|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
Pang...ยูจะต้องไปอยู่สิงคโปร์2เดือนนะ
ก่อนจะอ่านบันทึกนี้ กรุณากดฟังไปด้วยจะได้อารมณ์มากยิ่งขึ้นครับ
----------------------------------------------
จำได้ว่าวันนั้นเป็นเช้าวันพฤหัสที่ 23 กค. 52 (แหมเลขกลับด้านกันพอดี)
จริงๆแล้วจะว่าไป การมาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ตั้งแต่แรก (18 กค. 52) ก็ต้องเตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าต้องได้ไปทำงานที่สิงคโปร์แน่ๆในวันใดวันหนึ่ง
แต่ก็ไม่นึกว่ามันจะเร็วขนาดนี้เหมือนกัน
แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปอยู่สองเดือนจริงๆหรือเปล่า แต่แนวโน้มว่าจะได้อยู่นานกว่าน้น มีสูงมาก
ข้าพเจ้าก็ไม่ได้กังวลอะไรหรอกนะ แม้จะไม่เคยไปสิงคโปร์ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่แย่ไปกว่าคูเวตที่ข้าพเจ้าเคยไปอยู่หรอกน่า
ถ้าไปอยู่สองเดือนจริงก็ยิ่งดี แต่ถ้านานกว่านั้นก็ยังโอเคนะ อย่างแย่ก็นั่งเครื่องบินมาสูดอากาศที่ภูเก็ตสักคืนแล้วบินกลับไปทำงานต่อเท่านั้นก็หรู
...
กลับมาเรื่องราวในเช้าวันนั้นต่อ
พอทราบข่าวว่าทางบริษัทแม่ที่สิงคโปร์เห็นผลงานของข้าพเจ้าเลยเรียกตัวข้าพเจ้าไปทดลองงานชั่วคราวที่โน่น สิ่งแรกที่กระทบกับสำนึกแรกเลยก็คือ "ข้าพเจ้ายังไม่ได้ไปทำพาสปอร์ตใหม่เลยนี่หว่า"
สาเหตุก็เพราะข้าพเจ้าเปลี่ยนชื่อไปตั้งแต่ต้นเดือนเมษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปเปลี่ยนเอกสารบางตัว สาเหตุก็เพราะคิดว่ามันยังไม่จำเป็น
หนังสือเดินทางก็เป็นหนึ่งในนั้น ...ก็มันไม่ได้ใช้นี่หว่า จะรีบไปเสียเงินทำใหม่ทำไม
หารู้ไม่ว่ามันก็เป็นผลมาจนถึงวันนี้
เป็นผลที่ดีซะด้วยนะครับเพราะถ้าพาสปอร์ตข้าพเจ้าพร้อม ก็มีหวังวันอาทิตย์นี้ข้าพเจ้าก็คงได้เดินทางเลย
โถแม่เจ้า ข้าพเจ้ายังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยสักอย่างเลยเนี่ย
พอมีปัญหาเรื่องพาสปอร์ต ก้ต้องเลื่อนไปสิ้นเดือนดังกล่าวล่ะครับ
จะอย่างไรก็ตาม อย่างแรกที่ข้าพเจ้าคงต้องทำก่อนคือหาเวลาไปทำหนังสือเดินทาง
ตอนแรกว่าจะไปตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสเลย แต่งานเต็มมือ ก็เลยต้องเลื่อนมาจนบัดนี้ก็ยังไม่มีเวลาไป
อย่างที่สองที่ต้องทำก็คือ ต้องไปแก้บนกับพระพิฆเณศ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ แล้วก็พระตรีมูรติ แล้วก็พระพรหมด้วย
จริงๆไปไหว้พระตรีมูรติก็เหมือนไหว้พระพรหมอยู่แล้ว แต่ก็เพื่อความสบายใจ ก็ไปไหว้ที่เอราวัณด้วยเลย
แล้วก็ต้องเอาคอมไปคืนเพื่อนที่เอสบีเฟอร์นิเจอร์ด้วย มันมาฝากไว้นานแล้ว ไม่ยอมมาเอาไปเสียที ก็คงต้องเอาไปคืนเอง
อย่างอื่นก็คงไม่มีไร เพราะไม่ได้ไปนาน อย่างมากก็เตรียมพวกเสื้อผ้า กับของอีกสองสามอย่าง
กล้องก็ขายไปแล้ว ก็ยังคิดอยู่ว่าจะหาไรไปถ่ายรูปดี ไปหากล้องเล็กๆสักตัวก็น่าจะพอ
เฮ้อ แต่จะเอาตังที่ไหนไปล่ะ ตกงานไปสี่เดือน เงินที่มีอยู่ทั้งจากเงินชดเชยจากเอสบี กับเงินขายกล้องก็ร่อยหรอเต็มที
รวมก็เป็นแสนเลยนะ แต่พอต้องจ่ายค่าผ่อนรถด้วย มันก็พร่องไปเยอะอยู่
สำคัญสุดคือ ไปสิงคโปร์เดือนแรกนี่ ต้องควักเงินตัวเองกับการใช้ชีวิตที่โน่นด้วย นี่ยังดีที่ไม่ต้องหาที่พักเอง ไปอยู่บ้านหัวหน้าที่มาอยู่เมืองไทยแทน ไม่งั้นสงสัยจะแย่สุดๆ
ขลุกขลักนิดหน่อย แต่รวมๆน่าจะโอเคน่า
ยังงัยๆ ชีวิตนี้ก้ต้องผจญภัยอีกแล้ว ทั้งๆที่ในความสัตย์จริงแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองไม่เคยมีความใฝ่ฝัน(ที่ตัวข้าพเจ้าเองคิดว่า)บ้าๆบอๆอย่างไปเที่ยวเปิดโลกเปิดกระโหลกตัวเองด้วยการท่องเที่ยวไปต่างประเทศเลย
อยากหาที่สงบๆแล้วใช้เงียบๆ มีเวลาในการบำเพ็ญตนหาหนทางสู่วิถีของพระผู้เป็นเจ้าบ้างมากกว่า (เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าไปกระทบใครต่อใครบ้าง ก็ช่วยไม่ได้นขอรับ)
แต่ชีวิตมันก็คงขึ้นอยู่กับกรรม ชาติก่อนๆ ข้าพเจ้าคงเคยไปทำเวรทำกรรมกับคนต่างชาติเอาไว้ ชาตินี้เลยส่งผลให้ต้องไปจองล้างจองผลาญกันถึงที่เลยทีเดียว
ก็ไม่รู้ว่าที่สิงคโปร์เนี่ยจะไปเจอคนไทยที่นั่นอีกหรือเปล่า แล้วจะต้องมีวีรเวรวีรกรรมที่ต้องตามล้างตามเช็ดกันเหมือนกับที่เจอที่คูเวตอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้
ก็ช่างเถอะครับ แล้วแต่พระพรหมท่านจะบันดาลแล้วกัน ข้าพเจ้าน่ะยังงัยก็ได้อยู่แล้ว รับได้หมดแหละ
ชีวิตจะต้องเจอกับอะไรก็ตาม แต่ข้าพเจ้าก็บอกกับตัวเองไว้เสมอว่า จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เท่าที่ตัวเองจะทำได้
ก็ต้องลุ้นกับตัวเองด้วยเหมือนกัน
สุดท้ายก็คือ
ข้าพเจ้าเกลียดสิงคโปร์นี่หว่า
Create Date : 25 กรกฎาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2552 11:31:07 น. |
Counter : 426 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) 25 กรกฎาคม 2552 16:17:21 น. |
|
|
|
| |
|
|
จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เท่าที่ตัวเองจะทำได้
สู้ๆคร้า