My Favola Blog- ความรู้ อาหารเสริมคนดูดี
ความสวย
ลดน้ำหนัก
หน้าใส
ศัลยกรรมเสริมความงาม
วิตามิน
พฤศจิกายน 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
24 พฤศจิกายน 2557
เผย 10 ความลับของกูลต้าไธโอน ผิวขาว เปล่งปลั่ง แต่เต็มไปด้วยอันตราย?
ดื่มน้ำผักผลไม้ ช่วยบำรุงตับ
อาการผิวขาดน้ำ ต้อนตอของปัญหาสุขภาพผิว
หน้าลอกเป็นขุย ทำยังไงดี!
สุขภาพดีด้วย กล้วยน้ำว้า
คอลลาเจนผงยี่ห้อไหนดีที่สุด และควรกินตอนไหนดี
เผย 10 ความลับของกูลต้าไธโอน ผิวขาว เปล่งปลั่ง แต่เต็มไปด้วยอันตราย?
มังคุด กับโฟมล้างหน้า สิวอักเสบ เพื่อคืนความสดใสบนใบหน้า
เคล็ดลับลดริ้วรอยด้วยโกโก้
อกเล็กมาก ทานยาคุมแล้วช่วยได้จริงหรือ
เพิ่มความมั่นใจใต้วงแขน ด้วยการลดไขมันใต้รักแร้
15 เคล็ดลับทำไงให้สวยขึ้น
กฎเหล็กเคล็ดวิธีทำให้หน้าขาว ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน
เทคนิควิธีหน้าเรียวอย่างง่ายๆ โดยการเปลี่ยนทรงผม
มะเขือเทศ รักษาสิว
มารู้จักการเลือกอายไลเนอร์ให้เหมาะสมกับตัวเองกัน
ขอบตาดำ ทำไงดี ยังดีนะที่เราได้เจอกับ...
Astaxanthin สาหร่ายแดง คืออะไร แล้วเลือกยี่ห้อไหนดีที่สุด
สูตรพอกหน้าใสไร้สิว ลดริ้วรอย ด้วยวิธีธรรมชาติ ทำอย่างไร
บอกลาใบหน้าหมองคล้ำ ด้วยวิธีธรรมชาติ
เผย 10 ความลับของกูลต้าไธโอน ผิวขาว เปล่งปลั่ง แต่เต็มไปด้วยอันตราย?
กลูตาไธโอน
(
Glutathione
) เป็นหนึ่งในสารที่มีสรรพคุณช่วยทำให้ผิวขาว เปล่งปลั่ง มีออร่า ซึ่งเป็นลักษณะของผิวที่คุณสาวๆ ต่างก็ต้องการที่จะครอบครองเป็นเจ้าของ แต่จะมีคุณสาวๆ สักกี่คนที่เกิดความสงสัย ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของเจ้าสารกลูต้าไธโอนนี้ มันช่วยทำให้ผิวขาวได้อย่างไร แล้วมีอันตรายในระยาวหรือไม่
สำหรับในวันนี้เลยจะขอพาคุณสาวๆไ ปรู้จักกับความลับ 10 ข้อ ที่ควรทราบเกี่ยวกับ
กลูต้าไธโอน
เพื่อประกอบการตัดสินใจว่า ควรจะรับ กลูต้าไธโอนเข้ามาในร่างกายหรือไม่
กลูต้าไธโอน คืออะไร
1. สารกลูต้าไธโอน เป็นสารที่แพทย์ใช้ในการรักษาผู้ป่วย
โดยเป็นสารโปรตีนเบื้องต้น ที่มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มการทำงานของตับในการฟอกพิษ ขจัดสารพิษ และมักนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางด้านประสาท เช่น โรพาร์กิมสัน อัลไซเมอร์ หรือออทิสตก และรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาตับอักเสบ เป็นต้น
2. ผิวที่ขาวขึ้นนั้น เกิดจากผลข้างเคียงจากการใช้สารกลูต้าไธโอน
สารกลูต้าไธโอน มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (
Tyrosinase
) ส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากสีน้ำตาลดำ กลายเป็นสีชมพูขาว ด้วยผลลัพธ์ดั่งดล่าว จึงได้เริ่มมีความนิยมนำเอาสารกลูต้าไธโอน มาประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมความงามขึ้น
3. การรับประทานสารกลูต้าไธโอนแบบเม็ด ไม่ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น
เนื่องจากสารกลูต้าไธโอน เป็นโปรตีนประเภทหนึ่ง เมื่อถูกรับประทานเข้าไปภายในร่างกาย ก็จะเกิดการสลายตัวไปในทันทีเมื่อถูกกรดในกระเพาะอาหาร ร่างกายจึงไม่ได้มีการดูดซึมสารกลูต้าไธโอนเลยแม้แต่น้อย โดยส่วนใหญ่แล้วการรับสารกลูต้าไธโอน ที่ช่วยทำให้เห็นผลลัพธ์ผิวที่ขาวขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มักที่จะเป็นการฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยตรง
4. สารกลูต้าไธโอนไม่ได้รับการรับรองข้อบ่งใช้โดยองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นจริง
เนื่องจากยังไม่มีการศึกษา และผลวิจัยที่น่าเชื่อถือที่ช่วยรับรองประสิทธิภาพ และประโยชน์ของสารกลูต้าไธโอน ในการช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างแท้จริง
5.
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
(
อย.) อนุญาตให้ใช้สารกลูต้าไธโอนได้ในฐานะอาหารเสริมเท่านั้น
โดยอยู่ในรูปแบบของกรดอะมิโน ที่ใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อใช้รับประทานร่วมกับวิตามินเพื่อเป็นอาหารเสริมร่างกาย สำหรับการฉีดสารกลูต้าไธโอนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อช่วยในการทำให้ผิวขาวนั้น ยังไม่ได้รับการรับรองจากทาง อย.
6. ปริมาณสารกลูต้าไธโอนที่เหมาะสมในการรับเข้าไปในร่างกายควรอยู่ที่ 60-250 มิลลิกรัม
ต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่แพทย์อนุญาต ถ้าหากมีปริมาณมากกว่านั้นอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ยาจนถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตเฉียบพลัน หรือสะสมอยู่ในร่างกายในระยะยาว และทำให้เกิดผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับร่างกายได้ภายหลัง
7. ผิวขาวที่เกิดขึ้นจากการใช้สารกลูต้าไธโอนเป็นสิ่งที่ไม่ถาวร
ผิวขาวที่เกิดขึ้นจากสารกลูต้าไธโอน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวจากฤทธิ์ของยาเท่านั้น ถ้าหากต้องการให้ผลคงอยู่ตลอดไป จำเป็นที่จะต้องได้รับสารกลูต้าไธโอนเข้าสู่ร่างกายเป็นระยะ โดยส่วนใหญ่ วิธีรีที่ได้รับความนิยมคือ ใช้วิธีการฉีดสารกลูต้าไธโอน เข้าหลอดเลือดดำโดยตรง
8. การฉีดสารกลูต้าไธโอนเข้าสู่ร่างกายโดยตรงควรทำด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ในปัจจุบันมีการพยายามโฆษณาขายสารกลูต้าไธโอนสำหรับฉีด และวิธีการฉีดเข้าร่างกายได้ด้วยตัวเองที่ฟังดูง่ายๆ แต่ไม่ควรทำการฉีดด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้เกิดอาการช็อค จากสารปนเปื้อน รวมไปถึงวิธีการฉีดทางเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
9.
สารพัดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเมื่อรับประทานกลูต้าไธโอน
สำหรับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการรับประทานสารกลูต้าไธโอนเข้าไปในร่างกายในปริมาณมากๆ มีดังต่อไปนี้
ทำให้เกิดความดันต่ำ
มีอาการหอบหืดเฉียบพลัน
ส่งผลกระทบต่อลูกตาจนอาจทำให้เกิดตาอับเสบ
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังทำเคมีบำบัด สารกลูต้าไธโอนจะไปลดประสิทธิภาพในการรักษาโดยวิธีการทางเคมีลง
เมื่อรับสารกลูต้าไธโอนติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ อาจเกิดการสะสมของสารกลูต้าไธโอน จนทำให้เกิดมะเร็งขึ้นได้
10. คนที่มีประวัติแพ้อาหารประเภทโปรตีนควรระวังในการรับสารกลูต้าไธโอนเข้าสู่ร่างกาย
เช่น อาหารประเภท ไข่ นม หรือข้าวสาลี เป็นต้น เนื่องจากสารกลูต้าไธโอนเป็นโปรตีนประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่แพ้สารโปรตีนเกิดอาการแพ้ขึ้นได้ รวมไปถึง
เด็กที่มีอายุยังไม่ถึง 2 ขวบ และสตรีมีครรภ์ ซึ่งควรทำการหลีกเลี่ยงการใช้สารกลูต้าไธโอน
ถ้าหากไม่จำเป็น หรือใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
credit : //www.kondoodee.com
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2557
0 comments
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2557 19:27:39 น.
Counter : 732 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
favola
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
My Favola Blog For many Fairy tails
Webmaster - BlogGang
[Add favola's blog to your web]
twitter
Bloggang.com