|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
กระบวนการลำเลียงน้ำของพืช
กระบวนการลำเลียงน้ำของพืช ซึ่งเกิดจากการปลดปล่อยน้ำออกสู่บรรยากาศโดยทั่วไปก็ทางใบ ลำต้น ดอกและราก ที่ผิวใบพืชมีเซลชุดที่เรียกว่าปากใบทำหน้าที่ปิดเปิดเพื่อรักษาดุลความชื้น พืชโดยมากแล้วจะมีปากใบอยู่ที่ท้องใบ นอกจากนี้ปากใบยังเป็นจุดที่พืชดูดเอาคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงอีกด้วย
การลำเลียงน้ำจากรากขึ้นสู่ใบเกิดโดยเมื่อพืชปลดปล่อยน้ำออกสู่บรรยากาศทางปากใบ เมื่อความดันของน้ำที่บริเวณบนของต้นพืชลดลง ส่วนรากของพืชจะเริ่มดูดเอาความชื้นจากดินหรืออากาศกลับเข้าสู่ต้น ในขั้นตอนนี้มันจะดูดเอาธาตุอาหารเข้ามาใช้โดยผ่านท่อลำเลียงอาหารที่เรียกว่า Xylem
อัตราการลำเลียงน้ำขึ้นอยู่กับการเปิดของปากใบซึ่งก็เชื่อมโยงกับสภาพบรรยากาศรอบๆ ต้นพืชในขณะนั้น ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการระเหยน้ำจากต้นพืชได้ขึ้นอยู่กับขนาดของใบ ความเข้มของแสง อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์และความเร็วของลมที่พัดผ่าน ยิ่งไปกว่านั้นดิน น้ำและอุณหภูมิในดินยังมีอิทธิพลต่อการเปิดของปากใบและอัตราการลำเลียงอีกด้วย
ต้นไม้ใหญ่สามารถคายน้ำได้เป็นหลายร้อยแกลลอนในวันที่มีอากาศร้อนจัด ต้นไม้ในทะเลทรายและพืชในวงศ์สนปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมด้วยกลไกพิเศษ เช่นการมีผิวใบหนาเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ หรือการมีใบขนาดเล็กเพื่อลดการระเหยน้ำลง พืชบางชนิดมีปากใบที่อยู่ลึกลงใบในเนื้อใบและอาจมีขนเล็กๆ เพื่อช่วยชะลอการคายน้ำออกสู่บรรยากาศ พืชในสกุลกระบองเพชรหลายชนิดสามารถสังเคราะห์ใบในส่วนที่เป็นลำต้นโดยไม่จำเป็นต้องมีใบ พืชทะเลทรายหลายชนิดมีระบบการสังเคราะห์แสงแบบ CAM Crassulacean Acid Metabolism เพราะแทนที่จะเปิดปากใบเพื่อรับเอาคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลากลางวันแบบพืชอื่น พืชในกลุ่มนี้จำเป็นต้องรักษาความชื้นด้วยการปิดปากใบในเวลากลางวันและเปิดในเวลากลางคืนแทน
ถอดความจาก //en.wikipedia.org/wiki/Transpiration
ยกตัวอย่าง ที่อุณหภูมิ 24.5 ํC ความดันระเหยน้ำภายใต้ภาวะอิ่มตัวจะอยู่ที่ 30.7 mb
Create Date : 04 เมษายน 2553 |
Last Update : 4 เมษายน 2553 20:26:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3160 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|