หญ้าเขียวๆ ละอองหมอกจางๆ @ พนาลี สวนผึ้ง
แม่แพรเคยบอกหมีพูห์อยู่เสมอว่า "ชีวิตคือการเดินทาง" ในวันที่อากาศหนาวเริ่มเข้ามาเยือนบ้านเรา แม่แพรได้แต่ภาวนาขอให้อากาศหนาวของปีนี้เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุด แต่มันก็ไม่เป็นไปตามใจหวัง อากาศเย็นพัดผ่านกายเรามาเพียงแค่แว๊บเดียวแล้วก็ผ่านไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้มาเยือน "สวนผึ้ง ราชบุรี" แห่งนี้เลย การเดินทางของเราเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว แต่แม่แพรยังจำทริปการเดินทางครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะประทับใจในหลายสิ่งหลายอย่าง เราออกเดินทางกันบ่ายกว่าๆ เพราะพ่อเชนติดภารกิจงานราชการอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่เป็นไร เพราะครอบครัวเราชินแล้ว ก็ยังดีกว่าไม่ได้ไปอ่ะเนอะ ออกเดินทางจากบ้านประมาณ 1 ชม.กว่าก็ถึงแล้ว อ.สวนผึ้ง อำเภอที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรีสอร์ทมากมายเกิดขึ้นเต็มไปหมด ครั้งนี้เรามาพักผ่อนกันที่ "พนาลี แค้มปิ้ง" รีสอร์ทที่อยู่บนเนินเขา ซึ้งที่ตั้งอยู่เส้นเดียวกับ ซีนเนอรี่ รีสอร์ท ที่แม่แพรจองไม่เคยได้กะเขาเลย เหตุเพราะหน้าที่การงานของพ่อเชน ทำให้เวลาไปเที่ยวไหน ไม่สามารถแพลนอะไรล่วงหน้าได้นานๆ แต่ช่างเถอะ ที่นี่ก็สวยไม่แพ้ ซีนเนอร์รี่หรอก แม่แพรคิดว่างั้นนะ จะได้สบายใจ ถึงรีสอร์ทแล้ว เราเข้าเช็คอินท์กันก่อนที่ Lobby ซึ่งเขาตกแต่งสวยงามน่ารักเลยทีเดียว มีตุ๊กตาที่ทำด้วยเชือก เต็มไปหมด อยากถามพนักงานเหมือนกันว่าเขาเรียกว่าตัวอะไร แต่ก็ไม่กล้าถาม หลังจากเช็คอิน์ทเรียบร้อยแล้ว เราก็จะผ่านส่วนที่เขาจะเตียมไว้ให้ทานอาหารเช้ากันที่นี่ เป็นมุมบาร์เล็ก มีเก้าอีสีขาวน่ารักๆ ให้เรานั่ง เด๊ยวพรุ่งนี้เราจะมาทานอาหารเช้าที่นี่กัน ผ่านมุมที่เป็นตู้ปลา หนุ่มน้อยแต่ตัวอ้วนกลมอดไม่ได้ที่จะขอเข้าไปดูปลาหน่อย ก็ที่บ้านเราไม่มีนี่เนอะ มีแต่บ่อปลา เลยขอแช๊ะสักภาพ ยิ้มหวานเชียว คืนนี้เราพักกันที่บ้านหลังนี้จ๊ะ "บ้านไอยเรศ"
บ้าน1ห้องนอน 1ห้องนั่งเล่น สำหรับครอบครัวเล็กๆ อย่างเรา เป็นแบบแบบปูนเปือย ทาสีน้ำตาล ซึ่งต่างจากรีสอร์ทแถวๆ นี้ ซึ่งเป็นสีขาว แต่พ่อเชนของเราชอบนัก บอกว่าแปลกดี เหมือนสไตลส์แอฟริกา หลังจากถ่ายรูปหน้าบ้านเสร็จ หันไปอีกที เห็นเจ้าตัวแสบเดินเข้าบ้านไปแระ แหม..รวดเร็วว่องไวจริงๆ ต้องเรียกให้ออกมาถ่ายภาพหน้าบ้านกันก่อน ยิ้มหวานๆ นะจ๊ะ ตรงนี้เป็นบริเวณหลังบ้านที่เราพัก ก็ดูโล่งไม่มีอะไร แต่รอบๆ บ้านเขาจะปลูกต้นไม้ไว้ ให้ดูร่มรื่น มองแล้วเขียวๆ สบายตา กลับมาที่เด็กน้อยอีกภาพ เด็กน้อยร้องบอกจะขึ้นไปเที่ยวชั้นบนบ้าง แม่แพรเลยบอกงั้นขอถ่ายรูปอีกหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวจะพาไปข้างบนแน่ๆ ไม่ต้องกลัว เพราะแม่แพรก็จะไปถ่ายวิวบ้าง บนดาดฟ้า จะมีเก้าอี้ให้นั่ง รับลมเย็นๆ สบายๆ มองเห็นทิวเขาตะนาวศรี สุดลูกหูลูกตา มองเห็นบ้านหลังอื่นๆ บ้านเจ้าของรีสอร์ท ทุ่งหญ้าเขียวๆ มองไปด้านข้างจะเห็นบ้านหลังติดกัน 2 -3 หลัง บ้านพักของเราจะหลังเล็ก ส่วนบ้านหลังใหญ่ๆ จะอยุ่ทางด้านหลัง ออกเดินสำรวจบ้านหลังอื่นบ้างดีกว่า ด้านหลังเราจะเป็นบ้านพักหลังใหญ่พักกันได้หลายคน มองเห็นมีหลายห้องเลยทีเดียว แต่ยังมีหลังใหญ่กว่านี้อยู่หลายหลัง แต่อยู่ทางด้านหลัง เลยปล่อยให้สองพ่อลูกเดินสำรวจกันไปเรื่อยๆ ส่วนเราขอเดินถ่ายรูปรอบๆ ดีกว่า มีชิงช้าให้นั่งเล่นด้วย ถ้าตอนเย็นๆ คงน่านั่งกว่านี้ เดี๋ยวตอนเย็นเจ้าหมีต้องมานั่งแน่นอน ที่นี่เขาสร้างบ้านตามเนินเขา ไล่ระดับกันไป แม่แพรไม่ได้ถ่ายภาพรีสอร์ทในมุมกว้างๆ มาเลย เสียดายจัง มองออกไปด้านล่างจะเห็นหญ้าเขียวๆ เขาปลูกต้นไม้เล็ก ไว้เต็มไปหมด ถ้าโตขึ้นคงจะครึ้มกว่านี้แน่ๆ เลย มีของตกแต่งน่ารักๆ หลายอัน คงเป็นเพราะเจ้าของรีสอร์ทชอบอ่ะนะ ซึ่งแม่แพรก็ชอบเหมือนกัน เจ้าของรีสอร์ทนี่เป้นคุณป้าใจดีมากๆ พนักงานก็อัธยาศัยดี ประทับใจจัง กลับเข้าบ้านพักของเราล้างหน้าล้างตา ดูทีวีแป๊บนึงดีกว่า ตอนนี้แม่แพรยังไม่ถ่ายรูปภายในบ้านนะคะ เพราะกะว่าจะลองถ่ายกลางคืนดู พักผ่อนแป๊บนึง ก็ออกมาเดินเล่นด้านนอก ตอนเย็นๆ อีก เพราะหมีน้อยอยากนั่งชิงช้า ที่นี่มีชิงช้าให้นั่งเล่นหลายอันเลย อยากมีอย่างงี้ซักอันที่บ้าน พ่อเชนตกปากรับคำบอกว่าได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ ก็รอกันต่อไป สู้ตายครับ เด็กยังคงแอ๊คท่าให้ถ่ายรูปหลายใบ ถ่ายรูปไปถ่ายมา เริ่มจะเย็นแระ ออกไปหาอะไรทานกันดีกว่า ตอนขามาแม่แพรอยากกิน ร้านครัวกระเหรี่ยง พวกเราเลยขับรถย้อนเข้าเมือง ไปกิน ร้านครัวกระเหรี่ยงกัน แปลกนะ วันนี้คนไม่เยอะเลย มีแต่เราโต๊ะเดียว เลยสบายไป สั่งแป๊บเดียว อาหารก็มาหน้าตาน่าทานทั้งนั้น กินกันหมดในเวลาแป๊บเดียว คราวหน้ามาใหม่ อิอิ กลับมาถึงที่พักก็มืดพอดี เก็บภาพบรรยากาศตอนมืดนิดนึง ตรงนี้เป้นบริเวณหน้าห้อง ถ่ายเข้าไปจะเห้นเตียงนอนนิ๊ดนิด เด็กน้อยแอ๊คอาร์ตอีกแระ เดินเข้ามาในบ้าน จะพบกับมุมห้องนั่งเล่น โซฟาโค้งๆ ไว้ให้เรานั่งดูทีวี วันนี้เอา dvd มาดูด้วยแหละ เลยนั่งดูกันจนดึกเลย มีผนังกั้นเป็นสเต็บบันได กั้นระหว่างตู้เสื้อผ้า ทางที่จะไปห้องน้ำ หน้าห้องน้ำจะมีม่านเป็นลูกปัดกั้นด้วย ตรงกันข้าม จะเป็นทางเดินไปยังเตียงนอน บริเวณเตียงนอนจะมีโต๊ะเครื่องแป้ง น่ารักน่ารัก ประดับด้วยของตกแต่งน่ารักๆ อีกแล้ว อยากเอากลับบ้านจัง อิอิ ถึงแล้วจ้า เตียงนอนอันแสนสุข ของเราในคืนนี้ เตียงนุ่มๆ ดี หมอนก็ฟุนุ่ม นอนแล้วไม่ปวดคอเลย บนหัวเตียงจะมีตุ๊กตาที่ทำด้วยเชือก ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่อยากได้จัง น่าจะขายเนอะ เด็กน้อยนั่งดูทีวี เดินเล่นไปมา มือถือข้าวโพดคั่วที่ซื้อมาจากตลาด อิอิ อาบน้ำก่อนนอนดีกว่า ห้องน้ำที่นี่เป็นแบบปูนเปือย กว้างพอสมควร แต่ไม่มีอ่างน้ำอ่ะ อดแช่อ่างเลยเนอะ คืนนี้พวกเรานอนหลับสบายกันทุกคน แถมตอนเช้าขี้เกียจจะตื่นอีกต่างหาก แต่แม่แพรต้องออกมาถ่ายรูปตอนเช้าๆ อ่ะ เห็นคนไปเที่ยวมาบอกว่ามีหมอกด้วย บรรยากาศตอนเช้าเป็นแบบนี้ มีหมอกจริงๆ ด้วย อาจเป็นเพราะอยู่ใกล้ทิวเขาอ่ะเนอะ แต่หมอกอาจจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะเมฆเยอะ ขึ้นไปถ่ายบนดาดฟ้า เห็นหมอกพอสมควร มองไปไกลๆ ก็ยังมีหมอก นั่งรอให้พระอาทิตยืขึ้น จะได้ถ่ายรูปพระอาทิตย์ แต่รอนานมาก ไม่เห้นไข่แดงเลย ก็เลยกลับเข้าไปนอนอย่างเดิมดีกว่า สงสัยวันนี้เมฆเยอะ นอนไปซักพักนึง ทุกคนก็ตื่นกันหมดแระ เดินออกมาข้างนอกอีกที ก็ยังเห็นหมอกบางๆ อยู่เลย มองไปไกลๆ ก็เห้นอยู่บ้าง ทั้งที่สายแล้วนะ สรุปทริปนี้ที่เรามาโชคดีจัง เพราะมันไม่ใช่หน้าหนาวแล้ว แต่ก็ยังมีหมอกให้เห็นอยู่ อากาศก็เย็นสบาย ไม่ไกลจากกรุงเทพ ไว้คราวหน้าไม่พลาดแน่นอนจ้า สายแล้ว เดี่ยวไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า ไว้ต่อไดตอนหน้าแระกัน เพราะเดี๋ยวเรามีเที่ยวต่ออีก รูปเยอะจ้า..บ๊ายบาย จุ๊บๆ
Free TextEditor
Create Date : 01 กรกฎาคม 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 6 เมษายน 2554 21:16:42 น. |
Counter : 4998 Pageviews. |
|
|
|
น้องน่ารักมากค่ะ..