ธารรักสีเงิน :: บทที่8
















บทที่ 8 :: ลองมองให้ชัดๆ อีกครั้งสิ



"ฉัน..." บงกชอ้ำอึ้ง
ร่างสูงกอดอกงอเข่าข้างหนึ่งในท่าสบาย ก่อนเอนกายพิงราวสะพาน น้ำหนักตัวของเขาทำให้สะพานลิงนั้นเอียงกระแท่เร่ บงกชแทบเสียหลักแต่คว้าจับราวอีกด้านหนึ่งไว้ได้ทันและพยายามทรงตัวให้นิ่งตรง ชั่วครู่สะพานนั้นก็นิ่งสงบลง

"ที่นี่เปลี่ยนไปมากทีเดียว" หญิงสาวเอ่ยขึ้น ขณะกวาดสายตาไปรอบๆ เรื่อยๆ มองไปตรงไหนก็ได้ จะได้ไม่ต้องสบตาเขาที่จ้องมองมาอย่างไม่สะทกสะท้าน เมื่อแรกหญิงสาวโกรธมาก และตั้งใจมาหาเขาเพื่อจะพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ แต่แล้วเมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ อะไรบางอย่างก็ทำให้เยือกเย็นลงอย่างประหลาด อาจจะเป็นกริยาท่าทางของเขาที่ดูนิ่งและหยิ่งทระนง จนทำให้หญิงสาวต้องพยายามข่มใจและบอกตัวเองว่า จะไม่ยอมสูญเสียการควบคุมตัวเองและเต้นเร่าๆ ไปตามเพลงของเขา

บางที...บางทีการกักตุนปุ๋ยตัดหน้าสวนของเธอไป อาจจะไม่ได้มาจากอารมณ์เบื้องลึกใดๆ ของเขาเลยก็ได้ อาจเป็นเรื่องบังเอิญ และบางทีอาจจะเป็นอคติในใจของเธอเองที่ยังคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาอาจจะยังแคร์เธออยู่บ้าง จนไม่อาจลืมความเคียดแค้นในอดีต เหมือนที่เธอก็ไม่เคยลืมมัน จนชายหนุ่มต้องลดตัวมากลั่นแกล้งเธอ ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างนั้นหรือไม่ บงกชไม่มีทางรู้ เพราะแววตาของเขา ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา ...ดวงตาคู่นั้น มีแต่ความนิ่งสงบ เหมือนท้องทะเลสีดำยามรัตติกาล ที่อาจซ่อนคลื่นแปรปรวนไว้ด้านใน

“ตรงไหนล่ะที่เปลี่ยน” เขาถามออกมาในที่สุด

และบงกชตัดสินใจว่าจะปล่อยเรื่องปุ๋ยขี้ประติ๋วนั้นให้ผ่านไป มีเรื่องใหญ่กว่าจะต้องจัดการ คือหัวใจของเธอเอง ที่จะต้องลืมและวางอดีตไว้ข้างหลัง เหมือนที่เขาทำได้
หรืออาจจะกำลังทำ...

“ก็ทุกสิ่ง ทั้งสิ่งแวดล้อม...” เหลือบตาไปมองสบตาเขาตรงๆ แล้วรีบกระพริบตาลบร่องรอยความหวั่นไหว หากมันมี ...ซึ่งเธอรู้สึกได้ว่าตัวเองมีแน่ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะทันมองเห็นมันไหม ... “และคน..”

“คน?” เขาทวนคำเสียงสูง “เปลี่ยนไปแบบไหนล่ะ”

“ไม่รู้สิ”

“ดีขึ้นหรือแย่ลง”

หญิงสาวหันหน้าหนี “ฉันไม่เคยมองให้ชัดซักที”

“งั้น..” ต้นธารทอดเสียงกวนโทสะ “ลองหันมามองให้ชัดๆ ซักครั้งสิ”

น้ำเสียงของเขานั้น นอกจากจะเริ่มกวนโทสะแล้ว มันยังนุ่มพร่า ลากไล้คล้ายจะมีนัยอื่น แล้วแต่คนฟังจะเลือกตีความไปทางไหน บงกชเลือกที่จะไม่ตีความใดๆ ทั้งสิ้น หันมาตอบคำถามแรกสุดอย่างตรงไปตรงมา

“จริงๆ แล้วที่ฉันมาที่นี่ เพราะว่าวันนี้ฉันเข้าไปในเมืองมา เพราะปุ๋ยที่ทางสวนศิริกุลสั่งไว้ไม่ได้ถูกส่งมาตามที่กำหนด พอถามก็ได้รับคำตอบว่า สวนต้นตระการของคุณซื้อปุ๋ยล๊อตนี้ตุนไว้เป็นจำนวนมาก”

“แล้ว..?” เขาเลิกคิ้วอีกครั้ง แววตาคล้ายจะเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่ก็ยังรอคอย...และแววตารู้ทันคู่นั้น มันทำให้บงกชรู้สึกละอาย คล้ายตัวเองกลับไปเป็นเด็กสาวเจ้าทิฐิคนเดิมอีกครั้ง

“ฉันว่าฉันควรกลับดีกว่า แล้วเรื่องที่ฉันมาวันนี้ ขอให้คุณลืมๆ มันไปซะ” ว่าแล้วก็สาวเท้าเดินออกจากสะพานอย่างรวดเร็ว และรู้สึกอับอายในใจเล็กน้อยที่ปล่อยให้อำนาจฝ่ายต่ำ ชักนำเธอมาอยู่ตรงนี้ ช่างดูงี่เง่าเหลือเกิน

ต้นธารดีดตัวขึ้นแล้วเดินตามมาทันที ไม่ได้รีบร้อน เพราะขายาวๆ ของเขา ก้าวยาวเกือบเป็นสองเท่าของหญิงสาวอยู่แล้ว

“ให้ฉันลองเดาไหม” เขาถามตามหลัง แต่หญิงสาวไม่นำพา “ถ้าให้ฉันเดา เมื่อเธอได้ฟังคำตอบก็คงลมออกหู แล้วบึ่งรถมาที่นี่ทันที เพราะคิดว่าฉันกักตุนปุ๋ยไว้เป็นจำนวนมาก เพราะต้องการกลั่นแกล้งเธอล่ะสิ”

บงกชหยุดเดินตรงหน้าลานกล้วยไม้พอดี หันมามองเขาตรงๆ “แล้วถ้าฉันยอมรับว่า ฉันงี่เง่าคิดแบบนั้นจริงๆ คุณจะกล้าตอบฉันหรือเปล่า ว่าที่คุณทำแบบนั้น ก็เพราะคุณมีเองก็งี่เง่า มีเป้าหมายที่จะทำร้ายความรู้สึกของฉันจริงๆ เหมือนกัน”

เขาส่ายหน้า “เธอสำคัญตัวผิดไปแล้ว” คำตอบนั้นทำให้บงกชหน้าม้าน เขายังเอ่ยต่อ โดยไม่รู้ว่า ประโยคสั้นๆ นั้น ทำร้ายความรู้สึกของเธอ “ฉันยอมรับ ว่าฉันซื้อปุ๋ยกักตุนไว้จริง แต่ไม่ใช่เพราะว่าอยากแกล้งใครทั้งนั้น ความจริงก็คือสวนต้นตระการกำลังขยายพื้นที่มากขึ้นไปอีก ดังนั้นจำนวนความต้องการของปุ๋ยก็มากขึ้นตามไปด้วย และนี่เป็นครั้งแรก ที่ทางเราเริ่มสั่งซื้อปุ๋ยเพิ่มจำนวนอีกเท่าตัว”

บงกชเม้มปาก ไม่เชื่อถือซะทีเดียว “และบังเอิญครั้งแรกของคุณ มันก็เป็นเวลาเดียวกับที่ฉันลาออกจากงานมาอยู่นี่ จริงไหม ...มันบังเอิญซะจริง”

“แต่ฉันไม่รู้นี่ ว่าเขาเอาปุ๋ยส่วนของสวนเธอมาให้สวนฉันก่อน ฉันเพียงแจ้งเจตจำนงค์ไปทางร้าน ก็ไม่เห็นมีใครคัดค้านอะไรเลยซักคน”

คราวนี้ริมฝีปากแดงเรื่อของหญิงสาวกระตุก ประชด... “มีใครเคยบอกคุณหรือเปล่า ว่าคุณน่ะ มันเป็นพวก อยากได้อะไรก็ต้องได้”

“ไม่มีหรอก” เขาปฏิเสธ “ไม่เคยเห็นมีใคร กล้าพูดแบบนั้นต่อหน้าฉันซักคน”

ท่าทางหยิ่งยโส มั่นใจในตัวเองของเขานั้น ทำให้บงกชรู้สึกอยากจะตะกุยหน้าหล่อๆ นั้น ด้วยเล็บของเธอ

เธอขึงตาใส่ “คนหลงตัวเอง มั่นใจในตัวเองซะเหลือเกินนะ ..”

“แต่คนแบบนี้ เธอก็เคย...” เสียงทุ้มยังเอ่ยไม่จบ บงกชก็ตัดบท

“หยุดพูดนะ ฉันไม่อยากได้ยิน...ฉันไม่อยากฟัง” ว่าแล้วก็เดินลัดเลาะสวนเพื่อมุ่งสู่รถกะบะ เขายังเดินตามมาเรื่อยๆ ไม่ลดละ

“เธอกลับมาที่นี่ทำไม ฉันถามจริงๆ ” เขาถามคำถามเดิม แต่จริงจังกว่าเดิม “ฉันไม่คิด ไม่นึกว่าจะได้เห็นเธอกลับมาอีกแล้ว”

“ฉันมีเหตุผลของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” เสียงเศษไม้แห้งใต้ฝ่าเท้าแตกที่ครั้งที่ก้าวผ่าน มันทำให้หญิงสาวรู้สึกแย่ ที่รู้สึกถึงบางสิ่งในอดีต...เสียงเสียดสีของใบไม้แห้ง และเสียงพร่ำบอกรักของใครบางคน และใครคนนั้นก็คือคนคนนี้

“บางทีอาจจะเกี่ยวนะ” เขาว่า “เพราะฉันได้รับการไหว้วานจากแม่ของเธอเมื่อวาน ว่าจะให้ฉันไปคุมสวนของเธอเหมือนเดิม และจะให้ช่วยงานเพิ่ม คือการสอนงานให้ลูกสาวท่านด้วย ตอนแรกฉันไม่รู้นะ ว่าจะเป็นเธอ นึกว่าจะเป็นน้องสาวของเธอเสียอีก ..และจริงๆ ฉันน่าจะรู้ เพราะถ้าเป็นน้องสาวเธอ ไม่จำเป็นจะต้องสอนอะไรเลย บูรณีน่ะ รู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการทำสวนดีอยู่แล้วนิ”

ประโยคนั้นทำให้บงกชสะดุดกึ๊ก แต่ก็ถึงรถพอดี “อะไรนะ?”

“ที่เธอได้ยินน่ะ ไม่ผิดหรอก ไม่ต้องถามซ้ำ ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน”

“แม่ฉันจะให้คุณมาคุมและมาสอนงานฉัน ..บ้าไปแล้ว แม่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”

“ไม่บ้าหรอก แม่เธอปกติดีทุกประการ” เขากวน

“ฉันไม่รู้เรื่องเลย เชิญบ้ากันไปสองคนเถอะ ฉันไม่ยอมหรอก” ว่าแล้วเปิดประตูรถ ก้าวขึ้นไปนั่งเบาะคนขับ ต้นธารตามหลังมาติดๆ ดึงประตูรถไว้

“เธอไม่รับรู้ไม่ได้  ฉันตกลงกับแม่เธอไปแล้ว”

บงกชแกะมือเขาออกจากกรอบประตูอย่างกระแทกกระทั้น “แม่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ ทำไมไม่ถามฉันก่อน”

“เดาว่าแม่เธอคงรู้ไง ว่าถ้าถาม คำตอบจะเป็นยังไง” เขาว่ากึ่งปลอบ “เอาน่า เสียหายตรงไหน ยังไงเราก็เป็นเพื่อนบ้านกัน คิดซะว่า เราเป็นพี่ เป็นน้องกันก็ได้”

พี่น้อง... คำๆ นั้น ทำให้บงกชอยากกรีดร้องและตะโกนใส่หน้าเขาดังๆ ว่า พี่น้อง..น่ะ เขาไม่นอนด้วยกันหรอก

แต่เธอก็ไม่ได้พูดมันออกไป ได้แต่นั่งนิ่งขึงอยู่หน้าพวงมาลัย เค้นเสียง

“ออกไป”

ต้นธารยอมทำตามแต่โดยดี ถอยออกมาแล้วปิดประตรถให้หญิงสาวอย่างง่ายๆ ราวกับว่า เขาได้ตัดสินใจแล้วว่า การพบกันในวันนี้ กดดันหญิงสาวเพียงพอแล้ว แต่ไม่วายชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หน้าต่างอีกครั้ง...กระซิบเบาๆ

“แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าฉันรู้ว่า เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างแค่เรื่องปุ๋ยขี้ประติ๋ว จะทำให้นางฟ้าบนเครื่องบินอย่างเธอบินปร๋อมาที่นี่ได้เร็วจี๋ขนาดนี้ ฉันน่าจะทำตั้งนานแล้ว”

พูดจบต้องรีบกระชากตัวออกไป เพราะนางฟ้าในรถกะบะกระชากเกลียร์ ออกรถไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนซักนิด ว่าคอของชายหนุ่มจะติดหน้าต่างไปด้วยหรือไม่

บงกชมองภาพเบื้องหลังในกระจก
ทั้งโกรธ ทั้งชัง...ทั้ง...
ได้แต่สบถในใจ
คนบ้าเอ๊ย ...
คนเฮงซวย




ต้นธารยืนมองรถกะบะไปจนลับตา ไม่ได้วางมาดกวนอีกต่อไป หมายมาดในใจ

ถ้าเธออยู่ที่อื่น เธอจะไปไหนก็ไป
แต่ตอนนี้เธออยู่ในอานาจักรของฉันแล้ว
ฉันไม่ปล่อยเธอไปอีกเป็นครั้งที่สองแน่...




มีสายตาอีกคู่เฝ้ามองการโต้เถียงกันของทั้งสองคนอยู่ไม่ไกล แต่ไม่มีใครรู้ตัวซักนิดเพราะมัวแต่สนใจแต่เรื่องของตนเองอยู่ คนคนนั้นก็กำลังคิดเช่นกันเพราะกำลังมองเห็นหนทางที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมายที่คาดหวังไว้ของตน มันอยู่ไม่ไกลเลยเป้าหมายนั้น ถ้ารู้จักตีให้ถูกจุด

ไม่แน่ว่าจุดอ่อนของไอ้ต้นธาร อาจเป็นผู้หญิงคนนี้ก็ได้





ณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง กลางจังหวัด...

“ตอนนี้ที่สวนศิริกุลกำลังวุ่นวายนิดหน่อยครับคุณกานดาล้มป่วย แม้จะไม่เป็นอะไรมาก แต่ก็ออกมาคุมคนงานไม่ได้ ลูกสาวคนเล็กที่เคยเป็นหูเป็นตาเห็นว่ากำลังจะย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ลูกสาวคนโตที่เคยเป็นแอร์โฮสเตส เห็นว่า ลาออกจากงานเพื่อจะกลับมาดูแลสวนแทนครับ”

คำรายงานอย่างละเอียดทำให้คนตรงข้ามเลิกคิ้ว

“แล้วเป็นยังไงล่ะ ลูกสาวคนนี้ ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

“สวยมากครับ ขาวผ่องเป็นยองใย อกเป็นอกเอวเป็นเอว ขานี้เรียว ยา...” ยังไม่ทันจบคำ อีกฝ่ายก็แทรกเสียงขุ่น

“ฉันหมายถึงนิสัยน่ะ ไม่ใช่หน้าตา”

“ท่าทางจะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อครับลักษณะหยิบหย่ง รักสะดวกสบาย ผมว่าถ้าคุณยื่นข้อเสนอไป ให้ราคาดีๆ หน่อย ขี้คร้านแม่คุณจะรีบเซ็นต์ขายที่ให้คุณเลย”

“แล้วสวนต้นตระการล่ะ?”

“อันนี้มีปัญหาหน่อย เพราะนายต้นธารมันกว้านซื้อที่บริเวณรอบๆ เพิ่มอีกแล้วครับ เห็นรับสมัครคนงานเพิ่มอีกด้วยท่าทางจะไปได้ดี ...”

“จุดอ่อน?”

“จุดอ่อนอะไรครับ”

“ก็จุดอ่อนของคนพวกนี้ มีบ้างไหม?”

“คงจะไม่มีครับเห็นพวกชาวบ้านคนงานชื่นชมนัก ว่าเป็นเจ้านายใจดี แต่ผู้คนทั้งจังหวัดกลับเกรงขามตระกูลนี้ทั้งตระกูลเพราะมีเชื้อสายเป็นผู้ดีเก่าจากเมืองกรุง แถมปู่ของพวกเขา เคยเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงมากเลยครับ แถมนายต้นธาร ยังได้รับคำชื่นชมว่าเป็นคนเอาจริงเอาจังมากๆ เลย”

“ขนาดนั้นเชียว”น้ำเสียงไม่ค่อยเชื่อถือ

“อ้อ ลืมบอกไปมีรายงานจากสายของเรา ที่ผมส่งเข้าไป ว่ามันไม่ค่อยกินเส้นกันกับลูกสาวคนโตของสวนศิริกุล เมื่อวันก่อนเห็นทะเลาะกันอยู่ไกลๆ”

“ยังงั้นเหรอ?”

“อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้ยินกับหู และไม่เห็นกับตา แต่ว่าจะคอยพยายามให้สายของเราเข้าไปใกล้ชิดกว่านี้เพื่อตรวจสอบครับ”


จบประโยคนั้นซองสีขาวท่าทางหนาปึ้ก ก็ถูกเลื่อนมาวางตรงหน้า

“ขอบใจสำหรับความคืบหน้า อันนี้คิดซะว่า เป็นค่าเติมน้ำมัน ที่อุตส่าห์ขับรถเข้าเมืองมา งานเสร็จเมื่อไหร่ผมจ่ายไม่อั้นแน่”









 

Create Date : 12 สิงหาคม 2555
7 comments
Last Update : 23 พฤษภาคม 2556 17:38:56 น.
Counter : 1384 Pageviews.

 

ไม่ชอบวิธีการเขียนบล็อกรูปแบบใหม่เลย ...

งงมาก แก้ไขอยู่หลายครั้ง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้
ย่อหน้าสุดท้าย ตัวใหญ่เท่าหม้อแกง แก้ไขขนาดไม่ได้

จะกลับไปเขียนรูปแบบเดิม ก็ขี้เกียจก๊อปอีกครั้ง...
แอร๊ย...ย เซ็งว๊อย...ย...เอานะ ได้แค่ไหน ก็แค่นั้นแล้วกัน

 

โดย: nikanda 12 สิงหาคม 2555 6:48:35 น.  

 

อิอิ ฉัตรว่าใช้ง่ายออกค่ะ
ขอแชร์งานเขียนคุณแจงไปกลุ่มนะคะ
"สุขสันต์วันแม่ค่ะ"

 

โดย: ณ ปลายฉัตร 12 สิงหาคม 2555 11:49:46 น.  

 

^
^
ฉัตร 555+ พอดีแจงไม่เคยใช้อ่ะค่ะ ไม่ชินมือ
ปกติ ใช้แต่รูปแบบเดิม เพิ่งเริ่มใช้วันนี้วันแรกเลย

 

โดย: nikanda 12 สิงหาคม 2555 13:46:21 น.  

 

แล้วสองคนนี้เขาทะเลาะกันเรื่องอะไรละนี่

ปล.ตูนไม่เคยเขียนบล็อกในรูปแบบใหม่เลยจ๊ะ

 

โดย: เหมือนพระจันทร์ 13 สิงหาคม 2555 18:12:48 น.  

 

ต้นธารโดนดีมั่งก็ดีนะ รู้สึกว่าจะกดดันกันมากไปเเล้ว ทั้งๆที่ผู้หญิงเขาก็เสียตัวให้เเล้วถึงจะนานมาเเล้วก็เถอะ ถ้ารักเธอก็เอาชนะใจเเละให้เธอสยบด้วยหัวใจอย่างเเท้จริงไม่ใช่ไปกดดันเเบบนี้ เเล้วไม่คิดหรือว่าในทางกลับกันผู้หญิงอาจจะเกลียดขี้หน้าจนไม่เผาผีกันก็ด๊ายย

 

โดย: VEE IP: 71.34.162.157 15 สิงหาคม 2555 12:11:46 น.  

 

กำลังสนุกเลย เมื่อไหร่จะเขียนต่อคะ รอติดตามอยู่นะคะ ^^

 

โดย: PEYONG IP: 171.5.212.93 23 มกราคม 2556 0:10:36 น.  

 

^
^
จะทยอยเขียนมาลงเรื่อยๆ นะคะ

 

โดย: nikanda 23 พฤษภาคม 2556 17:45:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nikanda
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ลายปากกา









New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nikanda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.