดุมเสื้อของคุณไงก้อง ผมไปขอคุณป้ามา ว่าจะเอาไปเป็นแบบหน่อย”



“แบบอะไรเหรอพี”



“เหอะน่า... เดี๋ยววันมะรืนนี้ คุณก็รู้เองแหละ”



“วันแต่งงานของพี่แก้วกับพี่ปออะนะ”



“ใช่... ผมขออนุญาตคุณป้าเรียบร้อยแล้วด้วย”



“พี คุณนี่แอบมีเรื่องลับๆกับแม่ของผมแล้วให้ผมรู้ที่หลังอยู่เรื่อยเลยนะ”



“เถอะน่า บอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพร้ส์น่ะสิ” พีส่งยิ้มมาให้ ก้องยิ้มรับ แล้วจูงมือพีออกไปเดินเล่นด้วยกันนอกบ้าน



“น้องก้องนี่ก็ไม่เบานะไอ้เจ๋ง ดูดิ๊ เพิ่งจะกลับมามองเห็นไม่ทันไร ก็พาน้องพีไปหนุงหนิงกันสองต่อสองแล้ว ชั้นล่ะอิจฉาอิจฉา อยากมีแฟนหล่อๆแบบน้องพีบ้าง เมื่อไหร่จะมีผู้ชายดีๆหน้าตาหล่อๆผ่านมาแถวนี้บ้างนะ” ตุ่มบอกกับเจ๋งหลังจากที่แอบดูน้องพีกับน้องก้องคุยกันจากหน้าต่างกระจกบานเดิมที่เค
ยใช้แอบดูน้องแก้วกับน้องปอทะเลาะกันเมื่อหกปีก่อน



“ชาติหน้าตอนบ่ายๆไงเจ๊ ก่อนเจ๊จะตายก็อย่าลืมอธิษฐานซะก่อนล่ะ เดี๋ยวเทวดาไม่รู้” เจ๋งได้โอกาสก็กัดเข้าให้หนึ่งดอก ตุ่มได้ยิน ก็ฟาดมือเข้าใส่หัวกบาลของเจ๋งทันที แต่เจ๋งเหมือนจะรู้ทัน ใช้มือข้างที่ถือถาดอยู่ ยกมารับได้ทัน มือของตุ่มจึงฟาดใส่ถาดอลูมีเนียมเต็มๆ



“อ๊ายยย..ไอ้เจ๋ง เดี๋ยวนี้ชักกล้านะยะ เอาถาดมารับมือชั้นเนี่ย”



“ก็ใครใช้ให้เจ๊......” เจ๋งอ้าปากพูดได้ไม่ทันไร ก็ถูกเจ๊ตุ่มเอาเศษซี่โครงไก่ที่เหลือจากอาหารมื้อเย็นเมื่อครู่นี้ จับยัดเข้าปากทันทีโดยไม่ทันได้ตั้งตัว



“อะ..เอาไป สำหรับการปากหมาของเอ็งนะไอ้เจ๋ง” ตุ่มทำหน้าสะใจที่เอาคืนได้สำเร็จ ขณะที่เจ๋งก็ได้แต่จ้องหน้าตาโตเพราะความเจ็บใจที่ตนเองเสียท่า แต่หันไปจ้องเจ๊ตุ่มซักพัก ก็ลุกขึ้นยืนและรีบไปทำงานเก็บล้างในครัวต่อทันที ทิ้งให้ตุ่มอยู่คนเดียว



“อะไรของมันวะไอ้นี่ แค่ซี่โครงไก่ชิ้นเดียว ถึงกับวิ่งหนีไปเลย อุ๊ยยย... น้องพีน้องก้องออกไปเดินเล่นนอกบ้านแล้ว ตามไปดูดีกว่า ว่าไปจู๋จี๋กันถึงไหนแล้ว” ตุ่มพูดคนเดียว



“แล้วจะไปดูที่ไหนล่ะ” เสียงคุ้นๆดังขึ้น แต่ตุ่มไม่ได้ใส่ใจนักเพราะในใจห่วงอยากไปแอบดูน้องพีกับน้องก้องกระหนุงกระหนิงกันม
ากกว่า



“ก็สนามเด็กเล่นท้ายซอยไง ชั้นเคยเห็นน้องพีพาน้องก้องไปเดินเล่นบ่อยๆ ตอนที่ตามองไม่เห็นน่ะ อู้ยยยยย....” ตุ่มเหมือนจะนึกขึ้นมาได้ ว่าเสียงที่ถามเป็นเสียงของใคร จึงรีบกลับหลังหันไปดูทันที



“หรอ......” เสียงนั้นยังคงหันมาถามตุ่ม



“ชะอู้ยยยย.. ป้าฟอง มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมตุ่มไม่ทันเห็น” ตุ่มตะกุกตะกักกลัวโดนป้าดุ



“ก็ตั้งแต่ที่เราเอากระดูกไก่ใส่ปากเจ้าเจ๋งมันนั่นแหละ ไง... งานเสร็จแล้วรึจ๊ะ ถึงได้มีใจมาแอบดูน้องๆเค้าทำอะไรกัน มาแอบดูคนอื่นเนี่ย มันเสียมารยาท รู้มั้ย .... ไปเลย ไปล้างครัวให้เสร็จ มืดค่ำแล้ว เดี๋ยวได้มาช่วยชั้นติดกระดุมเสื้อให้ก้อง แล้วก็ไปเอาชุดออกมาให้พ่อพีเค้าลองด้วย” ตุ่มรับคำแล้วเดินเข้าไปทำงานในครัวต่อ ก่อนถึงครัวก็ทันได้เห็นหน้าของเจ๋งที่ยิ้มสลอนแอบสะใจที่เห็นตุ่มโดนป้าฟองดุ แถมยังทำตาเย้ยหยันสมน้ำหน้าตุ่มอีกด้วย โชคดีที่เจ๋งทันเห็นป้าฟองก่อน เลยเลิกอู้ได้ทัน และทิ้งให้ตุ่มโดนดุคนเดียว




...




...





“คุณชอบมาเดินเล่นที่นี่เหรอก้อง ผมเห็นคุณชอบให้ผมพามาบ่อยๆตอนที่ยังมองไม่เห็นน่ะ ว่าจะถามหลายทีแล้ว แต่ลืมทุกทีเลย” พีหันซ้ายไปถามก้องที่เดินจูงมือมาด้วยกัน ขณะที่มาถึงทางเข้าสนามเด็กเล่นสาธารณะท้ายซอย



“ใช่พี.... ผมชอบที่นี่ และก็มาที่นี่บ่อยๆตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว พี่กิ่งกับพี่แก้วชอบพาผมมานั่งชิงช้า แล้วพี่กิ่งก็จะเป็นคนแกว่งให้ประจำเลย แต่หลังจากที่ผมเสียพี่กิ่งไป ผมก็ไม่ได้มาที่นี่อีกเลย จนกระทั่งผมตาบอดแล้วคุณเป็นคนพาผมออกมาเดินเล่นเนี่ยแหละ” ก้องตอบพี ขณะที่สายตาก็มองหาชิงช้าตัวที่ตนเคยนั่งมาก่อน แต่หาไม่เจอ



“ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลย ชิงช้าตัวเดิมของผมก็ไม่อยู่แล้ว สงสัยมันคงจะพังไปแล้วมั้ง” ก้องพูดจบก็ถอนหายใจแสดงความเสียใจกับการเปลี่ยนแปลง ใช่.... ทุกอย่างมักจะเปลี่ยนแปลง และไม่มีใครจะฝืนเหนี่ยวรั้งไว้ได้ ชิงช้าที่เคยนั่งให้พี่สาวคนโตแกว่งไกวเป็นประจำในอดีต บัดนี้ ไม่มีอีกแล้ว ความทรงจำสีจางๆมันผ่านไปแล้ว....... นานแล้ว



“แต่ก็ยังโชคดีที่มีตัวใหม่มาแทนที่ไม่ใช่เหรอก้อง ถึงจะไม่ใช่ตัวเดิม แต่ชิงช้าก็คือชิงช้า ที่สามารถแกว่งไกวได้เหมือนเดิม ก้อง ... คุณนั่งลงก่อนนะ เดี๋ยวผมจะแกว่งให้คุณเอง” พีรอให้ก้องนั่งลงบนชิงช้า อาจจะดูแคบไปเสียหน่อย เพราะก้องตัวโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับสิบกว่าปีก่อนที่เคยนั่งให้พี่กิ่งไกวชิงช้าให้ จากนั้น พีก็เป็นคนไกวชิงช้าให้ก้องด้วยตัวเอง



เสียงชิงช้าไกวไปมา ความรู้สึกวูบไหวไปกับจังหวะการแกว่งของชิงช้าไหลวนอยู่ในท้องน้อยของชายคนที่นั่งอย
ู่ ก้องหวนนึกถึงความรู้สึกในวัยเด็กที่มีพี่สาวคนโตคอยแกว่งชิงช้าให้ แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ภาพเด็กหญิงตัวโตๆกำลังจะแตกเนื้อสาว ที่คอยแกว่งชิงช้าให้เด็กชายตัวเล็กๆนั่งเล่น สลับไปมากับภาพหญิงสาวในชุดนักศึกษาพยาบาล กับเด็กนักเรียนชายชั้นม.ต้น ที่สลับผลัดกันแกว่งชิงช้าให้กันและกัน ไหลเวียนในห้วงคำนึงแห่งความทรงจำของนักกายภาพบำบัดหนุ่มที่เพิ่งจะหายเป็นปรกติกับอ
าการที่ตามองไม่เห็น ชายหนุ่มที่นั่งชิงช้าอยู่อมยิ้ม และลืมตาขึ้น เหลียวไปมองชายอีกคนที่กำลังไวชิงช้าให้ตนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและมีความสุขเช่นกัน สีหน้าที่บ่งบอกความเต็มใจและไม่รู้สึกเหนื่อยเลย



ข้างๆของชายคนนั้น ก้องอาจจะตาฝาดไปเองหรือเผลอฝันไปก็บอกไม่ได้ สตรีในชุดพยาบาลสีขาวสวยงามคนหนึ่ง กำลังส่งรอยยิ้มมาให้ตน พี่กิ่งยืนอยู่ข้างๆพี คอยส่งยิ้มให้ก้องเหมือนกำลังจะบอกว่าพี่ยินดีด้วยนะ ก้องยิ้มตอบ จากนั้นภาพหญิงสาวในชุดพยาบาลก็เลือนลางหายไป คนบนชิงช้าลืมตาขึ้นอีกครั้ง และยิ้มให้กับตัวเองอย่างอิ่มใจ



“คุณรู้สึกไงบ้างก้อง...” นักแข่งรถหนุ่มเอ่ยถามคนที่นั่งชิงช้า



“ก็...... ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย” ก้องตอบยิ้มๆ ยั่วโมโหพีเล็กๆ ชายหนุ่มใช้มือซ้ายแกว่งชิงช้าข้างเดียว และใช้มือขวาชูกำปั้นและบีบแบบคนโมโหตะหงิดๆ



“ก้อง.... คุณ.... คุณไม่รู้สึกดีหรืออะไรบ้างหรอ ที่ผมแกว่งชิงช้าให้เนี่ย...” พีมีสีหน้างอนเล็กน้อย ส่วนก้องก็ยิ้มออกมา จนพีต้องยิ้มตาม



“ก็.... รู้สึกดีมากต่างหากล่ะ การมีคุณอยู่ที่นี่กับผมตอนนี้ เหมือนมีบางสิ่งช่วยเติมเต็มชิ้นส่วนของชีวิตผมที่หายไปนับจากพี่กิ่งตาย ..... อย่าเข้าใจผิดว่าคุณมาแทนที่พี่กิ่งของผมนะ ไม่มีใครแทนที่ใครได้ ผมแค่หมายถึง.....”



“อะไรหรอก้อง”



“ผมแค่หมายถึง ผมได้รู้จักความรักต่างหากล่ะ ได้รู้สึกรักคนที่ผมรัก ได้เผยความในใจอย่างเต็มที่ ... อีกครั้ง .... พี... คุณรู้มั้ย ทำไมผมถึงเจ็บแค้น และโมโหคุณมากตอนที่ผมรู้ว่าคุณเป็นน้องของนายพิพัฒน์” คำถามของก้องทำให้พีหยุดแกว่งชิงช้าและรอฟัง



“ทำไมหรอก้อง”



“พี่กิ่งเป็นคนแรกที่รู้ว่าผมเป็นอะไร พี่กิ่งรู้ว่าผมแตกต่างจากผู้ชายทั่วไป เป็นคนเดียวในบ้านที่ผมกล้าเปิดใจและสามารถคุยได้ทุกเรื่อง คุณเข้าใจผมใช่มั้ยพี”



“คุณหมายถึง เรื่องที่คุณ..... แปลว่าก่อนหน้านั้นก็ไม่มีใครที่รู้... ยกเว้นพี่กิ่ง”



“ใช่... ตอนที่เสียพี่กิ่งไป ผมถึงรู้สึกว่า ผมสูญเสียที่พึ่งทางใจหนึ่งเดียวของผมไป ผมไม่กล้าบอกแม่ บอกพี่แก้ว หรือใครๆเรื่องที่ผมเป็น.... จนกระทั่งผมมาเจอคุณนี่แหละ”



“ยังไงเหรอก้อง”



“ตั้งแต่เสียพี่กิ่งไป ผมก็ปิดกั้นตัวเองมาตลอด ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบใคร ไม่กล้ามีแม้กระทั่งเพื่อนชายที่สนิท มันกลัวไปหมด ไม่กล้าปรึกษาใคร แต่พอมาเจอคุณ ความรู้สึกมันก็เริ่มเปลี่ยนไป” ก้องหมุนสายชิงช้า ให้ใบหน้าของตนหันไปเผชิญหน้ากับพี สองตาประสานกันกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนที่พระจันทร์ส่องสว่างครึ่งดวง



“เล่าต่อสิก้อง” ชายหนุ่มคุกเข่าลงนั่งข้างๆคนรักที่นั่งอยู่บนชิงช้า



“ผมรู้สึกกับคุณอย่างประหลาด ใจมันสั่น และเต้นผิดปกติ ผมก็เลย.....”



“คุณแอบชอบผมตั้งแต่แรกเจอเลยหรอก้อง” พีถามยิ้มๆ



“ก็..... ไม่รู้เหมือนกันน่ะพี แค่รู้สึกวูบวาบบ้าง แบบว่า มันไม่เคยรู้สึกมาก่อนมั้ง”



“แต่ตอนที่ผมเจอคุณครั้งแรก ผมรู้สึกโกรธมากกว่า แต่พอคุยไปซักพัก ก็รู้สึกถูกชะตายังไงชอบกลเหมือนกัน จนมาเจอครั้งที่สองที่คอนโดนั่นแหละ ผมถึงรู้ว่า ผมสนใจคุณมากๆ มากกว่าใครทั้งหมดที่ผมรู้จักเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน”



“ก็คงงั้นมั้งพี ทีนี้ พอผมรู้ว่า ผมอาจจะแอบชอบคุณ ผมถึงพยายามจะห่างจากคุณ เพราะผม.... ผมกลัวความรู้สึกตัวเอง แต่พอมาใกล้ชิดกัน ผมกลับรู้สึกดี จนแอบคิดในใจว่าอยากจะเก็บความรู้สึกที่ดีต่อคุณไว้ รู้มั้ยพี แค่ใกล้ชิดกับคุณครั้งเดียว ใจผมมันก็เตลิดไปไหนต่อไหนเลยล่ะ” ก้องอธิบายให้พีฟังพร้อมใบหน้าที่แอบแดงซ่านเพราะความเขินอาย



“เวลาคุณหน้าแดงนี่ น่าหอมดีเนอะ” พีมองหน้าก้องแล้วแอบยิ้มกริ่มในใจ



“บ้า... ทะลึ่ง มืดค่ำแล้ว ยังจะมาทำพิเรนอยู่ได้”



“ไม่ก็ได้ เล่าต่อดิ อยากฟังต่อแล้ว”



“ก็....... พอผมรู้ว่าคุณเป็นน้องของคนที่ทำให้....... ของพี่ชายคุณน่ะพี ผมก็เลยโกรธคุณ แล้วก็โกรธตัวเองเอามากๆน่ะสิ โกรธที่ผมมีความรู้สึกดีๆกับน้องชายของคนที่ทำร้ายคนที่ผมรักและเข้าใจผมที่สุด คุณเข้าใจใช่มั้ยพี ว่าผมไม่ได้โกรธคุณ หรือเกลียดคุณ เพราะว่าคุณเป็นน้องของใคร แต่ผมโกรธคุณ เพราะคุณมาทำให้ผม.........” ก้องยังไม่ทันพูดจบ พีก็จู่โจมด้วยปลายจมูกของตนซัดตรงเป้าหมายคือแก้มอวบๆสีแดงของก้อง ทำให้ใบหน้าของนักกายภาพบำบัดหนุ่มที่แดงอยู่แล้ว มีสีแดงเข้มยิ่งขึ้น



“เฮ้ยยย....” เสียงก้องแสดงความตกใจออกมา แต่ก็แอบคลำแก้มแดงของตนตรงตำแหน่งที่โดนหอม พร้อมกับลูบไปมา แล้วจ้องหน้าคนแอบงอนด้วยแววตางอนๆ



“แล้วคุณก็มาคอยเหวี่ยงใส่ผมตลอดเวลาเนี่ยนะก้อง” พีแกล้งว่าก้อง เพื่อให้ก้องลืมโกรธที่โดนตนเองรุกเข้าใส่ก่อน ทั้งๆที่ก้องห้ามไว้แล้ว



“ก็ผมรู้สึกผิด ผมรู้สึกผิดต่อพี่กิ่ง ต่อพี่แก้ว ต่อแม่ แล้วก็ต่อตนเอง ผมถึงพยายามไม่ใกล้ชิดคุณ เพราะผมบอกแล้วไง.............. ว่าผมกลัวความรู้สึกตัวเอง”



“ผมรู้ก้อง และยิ่งคุณถอยห่างผม ผมก็ยิ่งรู้สึกว่า ต้องเอาชนะคุณให้ได้ เพราะผมเป็นคนที่....”



“ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ผมจำได้น่าพี ว่าคุณน่ะ.... ดื้อมากกกก แล้วก็ชอบเอาเปรียบผมด้วย”



“ครับ... ต่อไปจะไม่ดื้อแล้วครับคุณยาย” พีพูดพร้อมลอยหน้ายิ้มๆมาหาหน้าของก้อง



“ดีมากกกกก...” ก้องพูดพลางจับใช้มือจับสองแก้มของพีเหวี่ยงไปมาเบาๆอย่างนุ่มนวล โดยที่ไม่รู้ว่า ด้านนอกสนามเด็กเล่น ถัดไปไม่ไกลนัก หญิงชรากับหญิงสาวผู้เป็นแม่และพี่สาวคนกลางกำลังแอบมองดู และยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นลูกชายและน้องชายคนเล็กมีความสุขกับคนที่รัก



“แหมๆๆ ป้าฟองขา น้องแก้วคะ แอบมายืนดูน้องก้องจู๋จี๋กับน้องพีอยู่ที่นี่เองนะคะ” ตุ่ม ที่จู่ๆก็โผล่มาด้านหลัง แอบแซวป้ากับญาติผู้น้องของตน



“ชั้นก็อยากรู้บ้างน่ะสิ ว่าเวลาที่ก้องเค้าอยู่กับพ่อพีน่ะ เป็นยังไง” ฟองจันทร์พูดจบก็นึกได้ว่า เสียงที่ถามตนเป็นเสียงของตุ่ม จึงหันไปมอง



“ไหนเมื่อกี๊ป้าฟองบอกว่า.. แอบดูคนอื่นมันไม่ดีไงคะคุณป้า......รู้มั้ยคะ ว่ามันเสียมารยาท” ตุ่มซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ ที่เห็นป้าของตนก็สนใจอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นเหมือนกัน



“คนอื่นที่ไหน ก้องน่ะ ลูกชายชั้น ส่วนตาพี ก็จะมาเป็นลูกชายชั้นอีกคน” ฟองจันทร์มีแอบเถียง แต่หลังจากนั้น ก็เรียกตุ่มเข้ามาแอบดูพีกับก้องด้วยกัน




...




...





Create Date : 30 มิถุนายน 2553
Last Update : 30 มิถุนายน 2553 20:43:09 น.
Counter : 404 Pageviews.

10 comments
  
พีจะเอากระดุมไปทำอะไรนะ ขอบคุณนะคะ สำหรับฟิคดีๆ
โดย: polla IP: 111.84.235.118 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:21:51:52 น.
  
ตามมาให้กำลังใจที่ blog ค่ะ
แต่งได้น่ารักมากค่ะ .. อ่านแล้วยิ้ม ๆ อิ่มเอมใจ ^^
จะติดตามอ่านไปเรื่อย ๆ นะคะ
ขอบคุณ ^^
ขอบคุณที่มาเติมใจให้กันจนเต็ม ^___^

ฝันดีนะคะ ก้องพี & คุณนิรมิตร
โดย: @sea IP: 124.121.104.11 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:21:56:01 น.
  
ขอบคุณคุณนิรมิตรนะคะ

ตอนนี้น่ารักมากๆ เลยค่ะ
(เเอบเขินตอนน้องก้องโดนคุณพีขโมยหอมแก้ม 555 ว่าแต่กระดุมที่คุณพีเอาไปเนี่ย จะเกี่ยวอะไรกับแหวนรึเปล่าน๊า)

ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียนและจะติดตามตอนต่อๆ ไปนะคะ

ปล.เวลาอ่านตอนที่น้องก้องบอกคุณพีว่า
"ขอบคุณนะ" ทำไมหน้าน้องมิวลอยขึ้นมาเลยก็ไม่รู้คือโดยส่วนตัวชอบตอนน้องมิวพูดคำนี้มากๆ เลยค่ะ 555 อินข้ามเรื่องกันเลยทีเดียว
โดย: daydream IP: 118.172.66.47 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:22:46:49 น.
  


^
^
^

ผมก็อินข้ามเรื่องเหมือนกันครับ

หลงรักทั้งมิว หลงรักทั้งก้อง ก็เลยหยิบยืมคำพูดมาใช้บ้าง

ถ้าคุณ daydream ยังรักน้องมิวอยู่ ก็อย่าลืมเข้าไปอ่านฟิค"รักแห่งสยาม"ให้กำลังใจผมด้วยนะ

โดย: นิรมิตร (Niramitr ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:54:38 น.
  
สนุกและซาบซึ้งมากๆๆเลย ดีใจที่สุดที่ก้องหายซะที งั้นหลังจากนี้ขอแบบสวีทหวานๆๆบ้างนะค่ะ แบบว่าไป honeymoon (ก้องพี) บ้างก็ดี ให้น้องก้องดูแลคุณพีบ้าง
สงสารคุณพีเหนื่อยดูแลน้องก้องมาตั้งหลายตอนแล้ว
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
โดย: aumaum IP: 61.47.31.49 วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:19:43 น.
  
ในที่สุด น้องก้องก็มองเห็นแล้ว

คุณพีแอบจุ๊บแก้มน้องก้องด้วย ตอนนี้เป็นตอนที่น้องก้องได้เผยความในใจให้คุณพีฟังได้หวานแววมากอ่ะ

คุณพี จะเอากระดุมของก้องไปทำอะไร อยากรู้ๆ รออ่านอยู่นะคะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

โดย: tipjang วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:19:33 น.
  
เรื่องเริ่มคลายปมแล้ว

คุณพีรับรู้ความในใจของก้อง ... แถมเค้าก็กุ๊กกิ๊กกันตลอดเลย ... ชอบค่ะชอบ

ขอบคุณนะคะ
โดย: ชมพู IP: 203.185.131.97 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:02:12 น.
  
พีจะเอากระดุมไปทำอะไร อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ก้องเผยความในใจให้พีฟัง ส่วนคนอ่านก้อนอ่านไปเขินไปค่ะ
โดย: ภัทร IP: 124.120.39.50 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:34:39 น.
  
คิดถึง .. ความรักความห่วงใย .. ที่พีมีให้ก้อง
แล้วต้องกลับมาอ่านอีกครั้ง .. ^^'

แต่งได้ น่ารัก อบอุ่น จริงๆ .. ^_^

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

จะติดตามอ่านเรื่อย ๆ ไปนะคะ
โดย: sky IP: 124.122.202.15 วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:29:02 น.
  
หวานกันจังนะ...หวานจน...มดขึ้นคอมฯฉันแล้ว!!!!!!!!!!!!!!
โดย: น้องนิวจร้า IP: 125.27.163.13 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:59:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Niramitr
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



สาวก"รักแห่งสยาม"

New Comments