จุ๊ๆอย่าเอ็ดไป..ฉันมีความลับ(อะไร)จะบอก :: พูคากับหนึ่งราตรี
จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป..ฉันมีความลับอะไรจะบอก
*การเต้นรำในความมืด มีฤทธิ์ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นเป็นสิบเท่า..โดยเฉพาะการเต้นรำกับคนแปลกหน้า
เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา คือวันที่ถูกพยากรณ์ว่าเป็นวันที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อความร้อนพุ่งขึ้นไปสูงถึง 41 องศาเซลเซียส ซึ่งฉันก็ไม่รู้ได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะเมื่อโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่างที่ห้องนอนของตัวเอง ลมเย็นก็ยังพัดพริ้วมากระทบใบหน้าเอื่อยๆเป็นระลอกๆด้วยความร้อนที่ 22 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นวันที่ร้อนที่สุดของหน้าหนาวนี้ที่กำลังจะหมดไปจากฤดูกาลในเมือง Albenga, Italy..
ในค่ำคืนต่อมาที่ถูกห่อหุ้มด้วยความเหน็บหนาวด้านนอกตัวอาคารผสมผสานกับความอุ่นบางเบาด้านใน ที่แทรกขึ้นมากรีดผิวอ่อนๆให้อบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ยังจำได้ถึงช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาสั้นๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสานอยู่กับการย่างบาร์บิคิวกันอยู่ด้านนอกของตัวบ้าน..สวนขนาดเล็ก ดอกไม้หอมกรุ่น และเตาไฟที่ร้อนฉ่า
ในตัวบ้านนั้นถูกเปิดไฟทิ้งไว้เพียงดวงเดียวที่ห้องนั่งเล่น เนื่องจากไม่มีใครอยู่ เสียงเพลงจากด้านนอกดังเข้ามาอย่างแผ่วๆ ขณะที่ฉันเดินฝ่าความเลือนลางเพื่อที่จะเข้าไปเอาเสื้อกันหนาวซักตัวในห้องนอน แต่กับถูกกระชากที่ข้อมืออย่างแรง ตรงหน้าประตูห้องสมุดซึ่งอยู่อีกปีกหนึ่งของบ้าน ห่างไกลจากสวนด้านนอกไม่น้อย รู้สึกว่าถูกดึงเข้าไปด้านใน เสียงประตูปิดดัง "กริ๊ก" เบาๆ พร้อมฝ่ามือที่ตะปบลงมาที่ปากอย่างแนบสนิท ขณะฉันดิ้นอึกอักและพยายามจะกรีดเสียงร้องให้คนช่วยนั้น..ได้ยินเสียงมุจจุราชแห่งรัตติกาลเอื้อนเอ่ยแหวกกระแสความมืดอึมครึมขึ้นมาว่า "ผมเอง"
ฉันหยุดชะงัดไปชั่วขณะ และพยายามที่จะมองฝ่าความมืดไปที่ใบหน้าของเขาที่อยู่สูงขึ้นไปเล็กน้อย แม้มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้จากลมหายใจร้อนผ่าวกระทบหน้าผากและเหนือศีรษะ เขาลังเลเล็กน้อยกับอาการนิ่งสงบของฉัน ก่อนที่เอ่ยต่อมาพร้อมกับที่คลายฝ่ามือที่แนบสนิทนั้นให้ผ่อนคลายลง "อย่าร้องนะ แล้วผมจะปล่อยคุณ"
แม้ฉันจะกลัวเหลือเกินว่าอาจจะถูกฆ่าตกรรมอย่าง"ไร้เหตุผล"ในบ้านของตัวเอง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเบาๆด้วยความเคยชินของคนหัวอ่อนที่ยอมรับคำสั่งอยู่เสมอ "อืม..ม.." เสียงของฉันอู้อี้ลอดฝ่ามืออกมา
แสงจันทร์ที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างไม่พอเพียงที่จะมองเห็นกันและกัน แต่ก็สามารถที่จะมองเห็นเป็นเงาลางๆ เขาค่อยๆเลื่อนมือออกไปจากปากของฉัน ไปตรึงไว้ที่ข้อมือทั้งสองข้าง แผ่นหลังของฉันสัมผัสกับความแข็งและเย็นเยียบของชั้นหนังสือ เมื่อปากเป็นอิสระ ฉันควรจะร้องให้คนช่วย แต่ฉันกลับไม่ได้ทำอย่างนั้น แม้ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่น้ำเสียงที่คุ้นหูก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาจะไม่ทำร้ายฉันแน่นอน
"คุณเป็นใคร" ฉันถามเสียงสั่นนิดๆ
"ผมเอง" เขาตอบมาด้วยคำพูดเดิม ราวกับว่าเพียงเท่านั้น ฉันจะต้องจำเขาได้
"ขอโทษนะ ผมเองน่ะใคร ฉันจำไม่ได้ เราเคยพบกันด้วยหรือ"
"อา..อา...ผม " เขาทำเสียงรำพึงยาวๆในลำคอ ความร้อนเเทรกผ่านผิวฉัน เมื่อเสียงที่ดังขึ้นนั้นอยู่ที่ใกล้ๆใบหูนี้ "ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคุณลืมผมเสียแล้ว ทั้งๆที่คุณพบผมครั้งสุดท้ายเมื่อไม่กี่วันนี้เอง"
"คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ" ฉันตอบโต้ไม่ดังนักกับคำกล่าวหาของเขา "ฉันเคยพบคุณที่ไหนกัน คุณบ้าไปแล้ว หรือไม่ คุณก็จำผิดแน่ๆ"
"ไม่หรอก ที่รัก" เขาเรียกฉันอย่างนั้น "ที่รัก" คำเรียกขานอย่างอ่อนหวานที่ออกมาจากปากเขาอย่างง่ายดาย ราวกับว่าเขาใช้มันเป็นประจำ
"ผมจำมันได้ดี คุณเองต่างหากที่ลืมมัน" เขาเงียบไปอึดใจ "หรือไม่ คุณก็กำลังจะหนีผม"
ฉันมองหน้าเขาในความเลือนลางของแสงไฟด้วยความมึนงง ประกายวาบวิบวาวของแสงเล็กๆ สะท้อนกลับมาที่ดวงตาของฉัน คุ้นเหลือเกินกับตุ้มหูเพชรเล็กๆที่หูด้านซ้ายของเขา ฉันสะบัดมือตัวเองออกจากมือของเขาที่เกาะกุมไว้ แล้วเลื่อนขึ้นไปสัมผัสกับสิ่งแวววาวนั้น โลหะเล็กๆที่เรืองแสงที่ติ่งหู
"คุณเจาะหู คุณมาจากถิ่น แหวนที่นิ้วคุณอีก คุณเป็นยิปชี" แม้ชาวยิปซีจะเป็นชนเผ่าที่ฉันไม่เคยเห็น แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยเหลือเกินกับเครื่องประดับที่ได้เห็นบนนิ้วและติ่งหูของเขา
"ใช่แล้ว" ดวงตาเขาวาบขึ้นในความมืด ที่ฉันเริ่มมองเห็นชัดเจนขึ้น เมื่อสายตาตนเองเริ่มชินกับความมืด เขาเอ่ยต่อ "คุณเริ่มจำได้แล้ว..อย่างน้อยคุณก็จำรากเหง้าดั้งเดิมของผมได้สาวน้อย"
"เราเคยพบกันที่ไหนคะ" ฉันถามด้วยความสงสัย
"เต้นรำกับผมซักเพลงสิ แล้วผมจะบอก" เขาเอ่ยชวนง่ายๆ และโดยไม่ได้รอคำตอบ เขาดึงมือฉันขึ้นไปพาดไหล่เขาโดยไม่ได้ขออนุญาติก่อนซักนิด พร้อมแขนอีกข้างที่โอบรอบเอวของฉันแล้วรั้งเข้าไปแนบชิดกับร่างสูงของเขา เท้าของฉันพริ้วไปตามแรงดึงเป็นจังหวะ
"คุณ มันจอมเผด็จการ" ฉันต่อว่า แล้วเขาก็หัวเราะเสียงนุ่ม ฟันขาวสะท้อนแสงจันทร์ " ผมนึกว่าคุณชินเสียอีก ผมจะไม่ขอโทษหรอกนะ ที่ผมถูกกำหนดมาให้เป็นอย่างนี้ เพราะนี่แหล่ะคือเสน่ห์ของผม"
"คนหลงตัวเอง" ฉันว่า แล้วถามต่อ "ทีนี้ บอกฉันสิคะ ว่าเราพบกันได้อย่างไร"
"ที่ห้องลึกลับในคลับพนันแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก คลับของมิสเตอร์เจนเนอร์" เมื่อเขาบอกมา ราวกับความทรงจำของฉันจะเริ่มแจ่มชัดขึ้นเล็กน้อย "เมื่อไหร่กันคะ"
"เมื่อสองปีก่อน..ตอนนั่นคุณคลั่งผม" เขาหลงตัวเองจนน่าหมั่นไส้ แต่ฉันจะแกล้งทำเป็นมองข้ามไป เพราะความอยากรู้เรื่องอื่นมากกว่า ขณะที่เท้ายังคงก้าวตามเขาไป ผู้ชายตัวสูงที่เต้นรำไปตามจังหวะอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติเหลือเกิน
"คุณอยู่กับคนอื่น คุณอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งในห้องนั้น ฉันคุ้นๆ" ฉันเริ่มเท้าความสิ่งที่เกิดขึ้นในความทรงจำ เขากับสาวน้อยบอบบางคนหนึ่งที่น่ารัก สดใส ชื่อของเธอคือ
"ฉันจำได้แล้ว คุณอยู่กับเดชี่ โบว์แมน คุณทะเลาะกับเธอ แล้วคุณก็จูบเธอ" ฉันกล่าวหาด้วยน้ำเสียงคุ้นเคยที่ตัวเองยังแปลกใจ
เขายกแขนซ้ายของฉันขึ้น สะบัดปลายนิ้วให้ฉันหมุนตัวไปตามเสียงบทเพลงขับกล่อมที่มีเพียงแต่เราสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
หนึ่งรอบ.. สองรอง.. สามรอบ.. ชายกระโปรงบานพริ้วไปตามแรงหมุน ก่อนที่กลับเข้ามาในอ้อมกอดของเขาดังเดิม " คุณเป็นโจรขโมยจูบ" ฉันว่า
"ใช่แล้ว นั่นแหล่ะสิ่งที่ผมเป็น แต่ไม่ใช่กับทุกคนนะ แค่บางคนเท่านั้น" เขาบอกอย่างมีนัย ขณะที่ก้มลงมองคนในอ้อมแขนที่ก้าวตามจังหวะที่เขากำหนดได้เป็นอย่างดี
"และผมเห็นคุณอยู่ตรงนั้นด้วย คุณเฝ้าดูผมอยู่ คุณรู้ทุกความเป็นไปของผม แล้วผมก็รู้ทุกความเป็นไป ทุกความรู้สึกของคุณ" เขาพูด และฉันก็เริ่มหน้าแดงขึ้นด้วยความอับอาย เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมาหมายจุมพิตที่ริมฝีปาก แต่ฉันเอียงหน้าหลบเบาๆ ริมฝีปากอ่อนโยนของเขาจึงประทับลงที่ข้างลำคอขาวนวล ชีพจรเต้นระริกๆจนสัมผัสได้ "นั่นเป็นครั้งแรกนะที่เราเจอกัน ในปีนั้นเราเจอกันอีกตั้งสามครั้ง"
"จริงเหรอ" ฉันถามด้วยความเหลือเชื่อและตื่นเต้น "แล้วหลังจากนั้นล่ะ"
"แล้วเราก็เจอกันอีก อีกหลายครั้งเลยล่ะ..เพียงแต่ที่ที่เราได้พบกัน มันไม่ใช่ที่เดิม " การเคลื่อนไหวของเรานั้นช้าลง แต่เขายังโอบเอวฉันอยู่ " เวลาเปลี่ยน ผู้คนเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน ผมเปลี่ยน แต่คุณยังเหมือนเดิม"
"เหมือนเดิมอย่างไรคะ" ฉันถามอย่างฉงนใจ หลังหยุดเต้นรำแค่นั้น..มันหวานชวนฝันเกินไป
"นานมาแล้วคุณเคยบอกว่า ผมทำให้หัวใจคุณเต้นแรง ผมเป็นพระเอกในดวงใจของคุณ" เขาเอ่ยทวนสิ่งที่เขารู้
ใช่แล้ว ..ฉันเคยพูดอย่างนั้นจริงๆ ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และฉันสารภาพ "ใช่ค่ะ ฉันเคยแอบฝันด้วยนะ ว่าคุณจะพาฉันขี่เจ้าพูคาม้ามัจจุราชของคุณ ท่องไปในยามเที่ยงคืนเหนือผิวโลกเหนือมหาสมุทร..ข้ามไปยังดินแดนลึกลับของคุณที่ฉันยังไม่เคยได้สัมผัส"
"คุณเชื่อในตำนานของพูคาด้วยหรือ คุณไม่กลัวหรือ" เขาหยุดไปหนึ่งอึดใจ "คุณรู้ใช่ไหม ว่าเมื่อมันพาคุณข้ามขอบฟ้าไปแล้ว เวลาที่มันพาคุณกลับมาส่ง คุณจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป"
เขาก้มลงมาอีกครั้ง..แล้วครั้งนี้ไม่พลาดเป้าหมาย ริมฝีปากชวนฝันของเขาประทับลงมาแผ่วเบาราวกับปีกผีเสื้อ อ่อนโยน อ่อนหวาน ผ่านริมฝีปากบางของฉัน..หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากร่างกาย ดอกไม้แห่งความฝันพร่างพราย กลิ่นเก่าๆของหนังสือนับร้อยนับพันเล่มในชั้นวางรอบกายช่างหอมกรุ่น..."ฉันรู้ค่ะ ฉันเคยอ่านมันตั้งหลายครั้ง ฉันอยากสัมผัสความรู้สึกแบบนั้น"
"ผมมาหาคุณที่นี่ได้ เพราะหัวใจคุณเรียกร้อง ดังนั้นคุณจะได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ แก็ดจี้" สิ้นสุดคำบอกกล่าวของเขา ฉันรู้สึกถึงสายลมแห่งความรักพัดพริ้วแผ่วเบา เย็นวาบที่ต้นขาเมื่อชายกระโปรงถูกร่นขึ้นสูงอย่างช้าๆนุ่มนวล แล้วร้อนผ่าวด้วยฝ่ามืออบอุ่นของเขาที่ไล้ตามขึ้นมา ลมหายใจของคนตัวสูงที่ส่งความรู้สึกทั้งเย็นและร้อนไปตามต้นคอ นิ่งอยู่นิดหนึ่งที่แอ่งชีพจรที่เต้นแรง ราวกับกำลังปลอบประโลมให้หัวใจเต้นช้าลงซักหนึ่งจังหวะหากเขาสามารถทำได้..บทเพลงแห่งความสุขที่ดังมาสวนด้านนอกดังเข้ามาไม่ถึงด้านใน .. .. ลมเย็นปะทะใบหน้าในทุกย่างก้าวของอาชาไนยสีดำสนิทสีเดียวราวกับสีของรัตติกาล อ้อมกอดแข็งแรงที่โอบกอดฉันไว้จากด้านหลังแสนร้อนรุ่ม หมอกมัวซัวแหวกทางให้เขาและฉัน เดินท่องไปเหนือพื้นผิวโลก
"พูคา"ตามคำกล่าวที่บอกเล่าในตำนานนั้น อาจเป็นปิศาจร้ายที่ชอบกลั่นแกล้งและทำร้ายคน แต่เมื่อมีอ้อมกอดของเขาอยู่ด้านหลังอย่างนี้ ฉันไม่หวั่นเกรงสิ่งใดในดินแดนอันลึกลับ...หัวใจฉันโลดแล่นไปกับหัวใจของเขาและอาชาไนยคู่ใจของเรา..กับวันเวลาที่ทอดยาวไปอีกนานแสนนาน
..มืดแล้วสว่าง ..สว่างแล้วมืด ..ร้อนแล้วเหน็บหนาว ..เหน็บหนาวแล้วร้อนรุ่ม
ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆกับเสียงกระซิบที่ริมหูอีกครั้ง.."แก็ดจี้..คุณจำผมได้แล้วใช่ไหม ที่รัก.."
ฉันสบตาที่หวานฉ่ำของตัวเองกับเขา "ค่ะ ฉันจำคุณได้แล้ว..คุณคือ แคม โรฮัน" ฉันยิ้มอย่างอ่อนหวานให้กับเขา ยกมือเรียวบางของตัวเองขึ้นลูบปรอยผมสีดำสนิทของเขาที่ตกมาระหน้าผากให้เข้าที่ "คุณ.คุณนั่นเอง ผู้ชายในฝันของฉัน"
ร่างสูงของเขาก้มลงจุตพิตฉันอีกครั้ง..ยาวนาน เหมือนเพื่อเป็นการกล่าวคำอาลา เขาแตะและกระตุกที่ผมของฉันเบาๆแล้วถอยออกไปอย่างช้าๆ ไปที่หน้าต่างของห้องสมุดแล้วเปิดออก ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งนาน ตาของเราสบกัน เขายกมือขึ้นชูสิ่งหนึ่งในมือให้ฉันดู ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างแจ่มชัดเมื่อสิ่งที่อยู่ในมือนั้นสะท้อนแสงจันทร์เป็นเส้นสีขาวลางๆ
"ที่คาดผมของฉัน" เอ่ยท้วงเบาๆ
"แล้วผมจะเอามาคืนคราวหน้า" เขาบอก "ผมจะกลับมาอีก พร้อมกับฝันที่เร่าร้อนของคุณ"
ฉันยิ้ม.. "ฉันชอบมากเลยค่ะ ฉากนั้น ฉากที่คุณแอบตัดริบบิ้นจากหมวกของอมีเลียไปเป็นที่ระลึกขณะที่คุณจูบเธอเพื่อให้เธอไขว้เขว" ฉันยิ้มมากขึ้นเมื่อกระซิบบอกความลับอีกข้อ "ตอนนั้นตอนที่ฉันได้อ่านมัน ฉันแอบฝันนะคะว่าฉันคือมิสอมีเลียที่น่ารักของคุณ"
เขาหัวเราะเบาๆ "ถึงคุณจะไม่ใช่อมีเลีย แต่คุณคือแก็ดจี้คนพิเศษที่เฝ้ารอผมเสมอมา ดังนั้นคุณคือเจ้าของผม" แล้ว.." ผมจะเป็นทุกอย่างที่คุณต้องการ"
หัวใจฉันกระตุก ก่อนถามบางสิ่งที่คั่งค้างในหัวใจมานาน "ฉันยังแปลกใจนะคะ ที่คนที่เกลียดกฏเกณฑ์ของสังคมอย่างคุณ ตกลงใจที่จะแต่งงานกับมิสอมีเลีย ครั้งแรกที่ฉันพบคุณ ตอนนั้นฉันนึกว่าคุณคือคู่แท้ของมิสเดซี่ โบว์แมนเสียอีก"
"อย่าแปลกใจเลยที่รัก บางทีความรักที่แท้จริง เราก็ไม่รู้ชัดหรอกว่าคือคนไหนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต จนกว่าเราจะได้พบเจอคนคนนั้นจริงๆ แล้วหัวใจจะบอกเราเอง" เขาขยิบตาซ้ายให้อย่างมีเสน่ห์ ก่อนที่จะกระโดดข้ามหน้าต่างออกไปอย่างสง่างาม แล้วหายไปในความมืดของยามราตรี
เจ้าชายของฉัน เจ้าชายแห่งรัตติกาล
เสียงหนึ่งยังแว่วแผ่วมา.."ผมจะมาเมื่อคุณต้องการ ผมจะมาเมื่อหัวใจคุณเรียกร้อง..เพราะผมเป็นทาสของคุณตลอดกาล"
+ + + + +
จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป ฉันมีความลับที่ไม่เคยบอกใครจะบอก ถ้าฉับบอกคุณแล้ว อยากบอกใครนะคะเหยียบเอาไว้เลย ความลับที่ว่าก็คือ จินตนาการที่เร่าร้อนอ่อนหวานซักคืนในห้องสมุด กับผู้ชายในฝัน เจ้าชายแห่งรัตติกาล
แล้วคุณล่ะ..มีความลับและจินตนาการลึกลับกันบ้างไหม ฉันเล่าความลับข้างบนให้พวกคุณฟังจบแล้ว ทีนี้คุณเล่าจินตนาการและความลับของคุณให้ฉันฟังบ้างสิคะ
ตอนนี้ฉันขอตัวออกไปทานบาร์บิคิวกับเพื่อนๆที่สวนด้านนอกก่อน แล้วคืนนี้ฉันก็มีโปรแกรมว่า ก่อนนอนจะย่องเข้าไปในห้องสมุด แล้วหยิบเอา Mine Till Midnight มาอ่านอีกซักรอบเพื่อระลึกถึงผู้ชายยิปซีเจ้าเสน่ห์คนนั้นอีก ท้ายเล่ม..เขาสัญญากับฉันว่า เขาจะกลับมาอีก พร้อมความรักอันมั่นคงของวินนิเฟรดและเมร์ริเพนใน Seduce Me At Sunrise
"ฉันจะรอคุณค่ะมิสเตอร์โรฮัน..ความฝันที่แสนอ่อนหวาน" ฉันกระซิบฝากไปกับสายลม
+ + + +
*ขอบคุณLisa kleypasนักเขียนในดวงใจ *ซีรี่ย์ชุดสาวน้อยเสี่ยงรักของ Lisa kleypas The Wallflower Series *แคม โรฮัน ..The Devil in Winter คลิ๊ก..Mine Till Midnight *เดชี่ โบว์แมน..The Devil in Winter, Scandal in Spring *อมีเลีย แฮทธาเวย์..Mine Till Midnight *วินนิเฟรดและเมร์ริเพน..Seduce Me at Sunrise *แก็ดจี้..คือคำอ่อนหวานที่ชายยิปซีใช้เรียกหญิงสาวที่ไม่ใช่ยิปซี *พูคา..สัตว์ร้ายในตำนานของชาวไอริช ที่ชอบลักพาตัวหญิงสาวในยามเที่ยงคืน
+ + + +
ย้อนอ่านถนนสายนี้..คลิกที่นี่ค่ะ :::จุดเริ่มต้นของโครงการ..ถนนสายนี้มีมิตรภาพ::: :::หนังสือเปลี่ยนชีวิต..เล่าสู่กันฟังบางครั้งฟ้าก็(ไม่)จรดทราย::: :::แฟนฉัน..กับความรักครั้งแรก + + รักไม่ได้..แต่ลืมไม่ลง::: :::ของขวัญวันรัก ++ คนที่ใช่ในวันที่ผิด:::
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางเส้นทางสายมิตรภาพเส้นนี้ด้วยกันทุกคนนะคะ สำหรับถนนเส้นต่อไป เดินทางมาถึงเส้นที่สี่ และจะมาในหัวข้อที่ชื่อว่า "โตขึ้น หนูอยากเป็น..... "ค่ะ
หากสนใจร่วมถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรเส้นที่สี่กับพวกเรา ทำตามกติกาง่าย ๆ เหมือนเคย ดังนี้ค่ะ -ลงชื่อบอกกล่าวกันไว้ -เขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ และอัพบลอคในหมวดงานเขียน/บทประพันธ์ -อัพบลอคในวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม เวลาใดก็ได้ -เมื่ออัพบลอคแล้ว กรุณามาแจ้งอีกครั้งในบลอคของคนใดคนหนึ่ง และเราจะทำการรวบรวมลิงค์อีกทีค่ะ -กติกาเพิ่มเติม..งานเขียนของท่านนั้น จงเขียนสิ่งที่อยากเขียน ไม่จำกัดรูปแบบ ไม่จำกัดแนวเรื่อง ไม่จำกัดความสั้นยาว -เรียกว่าเขียนกันได้ตามความพอใจเลยค่ะ..เรื่องจริงหรือเรื่องแต่งก็ได้..ขอเพียงมีชื่อเรื่องว่า ตรงกับหัวข้อที่กำหนดให้เท่านั้นเอง
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ หวังว่าจะได้ร่วมเดินทาง ในถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรนี้ด้วยกันนะคะ
ผู้ร่วมโครงการ BeCoffee::: Nikanda::: นางสาวดุ่บดั่บ:: ธาร นาวา::: JewNid::: กะว่าก๋า::: Paulo::: ส้มแช่อิ่ม::: ปณาลี::: แมงโกชิดเด:::
Create Date : 27 เมษายน 2552 |
|
25 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2552 6:34:56 น. |
Counter : 924 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: นางสาวดุ่บดั่บ IP: 202.176.114.175 27 เมษายน 2552 1:50:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: นางสาวดุ่บดั่บ IP: 202.176.114.175 27 เมษายน 2552 2:08:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 27 เมษายน 2552 6:15:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: Paulo 27 เมษายน 2552 8:29:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 27 เมษายน 2552 11:46:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: นัทธ์ 27 เมษายน 2552 15:49:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: นัทธ์ 27 เมษายน 2552 19:24:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 27 เมษายน 2552 22:26:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 28 เมษายน 2552 5:58:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ภูมิ (Artagold ) 28 เมษายน 2552 16:30:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 28 เมษายน 2552 21:24:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: อมิธีสท์ 30 เมษายน 2552 20:15:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่เฮฮา (พี่เฮฮา ) 1 พฤษภาคม 2552 11:42:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: nikanda 1 พฤษภาคม 2552 17:54:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|