*ขอบคุณ..ที่ผ่านมาให้กำลังใจกัน*
Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ : กำเนิดนางมณโฑ

ผู้ร้ายก็เกิดแล้ว
ผู้ช่วยพระเอกก็เกิดแล้ว...
วันเน้เพระเอกจะเกิดรึ....?????....
ยังก่อน..ยังก่อน..ต่อให้ไปก่อนเลย..สองเสาไฟ..เดี๋ยวค่อยตามยังทันถมถืด
แล้ววันเน้..ใครจะมาเกิดดีหว่า....
อ่ะ..คนเน้แล้วกัน...มิ่งมเหสี..เมียรักของทศกัณฐ์
นางมณโฑ.....



เขาว่ากันว่ามีพระฤาษี ๔ รูป บำเพ็ญพรตที่เชิงเขาป่าหิมพานต์โน่นแน่ะ
และ ณ เชิงผาป่าหิมพานต์นี้มีโคนมห้าร้อยตัว ทุกเช้าแม่โคจะมาที่หน้าอาศรม
หยดน้ำนมในอ่างแก้วเป็นประจำ ทุกวั๊น..ทุกวัน
แล้วฤาษีทั้ง ๔ ก็มานั่งฉันน้ำนมนั้น และก็ยังใจดีแบ่งนมให้นางกบตัวหนึ่ง
ซึ่งมาหมอบอยู่ใกล้ ๆ เป็นประจำ
หากเป็นเช่นดังว่าทุกวันมันก็ไม่มีเรื่องชิมิ...
เพราะฉะนั้น...อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดเหตุ ด้วยมีนางนาคตนหนึ่ง เป็นบุตรีพระยากาลนาค
ในเมืองบาดาลพุ่นเด้ นางเกิดกระสันสวาทหวั่นใจอยากได้คู่ตุนาหงัน
ก็เลยมาเดินตุเหร็ดตุเหร่อยู่ในป่า ปะเมาะเคราะห์ร้ายผู้ชายไม่เดินผ่าน
หันซ้ายหันขวาไปจะเอ๋กะงูดิน...ก็เลยคืนร่างเป็นนาค เล่นจ้ำจี้กะงูดินซะงั้น


พอดี๊..พอดี ฤาษีทั้ง ๔ มาเห็นเข้า ด้วยกลัวว่าวงศ์นาคจะหมองเพราะนางนาคมีศักดิ์สูง
จะมาเสพสังวาสกับงูดินดูไม่ควร จึงใช้ไม้เท้าเคาะที่ขนด หางนางนาคให้รู้สำนึกตัว
นางนาคเกิดความอายก็แทรกดินหนีไป เมืองบาดาล
แต่ด้วยความอาย และแค้นเคืองพระฤาษี
นางได้กลับมาคายพิษใส่อ่างน้ำนมหวังฆ่าฤาษีปิดปาก...
อ้าว....นังนี่...ชั่วไม่ใช่เล่น...เค้าเตือนดีดียังมีหน้ามาโกรธ


แต่...คงยังไม่ถึงคราวเคราะห์ของพระฤาษี
นางกบเห็นเข้า ซะก่อน
ก็แสดงกตัญญูกตเวทีต่อพระฤาษี โดยกระโดดลงไปว่ายฟรีสล์ในอ่างน้ำนม
อ่ะมะช่าย....นางก็โดดลงไปในอ่างน้ำนมที่มีพิษนั้นและถึงแก่ความตาย
ลอยอืดทีเดียวเชียว เพื่อป้องกันชีวิตพระฤาษี
เมื่อพระฤาษีมาเห็นก็ตำหนิในใจว่า "นางกบตะกละเลยต้องตาย"
แต่ด้วย จิตเมตตา ท่านจึงคีบ นางกบมาเป่ามนต์ ให้ฟื้นแล้วถามว่า "ทำไมจึงตะกละตะกรามอย่างนี้"


นางกบจึงเล่าความจริงให้ท่านทราบ ดังนั้นพระฤาษี ๔ รูป จึงพร้อมใจกันแทนคุณ นางกบ
โดยทำพิธีชุบ ให้นางกบกลายเป็นนางงามสุดแนโสภา แล้วให้ชื่อว่า นางมณโฑ
และพาไปถวายพระอิศวร พระอิศวรก็รับนางมณโฑไว้ เป็นนางกำนัลของพระอุมา
พระอุมาเห็นว่า นางมณโฑ ขยันและซื่อดี จึงเมตตา สอนวิชาและคาถาให้เสมอ


ย้อนมาทางนี้หน่อย...ทางด้านเมืองบาดาล
พระยากาลนาคเห็นว่าท้าวสหมลิวันที่อพยพหนีภัยมาจากบนบก
มาอยู่ที่เมืองบาดาลจะทำให้เดือดร้อนไปทั่ว เพราะเป็นยักษ์พาลจึงยกทัพนาคมาพ่นพิษ
ท้าวสหมะลิวันสู้พิษพญานาคไม่ได้ ก็ขอความช่วยเหลือ มายังท้าวลัสเตียน
ซึ่ง สามารถปราบพระยากาลนาคได้ ด้วยศรวิเศษแผลงเป็นพญาครุฑ
ตรงเข้าคาบพญานาคไปไว้ได้ทันที พระยากาลนาค ยอมแพ้
จึงถวายราชธิดาชื่อ นางอัคคี แก่ท้าวลัสเตียน
แต่ท้าวลัสเตียนประทานให้เป็นชายาทศกัณฐ์ผู้เป็นโอรส เพราะตัวท่านแก่แล้ว


จากนั้น ท้าวลัสเตียนก็แบ่งบ้านเมือง ให้ลูก ๆ ครอง คือ
ให้ทศกัณฐ์ ปกครองเมืองลงกา มีนางอัคคี เป็นมเหสี
ให้กุเรปันไปครองเมืองจักร และยกบุษบกแก้ววิเศษเหาะได้ให้ไปด้วย
ให้ทัพนาสูรครองเมืองจักรวาล
ให้ธาดาครองเมืองวัฑกัน
ให้มารันครองเมืองโสฬส
ให้พระยาขรครองเมืองโรมคัล
ให้ทูษณ์ครองเมืองชนบท
ให้ตรีเศียรครองเมืองมัชชุวารี...
ให้นางสำมะนักขาลูกสาวคนสุดท้องเป็นชายา ชิวหา
ส่วนภิเพกกุมภกรรณ ให้อยู่กับพี่ชายใหญ่ในเมืองลงกา แล้วพระองค์ก็สวรรคต




จะกล่าวถึงยักษ์วิรุฬหกซึ่งอาศัยอยู่อยู่ในประสาทแก้วสุรกานต์เมองบาดาล ใต้เขาตรีกูฎ
ตามธรรมดาจะขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรปีละเจ็ดครั้ง
วันหนึ่งได้ขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติมาแต่กาลก่อน
พระอิศวรกำลังบรรทมหลับ วิรุฬหกคิดว่าพระอิศวรอยู่ที่ท่ามกลางอสูรและเทพดา
จึงกราบทุกขั้นปันไดที่ขึ้นไปยังเขาไกรลาส


สรภูตุ๊กแกที่เกาะอยู่บนยอดเขา เห็นเข้าก็ขบขัน หัวเราะยะวิรุฬหกเป็นภาษาตุ๊กแก
วิรุฬหกได้ยินเข้าก็โกรธถอดสังวาลย์นาคขว้างใส่ซะ....สรภูตุ๊กแกคู่กรณี
ตัวแหลกเป็นผุยผง...แต่....
สังวาลย์นาคที่ขว้างไปด้วยกำลังแรงเหลือประมาณนั้นถูกเขาไกรลาส จนถึงกับทรุดเอียง


พระอิศวร จึงประกาศให้รางวัลแก่ผู้สามารถยกภูเขาไกรลาสให้ตั้งตรงได้
แต่ไม่มีใครทำได้ พระอิศวรจึงให้จตุบทไปบอกทศกัณฐ์มาช่วยยก
ทศกัณฐ์มาถึงก็เนรมิตกายสูงใหญ่เทียมยอดเขา แล้วใช้บ่าแบกยันภูเขาไว้
ใช้มือยี่สิบมือ จับเหลี่ยมเขาทุกแห่ง แล้วใช้เท้าถีบยันสุดแรงภูเขาไกรลาสก็ตั้งตรงได้


ทศกัณฐ์จึงทูลขอรางวัลเป็นพระอุมา พระอิศวรก็ต้องประทานให้
ทศกรรฐ์จึงเข้าไปจะอุ้ม แต่กายของพระอุมาร้อนแรงมาก ทศกรรฐ์อุ้มไม่ได้
ได้แต่อุ้มพระบาทวางไว้เหนือหัวพาเหาะไป
เฮ้...อย่างเง้เค้าเรียกว่าริจะเด็ดดอกฟ้านะเนี่ย....
พระนารายณ์ทราบเรื่อง จึงแปลงเป็นชายแก่ ยากจนปลูกต้นไม้เอายอดปักลงดินเอารากขึ้น แล้วก็หัวเราะชอบใจ


ทศกัณฐ์มาเห็นก็ร้องว่า “ตาแก่บ้า ปลูกต้นไม้แบบนี้มันจะขึ้นได้ไง..โง่จริงรึแกล้งโง่”
ตาแก่แปลงจึงเถียงว่า “ท่านแหละโง่มาก เพราะท่านพาหญิงลักษณะกาฬมา จะผลาญตัวท่านและตระกูลวงศ์ให้พินาศ”
ทศกัณฐ์ก็คิดว่า ถ้าจะจริงของตาแก่ เพราะนางตัวร้อนประหนึงไฟก็มิปาน
แล้วจึงถามตาแก่แปลงว่า “นางใดบ้างที่คุณตาว่าดี”
ตาแก่แปลงก็แนะว่า “นางมณโฑดีที่สุด สวยที่สุด”
ดังนั้น ทศกัณฐ์จึงพา พระอุมามาคืน และขอประทานนางมณโฑไปแทน





ทศกัณฐ์ก็อุ้มนางเหาะ และชมโฉมนางเพลิน มาจนผ่านเมืองขีดขิน
ฝ่ายพระยาพาลีเห็นทศกัณฐ์อุ้มผู้หญิงเหาะข้ามหน้าข้ามตาไปก็โกรธ
ไม่ได้...ไม่ได้....พาผู้หญิงบินข้ามหัวกันได้ไง มันหยามกันชัดชัด


จึงฉวยพระขรรค์เหาะไปสู้รบ และด้วยพรพระอิศวรที่ประทานให้พาลี
ว่ารบกับใครให้กำลังของผู้นั้นลดลงกึ่งหนึ่ง
ช่วยให้พาลีรบชนะแย่งนางมณโฑไปได้
ทศกัณฐ์ครั้นเสียนางมณโฑไปก็ระทมทุกข์ถึงนางมิได้ขาด
ยามกินก็ไม่ได้นอน...ยามนอนก็ไม่ได้กิน
ทุกข์ท้อระทวยใจอยู่ในเมืองลงกานานถึงเจ็ดเดือน ทำให้กุมภกรรณ และพิเภกต้องคิดช่วยเหลือ


โดยไปเล่าให้พระฤาษีโคบุตรผู้เป็นอาจารย์ของทศกัณฐ์ฟัง
พระฤาษีก็ช่วยแนะให้ว่า ให้ทศกัณฐ์ไปหาพระฤาษีอังคต พระอาจารย์ของพาลี
ให้ท่านช่วยขอนางมณโฑคืนให ้ทศกัณฐ์
เมื่อพระฤาษีอังคตรู้เรื่อง ก็ไปชี้แจงความผิดชอบชั่วดีให้พาลีฟัง
แล้วขอให้คืนนางมณโฑให้ทศกัณฐ์ดีกว่า
ส่วนพาลี นับจากชิงนางมณโฑมาได้ ก็ไม่ได้พามานอนกุมมือเปล่าๆซักกาหน่อย


พาลีจึงบอกอาจารย์ว่า นางท้องได้หกเดือนกว่าแล้วจะทำยังไงดี
พระฤาษีอังคต จึงช่วยแหวะท้องนางมณโฑ
แล้วเอาลูกไปฝากไว้ในท้องแพะ โดยที่นางมณโฑไม่เจ็บปวด และไม่มีแผล
โอ้ว....เก่งกว่าแพทย์แผนปัจจุบันอีกอ่ะ...สุดยอดดดดด
แล้วก็คืนนางมณโฑให้ทศกัณฐ์ไป
ทศกัณฐ์จึงได้นางมณโฑกลับคืนไปเป็นมเหสี


แล้วพอถึงฤกษ์งามยามดีต่อมา พระฤาษีอังคต ก็มาทำพิธีแหวะท้องนางแพะ
เอาทารกใส่พานทอง ให้พาลีผู้เป็นบิดาไปเลี้ยง และท่านตั้งชื่อคล้ายท่านว่า องคต
พาลีฝากให้นางดาราเลี้ยง ซึ่งนางก็รักเหมือนเป็นลูกของนางเอง จนกระทั่งองคตอายุสิบขวบ
พาลีก็พาไปทำพิธีอาบน้ำ องคตที่แม่น้ำยมนา ในวันฤกษ์ดี พาลีจึงให้กั้นข่ายเพชร
ในแม่น้ำบริเวณพิธีสรงน้ำนั้น


ฝ่ายทศกรรฐ์ รู้ข่าวนี้ก็แค้นใจ และต้องการล้างแค้น
เพราะองคตเป็นลูกนางมณโฑที่เกิดจากศัตรู จึงเหาะมาที่แม่น้ำยมนา
แล้วแปลงเป็นปูใหญ่คลานไปจมอยู่ใต้น้ำ แต่ทหารวานรค้นเจอปูใหญ่
กิริยาน่าสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อการร้ายจึงไล่จับ แต่สู้ฤทธิ์ปูใหญ่ไม่ได้
ก็หนีมาฟ้องพาลี
พาลีจึงแผลงฤทธิ์ไปจับปูทศกัณฐ์มาได้ และผูกมัดแน่นหนาให้องคตลากเล่นถึงเจ็ดวัน


จนร่างกายบอบช้ำ พาลีจึงแก้มัดและปล่อยตัวไป
อ่ะนะ..จะสงสารรึสมน้ำหน้าดีหว่า...แพ้เขารอบนึงแล้วยังไม่สำนึก
หวนมาให้เขาย่ำยีอีกเป็นคำรบสอง
ด้วยความอับอายบวกกับความแค้นใจทศกัณฐ์จึงไปหาพระฤาษีโคบุตร
ขอให้ช่วยถอดดวงใจให้ โดยไปทำพิธีกันที่ภูเขานิลคีรีและได้นำดวงใจนั้นรักษาไว้ ณ ภูเขานี้


กล่าวถึงท้าวกุเรปัน โอรสท้าวลัสเตียนที่เกิดจากศรีสุมณฑา เป็นพี่ทศกัณฐ์
และมีบุษบกเหาะได้ ท้าวเธอขึ้นบุษบก เหาะจากเมืองกาลจักรไปเฝ้าพระอิศวรเสมอ
ทศกัณฐ์เห็นก็อยากได้บุษบกนั้น วันหนึ่งเหาะมาเจอพี่ชายขึ้นบุษบกเหาะอยู่แถวภูเขาไกรลาส
ทศกัณฐ์ก็บอกอย่างไม่เกรงกลัวว่า

"บุษบกวิเศษนี้ควรคู่กับเมืองวิเศษคือเมืองลงกา ไม่ควรอยู่ในเมืองบ้านนอกดอก"

เลยเกิดต่อสู้กัน ทศกัณฐ์เก่งกว่า แย่งตะบองเพชรของกุเรปันมาได้
กุเรปันถูกไล่ตีจนต้องหนีไปพึ่งพระอิศวร พระองค์จึงถอดงาช้างขว้างไปปักติดอกทศกัณฐ์
และสาปให้งานั้นติดแน่นเกะกะอยู่กับอกทศกรรฐ์ตลอดไปจนตายเมื่อไรจึงจะหลุด
ทศกรรฐ์เจ็บปวดมาก จนต้องหนีกลับมาเมืองลงกาแล้วเชิญพระวิษณุกรรมมาช่วยถอนงา
เมื่อทศกัณฐ์เห็นพระวิษณุกรรมมาก็ยินดี ว่า


ดูก่อนท่านผู้จำเริญสุข.......................เราทนทุกข์ปิ่มสิ้นสังขาร์
ด้วยพระอิศโรโกรธา...............................ขว้างงามาปักอุระไว้
แล้วทั้งสาปซ้ำมิให้หลุด.........................ชักฉุดเท่าไรก็ไม่ไหว
จะให้ท่านรจนามัย………………........….. ไขแก้เลื่อยงาคเชนทร
แล้วจึ่งทำเครื่องประดับปิด...............ให้วิจิตรแลเลื่อมประภัสสร
อย่าให้เห็นงากุญชร.............................อลงกรณ์ให้สนิทงามดี



ทศกัณฐ์นั้นมีนิสัยพาลและชอบสาว ๆ สวย ๆ ถึงกับบังอาจแปลงเป็นพระอินทร์
ไปอยู่กับนางฟ้าตามวิมานถึงเจ็ดราตรี
แล้วแปลงเป็นปลา ไปอยู่กับนางปลาในทะเลจนเกิดธิดาชื่อ นางสุพรรณมัจฉา
แล้วแปลงเป็นช้างไปอยู่กับนางช้าง จนเกิดลูกชาย ชื่อ คีรีธรกับคีรีวัน
ซึ่งพระยายักษ์อัศกรรณพาไปเลี้ยงไว้

และนางสนมอีกพันนางของทศกัณฐ์ก็มีลูก คือ สหัสกุมาร มีพันองค์


ส่วนนางมณโฑ มีโอรสกับทศกัณฐ์ ชื่อ รณพักตร์
ซึ่ง มีนิสัยหยาบช้าเช่นเดียวกับทศกัณฐ์ ผู้พ่อไม่ผิดเพี้ยน...
เรียกได้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น


เมื่อรณพักตร์อายุได้สิบห้าปี
ทศกัณฐ์ส่งไปศึกษาพระเวทกับ พระฤาษีโคบุตร
พระฤาษีท่านรักใคร่มากเพราะได้สอนวิชาให้ทั้งพ่อทั้งลูก ท่านจึงสอนวิชาพิเศษให้ด้วย คือวิชามหากาลอัคคี
ใช้สำหรับบูชาพระเป็นเจ้าทั้งสามคือ พระอิศวร พระพรหม และพระนารายณ์
รณพักตร์เมื่อได้วิชาแล้ว จึงไปบำเพ็ญตบะที่เนินเขาโพกาศ เป็นเวลาเจ็ดปี
ทำให้พระเป็นเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ต้องเสด็จมาถามความต้องการ รณพักตร์จึงขอศร


พระอิศวรจึงประทานศรพรหมมาศ และพรแปลงกาย เป็นพระอินทร์ให้
พระพรหมให้ศรนาคบาศพร้อมกับพรว่า หากจะตายให้ตายบนอากาศหากเศียรขาดตกดิน
ต้องมีพานแก้วของพระพรหมมารองรับ จึงจะไม่กลายเป็นไฟบรรลัยกัลปไหม้โลก


ส่วนพระนารายณ์ให้ศรวิษณุปาณัม
ทศกัณฐ์เมื่อเห็นรณพักตร์มีฤทธิ์มากขึ้น นับจากได้ศรจากพระอิศวร
พระพรหมและพระนารายณ์
มาคืนหนึ่งทศกัณฐ์คิดกำเริบใจ ทนงศักดิ์ว่ามีฤทธิ์มากไม่มีใครจะต่อกรได้
มีความเกรงกลัวในอานุภาพ รู้ไปทั่วทั้งสามโลก
เห็นมีแต่พระอินทร์ผู้เดียวที่ยังอวดดีอยู่เพราะได้จักรแก้วจากพระอิศวรไว้
จึงให้รณพักตร์ยกทัพไปปราบพระอินทร์





ดูก่อนเจ้าผู้จำเริญรัก.........................ดวงจักษุพ่อเฉลิมศรี
อันสามภพจบทั่วธาตรี.........................ก็เกรงกลัวฤทธีบิดร
แต่ท้าวตรีเนตรนี้หมิ่นกัน....................สำคัญว่าตัวชาญสมร
เจ้าจงยกพวกพลากร…………………..…....ขึ้นไปราญรอนราวี



ได้สู้รบกันที่กลางเขาพระสุเมรุ พระอินทร์สู้ไม่ได้ทิ้งจักรแก้วไว้
แล้วหนีไปฟ้องพระอิศวร ส่วนรณพักตร์ได้จักรแก้วของพระอินทร์
จึงกลับมายังเมือง ทศกรรฐ์จึงตั้งชื่อรณพักตร์ใหม่ว่า อินทรชิต ซึ่งแปลว่าสามารถปราบพระอินทร์ได้
ส่วนท้าวสหมะลิวัน เมื่อรู้ว่าท้าวลัสเตียนสวรรคตแล้ว ทศกัณฐ์ได้เป็นใหญ่แทน ก็ทรงวิตก


เพราะรู้ว่า ทศกัณฐ์เป็นพาลและดุร้ายมาก เห็นว่าควรจะป้องกันเมืองไว้ก่อน
ดังนั้นท้าวสหมลิวันจึงได้เนรมิตด่านไวตรงปาก ทางที่จะเข้าเมืองมนุษย์
โดยเนรมิตสระใหญ่มีดอกบัวเต็ม เฉพาะดอกบัวดอกหนึ่งเป็นดอกใหญ่ถ้าจะเข้าเมือง





จะต้องเข้าทางก้านของดอกบัวนั้น นอกจากนั้นแล้วเนรมิตกำแพงป้อมปราการรายรอบ
มียักษ์หนึ่งโกฏิรักษาด่าน ต่อจากด่านนั้นมาให้มีพญาช้างเมามันตัวสูงใหญ่แกล้วกล้าเที่ยวตระเวนป้องกันอยู่ไปมา
ต่อจากด่านช้างก็มีด่าน หินให้เป็นภูเขาใหญ่สองลูกกระทบกันรวดเร็วเกิดเปลวไฟกล้ารุ่งโรจน์
ด่านต่อมาเป็นฝูงยุงตัวใหญ่เท่าแม่ไก่อีกชั้นหนึ่ง



เมื่อถึงกาลสวรรคต ท้าวเธอจึงสั่งโอรสคือ มหายมยักษ์ หรือท้าวศากยวงศาว่า
อย่าคบกับทศกรรฐ์ เพราะจะพลอยพาให้เสียชื่อยักษ์วงศ์พรหมไปด้วย
ท้าวศากยวงศาครองเมืองบาดาลต่อมา มีมเหสีชื่อ จันทประภา มีธิดาชื่อนางพิรากวนและมีโอรสชื่อไมยราพ
เมื่อมหายมยักษ์หรือท้าวศากยวงศาสวรรคตไมยราพก็ครองเมืองบาดาลแทน



และได้ไปเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมกับพระฤาษีสุเมธที่ป่าหิมพานต์
มีวิชาผูกจิตสะกดทัพล่องหนหายตัวและคาถาคงกระพันชาตรีต่างๆ
พระฤาษีสุเมธรักไมยราพมากจึงทำพิธีถอดดวงใจให้เพื่อใครฆ่าจะได้ไม่ตาย
ดวงใจนั้น ก็ออกจากปากไมยราพเป็นแมลงภู่บินวนทักษิณ 3 รอบ
พระฤาษีจับแมลงภู่ดวงใจให้ไมยราพนำไปเก็บซ่อนไว้ที่ภูเขาตรีกูฎ
และสั่งว่าอย่าให้ใครเด็ดขาด แล้วตัวไมยราพก็จะหนังเหนียว แม้ไฟกรดก็ทำลายชีวิตไม่ได้




 

Create Date : 31 มีนาคม 2552
11 comments
Last Update : 31 มีนาคม 2552 13:54:09 น.
Counter : 10379 Pageviews.

 

ทะไมนางมณโฑ.....ไม่หน้าขาว...

 

โดย: ซซ 31 มีนาคม 2552 14:44:38 น.  

 

ปวดหัวโว้ย!

 

โดย: เหนือฟ้า พาไป 31 มีนาคม 2552 17:10:11 น.  

 



นั่นสินะ...ใครถ่ายรูปสวยจริงๆ
ดี.ว่า....ใจดีที่สุดด้วยล่ะ


ถามๆๆๆๆๆ
พี่เขียนกี่ตอนคะเนี่ย
ดี.อยากอ่าน
แต่แบบว่าอยากอ่านรวดเดียวเลย
รอๆๆๆๆๆๆ


 

โดย: d__d♥ (มัชชาร ) 31 มีนาคม 2552 19:05:46 น.  

 

อ่านแบบมึนๆกับภาษา

มาจิพี่เดี๋ยวพาไปเที่ยว

 

โดย: มัยดีนาห์ 31 มีนาคม 2552 22:06:20 น.  

 

หนุกดีมากๆคะ ได้มาอ่านเรื่องนี้อีกหน ตอนเรียนชอบมากๆ รามเกียรติ์ มีตั้งเเต่ประถมถึงมหาลัย

 

โดย: โบว์ (beaubeauky ) 31 มีนาคม 2552 23:56:48 น.  

 

+ จำได้แค่ว่า นางมณโฑ โนตมข้างเดียว อ่ะครับ เหอๆ

 

โดย: บลูยอชท์ 1 เมษายน 2552 1:03:08 น.  

 

ตอบคำจำนรรจา.....


ป้าซวงซวง........สงกาสัยว่าแป้งจาหมดนางมณโฑเลยไม่ได้โบ๊ะแป้ง..หน้าเลยมะขาว




ป้าตาคนงามทรามสวาท......ปวดกาบาลเรื่องไรฟระ....
เอาคาราดริลไปกินซักอึกสองอึกไป๊...เผื่อหาย...
(หายไปจากโลกนี้นะ....เหอ...เหอ....)





น้องดี.....จาเขียนกี่ตอนไม่รู้...รู้แต่ว่าเขียนไปเรื่อยๆ....
จนกว่าจะจบ...รึไม่ก็.....
จนกว่าจะเบื่อ.....
แต่มะต้องเป็นห่วง...คาดว่าคงจาจบแน่นอน...เพราะพักนี้ขี้เกียจหาเรื่องมาอัพบล๊อก...
นี่ก็วางโครงการไว้ว่าจบเรื่องรามเกียรติ์แล้ว
จะต่อด้วยขุนช้างขุนแผน พระอภัยมณี อิเหนา......

โอ้วววววว...อัพกันได้อีกหลายปีดีดัก.....คริ..คริ...



น้องนาห์....มึนไรอ่ะ...ภาษาออกจาสละสลวย....
อ่านง่ายจาตาย....
ครูภาษาไทยได้อ่านคงเป็นลมล้มทั้งยืน...
มาเรียกเกรดกลับคืนเป็นแน่แท้....



คุณโบว์...(สุนิตาป่าวหว่า)......หนุกดีก็ติดตามอ่านจนจบนะ...
มาเป็นกำลังใจให้กันหน่อย....



อาบลู๊ววววววววว...หยอด....นางมณโฑนมโตข้างเดียวเจงเหรอว๊า....
สงกาสัยต้องไปถามทศพักตร์...
เพราะพี่แกนอนกอดอยู่ทุ๊กวัน








ส่วนเน้บ่น.....


พักเน้มะค่ยจาได้อัพบล๊อกทุ๊กวันดังเช่นตะก่อน
เนื่องจากบางวันก็เข้าได้
บางวันก้อเข้ามะได้
ก็เลยห่างหายไปบ้าง..ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนบ้านมั่ง..
ไม่ไปมั่ง...ก็อย่าเพิ่งน้อยใจ
ตัดสัมพันธไมตรีกันซะก่อนเด้อ.....
ยังรักทุกคนเหมือนเดิม.......
รักนะ..จุ๊บ...จุ๊บ....

 

โดย: เจ้าที่..... IP: 124.120.55.164 1 เมษายน 2552 8:31:50 น.  

 

ไปอ่านแล้วเป็นไงบ้าง ใช้ได้ป่าว อ๊ายอายง่ะ

กำลังอ่านมันส์ๆ ดันจบซะแระ

 

โดย: butbbj 1 เมษายน 2552 12:19:40 น.  

 

มาต่ออย่างเร็ว...สนุกมาก อ่านแล้วไม่อยากให้จบ รู้สึกว่าผู้หญิงในนั้น ใครจะเอาไปทำอะไร ยกให้ใครก็ได้ง่ายๆเนอะ.....ขอบคุณมากๆน๊า..

 

โดย: Why England 1 เมษายน 2552 14:48:29 น.  

 

ไม่เห็นมีกลอนบุษบกแก้วเลยบอกว่ามีไง

 

โดย: แนนซี่ IP: 202.149.25.235 3 มีนาคม 2553 17:40:06 น.  

 

สนุก

 

โดย: kit IP: 223.206.245.180 2 กรกฎาคม 2558 20:26:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นายรถซุง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




หัวใจดวงน้อย
ที่คอยจะมอบความรัก
ให้กับใครซักคน..หมดหัวใจ

(โอ้ว..น้ำเน่าคอด..คอด..)


* ข้อควรระวัง *

เจ้าของบ้านสันดานเสีย
ไม่ค่อยชอบตอบบล๊อกนะครับ


start 8 Dec.08
free counters คุณชลอ ครับผม

Friends' blogs
[Add นายรถซุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.