รู้หน้าไม่รู้ใจ..
เหตุเกิดเมื่อ FEB07ไปเที่ยวเมืองนอกมาอีกแล้ว ใครๆ เค้าก็พูดว่าคนรวยชอบไปเที่ยวเมืองนอก แต่ว่าไอ้ทริปที่เพิ่งกลับมานี่มันไม่ธรรมดานะ คือแค่รวยอย่างเดี่ยวมันไม่พอ มันต้องโง่ด้วย .. จริงๆ นะ ไม่เชื่อก็ลองอ่านดูดิ ไฟล์ท ก็โค-ตะ-ระ แน่น ต้องบินไปอ้อมที่ Tokyo (Bangkok-Tokyo)ค่อยวกกลับมาที่ Copenhagen (Tokyo-Copenhagen) โดยแยกนั่งคนเดียว กะว่างานนี้ได้คู่แน่ๆ พอเดินขึ้นมาก็หมายตาหาที่นั่ง โอ้ แม่จอร์จ ฝรั่งเด็กแนว หน้าคมใส่แว่นนั่งรอเจ๊อยู่เลย (กรี๊ด ในใจซะหูอื้อเลย) .. บุญมี แต่กรรมมาบังจริงๆ นั่งๆ ซักพักเริ่มมีกลิ่นเปรี้ยวลอยมา .. ชะตาขาดแล้วกู ต้องนั่งดมกลิ่นนรกนี่ไปอีก 11 ชั่วโมงเหรอนี่ เอาน่า มันคงต้องมีบางโมเม้นที่ไอ้เจ้าของกลิ่นมันละอายเอาตีนส์แหย่กลับเข้าไปในเกือกมันบ้าง เลยตัดสินใจนอนมันซะเลย แต่เอะทำไม กลิ่นมันยิ่งรุนแรงฟะ หรือจะเป็นตีนส์เราเอง .. แต่เป็นไปไม่ได้ ก็เรายังไม่ได้ถอดรองต๊ะเลยนิ จึงเริ่มหา ว่าใครคือต้นตอ คิดอยู่พักใหญ่ก็เลยให้ไปมองหน้าฝรั่งแนว .. ต้องเป็นเอ็งแน่ๆ ทำมาเป็นหน้าไร้อารมณ์ ใส่เกือกเข้าไปเดี๋ยวนี้ (สั่งในใจ) พลางเหลือกตาไปมองที่เท้าเพื่อร่วมทาง .. อ้าว ไม่ได้ถอดรองเท้านี่หว่า จะเป็นคนอื่นก็ไม่น่าใช่ เพราะกลิ่นแรงมาก เหมือนมาถอดรองเท้าอยู่บนหัวกันเลยทีเดียว นั่งเซ็งในอารมณ์ อยู่ประมาณ 7 วินาที ก็มีนางฟ้ามาโปรด .. พี่แอร์ .. ไม่ใช่สิ ดูจากความยับบนใบหน้า ควรเรียกเธอว่าป้าแอร์จะสมเกียรติกว่า คือเจ๊แกเอาน้ำมาเสริฟ เราก็ท่องมาจากบ้านเลย 'orange juice, please" พร้อมจะพูดแล้ว ก็เลยหันหน้าไปรอป้าแก .. และแล้วความจริงก็ปรากฏในวินาทีนั้น ตอนที่อีฝรั่งที่นั่งข้างๆ มันพูดว่า "diet coke, please" โอโห รถขยะอ่อนนุชไปคว่ำอยู่ในปากเอ็งกี่คันฟะเนี่ย ที่บ้านเค้าสอนใช้แปรงสืฟันรึยัง .. คือเหม็นมากจนเราหน้ามืดเลยนะ อันนี้ไม่ได้เว่อร์ อันนี้ confirm ได้โดยเพื่อนร่วมเดินทางอีก 2 หน่อ มันก็ไม่คิดจะมาดูดำดูดีเลยว่าทำไมเพื่อนมันถึงต้องหันหน้าออกหน้าต่างตลอด 11 ชั่วโมง แต่ก็เอาเหอะ พอเข้าใจว่าทุกคนอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นจะไปเที่ยวประเทศนอก...(ทำอย่างกับไปคี้งแรกงั้นแหละ) นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะดูคนต้องดูให้นาน ไม่ใช่ว่าจะมาทำตัวหน้าตาดี ตาโต คิ้วเข้ม หน้าเรียว ใส่แว่น แล้วจะเอามากลบเกลื่อนเรื่องปากเหม็น อันนี้มันไม่ถูก กรูรับไม่ด้ายยยยยย