..ยามพลบค่ำบนถนนคนเดินของเมืองใต้เย็นสบายดีแท้ สายลมอุ่นๆพัดมา ทำใหชายกระโปรงสั้นเหนือเข่าของใครบางคนพริ้วไหว มีรอยยิ้มน้อยๆแตะแต้มอยู่ที่ริมฝีปาก บ่งบองให้รู้ว่าคนคนนั้นมีความสบายอกสบายใจเพียงไร..นานทีเดียว ที่ไม่ได้มีโอกาสมาเดินเล่น รับแดดยามค่ำอ่อนๆ สายลมเอื่อยๆ สูดกลิ่นควันจางๆของรถยนต์ที่ยังคงวิ่งขวักไขว่บนถนนด้านข้างอย่างนี้ สายไหมกระชับอุ้งมือที่ใหญ่กว่า มือใหญ่ที่กุมมือน้อยๆของเธอมาตลอดทาง"ไม่อายเหรอ" เธอถาม พลางเหลือบตามองกระเป๋าใบใหญ่สีขาวในมืออีกข้างของเขา กระเป๋าใบสวยที่ลงทุนซื้อมาด้วยราคาแพงลิบลิ่วด้วยความชอบ บางครั้งความชอบกับความประหยัดก็ไปด้วยกันไม่ได้..ผู้หญิงรู้ดี"ทำไมล่ะ"..เขาถามกลับ"ไม่รู้สิ คนบางคนเขาอาย เขาไม่ชอบ เขามองว่าการถือกระเป๋าให้ผู้หญิงมันน่าอาย""แม้แต่ของคนที่เขารัก..นะหรือ" เขาถามต่อแล้วเธอพยักหน้าความจริงในความรู้สึกของเธอ มันก็น่ารักไม่หยอกเลยนะ กับผู้ชายตัวสูงคนหนึ่งมาคอยถือกระเป๋าใบโต กับถุงหนังสือหนักอึ้ง เดินตามเธอต้อยๆ เป็นชั่วโมงๆในร้านหนังสือและในตลาดนัดถนนคนเดินนี้ ว่ากันว่า..การช๊อปปี้งกับผู้ชาย เป็นเหมือนน้ำมันกับน้ำ เข้ากันไม่ได้แต่นานเท่าไหร่กันนะ? ที่เราสองคนนี้ไม่ได้เจอกันคุยกันแบบนี้ บางครั้งความห่างไกลและความยาวนานของช่วงเวลานั้น ก็อาจทำให้คนบางคนได้รู้คุณค่าของเวลามากยิ่งขึ้น เวลาที่จะได้อยู่ใกล้กัน ทุกนาทีมันมีค่า ต้องเก็บเกี่ยวกันไว้ แม้บ้างครั้งต้องทำอะไรบางอย่างที่เคยฝืนใจในอดีตก็ตาม* * * * * * * * * *ก่อนหน้านั้น..กาลครั้งหนึ่งร้านหนังสือดูเหมือนจะเป็นที่โปรดปรานของเธอ ชายหนุ่ม หญิงสาวยืนกันอยู่คนละมุมที่เหมาะเจาะพอดี เขาชอบหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวพ์เตอร์และการพัฒนาชีวิต ส่วนเธอชอบหนังสือเกือบทุกแนวเรียกว่าอ่านดะไปเรื่อย ไล่ตั้งแต่ปรัชญา ฮาวทู สารคดี นิยาย นวนิยาย ฯลฯ อะไรก็ได้ขอเพียงจบอย่างมีความสุข..ก็พอจำได้หลายปีก่อนตอนที่มาที่นี่ครั้งแรกกับเขา เขาถามเธอว่าทำไมชอบอ่านนิยายที่ต้องจบอย่างมีความสุขเสมอ"ชีวิต...ไม่ได้สวยงามอ่อนหวานอย่างนั้นอย่างเดียวหรอกนะ"เขาบอกยิ้มกึ่งค่อนแคะล้อเลียนและเธอรู้..ก่อนตอบแบบแกล้งเชิดใส่ "ก็เพราะอย่างนั้นไงเล่า ไหมถึงต้องเติมความหวานให้ชีวิตด้วยสิ่งเหล่านี้"จบลงอย่างมีความสุข..ในความหมายของเธอไม่ได้หมายความว่าเรื่องนั้นต้องHappy Enddingหรอกนะ แต่หมายถึงอ่านจบแล้ว คนอ่านต้องมีความสุขต่างหาก..แม้บางครั้งเรื่องนั้นจะจบอย่างเศร้า ก็ขอเป็นเศร้าในความสุขก็พอเลือกหนังสือจนเพลิน สุดท้ายได้หนังสือเสียตั้งใหญ่ เมื่อเรียกชายหนุ่มมาช่วยยกไปจ่ายสตังค์เขาก็ทำหน้าเหยเก"หมดนี่เลยเหรอ"..เขาถาม สายไหมพยักหน้าอีกครั้ง"ไม่ให้จ่ายให้หรอกน่า ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น" เธอบอก แล้วเขาหัวเราะ"ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..แต่ถึงให้จ่าย ก็ไม่มีจ่ายให้หรอก" ว่าแล้วก็ทำท่าตบกระเป๋าด้านหลังของกางเกงยีนส์ เพื่อยืนยันสิ่งที่บ่งบอกยีนส์ตัวที่สีซีดแต่ในสายตาของเธอ มันเป็นยีนส์ที่ดูเท่ห์เหลือเกิน เธอรู้ว่าทำไมมันถึงดูดีเช่นนั้น เพราะว่ามันอยู่บนตัวเขา..อย่างไรล่ะ"นั่นไง..เงินเดือนเท่านี้เอง ริชวนสาวเที่ยว" เธอแซว เขาหัวเราะ ไม่มีทีท่าน้อยใจหรือเดือดเนื้อร้อนใจกับคำแซวที่เหมือนดูถูก..อย่างนั้น เพราะเขารู้จักเธอมานาน รู้ดีว่าไม่ใช่..เธอมองคนที่คุณค่าของจิตใจมากกว่าเสมอ"ก็หวังว่าจะมีสาวซักคนมองลึกเข้าไปในจิตใจมากกว่ากระเป่าสตังค์นะสิ" เขาแกล้งว่า สายไหมยิ้ม..แล้วทำท่าเชิดใส่อีกรอบ "ไม่ใช่ไหมก็แล้วกัน"คำตอบนั้น ทำให้คนตรงหน้า ดึงปอยผมเบาๆและกระตุก "รู้แล้วน่า รู้มานานแล้วด้วย" ต่างคนต่างมองกันและกัน "แต่ที่ถามนั่น..เพราะว่าไม่อยากให้ไหมส่งหนังสือพวกนี้ไปเลย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะอ่านจบ..แล้วจะได้กลับมาซื้อด้วยกันอย่างนี้อีก"หลายปีแล้วสินะ คนสองคนที่ได้มารู้จักกัน พบกัน เข้าใจกัน รักกัน..กาลครั้งหนึ่งของเรา แต่ที่หลายคนเคยพูดกันว่า รักอย่างเดียวมันไม่พอ มันไม่ผิดหรอก* * * * * * * * * * "ทานอะไรดีคะ" สายไหมถามขึ้น..เมื่อมาถึงร้านโปรดที่เคยมาด้วยกันประจำ"อะไรก็ได้"..เขาตอบ"ไม่ได้ค่ะ..อะไรก็ได้..เป็นคำพูดของผู้หญิง ของไหมนะ"..เธอแย้งและเขาบอก "ช่วยไม่ได้ ก็ถามก่อนทำไม..คำถามแรกนั้นน่ะ มันของพี่" แต่แล้วก็เอ่ยถามอีกครั้ง "เอาล่ะ..ทานอะไร" คนถูกถามเปิดเมนูพลิกไปพลิกมาสองสามรอบก็ตอบ "อะไรก็ได้ค่ะ"เขาส่ายหน้า ระอา เอ็นดู "อะไรก็ได้..นี่หมายถึง..พี่สั่งมาเถอะแต่ต้องให้ถูกใจเธอ..ใช่ไหม"สายพยักหน้าอีกรอบ แล้วยิ้มมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า คนคนนี้ คนที่ไม่เคยหายไปไหน แม้ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินข่าวคราวของกันและกันมานาน แต่ทฤษฏีที่ว่าด้วยเรื่อง...โลกมันกลม...ได้พิสูนจ์ให้เห็นความจริงแล้วว่าโลกกลมจริงๆ เมื่อเธอกลับมาที่นี่อีกครั้ง ไม่คิด ไม่ฝัน ว่าจะได้เจอกันอีก...ความบังเอิญมีจริงนะ"พรุ่งนี้ ต้องกลับไปแล้วสินะ" เขารำพึงถาม เมื่ออาหารจานที่หนึ่งเดินทางมาถึง เธอเพียงแต่พยักหน้า บางครั้งการไม่พูดอะไรเลยก็เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีเหมือนกัน"ไปแล้ว..จะคิดถึงกันบ้างไหม" เขาถาม และเธอส่ายหน้าไม่ตอบ"แย่จัง.." เขาพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะตักอาหารใส่จานของเธอ "ผัดกุ้ง เมื่อก่อนของโปรดไหมเลย จำได้ไหม""จำได้สิคะ..แต่ว่าไหมไม่ชอบมันเท่าไหร่แล้วล่ะตอนนี้" เธอบอก..และเขาชะงักไป "ทำไม""ของบางอย่าง..มันมีเวลาที่เหมาะสมของมันค่ะ" เธอบอก เขารับฟังเงียบๆแลัวเปลี่ยนเรื่อง"ที่โน่นเป็นไงบ้าง" "ก็ดี..""มีความสุขดีไหม""ก็เรื่อย...เหมือนเดิมๆ เหมือนตอนทื่ไปใหม่ๆ"สายไหมถามกลับ.."แล้วพี่ล่ะ กับเขาเป็นไง""เลิกกันแล้ว" นั่นคือคำตอบที่เธอได้รับจากเขา ยังจำช่วงเวลานั้นได้ดี ช่วงเวลาที่ดอกไม้ของเธอเบ่งบานอยู่เต็มหัวใจ กับเขาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้ จำได้ว่าตอนนั้นคนข้างกายของเขาสวย สวยมาก มากเสียจนเธอรู้สึกเจ็บใจ และถ้าเป็นเพียงเธอที่แอบรักเขาเพียงฝ่ายเดียว อะไรๆก็คงดีกว่านี้ แต่เมื่อมันไม่ใช่ แค่มองตากันและกัน สองคนต่างก็รู้ดี ว่ามันมากกว่านั้น..ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันมากเกินไปดังนั้น..เธอจึงต้องจากไป ไปจากความสัมพันธ์แบบคนสามคน ..เลือกในสิ่งที่ควรเลือก ทำในสิ่งที่ควรทำ"ทำไมล่ะ ทำไมถึงเลิกกัน " เธอถามขึ้น..ทำลายความเงียบ"เราไปกันไม่ได้ ความจริงเรื่องของพี่กับเขาควรจบไปนานแล้ว ถ้าไหมไม่จากไปเสียก่อน""ไหม..ทำในสิ่งที่ควรทำ" หญิงสาวรำพึง ..ความเสียสละของเธอสูญเปล่าหรือนี่.."พี่รู้..แต่ถึงไหมไม่อยู่ ค่าของมันก็เท่ากัน รักของไหมยังอยู่ ยังอยู่ตรงนี้" เขาบอกและเธอก็รู้ว่า ตรงนี้ ของเขาคือตรงไหน แม้ไม่พูดมันออกมา"เรื่องของพี่กับเขามันจบไปแล้ว..ไหมจำได้ไหม ที่พี่เคยบอกว่าเรื่องระหว่างเรา ในความรักนั้น รักอย่างเดียว มันไม่พอ ระหว่างพี่กับเขาก็เหมือนกัน ไม่รักอย่างเดียว ก็เกินพอ เขาจากไปอย่างเข้าใจดี เขาเป็นคนเดินออกไปเอง มันเป็นช่วงเวลาที่เขาเริ่มยอมรับได้ ว่าความผูกพันธ์เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ความรักกับคนบางคนถ้าเมื่อไหร่ที่มันแห้งเหือดไปจากใจ มันยากจะหวนคืน"สายไหมเพียงแต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ..ก่อนที่จะได้ยินประโยคต่อมาของเขาพร้อมกับดวงตาที่จ้องมองมาตรงๆ แน่วแน่ "แต่ถ้าความรักกับบางคน ที่มันยังไม่แห้งเหือดไปจากใจ ความรักนั้นมันก็คอยตอกย้ำให้เรามีความหวังแล้วก็เจ็บปวดทุกวินาที"ต่างคนต่างนั่งเงียบไป..ของหวานมาถึง ก่อนจะตบท้ายด้วยผลไม้สดชื่น แม้อยากจะยืดช่วงเวลาออกไปให้นานแสนนานกว่านี้แต่ก็เป็นไปไม่ได้ พอๆกับที่ไม่อาจย้อนเวลาให้หวนคืน ทุกเวลา ทุกฤดูกาล มีวันสิ้นสุดเสมอเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วหญิงสาวก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ "เดี๋ยวไหมจะกลับเอง ไม่ต้องไปส่งไหมที่บ้านนะ และพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปส่งที่สนามบินด้วย" เธอกำชับเขา.."ไหม..ไม่อยากร้องไห้"เขาพยักหน้าช้าๆอย่างเข้าใจ.. "พี่ก็ไม่อยาก...เหมือนกัน"จากนั้นสายไหมก็คว้ากระเป๋าใบโตกับถุงหนังสือใบใหญ่ขึ้นมาอย่างร้อนรน เดินออกจากร้านไปทันที อยากไปให้พ้น..อยากไปให้ไกลจากความรู้สึกแบบนั้น...ได้ยินเสียงตะโกนถามตามหลังมา "เมื่อไหร่จะกลับมาอีก""ไม่รู้สิ" เธอหันกลับไปตอบสั้นๆ "อย่าถามเลย รู้แค่ว่าเราจะไม่เจอกันอีก ขอให้ครั้งนี้เป็นความบังเอิญครั้งสุดท้าย ก็แล้วกัน" แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งเขาไว้ตรงนั้น..แต่เพียงเดินออกไปถึงนอกร้านเท่านั้น เสียงมือถือก็ดังขึ้น เบอร์นั้นเบอร์เดิมที่คุ้นเคยแม้หลับตาก็จำได้ บางทีต่อให้ลมหายใจเยือกเย็นจนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง หรือหัวใจละลายไปในอากาศ เธอก็จะยังคงจำได้เสมอเบอร์นั้นทำให้คนที่กำลังจะจากไป น้ำตาซึมม..เอ่อล้นขึ้นมา ยกมือถือขึ้นจ่อหู "ว่าไงคะ""เมื่อไหร่ที่ไม่มีความสุข กลับมานะ พี่จะรออยู่ตรงนี้" เสียงนุ่มทุ้มแว่วมาตามสายเบาแสนเบา เหมือนจะสะกิดให้ต่อมที่สร้างความปวดร้าวเริ่มทำงานมากขึ้น น้ำตาที่เอ่อล้นนั้นเริ่มไหลริน แต่เธอไม่มีมือจะเช็ด ..จำต้องกะพริบตาเพื่อขับไล่มันไป "อย่าสัญญาอะไรทั้งนั้น เพราะไหมเองจะไม่สัญญาว่าจะกลับมา""ไม่เป็นไร ไม่ต้องสัญญาอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้รู้ไว้เท่านั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่อยากกลับมา เมื่อเขาทำให้ไม่มีความสุข กลับมานะ" เขาย้ำอีกครั้งเบาๆ "กลับมา"เธอไม่พูดอะไรทั้งนั้น กะพริบตาจนน้ำตาแห้งไป ปิดมือถือลงกระเป๋า แล้วเดินจากไปตามถนนเงียบๆ ไม่ได้หันกลับมามองคนในร้านนั้นอีกเลย ไม่มีคำตอบสำหรับอดีต ไม่มีคำตอบสำหรับอนาคต..ทำแค่ปัจจุปันให้ดีที่สุดก็พอ...ทำไม พี่ไม่พูดประโยคนั้นให้เร็วกว่านี้นะ..* * * * * * * * * *ชายหนุ่มยังคงมองตามร่างบางนั้นไป..มือถือนั้นยังคงค้างอยู่ที่หู แม้คนปลายสายจะวางหูและหายลับไปจากซอกตึกข้างร้านแล้ว "ถ้าเขาไม่อยากถือกระเป๋าให้พี่จะถือให้เอง รู้ว่าช้าไปที่เพิ่งมาพูดตอนนี้ แต่ถึงไหมจะไม่กลับมา พี่ก็จะยังอยู่ตรงนี้.."ก่อนจะวางมือถือลง..เช็คบิลแล้วกลับบ้าน ไปตามทางของเขา ชีวิตของคนสองคนยังคงดำเนินต่อไป แม้จะเป็นคนละเส้นทาง .. แต่เขาจะรอ รอความบังเอิญครั้งที่สอง แม้จะรู้ว่ายากที่จะเป็นไปได้ก็ตามจบ.กาลครั้งหนึ่งของหัวใจ..คือเส้นสายของความปวดร้าวและเศษเสี้ยวของความสุขใจที่เคยพาดผ่านเข้ามาในชีวิต โปรดอย่าสัญญาว่าจะรักฉันตลอดไป เพราะฉันจะไม่สัญญาอะไรกับใครทั้งนั้น อย่าบอกว่ารักฉันอย่างที่ฉันเคยเป็นในอดีต อย่าบอกว่าจะรักฉันเผื่อไปถึงในห้วงเวลาแห่งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง..รักฉันแค่ทุกวินาทีของวันพรุ่งนี้ก็เพียงพอ เพราะสุดท้ายแล้ว วันพรุ่งนี้ก็จะกลายมาเป็นวันนี้อยู่ดีหนึ่งกฏของโลกที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง :: วันพรุ่งนี้จะกลายมาเป็นวันนี้และวันนี้จะกลายเป็นแค่เมื่อวานอีกหนึ่งกฏของโลกที่ไม่มีวันเป็นไปได้ :: เมื่อวานนี้ไม่มีวันกลายมาเป็นวันนี้ และวันนี้ก็จะไม่มีวันกลายเป็นวันพรุ่งนี้แน่นอนคุณคะ..กาลครั้งหนึ่งของเราผ่านไปแล้ว ณ วันนี้ แม้หนึ่งวินาทีก็ยังคงช้าไป * * * * * * * * *คุยกันท้ายเรื่อง..ก่อนอื่นเลย ขอโทษด้วยที่ลงช้ากว่าใครเพื่อน เพราะว่าอยู่ดีๆ ก็ล็อคอินเข้าบล๊อกแกงค์ไม่ได้ตั้งหลายวัน ..และก็อยู่ดีดีเหมือนกัน วันจันทร์ก็ล๊อคอินเข้ามาได้ซะงั้น(งง..งง..ระบบ) ตอนแรกนึกว่าจะพลาดโครงการครั้งนี้เสียแล้วล๊อคอินเข้ามาไม่ได้ คือข้อแก้ตัวข้อหนึ่งที่มาช้า..ข้อแก้ตัวข้อสองอีกข้อก็คือ ช่วงที่ผ่านมาวุ่นวายกับการทาสีห้องใหม่ ไม่ได้เขียนโครงการในหัวข้อนี้ เลยขอหยิบเอางานเก่ามาเล่าใหม่เรียบเรียงเพิ่งเติม..เพิ่มไป ลบไป แถไป จนได้"กาลครั้งหนึ่ง"มาจนได้ รับไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะส่วนบล็อกต่อไปในวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม หัวข้อ "หนังโปรด..ตัวละครประทับใจ"ใครสนใจเข้าร่วมโครงการสามารถเข้าร่วมได้เลยกฏกติกามารยาทดังนี้ค่ะ-ลงชื่อบอกกล่าวกันไว้-เขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ และอัพบลอคในหมวดงานเขียน/บทประพันธ์-อัพบลอคในวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมนี้ เวลาใดก็ได้ -เมื่ออัพบลอคแล้ว กรุณามาแจ้งอีกครั้งในบลอคของคนใดคนหนึ่ง และเราจะทำการรวบรวมลิงค์อีกทีค่ะยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนสู่ถนนสายมิตรภาพค่ะรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ::BeCoffee::::nikanda::::นางสาวดุ่บดั่บ::::nulaw.m::::กะว่าก๋า::::ปีศาจความฝัน::::Artagold::::Paulo::::Unravel::::นัทธ์::::บุยบุย::::mutcha_nu::
รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ::BeCoffee::::nikanda::::นางสาวดุ่บดั่บ::::nulaw.m::::กะว่าก๋า::::ปีศาจความฝัน::::Artagold::::Paulo::::Unravel::::นัทธ์::::บุยบุย::::mutcha_nu::
แต่ก็อิ่มเอมใจลึกๆ
ใช้ภาษาสวยดีครับ ชอบ
ปล. หัวข้อต่อไปใครคิดเนี่ย ชอบจัง อิอิ
ปล.2 มาลงชื่อร่วมโครงการหัวข้อต่อไปไว้เลยครับ