Now and Forever ..OKT..
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

On Mom's Time

ใกล้วันแม่ พักเรื่องอ้วน มาเขียนถึง " แม่ " ดีกว่า


มีคนเคยบอก .. "คนที่มีขี้แมลงวันที่เท้า จะเป็นคนชีพจรลงเท้า อยู่ไม่ติดบ้าน" ใครบอก ชั้นจำไม่ได้
ครั้งนั้น ไม่ได้สนใจอะไรมาก ฟังแล้ว ก็ผ่านไป รู้แต่ อืม .. ชั้นก็มีนะ ที่เท้าน่ะ สองข้างเลยด้วย
จนวันนี้ เวลาที่ในหัวมีแต่เรื่องต่างๆมากมาย จู่ๆ เรื่องนี้วิ่งแซงนำหน้าขึ้นมาให้ได้คิด ชั้นพลิกฝ่าเท้าตัวเองดูอีกครั้ง
อืม ... ท่าจะจริงอย่างที่ใครคนนั้นบอกไว้ ชั้นคนนึงล่ะ มีไอ้ขี้แมลงวันนี่ และดันเป็นคน "อยู่ไม่ติดบ้าน" จริงๆด้วย

ย้อนกลับไปหลายปีก่อน (นานพอดูเชียวละค่ะ 555) การเปลี่ยนตัวเองให้อยู่ในสถานะนักศึกษามหาวิทยาลัย
ทำให้ต้องย้ายตัวเองจากบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิด ไปพำนักในสถานที่ที่ถูกเรียกว่า หอพักนักศึกษามหาวิทยาลัย..
ความจริงแล้ว ชั้นมีสิทธิ์เลือกที่จะไม่อยู่ที่นั่นก็ได้ เพราะบ้านกับมหาวิทยาลัย ห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตรเองค่ะ ^0^
(จากอำเภอนึงไปอีกอำเภอนึงเท่านั้น หากมีรถส่วนตัว ขับแป๊บๆก็ถึง) แต่แหม คุณค่ะ เด็กน้อยที่อยู่บ้านตัวเองมา 17 ปี
มันก็มีอาการโหยหาชีวิตอิสระกันบ้าง และเมื่อโอกาสนี้มาถึง ใครล่ะ จะไม่อยากได้ จริงมั้ยคะ

ตั้งแต่เล็กจนเริ่มจำความได้ เรื่องที่ชั้นจำได้แม่นอยู่เรื่องนึงคือ หลายคนมักจะบอกว่า ชั้นเป็นเด็กเงียบ ไม่ค่อยยอมพูด
ชั้นเงียบ จนเคยมีป้าๆน้าเอาเงิน 5 บาทมาจ้างให้พูด ฟังแล้วขำมั้ยคะ แรกๆชั้นก็ขำนะ แต่คิดไป คิดมา มันอาจจะจริงอย่างที่เค้าว่า
เพราะจนถึงตอนนี้ ชั้นว่า ชั้นก็ยังเป็นคนประเภท "เงียบ" อยู่ดี (ใครค้านแสดงตัวด้วยจ้า \0/ )
และด้วยความไม่ค่อยพูดค่อยจาตั้งแต่เด็กๆนี่แหละ มันอาจทำให้ความคิดความอ่านบางอย่างของชั้น ไม่ถูกแสดงออกมามากนัก
ยิ่งกับคนใกล้ตัวที่สุดอย่างคนในครอบครัวด้วยแล้ว ชั้นยิ่งไม่ค่อยจะให้รับรู้อะไรเกี่ยวกับตัวชั้นซักเท่าไหร่นักหรอก

เมื่อก่อน ชั้นกับแม่ เราคุยเรื่องส่วนตัวกันน้อยมาก ยิ่งช่วงวัยรุ่น ตอนเรียนม.ปลายนี่แหละ ตัวดี เรื่องส่วนตัวของชั้น
แม่อย่าได้ถามเชียวนะ จะฮึดฮัด ฟึดฟัด ไม่พอใจขึ้นมาทันที อะไรเลี่ยงได้ ก็เลี่ยง ไม่ตอบซะงั้น หลายครั้งเข้า แม่คงระอา เลิกถามไปเลย
อย่างว่าละนะ ช่วงนั้น ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ติดเพื่อน สบายใจที่จะคุยกับเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ วัยรุ่นส่วนใหญ่น่าจะเป็นแบบนี้

จนตัวเองกลายมาเป็นนักศึกษา ชีวิต 4 ปี ที่เกือบจะอิสระ 100% ในรั้วมหาวิทยาลัย มันทำให้ชั้นห่างจากบ้านไปบ้าง จะกลับไปก็เป็นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ
ซึ่งบางครั้ง หากมีรายงาน หรือเป็นช่วงสอบสารพัดสอบที่ต้องตรากตรำมากกว่าปกติ มันก็ทำให้ไม่ได้กลับบ้านเอาหลายวันเหมือนกัน
และนี่ก็เป็นสาเหตุนึง ที่ช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ในบ้านอาจจะห่างๆตามๆกันไป และชั้น ก็ยังคุยกับแม่ไม่มากเท่าไหร่อยู่ดี

4 ปีผ่านไป (ไวเหมือนงานโปรโมตอัลบั้มอ้วน - -" ) ชั้นเรียนจบ โอ้โห ชีวิตอิสระเหนือสิ่งอื่นใดกำลังเดินมาหาแล้ววววว ชั้นจะทำงาน ชั้นจะมีเงิน
ชั้นจะทำอะไรก็ได้ โอ้ววว สวรรค์ชัดๆ ตอนนั้น ความคิดมีอยู่แค่นี้จริงๆเหรอเนี่ยเรา - -"
สิ่งดึงดูดที่กรุงเทพเมืองฟ้าอมร ทำให้ "กรุงเทพเท่านั้นที่ชั้นต้องการ" เป็นสโลแกนประจำใจในตอนนั้น ชั้นจึงตัดสินใจเดินทางไกลกว่าเดิม
จากที่เคยทำให้ ตัวเองกับบ้าน ห่างกัน 30 กิโลเมตร นั่งรถแค่ครึ่งชั่วโมง ชั้นกำลังจะทำให้มันห่างกันโดยการนั่งรถไฟ 16-17 ชั่วโมง
เร็วขึ้นหน่อย ก็รถทัวร์ 11-12 ชม. หรือเอาแบบไฮโซ (ตอนนั้นยังไม่มี low cost) ก็ 2 ชั่วโมง (อ้าว ตกลงชั้นเป็นเด็กบ้านนอกหรือนี่ 555)

ชั้นตัดสินใจเลือกที่จะมาหางานที่กรุงเทพ โดยหวังว่า น่าจะมีโอกาสได้งานที่น่าสนใจกว่าการอยู่ที่ต่างจังหวัด
เวลาผ่านไป (ไวเหมือนอ้วนถ่ายหนังเสร็จ >..<) ไม่มีวี่แววใดๆในการได้งาน เอ๊ะ ชั้นเริ่มมองตัวเอง เราขาดอะไรไปรึเปล่าหว่า
ในที่สุด พ่อเรียกตัวกลับบ้าน รับมรดกสิบห้าพันล้าน อุ๊บส์ ไม่ใช่ ไม่ใช่ พ่อท่านว่า กลับมาทำงานที่บ้านเราเหอะลูกจ๋า (ผลาญเงินพ่อไปเยอะแล้วน๊า
อันนี้พ่อไม่ได้พูด แต่แอบคิดรึเปล่าไม่รู้ เหอๆๆ) ชั้นเลยต้องก้มหน้าก้มตา เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลาแล้วหนาเมืองกรุง มุ่งลงใต้ (อ้าว ชั้นเป็นสาวใต้หรือนี่ ^0^)

กลับบ้านได้ไม่ทันไร ในที่สุดชั้นก็ได้งานทำ เอาเหอะ เงินเดือนน้อยนิด ประสบการณ์สูงค่า ทำๆไปก่อน (ก่อนอะไรไม่รู้ ตอนนั้นคิดไม่ออก)
แต่ทำได้ไม่นาน ไอ้ขี้แมลงวันที่เท้า มันคงทนไม่ได้ หรือกลัวจะหลุดคอนเซ็ปที่ใครคนนั้นว่าไว้ก็ไม่รู้ ( "คนที่มีขี้แมลงวันที่เท้า จะเป็นคนชีพจรลงเท้า
อยู่ไม่ติดบ้าน" เอามาย้ำค่ะ เดี๋ยวอ่านเพลิน จะลืมที่จั่วหัวไว้ ) ทำให้ชั้นเลือกที่จะทำให้ตัวเองห่างจากบ้านแบบ 2 ชั่วโมง อีกครั้ง
(ก็ยังlow cost ไม่ได้อยู่ดี ตอนนั้นยังเข้าไม่ถึงค่ะ) เป็นอันต้อง เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลาแล้วหนาบ้านเก่า มุ่งเข้าแดนศิวิไลซ์ ครั้งนี้ ชั้นมาเพื่อหาวิชาเพิ่มเติม
ให้กับก้อนเนื้อน้อยๆที่ถูกกะโหลกหุ้มเอาไว้ (สมองนั่นแหละค่ะ เขียนให้มันยาวๆเข้าไว้ บล็อกจะได้ดูเต็มๆ 555)

อีกครั้งกับการห่าง "บ้าน" และห่าง "แม่" ( โม้มาก แต่ยังไม่หลุดค่ะ ยังเขียนเรื่อง "แม่" อยู่นะคะ) แต่ครั้งนี้ ดูจะสาหัสกว่าการห่างแม่ในครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา
การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ โดยมีเพื่อนบ้าง และญาติพี่น้องที่ค่อนข้างห่างกันไม่กี่คน ทำให้ชั้นยึดเอา "ใครคนนึง" เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้ตัวเอง
ชั้นยึด "ใครคนนี้" ไว้นาน นานจนยอมรับว่า "ครอบครัว"และ "แม่" ถูกจัดลำดับความสำคัญให้อยู่ต่ำลงไป

หลายปีผ่านไป จนในที่สุด เมื่อทุกอย่างที่ชั้นยึดไว้พังไปต่อหน้าต่อตา ชั้นทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ในหัวมีใครคนนึงที่ชั้นอยากจะเจอที่สุดตอนนั้น
"แม่" คนที่ชั้นไม่เคยอยากบอกอะไรเรื่องนี้เลย คนที่จะรับรู้แค่ว่าชั้นกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ชั้นยึดอยู่
แต่วันนั้น "แม่" เป็นคนแรกที่ชั้นอยากวิ่งกลับไปหา อยากไปบอกแม่ว่า ทุกอย่างของชั้นมันพังไปหมดแล้ว ชั้นไม่เหลืออะไรแล้ว
ชั้นร้องไห้ แม่ก็ร้องไห้กับชั้น โดยที่แม่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เมื่อแม่ได้รู้ทุกอย่างที่ชั้นไม่เคยบอก ชั้นยิ่งร้องไห้ ในขณะที่แม่หยุดร้อง แล้วนิ่ง
แม่ไม่พูดอะไร ไม่ต่อว่าอะไรกับความผิดที่ชั้นทำไปทั้งหมด นั่นทำให้ชั้นยิ่งร้องไห้หนักขึ้น แล้วแม่ก็เรียกสติชั้น ด้วยการบอกว่า
ชั้นยังมีครอบครัวที่รักและคอยชั้นอยู่ เหมือนชั้นจะคิดได้กับคำพูดของแม่ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้วันนั้นของชั้น ผ่านไปได้ง่ายนัก

หลังจากวันนั้น ชั้นต้องใช้ความเข้มแข็งที่เหลืออยู่น้อยนิด เติมพลังชีวิตให้ตัวเอง ใช้ชีวิตให้ได้โดยปราศจากอะไรที่ชั้นเคยยึดเอาไว้
ชั้นได้กำลังใจอย่างดีเยี่ยมจากคนในครอบครัว เพื่อนฝูง (ที่มีอยู่ไม่มากนัก) ทำให้ชั้นผ่านเหตุการณ์เลวร้ายไปได้ช่วงหนึ่ง

แต่ในที่สุด ความอ่อนแอที่เหมือนจะมีอยู่มากกว่ารุมทำร้ายชั้นอย่างหนัก ชั้นเหนื่อย หมดแรง จนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้
คนที่เป็นกำลังใจให้ชั้นมาตลอดอย่าง "แม่" ต้องเสียน้ำตามากที่สุดเท่าที่ชั้นเคยเห็นมา ครั้งนั้น มันคงเป็นตราบาปติดตัวชั้นไปตลอดชีวิต ชั้นไม่มีวันลืม



เวลาผ่านไปหลายปี หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ชั้นสนิทกับแม่มากขึ้น ชั้นอยากเล่าทุกอย่างให้แม่รู้ อยากให้แม่สบายใจที่สุด อยากให้แม่มั่นใจว่าชั้นจะ
ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างเข้มแข็ง

ทุกวันนี้ ชั้นมีความสุขที่ได้เล่าอะไรๆหลายๆเรื่องให้แม่ฟัง (แต่อาจมีบางเรื่องที่ไม่ได้เล่านะคะ อิอิ) มีความสุขที่เวลาถามแม่ไปเรื่อง "อ้วน" แม่ก็จะตอบ
กลับมาว่า " อืม น่ารักดีนะ หน้าหวานเชียว" โหยยยยย แค่นี้ชั้นก็ปลื้มจะแย่แล้วค่ะ

ชั้นมั่นใจว่า ทุกคนรักแม่ แต่อาจจะต่างกันที่การแสดงออกถึงความรักที่มี
ลองเลือกดูซักแบบนะคะ เอาแบบที่คุณคิดว่า คุณทำได้ ไม่ว่าแบบไหน มั่นใจว่า แม่ของคุณคงปลื้มไม่น้อยเชียวค่ะ

ขอบอกรักแม่แถวนี้ซักนิดละกันนะคะ


มู๋ปุกรักแม่ที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดค่ะ (คุณป๊ะป๋า กะคุณน้องสาวด้วยนะค๊าาาาาาาาาาาา จุ๊บๆๆๆ)


หมูกระปุก
10 สิงหาคม 2548




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2548
11 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2548 0:19:00 น.
Counter : 881 Pageviews.

 

....มองแล้วจาเหนว่า ยังมีทุกคนอยู่นะ.....

..... ยังดีที่คุยโทสับเก่งก่าตัวจิง อิอิ....

 

โดย: @lovelyken@ 11 สิงหาคม 2548 1:27:30 น.  

 

เขียนได้ขนาดนี้ ป้าว่า ปากขยับไม่ทันความคิดซะละมากกว่า.. คนอื่นถึงคิดว่า "เงียบ"..

ทำไม.. เราถึง เรียนรู้ที่จะรักคนอื่น.. ก่อนแม่ ตัวเองน๊า.. แต่ป้าว่า เป็นความผิดของมาม๊าแหละ.. เพราะพอเราเริ่มโตมา มาม๊า ก็กอดเราน้อยลง.. น้อยลง.. จนกระทั่ง ไม่กอดเลย..

แล้วมาม๊า.. ก็มา กอด เรา ในวันที่เราเสียใจที่สุด..

 

โดย: จ้ายโหยว่ 11 สิงหาคม 2548 1:35:27 น.  

 

คิดถึงแม่จัง

 

โดย: FaCtOrY cHeeSeCaKe 11 สิงหาคม 2548 2:00:39 น.  

 

หุ หุ .. เห็นเงียบ ๆ แต่เขียนได้น่าอ่านดีน้า..

ที่เงียบเพราะพูดไม่ทันคนรอบข้างอ่ะดิ๊...

น้องเราบอกว่า .. กอดกันทุกวัน.. ครอบครัวอบอุ่นแข็งแรง.....

เด๋วจาเก็บไปบอกอ้วนดีไหม?...

อิอิ

 

โดย: Len@ IP: 61.90.96.96 12 สิงหาคม 2548 0:27:49 น.  

 

รักแม่ แล้วอย่าลืมแฟนแม่ ล่ะ อิอิ

 

โดย: we're beside YOU! IP: 61.90.120.77 12 สิงหาคม 2548 0:44:40 น.  

 

อู๊ววว ซาบซึ้ง ซาบซึ้ง (จริงๆนะ)

ถ้ามู๋ปุก พูด ได้เหมือนที่เขียนนี่ พี่ว่าดีน๊า
เก็บไว้คนเดียวอัดอั้นแย่เยย เล่าให้พี่ฟังก็ได้ อุอุ

ปล....มีเรื่องเดียวแหละที่เราไม่ได้บอกแม่
ไม่รู้ทำไม ก็มันเขิลง่ะ

อิจฉาทุกคนที่บอกแม่ หรือว่าใครๆที่บ้านได้ ฮือ ฮือ

 

โดย: S and K 12 สิงหาคม 2548 17:26:42 น.  

 

ทำไมเค้าเหนหัวข้อนี้ช้าก่าชาวบ้านเค้าเนี่ย

รักแม่ค๊าบบบ

 

โดย: Z-rebrum 13 สิงหาคม 2548 0:47:21 น.  

 

น้องหมูปุก เขียนได้ซาบซึ้งจังเลยยยย อยากฟังอีกอะมีไรเล่าให้ฟังบ้างอะอะ

 

โดย: sumok IP: 61.90.149.122 13 สิงหาคม 2548 18:30:14 น.  

 

แม่...น่ารักสำหรับลูกเสมอ
ก็..แม่นะ...รักแม่จัง

 

โดย: true IP: 202.143.137.17 16 สิงหาคม 2548 20:31:30 น.  

 

อ่านแล้วอ่านอีก ยังไงก็ไม่หายคิดถึง แม่พี่ออม แล้วก็พ่อ วันนี้ทำงาน รายงานกลุ่ม เหนื่อยมาก เฮ้อ ชีวิต ทำไมมันลำบากนักนะ คิดถึงจัง

 

โดย: oilsy 25 ตุลาคม 2548 2:20:34 น.  

 

"หากไม่รู้จักเจ็บปวด ก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ"

เข้มแข็งไว้น้องรัก เหนื่อยนักก็พัก แต่อย่าหยุด

พักเอาแรง แล้วสู้ต่อ โอกาสที่ได้ ใช่ว่าทุกคนจะมี สู้นะจ๊ะ ทุกคนเอาใจช่วย

 

โดย: ormmy IP: 58.10.173.145 26 ตุลาคม 2548 6:39:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หมูกระปุก
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ท้องฟ้า" .. บอกอะไรได้หลายๆอย่าง คุณว่ามั้ย..
แล้วคุณล่ะ ..ชอบท้องฟ้าแบบไหน


Friends' blogs
[Add หมูกระปุก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.