กาลครั้งหนึ่ง :: ในวันที่สายเกินไป

..ยามพลบค่ำบนถนนคนเดินของเมืองใต้เย็นสบายดีแท้ สายลมอุ่นๆพัดมา ทำใหชายกระโปรงสั้นเหนือเข่าของใครบางคนพริ้วไหว มีรอยยิ้มน้อยๆแตะแต้มอยู่ที่ริมฝีปาก บ่งบองให้รู้ว่าคนคนนั้นมีความสบายอกสบายใจเพียงไร


..นานทีเดียว ที่ไม่ได้มีโอกาสมาเดินเล่น รับแดดยามค่ำอ่อนๆ สายลมเอื่อยๆ สูดกลิ่นควันจางๆของรถยนต์ที่ยังคงวิ่งขวักไขว่บนถนนด้านข้างอย่างนี้ สายไหมกระชับอุ้งมือที่ใหญ่กว่า มือใหญ่ที่กุมมือน้อยๆของเธอมาตลอดทาง

"ไม่อายเหรอ" เธอถาม พลางเหลือบตามองกระเป๋าใบใหญ่สีขาวในมืออีกข้างของเขา กระเป๋าใบสวยที่ลงทุนซื้อมาด้วยราคาแพงลิบลิ่วด้วยความชอบ บางครั้งความชอบกับความประหยัดก็ไปด้วยกันไม่ได้..ผู้หญิงรู้ดี

"ทำไมล่ะ"..เขาถามกลับ

"ไม่รู้สิ คนบางคนเขาอาย เขาไม่ชอบ เขามองว่าการถือกระเป๋าให้ผู้หญิงมันน่าอาย"

"แม้แต่ของคนที่เขารัก..นะหรือ" เขาถามต่อแล้วเธอพยักหน้า


ความจริงในความรู้สึกของเธอ มันก็น่ารักไม่หยอกเลยนะ กับผู้ชายตัวสูงคนหนึ่งมาคอยถือกระเป๋าใบโต กับถุงหนังสือหนักอึ้ง เดินตามเธอต้อยๆ เป็นชั่วโมงๆในร้านหนังสือและในตลาดนัดถนนคนเดินนี้ ว่ากันว่า..การช๊อปปี้งกับผู้ชาย เป็นเหมือนน้ำมันกับน้ำ เข้ากันไม่ได้

แต่นานเท่าไหร่กันนะ? ที่เราสองคนนี้ไม่ได้เจอกันคุยกันแบบนี้ บางครั้งความห่างไกลและความยาวนานของช่วงเวลานั้น ก็อาจทำให้คนบางคนได้รู้คุณค่าของเวลามากยิ่งขึ้น เวลาที่จะได้อยู่ใกล้กัน ทุกนาทีมันมีค่า ต้องเก็บเกี่ยวกันไว้ แม้บ้างครั้งต้องทำอะไรบางอย่างที่เคยฝืนใจในอดีตก็ตาม


* * * * * * * * * *



ก่อนหน้านั้น..กาลครั้งหนึ่ง


ร้านหนังสือดูเหมือนจะเป็นที่โปรดปรานของเธอ ชายหนุ่ม หญิงสาวยืนกันอยู่คนละมุมที่เหมาะเจาะพอดี เขาชอบหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวพ์เตอร์และการพัฒนาชีวิต ส่วนเธอชอบหนังสือเกือบทุกแนวเรียกว่าอ่านดะไปเรื่อย ไล่ตั้งแต่ปรัชญา ฮาวทู สารคดี นิยาย นวนิยาย ฯลฯ อะไรก็ได้ขอเพียงจบอย่างมีความสุข..ก็พอ


จำได้หลายปีก่อนตอนที่มาที่นี่ครั้งแรกกับเขา เขาถามเธอว่าทำไมชอบอ่านนิยายที่ต้องจบอย่างมีความสุขเสมอ


"ชีวิต...ไม่ได้สวยงามอ่อนหวานอย่างนั้นอย่างเดียวหรอกนะ"เขาบอกยิ้มกึ่งค่อนแคะล้อเลียน

และเธอรู้..ก่อนตอบแบบแกล้งเชิดใส่ "ก็เพราะอย่างนั้นไงเล่า ไหมถึงต้องเติมความหวานให้ชีวิตด้วยสิ่งเหล่านี้"


จบลงอย่างมีความสุข..ในความหมายของเธอไม่ได้หมายความว่าเรื่องนั้นต้องHappy Enddingหรอกนะ แต่หมายถึงอ่านจบแล้ว คนอ่านต้องมีความสุขต่างหาก..แม้บางครั้งเรื่องนั้นจะจบอย่างเศร้า ก็ขอเป็นเศร้าในความสุขก็พอ


เลือกหนังสือจนเพลิน สุดท้ายได้หนังสือเสียตั้งใหญ่ เมื่อเรียกชายหนุ่มมาช่วยยกไปจ่ายสตังค์เขาก็ทำหน้าเหยเก

"หมดนี่เลยเหรอ"..เขาถาม สายไหมพยักหน้าอีกครั้ง

"ไม่ให้จ่ายให้หรอกน่า ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น" เธอบอก แล้วเขาหัวเราะ

"ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..แต่ถึงให้จ่าย ก็ไม่มีจ่ายให้หรอก" ว่าแล้วก็ทำท่าตบกระเป๋าด้านหลังของกางเกงยีนส์ เพื่อยืนยันสิ่งที่บ่งบอก


ยีนส์ตัวที่สีซีดแต่ในสายตาของเธอ มันเป็นยีนส์ที่ดูเท่ห์เหลือเกิน เธอรู้ว่าทำไมมันถึงดูดีเช่นนั้น เพราะว่ามันอยู่บนตัวเขา..อย่างไรล่ะ


"นั่นไง..เงินเดือนเท่านี้เอง ริชวนสาวเที่ยว" เธอแซว เขาหัวเราะ ไม่มีทีท่าน้อยใจหรือเดือดเนื้อร้อนใจกับคำแซวที่เหมือนดูถูก..อย่างนั้น เพราะเขารู้จักเธอมานาน รู้ดีว่าไม่ใช่..เธอมองคนที่คุณค่าของจิตใจมากกว่าเสมอ

"ก็หวังว่าจะมีสาวซักคนมองลึกเข้าไปในจิตใจมากกว่ากระเป่าสตังค์นะสิ" เขาแกล้งว่า

สายไหมยิ้ม..แล้วทำท่าเชิดใส่อีกรอบ "ไม่ใช่ไหมก็แล้วกัน"


คำตอบนั้น ทำให้คนตรงหน้า ดึงปอยผมเบาๆและกระตุก "รู้แล้วน่า รู้มานานแล้วด้วย" ต่างคนต่างมองกันและกัน

"แต่ที่ถามนั่น..เพราะว่าไม่อยากให้ไหมส่งหนังสือพวกนี้ไปเลย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะอ่านจบ..แล้วจะได้กลับมาซื้อด้วยกันอย่างนี้อีก"



หลายปีแล้วสินะ คนสองคนที่ได้มารู้จักกัน พบกัน เข้าใจกัน รักกัน..กาลครั้งหนึ่งของเรา แต่ที่หลายคนเคยพูดกันว่า รักอย่างเดียวมันไม่พอ มันไม่ผิดหรอก



* * * * * * * * * *



"ทานอะไรดีคะ" สายไหมถามขึ้น..เมื่อมาถึงร้านโปรดที่เคยมาด้วยกันประจำ

"อะไรก็ได้"..เขาตอบ

"ไม่ได้ค่ะ..อะไรก็ได้..เป็นคำพูดของผู้หญิง ของไหมนะ"..เธอแย้ง

และเขาบอก "ช่วยไม่ได้ ก็ถามก่อนทำไม..คำถามแรกนั้นน่ะ มันของพี่" แต่แล้วก็เอ่ยถามอีกครั้ง "เอาล่ะ..ทานอะไร"

คนถูกถามเปิดเมนูพลิกไปพลิกมาสองสามรอบก็ตอบ "อะไรก็ได้ค่ะ"

เขาส่ายหน้า ระอา เอ็นดู "อะไรก็ได้..นี่หมายถึง..พี่สั่งมาเถอะแต่ต้องให้ถูกใจเธอ..ใช่ไหม"



สายพยักหน้าอีกรอบ แล้วยิ้มมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า คนคนนี้ คนที่ไม่เคยหายไปไหน แม้ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินข่าวคราวของกันและกันมานาน แต่ทฤษฏีที่ว่าด้วยเรื่อง...โลกมันกลม...ได้พิสูนจ์ให้เห็นความจริงแล้วว่าโลกกลมจริงๆ เมื่อเธอกลับมาที่นี่อีกครั้ง ไม่คิด ไม่ฝัน ว่าจะได้เจอกันอีก...ความบังเอิญมีจริงนะ



"พรุ่งนี้ ต้องกลับไปแล้วสินะ" เขารำพึงถาม เมื่ออาหารจานที่หนึ่งเดินทางมาถึง เธอเพียงแต่พยักหน้า บางครั้งการไม่พูดอะไรเลยก็เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีเหมือนกัน


"ไปแล้ว..จะคิดถึงกันบ้างไหม" เขาถาม และเธอส่ายหน้าไม่ตอบ

"แย่จัง.." เขาพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะตักอาหารใส่จานของเธอ "ผัดกุ้ง เมื่อก่อนของโปรดไหมเลย จำได้ไหม"

"จำได้สิคะ..แต่ว่าไหมไม่ชอบมันเท่าไหร่แล้วล่ะตอนนี้" เธอบอก..และเขาชะงักไป "ทำไม"

"ของบางอย่าง..มันมีเวลาที่เหมาะสมของมันค่ะ" เธอบอก เขารับฟังเงียบๆแลัวเปลี่ยนเรื่อง

"ที่โน่นเป็นไงบ้าง"

"ก็ดี.."

"มีความสุขดีไหม"

"ก็เรื่อย...เหมือนเดิมๆ เหมือนตอนทื่ไปใหม่ๆ"

สายไหมถามกลับ.."แล้วพี่ล่ะ กับเขาเป็นไง"

"เลิกกันแล้ว" นั่นคือคำตอบที่เธอได้รับจากเขา


ยังจำช่วงเวลานั้นได้ดี ช่วงเวลาที่ดอกไม้ของเธอเบ่งบานอยู่เต็มหัวใจ กับเขาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้ จำได้ว่าตอนนั้นคนข้างกายของเขาสวย สวยมาก มากเสียจนเธอรู้สึกเจ็บใจ

และถ้าเป็นเพียงเธอที่แอบรักเขาเพียงฝ่ายเดียว อะไรๆก็คงดีกว่านี้ แต่เมื่อมันไม่ใช่ แค่มองตากันและกัน สองคนต่างก็รู้ดี ว่ามันมากกว่านั้น..ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันมากเกินไป


ดังนั้น..เธอจึงต้องจากไป ไปจากความสัมพันธ์แบบคนสามคน ..เลือกในสิ่งที่ควรเลือก ทำในสิ่งที่ควรทำ


"ทำไมล่ะ ทำไมถึงเลิกกัน " เธอถามขึ้น..ทำลายความเงียบ

"เราไปกันไม่ได้ ความจริงเรื่องของพี่กับเขาควรจบไปนานแล้ว ถ้าไหมไม่จากไปเสียก่อน"

"ไหม..ทำในสิ่งที่ควรทำ" หญิงสาวรำพึง ..ความเสียสละของเธอสูญเปล่าหรือนี่..

"พี่รู้..แต่ถึงไหมไม่อยู่ ค่าของมันก็เท่ากัน รักของไหมยังอยู่ ยังอยู่ตรงนี้" เขาบอกและเธอก็รู้ว่า ตรงนี้ ของเขาคือตรงไหน แม้ไม่พูดมันออกมา

"เรื่องของพี่กับเขามันจบไปแล้ว..ไหมจำได้ไหม ที่พี่เคยบอกว่าเรื่องระหว่างเรา ในความรักนั้น รักอย่างเดียว มันไม่พอ ระหว่างพี่กับเขาก็เหมือนกัน ไม่รักอย่างเดียว ก็เกินพอ เขาจากไปอย่างเข้าใจดี เขาเป็นคนเดินออกไปเอง มันเป็นช่วงเวลาที่เขาเริ่มยอมรับได้ ว่าความผูกพันธ์เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ความรักกับคนบางคนถ้าเมื่อไหร่ที่มันแห้งเหือดไปจากใจ มันยากจะหวนคืน"

สายไหมเพียงแต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ..ก่อนที่จะได้ยินประโยคต่อมาของเขาพร้อมกับดวงตาที่จ้องมองมาตรงๆ แน่วแน่ "แต่ถ้าความรักกับบางคน ที่มันยังไม่แห้งเหือดไปจากใจ ความรักนั้นมันก็คอยตอกย้ำให้เรามีความหวังแล้วก็เจ็บปวดทุกวินาที"


ต่างคนต่างนั่งเงียบไป..ของหวานมาถึง ก่อนจะตบท้ายด้วยผลไม้สดชื่น แม้อยากจะยืดช่วงเวลาออกไปให้นานแสนนานกว่านี้แต่ก็เป็นไปไม่ได้ พอๆกับที่ไม่อาจย้อนเวลาให้หวนคืน ทุกเวลา ทุกฤดูกาล มีวันสิ้นสุดเสมอ


เหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วหญิงสาวก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ "เดี๋ยวไหมจะกลับเอง ไม่ต้องไปส่งไหมที่บ้านนะ และพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปส่งที่สนามบินด้วย"

เธอกำชับเขา.."ไหม..ไม่อยากร้องไห้"

เขาพยักหน้าช้าๆอย่างเข้าใจ.. "พี่ก็ไม่อยาก...เหมือนกัน"

จากนั้นสายไหมก็คว้ากระเป๋าใบโตกับถุงหนังสือใบใหญ่ขึ้นมาอย่างร้อนรน เดินออกจากร้านไปทันที


อยากไปให้พ้น..อยากไปให้ไกลจากความรู้สึกแบบนั้น


...ได้ยินเสียงตะโกนถามตามหลังมา "เมื่อไหร่จะกลับมาอีก"

"ไม่รู้สิ" เธอหันกลับไปตอบสั้นๆ "อย่าถามเลย รู้แค่ว่าเราจะไม่เจอกันอีก ขอให้ครั้งนี้เป็นความบังเอิญครั้งสุดท้าย ก็แล้วกัน"


แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งเขาไว้ตรงนั้น..




แต่เพียงเดินออกไปถึงนอกร้านเท่านั้น เสียงมือถือก็ดังขึ้น เบอร์นั้นเบอร์เดิมที่คุ้นเคยแม้หลับตาก็จำได้ บางทีต่อให้ลมหายใจเยือกเย็นจนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง หรือหัวใจละลายไปในอากาศ เธอก็จะยังคงจำได้เสมอ


เบอร์นั้นทำให้คนที่กำลังจะจากไป น้ำตาซึมม..เอ่อล้นขึ้นมา ยกมือถือขึ้นจ่อหู "ว่าไงคะ"

"เมื่อไหร่ที่ไม่มีความสุข กลับมานะ พี่จะรออยู่ตรงนี้" เสียงนุ่มทุ้มแว่วมาตามสายเบาแสนเบา เหมือนจะสะกิดให้ต่อมที่สร้างความปวดร้าวเริ่มทำงานมากขึ้น

น้ำตาที่เอ่อล้นนั้นเริ่มไหลริน แต่เธอไม่มีมือจะเช็ด ..จำต้องกะพริบตาเพื่อขับไล่มันไป "อย่าสัญญาอะไรทั้งนั้น เพราะไหมเองจะไม่สัญญาว่าจะกลับมา"

"ไม่เป็นไร ไม่ต้องสัญญาอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้รู้ไว้เท่านั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่อยากกลับมา เมื่อเขาทำให้ไม่มีความสุข กลับมานะ" เขาย้ำอีกครั้งเบาๆ "กลับมา"


เธอไม่พูดอะไรทั้งนั้น กะพริบตาจนน้ำตาแห้งไป ปิดมือถือลงกระเป๋า แล้วเดินจากไปตามถนนเงียบๆ ไม่ได้หันกลับมามองคนในร้านนั้นอีกเลย ไม่มีคำตอบสำหรับอดีต ไม่มีคำตอบสำหรับอนาคต..ทำแค่ปัจจุปันให้ดีที่สุดก็พอ


...ทำไม พี่ไม่พูดประโยคนั้นให้เร็วกว่านี้นะ..



* * * * * * * * * *




ชายหนุ่มยังคงมองตามร่างบางนั้นไป..มือถือนั้นยังคงค้างอยู่ที่หู แม้คนปลายสายจะวางหูและหายลับไปจากซอกตึกข้างร้านแล้ว

"ถ้าเขาไม่อยากถือกระเป๋าให้พี่จะถือให้เอง รู้ว่าช้าไปที่เพิ่งมาพูดตอนนี้ แต่ถึงไหมจะไม่กลับมา พี่ก็จะยังอยู่ตรงนี้.."

ก่อนจะวางมือถือลง..เช็คบิลแล้วกลับบ้าน ไปตามทางของเขา ชีวิตของคนสองคนยังคงดำเนินต่อไป แม้จะเป็นคนละเส้นทาง .. แต่เขาจะรอ รอความบังเอิญครั้งที่สอง แม้จะรู้ว่ายากที่จะเป็นไปได้ก็ตาม


จบ.











กาลครั้งหนึ่งของหัวใจ..คือเส้นสายของความปวดร้าวและเศษเสี้ยวของความสุขใจที่เคยพาดผ่านเข้ามาในชีวิต


โปรดอย่าสัญญาว่าจะรักฉันตลอดไป เพราะฉันจะไม่สัญญาอะไรกับใครทั้งนั้น อย่าบอกว่ารักฉันอย่างที่ฉันเคยเป็นในอดีต อย่าบอกว่าจะรักฉันเผื่อไปถึงในห้วงเวลาแห่งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง..รักฉันแค่ทุกวินาทีของวันพรุ่งนี้ก็เพียงพอ เพราะสุดท้ายแล้ว วันพรุ่งนี้ก็จะกลายมาเป็นวันนี้อยู่ดี


หนึ่งกฏของโลกที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง :: วันพรุ่งนี้จะกลายมาเป็นวันนี้และวันนี้จะกลายเป็นแค่เมื่อวาน
อีกหนึ่งกฏของโลกที่ไม่มีวันเป็นไปได้ :: เมื่อวานนี้ไม่มีวันกลายมาเป็นวันนี้ และวันนี้ก็จะไม่มีวันกลายเป็นวันพรุ่งนี้แน่นอน


คุณคะ..กาลครั้งหนึ่งของเราผ่านไปแล้ว ณ วันนี้ แม้หนึ่งวินาทีก็ยังคงช้าไป





* * * * * * * * *




คุยกันท้ายเรื่อง..

ก่อนอื่นเลย ขอโทษด้วยที่ลงช้ากว่าใครเพื่อน เพราะว่าอยู่ดีๆ ก็ล็อคอินเข้าบล๊อกแกงค์ไม่ได้ตั้งหลายวัน ..และก็อยู่ดีดีเหมือนกัน วันจันทร์ก็ล๊อคอินเข้ามาได้ซะงั้น(งง..งง..ระบบ) ตอนแรกนึกว่าจะพลาดโครงการครั้งนี้เสียแล้ว

ล๊อคอินเข้ามาไม่ได้ คือข้อแก้ตัวข้อหนึ่งที่มาช้า..ข้อแก้ตัวข้อสองอีกข้อก็คือ ช่วงที่ผ่านมาวุ่นวายกับการทาสีห้องใหม่ ไม่ได้เขียนโครงการในหัวข้อนี้ เลยขอหยิบเอางานเก่ามาเล่าใหม่

เรียบเรียงเพิ่งเติม..เพิ่มไป ลบไป แถไป จนได้"กาลครั้งหนึ่ง"มาจนได้ รับไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ




ส่วนบล็อกต่อไปในวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม หัวข้อ "หนังโปรด..ตัวละครประทับใจ"


ใครสนใจเข้าร่วมโครงการสามารถเข้าร่วมได้เลยกฏกติกามารยาทดังนี้ค่ะ
-ลงชื่อบอกกล่าวกันไว้
-เขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ และอัพบลอคในหมวดงานเขียน/บทประพันธ์
-อัพบลอคในวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมนี้ เวลาใดก็ได้
-เมื่ออัพบลอคแล้ว กรุณามาแจ้งอีกครั้งในบลอคของคนใดคนหนึ่ง และเราจะทำการรวบรวมลิงค์อีกทีค่ะ


ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนสู่ถนนสายมิตรภาพค่ะ


รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ
::BeCoffee::
::nikanda::
::นางสาวดุ่บดั่บ::
::nulaw.m::
::กะว่าก๋า::
::ปีศาจความฝัน::
::Artagold::
::Paulo::
::Unravel::
::นัทธ์::
::บุยบุย::
::mutcha_nu::








Create Date : 03 สิงหาคม 2552
Last Update : 11 ธันวาคม 2552 6:44:28 น. 21 comments
Counter : 509 Pageviews.

 
เป็นกาลครั้งหนึ่งที่ดูเศร้าๆดีนะครับ
แต่ก็อิ่มเอมใจลึกๆ
ใช้ภาษาสวยดีครับ ชอบ



ปล. หัวข้อต่อไปใครคิดเนี่ย ชอบจัง อิอิ
ปล.2 มาลงชื่อร่วมโครงการหัวข้อต่อไปไว้เลยครับ


โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:17:21:15 น.  

 
แง ๆ อดเจิม


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ IP: 125.24.180.44 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:17:50:32 น.  

 
สวัสดีค่าคุณแจง
วันนี้เขียนได้ดีจังเลยค่ะ ทุกวันมาทีไรก็ชมทุกที
มาคราวนี้ก็ชมอีกแล้ว แต่ละครั้งจะให้เป็นดาว ๆ ดีไหมคะ
คราวนี้เขียนดีจริง ๆ ค่ะ รู้สึกเนื้อหาสอดคล้องสัมพันธ์กัน
ชอบรายละเอียดน่ารัก ๆ ทั้งการถือกระเป๋าให้กัน
และเถียงกันเล็ก ๆ ในร้านอาหารว่าใครต้องพูดอะไร
อ่านแล้วรู้สึกมันน่ารักมาก ๆ เลยนะคะ พออ่านจบทั้งเรื่อง
รู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น มั่นคงของคนสองคน
ไม่หวือหวาหรือเจ็บปวด แม้ว่าความรักจะไม่สมหวังซะทีเดียว

เรื่องการถือกระเป๋าให้ผู้หญิงเนี่ย คุณแจงเชื่อไหม
ปอยเพิ่งคุยกับเพื่อนผู้ชายหลาย ๆ คนไปหมาด ๆ เองนะ
ว่าผู้ชายถือกระเป๋าให้ผู้หญิงจะรู้สึกยังไงเนี่ย เหอะ ๆ ๆ
หลายคนถือ ๆ ไปเพราะว่ารู้สึกว่าอยากเอาใจแฟนค่ะ
แต่อีกหลายคน(เพื่อนอาหรับ)รับไม่ได้กับการถือกระเป๋าให้แฟน
เพราะรู้สึกว่าผู้ชายก็มีศักดิ์ศรีของตัวเองเหมือนกัน 5555
ไม่รู้สิคะ กลับมาถามผู้หญิงดีกว่า ว่าเดินกับแฟนเนี่ย
อยากให้แฟนถือกระเป๋าให้หรือเปล่าเนอะ...

อิอิ...วันนี้เม้นต์เพลินค่ะ เพราะว่าอ่านเพลินดีจัง


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:18:13:41 น.  

 
ดีใจจังที่เห็นคุณแจงใช้ความหมายของ
กาลครั้งหนึ่งที่พี่พยายามจะสื่อ



โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:20:42:20 น.  

 
กาลครั้งหนึ่งเรื่องนี้เริ่มต้นมาได้หวานแหววซะจนอิจฉา

แต่พอค่อยๆอ่านมาเรื่อยๆกับยิ่งเศร้า

โดยเฉพาะตอนจบ...คนบางคนก็ยอมที่จะรออยู่ที่เก่า

ทั้งที่รู้ว่าโอกาสคงจะไม่หวนกลับแล้วจริงๆนะครับ


โดย: Unravel วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:20:46:41 น.  

 
ร้อนเรียงเรื่องราวได้ไหลลื่นมากคะ
เป็นกาลครั้งหนึ่งในรูปแบบที่ซ่อนอยู่ในใจหลายคนนะคะ
ชอบมากคะ ซึ้ง



โดย: mutcha_nu วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:21:50:55 น.  

 
อ่านสนุกและน่ารักดีค่ะ

เราคงเป็นคนร่วมโครงการที่ทำผิดกฏตลอด
ไม่เคยบอกเลยว่าจะเข้าร่วม ไม่ว่าใน blog ของเจ้าของโครงการคนไหน
เพราะเราไม่เคยคิดว่าจะเขียนอะไร แม้จะรู้หัวข้อล่วงหน้าก็ตาม

แต่ ณ วันที่นัดหมาย ถ้ามีอะไรมาสะกิดใจสักนิด มีเวลาอีกสักหน่อย
ตัวหนังสือและเรื่องราว ก็จะค่อยๆ ไหลออกมาเรียงกันเอง

หัวข้อใหม่ก็น่าสนใจ ..แต่ก็คอยดูกันไปละกันนะ


โดย: นัทธ์ วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:22:21:00 น.  

 
แวะมาอ่าน...
รอบนี้เราลืมจริงๆ ไม่มีคำแก้ตัวอื่นใด

เราชอบมองเวลาผู้ชายถือกระเป๋าให้แฟนนะ น่ารักดี

ปล. แจ้งข่าว นิยายเรื่อง 'ครีษมายัน' ได้รับการติดต่อขอตีพิมพ์จากสนพ. 1168 แล้วค่ะ
ตื่นเต้นๆ คืนนี้ต้องไล่ทวนต้นฉบับใหม่หมดอีกรอบ ก่อนส่งให้บก.ตรวจเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง


โดย: ภาวันต์ วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:22:43:00 น.  

 
ตาย ๆ ๆ ๆ .....ไม่น่าเชื่อว่าคุณเเจงจะรู้เรื่องนี้ ความลับของพี่หนูบัวเขาเลยนะนี่ เขียนเสียตรงเป๊ะ ๆ ๆ ตั้งเเต่ต้นจนจบเลยค่ะ หากจะไม่ตรงก็ตรงที่เเฝดพี่สวยกว่าเเน่นอน 555 เซ้วจัดมาก ....ลองเปลี่ยนอาชีพไปเป็นหมอดูไหมคะ อาจดังได้นะคะนี่




เเวะเข้ามาขอบคุณที่คุณเเจงไปอ่านเรื่องโม้ๆของนายพอลด้วยค่ะ


โดย: อมิธีสท์ วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:22:59:10 น.  

 
มาส่งงานค่ะคุณแจง

ครั้งหน้าขอไม่ร่วมกิจกรรมนะคะ
ไม่มีหนังโปรดตัวละครประทับใจเลยค่ะ


โดย: ปณาลี วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:0:30:51 น.  

 
เวอร์ชั่นนี้ละมุนละไมกว่าเดิมนะคะแจง

ตอนอ่านสองย่อหน้าแรกยังจำไม่ได้ค่ะ แต่พอเริ่มร้านหนังสือก็จำได้เลย

ก็พระเอกเรื่องนี้เป็นพระเอกในหัวใจคนเขียน (ใช่เปล่า)
แล้วก็เป็นหนึ่งในพระเอกขวัญใจอ้อนเหมือนกันนะคะ
ก็บุคลิกเค้าธรรดาแต่มีเสน่ห์น้อยอยู่เมื่อไหร่

แจงคะ เพราะวันเวลาย้อนกลับคืนมาไม่ได้
ความทรงจำที่สวยงามของเราจึงมีค่าหาสิ่งใดเปรียบไม่ได้
ในค่ำคืนที่เงียบเหงา ...ความทรงจำที่ผุดออกมา
เหมือนตาน้ำที่ผุดขึ้นกลางผืนดินแตกระแหง
ทำให้ชีวิตมีพลังฟี้นขึ้นใหม่ได้
แม้บางครั้งความทรงจำจะทำให้เราต้องตอกย้ำกับ
ความไม่มีในปัจจุบัน แต่เราก็ยินยอมแลกมันใช่ไหมคะ

อินค่ะอิน


โดย: BeCoffee วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:2:07:37 น.  

 



หวัดดีครับน้องแจง


พี่ก๋านั่งอ่านจนจบเลยครับ
ลุ้นว่าจะมีฉากอีโรติกเหมือนเรื่องที่แล้วหรือเปล่า 5555





แต่ไม่มีอ่ะ





แต่ก็เขียนได้ดีครับ

น้องแจงดูจะชอบมากเลยกับการเขียนเรื่องสั้นและนิยาย











โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:5:56:12 น.  

 
หวัดดีจ้าแจง

ไม่รู้ทำไมอ่านงานแจงทีไรน้ำตาซึมทุกที
ฟี่ชอบภาษาที่แจงใช้นะ บางช่วงดูเรียบง่ายแต่ถ่ายทอดออกมาได้เห็นภาพ
บางช่วงใช้คำสละสลวย แต่อ่านแล้ว โดนใจ
มันเป็นเสน่ห์ของงานเขียนแจงดี

เรื่องนี้ก็เหมือนกัน แอบสะท้อนใจหน่อย ๆ
ที่บางทีเราก็มีคำถาม ทำไม.. ถึงพูดช้าไป
หรือถึงเข้าใจกันช้าไป ในเมื่อเราต่างเลือกทางที่ตัวเองเดินจนยากที่จะย้อนกลับมาร่วมทางกันอีกแล้ว

เป็นความสุขที่เศร้า หรือเป็นความเศร้าที่สุขกันนะ
.
.

อ่ะ นอกเรื่อง ๆ
เชื่อไหมว่าส่วนมากเวลาอ่านนิยายฟี่ไม่ค่อยนึกถึงหน้าพระเอก นางเอกที่เป็นดาราล่ะ
ไม่รู้ทำไม จะนึกภาพตามที่อ่านน่ะ แต่เป็นเค้าหน้าหน่อย ๆ เท่านั้นเอง แบบ หุ่นประมาณนี้ หน้าประมาณนี้ 55

แต่พอแจงบอกว่ามีคนว่านางเอกเป็นเบนซ์นี่ ขอยกมือไม่เชียร์อีกเสียงได้ไหม
แบบว่ายังรู้สึกว่าไม่ใช่อ่ะ

ฟี่อ่าน กระโดดไปกระโดดมาล่ะ วาวพลอยยังไม่ด้อ่านเลย
ว่าจะไปหาอ่านซักหน่อย น้องรักของคุณเกื้อใช่ม่ะคนนี้




โดย: Paulo วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:7:41:55 น.  

 
แวะมาทักทายพี่แจงครับผม


ปล. เรียกน้องได้ตามสบายเลยครับ มันทำให้ดูสนิทกันดี
ปล.2 ก็ผมมันคนแตกต่างกว่าชาวบ้านอยู่แล้วครับ
ปล3. ตอนเด็กผมไม่เคยได้อ่านหรือฟังนิทานอ่ะครับ
เลยเขียนเป็นนิทานไม่ได้ เลยได้เป็นกลอนแทน


โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:12:45:15 น.  

 
วันนี้วันดี ไปเยี่ยมบ้านพี่หน่อยนะครับ



โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:13:09:09 น.  

 
ฮะๆๆ คงเดาได้จากหลายอย่างน่ะครับ

ทั้งภาพประกอบ ทั้งหมายเหตุ และคำพูดในเรื่อง


โดย: Unravel วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:16:15:08 น.  

 
วันนี้เขียนยาวจังค่ะแต่ก็อ่านจนจบ แต่ทำไมเศร้าจังล่ะคะ อยากให้มาร่วมกันเดินไปตามทางด้วยกันค่ะ เดินแบบเส้นขนานมันไม่ค่อยดี เหงาออกค่ะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:18:32:53 น.  

 
อุ๊ยย ยาวจางเลยยยยย
ไว้พลอยมาอ่านใหม่น๊า
สบายดีป่าวจ๊ะ คุณแม่เสียงสาว


โดย: rizzonte วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:19:21:36 น.  

 
ลุ้นเหมือนพี่ก๋าเลย


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:21:06:55 น.  

 
ดีจ้าน้องแจง ...

อ่านเรื่องสั้นของน้องแจงหนนี้ด้วยอารมณ์ละมุนค่ะ
แม้ว่าความรักจะไม่สมหวังเท่าไหร่แต่ว่าด้วยอารมณ์ของความ
ผูกพันมันมีสูง ดังนั้นเหมือนว่าถึงจะไม่สมหวังนัก
แต่ก็มีความรู้สึกดี อุ่น กรุ่นด้วยกลิ่นไอของความรู้สึก
อ่อน หวาน ละมุนแทบตลอดค่ะ .. อ่านแล้วแอบอิน
..................


ช่วงนี้พี่เข้าบล็อกแบบหายๆ มาๆ เรียกว่าเวลา
ไม่ค่อยได้เท่าไหร่ค่ะเพราะว่าเน็ตยังเต่าและก็ยังมี
ภารกิจเยอะอยู่ แต่ว่าก็พยายามมาอ่ะคะ

แต่ว่าหนหน้าโครงการใหม่ พี่ลงชื่อร่วมด้วยนะคะ
ช่วงนี้ยิ่งหาเรื่องอัพบล็อกยาก ไม่ว่าจะมีอะไรอัพก็ต้อง
คว้าหมดก่อนคะ ก่อนที่ไอเดียมันจะหายไป


โดย: JewNid วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:20:35:21 น.  

 
สวัสดีคุณแจง

อ่านแล้วแอบเศร้าเลยค่ะ
ตอนแรกออกหวาน แต่ตอนหลังนี่สิ เฮ้อ
ยิ่งอ่านยิ่งอินค่ะ

เวลา...เป็นสิ่งที่ไม่มีวันย้อนกลับไปหามันได้อีก

เวลา...
เป็นกาลครั้งหนึ่งที่ทรงคุณค่าจริงๆ

ปล.เรื่องโครงการ เล่นไปเรื่อยๆแน่นอนค่า
ไม่พลาดอยู่แล้วว



โดย: บุยบุย วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:19:02:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nikanda
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ลายปากกา









New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nikanda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.