Group Blog
กล้วยไม้ในป่าไทย
Thai native orchid profiles
โลกสีเขียว
ถอดความ
GMOs
เล่าเรื่องจากภาพถ่าย
Portfolio
Film addicted
Half frame
เรื่องเมืองไทย
ขายกลัวยไม้
<<
มกราคม 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
26 มกราคม 2552
วานิลลา planifolia (ตอนที่ 1)
All Blogs
เทคนิคการให้น้ำกล้วยไม้
กระบวนการลำเลียงน้ำของพืช
ปัจจัยเบื้องต้นในการปลูกเลี้ยงรองเท้านารี
ผลกระทบจากโลกร้อน
ชุดน้ำหยดแบบประหยัด
วานิลลา planifolia (ตอนที่ 2)
วานิลลา planifolia (ตอนที่ 1)
Mycotoxin
กลไกการสังเคราะห์แสงของกล้วยไม้รองเท้านารี
เครื่องเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์
วิกฤตน้ำจืด
พื้นฐานสำคัญของห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช
การอนุรักษ์กล้วยไม้พันธุ์แท้ในเมียนม่าร์ (ตอนที่ 2)
การอนุรักษ์กล้วยไม้พันธุ์แท้ในเมียนม่าร์ (ตอนที่ 1)
สัก
น้ำกับภาคเกษตรกรรม
ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาด้านต่างๆ ของพืช (ตอนที่ 3)
ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาด้านต่างๆ ของพืช (ตอนที่ 2)
ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาด้านต่างๆ ของพืช (ตอนที่ 1)
ผึ้งและนก สัตว์ผู้อยู่เบื้องหลังครัวโลก
ข้าว : ธัญหารของมวลมนุษยชาติ
การงอกของเมล็ดกล้วยไม้
การผสมเกสรของกล้วยไม้ในธรรมชาติ
ประวัติศาสตร์การปลูกข้าว
ดูกล้วยไม้ริมทางที่มาเลเซีย (ตอนจบ)
ดูกล้วยไม้ริมทางที่มาเลเซีย (ตอนต่อมา)
ดูกล้วยไม้ริมทางที่มาเลเซีย (ตอนแรก)
การขาดธาตุอาหารของกล้วยไม้ (ตอนจบ)
การขาดธาตุอาหารของกล้วยไม้ (ตอนเริ่ม)
วานิลลา planifolia (ตอนที่ 1)
กล้วยไม้พันธุ์นี้มีการปลูกเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย มีถิ่นกำเนิดจากทางอเมริกากลางและทางใต้ การปลูกเลี้ยงทำได้ง่ายเพียงแค่ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม มันสามารถโตได้ถึงวันละ 1 เซนติเมตรเลยทีเดียว แต่มันอาจแตกต่างจากกล้วยไม้อื่นๆ ตรงที่ลำต้นที่เจริญเติบโตในลักษณะเลื้อย
เครื่องปลูก
ใช้เปลือกไม้ พีทมอส และเพอร์ไรท์ครึ่งส่วนสำหรับลูกไม้และกิ่งชำ เมื่อโตพอแล้วอาจใช้เปลือกไม้เป็นเครื่องปลูกล้วนๆ หากปลูกในเขตร้อนชื้นก็สามารถปลูกลงบนพื้นได้เลย หรือสามารถปลูกแบบเกาะต้นไม้ใหญ่ ข้อสำคัญคือพื้นปลูกนั้นต้องระบายน้ำได้ดี
น้ำ
รักษาความชื้นในเครื่องปลูกให้รากอากาศของมันได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
แสง
มันชอบแสงเหมือนกับแคทลียา นั่นคือประมาณ 50-60% หรือ 2,000-3,000 แรงเทียนต่อฟุต ควรระมัดระวังการได้รับแสงตรงจากดวงอาทิตย์ในช่วงเวลา 11:00-14:00 น. วานิลลาชนิดนี้จะไม่ออกดอกหากได้รับแสงน้อย
อุณหภูมิ
โดยปกติแล้วมันชอบอากาศร้อนชื้น สามารถทนอุณหภูมิสูงได้ หากอุณหภูมิต่ำกว่า 15 อาศาเซลเซียสจะไม่ค่อยได้ผลดี หากเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดก็อาจต้องเปิด heater
ปุ๋ย
ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอตลอดทั้งปี อาจให้ปุ๋ยทางใบเสริมได้บ้าง ส่วนปุ๋ยฟอสฟอรัสใช้เร่งการออกดอกในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น
การย้ายปลูก
เริ่มจากการอนุบาลในกระถางทรงสูงในระหว่างเดือนที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง โดยใช้การโน้มต้นแม่ลงเพื่อล่อให้เกิดรากใหม่ จากนั้นก็จึงตัดแยกต้นออกไปปลูกใหม่ได้
Australian Orchid Review เรื่อง The Vanilla Orchid
Vanilla planifolia
โดย Art Buckman
Create Date : 26 มกราคม 2552
Last Update : 26 มกราคม 2552 18:42:07 น.
3 comments
Counter : 1649 Pageviews.
Share
Tweet
น่าสนใจจัง แล้วเค้ามีฝักมั้ยคะ? แล้วฝักมีกลิ่นหอมมั้ยคะ? แล้วเอามาใส่ในขนมหรืเบเกอรี่ได้ป่าวคะ? ที่อยากรู้ก้อคำถามสุดท้ายนี่แหละ อิอิอิ
โดย: บูดูหวาน (
บูดูหวาน
) วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:20:26:52 น.
มาเก็บความรู้ครับน้า
โดย:
B/W
วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:22:46:01 น.
แสดงว่าต้นนี้ได้รับแสงน้อยนะน้า
โดย:
uter
วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:32:50 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
น้าโหด
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add น้าโหด's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.