ทริปตามรอยนายน้อย<ลีจีฮุน> ณ กรุงโซล ตอนสุดท้าย
หลังจากอยู่โซลมา 2 วัน ก็เสร็จสิ้นภาระกิจของชาวแฟนคลับ วันนี้เราก็วางแผนไปเที่ยวสวนสนุกัน ตั้งใจไว้ตอนแรกอยากไป เอเวอร์แลนด์ แต่มันต้องใช้เวลาเดินทางพอสมควร เลยเปลี่ยนใจมาที่ Lotte World แทน อารมณ์ประมาณเดียวกัน (หรือเปล่าไม่รู้) เอาเป็นว่าก็สนุกใช้ได้ นั่งรถไฟยาวจากที่พักโดยไม่ต้องต่อสายอื่นอีก ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็มาถึงสะดวกมากเพราะมีสถานีเป็นของตัวเอง มาถึง Lotte World ก็ประมาณ สิบเอ็ดโมงกว่า เราก็เลยต้องหาข้าวเช้า+เที่ยงกินกันก่อน ก็เลือก Food course ของที่นี่ มีอาหารเกาหลีให้เลือกมากมายหลายเมนู เหมือน Fast food บ้านเรา แต่ที่นี่เราต้องสั่งอาหารที่เคาเตอร์ แล้วจ่ายเงินเลย เค้าจะให้ตั๋วหมายเลขลำดับอาหารของเรา ซึ่งหมายเลขนี้จะถูก order ไปยังร้านที่เราสั่ง และเมื่ออาหารเสร็จ เราก็จะเห็นหมายเลขของเราปรากฏที่ด้านบนหน้าเคาเตอร์ร้านอาหารที่เราสั่ง ไฮเทค จริงๆ และที่ตั้งใจไว้ว่าถ้าได้มาเกาหลี ต้องมากินให้ได้ก็คือ ชาจังมยอน - บะหมี่ดำ นั่นเอง อยากบอกว่า มันอร่อยตรงไหนฟะ
ที่นี่นอกจากเป็นสวนสนุกในร่ม+กลางแจ้งแล้วยังมี shopping mall+Department store ด้วย แต่วันนี้เป็นวันจันทร์ เค้าปิดซะงั้น ส่วนเรื่องราคาค่าเข้า เราเลือกแบบ pass อย่างเดืยวก็ 24,000 วอน แอบแพงอะ ถ้าเลือกแบบ Day-Pass ก็ 35,000 วอน เล่นได้ทุกอย่าง ซึ่งก็น่าจะคุ้มนะถ้ามีเวลาต่อคิว มาดูในส่วนของสวนสนุกกัน ก็มีเครื่องเล่นมากมายให้พอได้เสียวกัน ราคาของแต่ละเครื่องเล่นก็ไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ 1,000 - 4,000 ก็ถือว่าไม่โหดเท่าไหร่(เพราะค่าเข้าโหดอยู่แล้ว) ผู้ที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กวัยรุ่น มัธยมปลายบ้าง เด็กมหาลัยบ้าง ชาวต่างชาติก็พอมีให้เห็นแต่ไม่เยอะ
ที่นี่กว้างมากส่วนที่อยู่ในร่ม มีลานไอซ์สเก็ตด้วย ส่วนสวนสนุกกลางแจ้งวันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ดูจากคิวเครื่องเล่นไม่ยาวถึงขั้นต้องรอ พวกเราได้นั่งรถไฟวนรอบสวนสนุก ชมวิวทิวทัศน์ทั้งด้านนอก ด้านใน ก็ถือว่าคุ้ม จริงๆ มาที่นี่ถ้าจะให้ครบต้องมีเวลาทั้งวัน..
เราเดินอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ต้องจรลี เพื่อไป Shopping กันต่อ วันนี้จะกลับไปเมียงดง อีกครั้ง เนื่องจากวันก่อนยังไม่หนำใจ กลับมาเดินที่นี่ก็สนุกสนานเช่นเคย ผู้คนก็ยังคงคึกคัก เสื้อผ้า รองเท้า มากมาย แต่ก็ไม่ค่อยได้ซื้อเท่าไหร่ เราว่าของที่นี่ไม่ถูกนะ อาจจะถูกของเค้า แต่มันไม่ถูกของเรา เมื่อเทียบกับคุณภาพแล้ว อย่างเช่นรองเท้าถูกๆ ก็อยู่ที่ประมาณ 10,000 วอน (ประมาณ 270.-)ซึ่งบ้านเราไม่น่าเกิน 199.- เสื้อยืดอย่างถูก 5,000 วอน ( 140.-) บ้านเราแค่ 79-99.-ดูจากเนี้อผ้านะ แต่เสื้อผ้าที่นี่มีแบบน่ารักๆ แปลกๆ เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แบบที่บ้านเราไม่มี หลังจากเดินสักพัก ก็หมดกำลัง เลยแวะร้านหมูย่างเกาหลี แต่เลือกเป็นแบบหมูกะทะ ซึ่งจะมีน้ำซุป แล้วเอาเนื้อลงไปใส่ ภาษาเกาหลีเรียกว่าอย่างไรไม่รู้ แต่หน้าตาไม่ค่อยคุ้น นอกจากนี้ยังมีพิซซ่าแบบเกาหลีด้วย (เราว่าเป็นต้นหอมชุบแป้งทอดมากกว่า) มาดูหน้าตา..
อาหารเกาหลีจะต้องมีกิมจิเป็นเครื่องเคียงอยู่ทุกเมนู ขนาดอาหารฝรั่งยังมีกิมจิ....คิดได้.. กิมจิที่เกาหลีจะมีหลายแบบ แต่ที่ต้องมีเหมือนกันทุกที่คือ กิมจิผักกาด ซึ่งรสชาดจะแตกต่างกันไป แต่ละร้านจะไม่เหมือนกัน ที่สำคัญไม่เหมือนที่เมืองไทย...
เดินอยู่เมียงดงกันจนมืด ซึ่งเรามีจุดมุ่งหมาย เพราะเราต้องการจะไป Seoul Tower เพื่อชมวิวกรุงโซลยามค่ำคืน จากเมียงดงไปนัมซานก็ไม่ไกล จึงตัดสินใจเรียกแท็กซี่(เป็นครั้งแรกของทริปนี้) เพื่อไปนัมซาน เรามีสมาชิกทั้งหมด 5 คน ต้องไปแท็กซี่ 2 คัน เค้าให้นั่งคันนึงไม่เกิน 4 คน เป็นเมืองไทยนะอัดกันไปเจ็ดคนยังได้ Seoul Tower ตั้งอยู่บนเขาที่นัมซาน ซึ่งขึ้นได้ 2 วิธี(ไม่นับเดิน) คือนั่งรถขึ้นไป หรือขึ้นกระเช้า(Cable car) ซึ่งแท็กซี่ 2 คันพาเราไปคนละที่ คันของเราพาเราขึ้นมาบนเขาเลย ส่วนอีกคันพาไปขึ้น cable car แต่สุดท้ายก็ไปเจอกันด้านบน วิวโซลกลางคืนสวยมาก เนื่องจากช่วงนี้อากาศปลอดโปร่ง เลยได้เห็นวิวอย่างชัดเจน
ตอนขากลับเราก็ลงมาด้วย Cable Car ความสูง กับความเสียว ก็พอสมควรอยู่ แต่กระเช้าของเค้าดูแข็งแรงกว่าบ้านเรามาก โดยเฉพาะที่ดอยสุเทพ ... .... .... .... .... ... .... .... กลับจาก Seoul Tower ภาระกิจค่ำคืนนี้ยังไม่จบ เราก็เดินจาก นัมซานมาที่นัมแดมุนต่อ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลกันมาก มา shopping กันส่งท้ายที่นี่ แล้วก็มีโอกาสได้ซื้อเค้กกลับไปลิ้มลองด้วย ....ขอบอกว่าอร่อยมากๆ เป็นการ Shopping ที่มีลุ้นว่าจะตกรถไฟเที่ยวสุดท้ายหรือเปล่า ซึ่งก็ทันเวลาฉิวเฉียด เป็นอย่างนี้เกือบทุกคืน "รถไฟเที่ยวสุดท้าย" และแล้วคืนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบตีสาม กว่าจะได้นอน... ... .... ..... ..... ..... .... .... และก็มาถึงเช้าวันสุดท้าย ซึ่งเราต้องกลับตอน ห้าโมงเย็นของวันนี้ ดังนั้นก็ยังพอมีเวลาเก็บตกกันอีกนิดหน่อย เหล่าพลพรรคชาวแฟนคลับก็มีแผนจะไปกินข้าวยังร้านอาหารที่นายน้อยไปถ่ายทำรายการทีวี ซึ่งร้านอยู่ในย่านมหาลัยฮองอิก(Hongik) นั่งรถจากที่พักไปเพียงสถานีเดียว เป็นย่านที่น่าเดินมากๆเลย ถนนหนทาง ร้านรวง จัดตกแต่งดูดีไปหมด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า คงเป็นเพราะเป็นแหล่งรวมนักศึกษา... และตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาสได้มาโซลอีก แถวนี้จะต้องไม่พลาด...
และที่สำคัญของการมาเดินย่านนี้ก็คือ Coffe Prince The shop No. 1 ร้านกาแฟที่คอซีรีส์ชาวไทยรู้จักดี มาถึงโซลแล้วต้องมาให้ได้... ร้านยังคงสภาพเดิมเหมือนในซีรีย์ไว้ได้มากทีเดียว แต่ถ้าเราไม่ใช่ลูกค้า เค้าจะไม่ให้ถ่ายรูป และกาแฟที่นี่แพงขั้นเทพเลยละ สตาร์บัค ยังยอมแพ้..แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็มาแล้ว ในชีวิตคงได้มาแค่ครั้งเดียว...ยังงัยก็จัดมา..
ออกจากร้านกาแฟ ก็ไปตามหาร้านอาหารเป้าหมายกัน ก็เล่นเอาได้หอบอยู่เหมือนกัน ขนาดมีแผนที่จากแฟนคลับชาวเกาหลีมาด้วย ก็ยังงงๆ เนื่องจากตรอกซอกซอยเยอะมาก ที่โซลส่วนใหญ่ถนนเค้าจะทะลุถึงกันได้หมด เหมือนใยแมงมุม แต่ในที่สุดก็หาจนเจอ..... และก็ได้ลิ้มรสอาหารกลางวันของที่นี่ พวกเราบอกกับผู้จัดการร้านว่าเป็นแฟนคลับดารามาจากเมืองไทย เค้ายิ้มใหญ่เลยแถมยังเปิดเพลงของนายน้อยให้ฟังด้วย แหม...ส่งเสริมกันจัง..คนที่นี่ ... ... ... .... ... ร้านนี้เป็นร้านอาหารฝรั่ง..จัดตกแต่งร้านสวยงาม..บรรยากาศดีทีเดียว.. พวกเราเลือกโต๊ะชั้นบนในส่วนที่เป็น outdoor (เนื่องจากเค้าถ่ายรายการกันตรงนี้) เพื่อจะได้บรรยากาศเดียวกัน..แฟนจริงๆ
หลังจากเสร็จสิ้นมื้อกลางวัน พวกเรา 3 คน ที่ต้องกับเมืองไทยก่อน ก็ต้องรีบกลับโรงแรมเพื่อเก็บของ ซึ่งเราต้องเช็คอินตั๋วก่อนเวลาเครื่องขึ้น 2 ชั่วโมง ก็ประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง แต่เรายังอยู่กันที่ร้านอาหารอยู่เลย ต้องเรียกแท็กซี่กลับโรงแรม และรีบขี้น Airport Limousine เพื่อไปสนามบิน ระหว่างนั่งรถในใจก็กลัวตกเครื่องอยู่เหมือนกัน มาถึงสนามบิน เช็คตั๋ว Loadกระเป๋าเสร็จบ่ายสี่โมงครึ่งพอดี มีเวลาเดิน Duty Fee อีกครึ่งชั่วโมง..ยังลัลลากันได้อีก เที่ยวบินขากลับเป็นแบบ Transit แวะรับผู้โดยสารที่ไต้หวันอีก มีคนไทยกลับจากไต้หวันเยอะพอสมควร เครื่องมาถึงสุวรรณภูมิ สี่ทุ่มครึ่งตามหมายกำหนดแป๊ะ... สรุปทริปนี้เป็นทริปตามรอยดาราที่สนุกสนามมากกาย ได้ทั้งกิน ทั้งช้อป ในบรรยากาศแบบเกาหลี ซึ่งจะหาไม่ได้จากการซื้อแพคเก็จทัวร์มาเที่ยวแน่นอน การมาเที่ยวโซลด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนกับไป สิงคโปร์ หรือ ฮ่องกง แต่ถ้าเราเตรียมตัวมาล่วงหน้า ก็เที่ยวโซลได้อย่างสบายๆ เพราะคนที่นี่ใจดีกับนักท่องเที่ยว..และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวนี่แหละที่เค้านำไปพัฒนาบ้านเมือง...
สำหรับทริปนี้ก็ขอจบบริบูรณ์ไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
Create Date : 31 พฤษภาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 19:01:01 น. |
Counter : 1994 Pageviews. |
|
|
|
ขอแบ่งปันรูปภาพทำรายงานการท่องเที่ยวหน่อยนะคะ ขอบคุณคะมากคะ