กองทุนทริกเกอร์ คืออะไร?

กองทุนทริกเกอร์ คือ กองทุนที่มีเป้าหมายชัดเจน โดยเป้าหมายมีสองอย่างก็คือ ผลตอบแทน และเวลา ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่ากองทุนทริกเกอร์ที่เราสนใจลงทุนตั้งเป้าหมาย 8% ในเวลา 1 ปี ระยะเวลาที่ไม่ถึง 1 ปี ถ้าทำผลตอบแทนได้ถึงตามเป้า + กำไรของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. เช่น 3% กลายเป็น 11% ก็สามารถปิดกอง และคืนเงินบวกกับกำไร 8% ให้กับนักลงทุนอย่างพวกเรา ส่วนทางกองทุนจะรับไป 3% (ส่วนต่าง) ในทางกลับกันถ้าหากครบ 1 ปีแล้วยังทำกำไรไม่ได้ตามเป้า ก็จะต้องปิดกองโดยอัตโนมัติ และคืนเงินให้เราตามราคาที่ปิดกอง ณ.ตอนนั้นครับ

“สิ่งที่ผมให้ความสนใจมากก็คือ การจ่ายเงินคืนของกองทุน เพราะหากกองทุนทริกเกอร์จ่ายเงินคืนได้บ่อยครั้งนั่นหมายความว่าการบริหารจัดการกองทุนทำได้ “เข้าเป้า” จึงต้องปิดกองก่อนกำหนด พร้อมรับผลตอบแทนตามเป้าที่นักลงทุนอย่างพวกเราจะได้รับนั่นเอง”

แล้วเราจะลงทุนในกองทุนทริกเกอร์อย่างไรจึงจะดีที่สุด?

การลงทุนในกองทุนทริกเกอร์นั้นได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงระยะเวลานี้ เนื่องจากการลงทุนกองทริกเกอร์สามารถดึงข้อดีของการลงทุนระยะสั้นจนถึงการลงทุนในระยะกลางมาใช้ได้เป็นอย่างดี และสามารถล็อกกำไรที่นักลงทุนรายย่อยอย่างเราอยากจะได้อีกด้วยครับจุดนี้แหละครับที่ทำให้นักลงทุนที่ต้องบริหารความเสี่ยงชอบมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนทริกเกอร์เหมาะอย่างยิ่งที่จะลงทุนในช่วงตลาดผันผวนในขณะนี้ เนื่องจากความสามารถในการ “ล็อกกำไร” ที่ควรจะได้มาก่อน ทำให้นักลงทุนอย่างเรารู้สึก “ปลอดภัย” จากความผันผวนของตลาดหุ้นที่ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลาครับ สิ่งที่ผมให้ความสนใจมากก็คือ การจ่ายเงินคืนของกองทุน เพราะหากกองทุนทริกเกอร์จ่ายเงินคืนได้บ่อยครั้งนั่นหมายความว่าการบริหารจัดการกองทุนทำได้ “เข้าเป้า” จึงต้องปิดกองก่อนกำหนด พร้อมผลตอบแทนตามเป้าที่นักลงทุนอย่างพวกเราจะได้รับนั่นเอง จากเป้าหมายดังที่กล่าวมานั้นผมจึงขอแนะนำกองทุนทริกเกอร์ที่อยู่ในข่าย “น่าสนใจ” คือ กองทุนทริกเกอร์ โดยบลจ.ไทยพาณิชย์ นั่นเองครับ

วันสบายๆ วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังอ่านข่าวหากองทุนทริกเกอร์ดีๆ เพื่อลงทุนผมก็ต้องสะดุดกับข่าวนี้ครับ “กองทุนทริกเกอร์ โดยบลจ.ไทยพาณิชย์ เดือนเดียวจ่ายเงินคืนถึง 5 ครั้ง” เอ๊ะ! ยังไง

ด้วยความสงสัยผมก็เลยไปหาข้อมูลต่อจากแหล่งข่าวต่างๆมาให้เพื่อนๆ นักลงทุน เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ยูเอส สมอลแคปทริกเกอร์ 5%+5% (SCBUSSMTG) ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายแรก 5% ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนจากวันที่ลงทุนครั้งแรก ซึ่งเข้าเกณฑ์ทริกเกอร์เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.57 โดยผู้ลงทุนได้รับเงินคืนในวันที่ 12 ม.ค.58 
2. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ไทยแลนด์รีคอฟเวอรี่ ทริกเกอร์ 3x3 ฟันด์ 2 (SCBTRTG2)  ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารให้มีผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งเข้าเกณฑ์ทริกเกอร์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 ม.ค.58 โดยผู้ลงทุนได้รับเงินคืนในวันที่ 26 ม.ค.58 และทริกเกอร์ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 27 ม.ค.58 โดยผู้ลงทุนได้รับเงินคืนในวันที่ 4 ก.พ.58 ซึ่งห่างจากครั้งแรกเพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น (กด Like เลยครับ!)
3. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% ฟันด์ เอ (SCBTG3P3A) ทริกเกอร์เข้าเป้า มีผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายแรก 3% ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนจากวันที่ลงทุนครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 ม.ค.58 โดยผู้ลงทุนได้รับเงินคืนในวันที่ 28 ม.ค.58 และแว่วว่าเข้าเกณฑ์ทริกเกอร์ครั้งที่สองซ จนปิดกองแล้วด้วยครับ  ที่สำคัญสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าเป้าหมาย และปิดกองได้เพียงแค่ 40 วันเท่านั้น (ขอกด Like รัวๆ เลยครับ)
4. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ไทยแลนด์รีคอฟเวอรี่ 3x3 ฟันด์ (SCBTRTG) ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารให้มีผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายแล้วถึง 2 ครั้ง ! กองทุนนี้เคยเข้าเกณฑ์ทริกเกอร์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 57 และทริกเกอร์ครั้งที่ 2 เมื่อ 28 ม.ค.58 โดยผู้ลงทุนได้รับเงินคืนในวันที่ 4 ก.พ.58

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่ามีการจ่ายเงินจากการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่หลายคนคงมีคำถามในใจว่านั่นคือผลงานในอดีต แล้วผลงานในอนาคตล่ะจะดีเหมือนในอดีตหรือไม่? ผมจึงไปแกะข้อมูลเพิ่มเติมให้เพื่อนๆ ที่คิดจะลงทุนในกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ของ บลจ. ไทยพาณิชย์ ดังต่อไปนี้ครับ

แนวโน้มของกองทุนไทยแลนด์รีคอฟเวอรี่ทั้ง 2 กองทุน ยังมีทิศทางที่ดีจากผลงานที่ดีที่ทำเอาไว้ในอดีต ทำให้ผมคาดหวังไว้ว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ 9% ได้อย่างแน่นอนครับ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? สาเหตุที่ผลตอบแทนน่าจะดีมาจากกลยุทธ์การลงทุนในตราสารทุนไทยที่เน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ  นอกจากนั้นยังลงทุนในกลุ่มที่เชื่อมโยงกับโครงการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน  กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุน Digital Economy  และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนการผลิตที่ลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ที่ปรับตัวลดลง  เช่นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มขนส่ง กลุ่ม ICT และกลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยเฉพาะสินเชื่อ Nano-Finance ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และเนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังคงต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานและบริษัทยังมีความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่องในระยะยาวอีกด้วย น่าสนใจมั้ยล่ะครับ!

อย่างไรก็ตามกองทุนทริกเกอร์ฟันด์นั้นไม่ใช่ว่าไม่มีความเสี่ยงนะครับ เพราะบางครั้งเมื่อครบกำหนดแล้วกองทุนอาจติดลบ และต้องปิดกองโดยอัตโนมัติก็มีครับ  แต่ก็จะมีบางกองทุนที่เมื่อกองทุนครบกำหนดแต่ยังไม่ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย ทางกองทุนก็จะกำหนดให้เปลี่ยนเป็นกองทุนเปิดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ถือหน่วยว่าจะถือต่อเพื่อรอกำไร หรือจะยอมขายขาดทุนก็มี  เพราะฉะนั้นนักลงทุนจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษต่างจากกองทุนรวมหุ้นอื่นๆ ถ้าไม่อยากพลาดเราต้องเลือกกองทุนทริกเกอร์ที่มีผลงานโดดเด่น มีผู้บริหารจัดการกองทุนเก่งๆ อย่างที่ผมได้ยกตัวอย่างมาให้พิจารณากัน เข้าข่ายว่า High Risk - High Return นั่นเองครับ เพราะนักลงทุนทุกคนสามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนหุ้นโดยตรงได้ผ่านกองทุนรวม หากสนใจก็ลองติดต่อกันดูนะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

“เปิดรับสมัครสมาชิก”

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดา “พวงกุญแจ นกฮูกนำโชค” สัญญาลักษณ์แห่งภูมิปัญญา และความโชคดีร่ำรวย สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก

"ร้านหนังสืออีบุ๊กส์ นายแว่นธรรมดา"

มีหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน การทำธุรกิจส่วนตัว ให้เลือกซื้อแล้วนะครับ สำหรับสมาชิก 9 ปี ดาวน์โหลดหนังสือฟรี 1 เล่มครับ...

เข้าไปดูวิธีการสั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ครับ
//naiwaenstore.com/store/how-to-order/

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2558 10:09:23 น.		0 comments
Counter : 1441 Pageviews.
Share Tweet