บันทึกเดือนที่ 2 ปุญญญ์ปุญญ์ ได้เกิดใหม่อีกครั้ง กลับสู่อ้อมกอดของแม่
หลากหลายอารมณ์ หลากหลายความรู้สึก หลายๆ กิจกรรม ที่เพิร์ลได้ประสบ พบมามันช่างเป็นแบบทดสอบ บทเรียนของความเป็นแม่ของเพิร์ลมากเหลือเกิน จากเดิมคิดว่าตัวเองเข้มแข็งในระดับนึงแล้ว พอได้เห็นหน้าลูก พอได้กอดลูกอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งทำให้รู้ว่า ที่ผ่านมายังน้อยนิดเหลือเกิน จากวันนั้นถึงวันนี้ ความรู้สึก..ยังหวั่นๆ อยู่... รู้แต่เพียงต้องเข็มแข็งให้มากกว่านี้ เพื่อลูกของแม่จะได้มีกำลังต่อสู้ รอวันที่จะได้ผ่าตัด และมีชีวิตอยู่กับแม่ต่อไป สรุปอาการของลูกที่เป็น 1. กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ที่ทำให้หัวใจของลูกไม่มีแรงบีบตัว จนในที่สุดก้อนิ่งไปเลย 2.หัวใจรั่วที่ผนังด้านล่าง ขนาดใหญ่ ทำให้เลือดไหลจากหัวใจไปสู่ปอดเยอะ จำเป็นต้องผ่าตัด 3.หัวใจรั่วที่ผนังด้านบน ขนาดไม่ใหญ่มาก อาจจะสามารถปิดได้เอง ไม่ต้องผ่าตัด 4.หัวใจโต .. รักษาไม่ได้ แต่คาดว่า ถ้ารักษาทุกอย่างหายแล้ว มันอาจจะไม่โตไปมากกว่านี้ และเมื่อน้องโตขึ้นขนาดก็คงจะสมดุลกับร่างกาย กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ.. ตัวการที่ทำให้น้องกัปตันหัวใจวายจนต้องไปนอนอยู๋ในห้อง NICU มาแล้ว ที่คุณหมอบอกว่ามีไม่กี่คนที่เป็นในประเทศไทย (1 ใน 3 เสียชีวิต 1 ใน3 อาการทรงตัว และ 1 ใน3 หายขาด ) ตอนนั้นหมอบอกว่าให้ทำใจ เพราะ อาการของลูกก้ำกึ่งระหว่าง 2 กับ 3 คือ ระหว่างทรงตัว กับหายขาด ไม่มียารักษา ไม่รู้ว่าติดไวรัสตัวไหน ต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจอย่างเดียว (แต่ค่าใช้จ่าย เป็นหลัก ล้าน และหาหัวใจที่เด็กสามารถใช้ได้ยากมาก แถมยังไม่ค่อยมีการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจในประเทศไทย) หมอบอกว่าตอนนี้น้องกำลังแข็งแรงอยู่ถ้าอยากจะทำอะไรให้เค้าให้รีบทำก่อนที่จะมาเสียใจในภายหลังว่าไม่ได้ทำ ..ถ้าวันนึงน้องเค้าไม่ไหวแล้ว หมอจำเป็นต้องถอดเครื่องปล่อยน้องเค้าไป (เพราะเค้าอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ) จากเช้าวันนั้นที่หมอประจำ NICU เรียกให้พ่อกะแม่เข้าไปคุย ... ทุกคนก้อต้องทำใจกัน พอบ่ายมา ได้เจอกับอาจารย์หมอหัวใจ ที่เพิ่งทำการecho หัวใจลูกเสร็จ หมอบอกว่าให้ยิ้มได้แล้ว เพราะกล้ามเนื้อหัวใจที่อักเสบหายดีเกือบจะ 100 % แล้ว.. (แต่จะกลับมาเป็นอีกรึป่าวหมอไม่สามารถบอกได้) แต่พอเช้าอีกวันนึงเจอหมอประจำ NICU อีก หมอบอกว่า หมอขอยืนยันคำเดิม ถึงแม้หัวใจจะบีบตัวดีขึ้น แต่ถ้าไม่สามารถถอด เครื่องช่วยหายใจได้ (เพราะเค้าหายใจเองไม่ได้) ก็ไม่มีความหมาย แต่คุณหมอก็ดีมาก ได้ทดลองที่จะถอดเครื่องช่วยหายใจออกหลายครั้ง บางครั้งน้องเหนื่อย รับไม่ไหว ต้องใส่ต่อ แต่ในที่สุด ลูกก็ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ ยังอยากที่จะกลับมาหาแม่ หนูเลยพยายามจนหายใจได้เองจนได้ ... แต่ปอดยังมีแฟบอยู่บ้างเนื่องจากใส่ท่อช่วยหายใจไว้นาน (แต่หมอว่าไม่เป็นไร ปอดเด็กสามารถฟื้นตัว ขยายตัวได้เร็ว) ตอนนี้หมอก็รอดูอาการ ว่าลูกจะมีอาการแทรกซ้อนหรือว่ามีอาการเหนื่อยจนต้องกลับไปใช้เครื่องอีกรึป่าว ปรากฎว่า ลูกแข็งแรงดี จากตอนที่ถอดท่อออก หนูก้อได้ออกซิเจน กับ box และในที่สุดก็เหลือแค่ สายให้ออกซิเจนแบบอ่อน ๆ และในที่สุดหมอก็แน่ใจว่าลูกสามารถออกจากห้อง NICU ได้แล้วเพราะลูกสามารถหายใจได้เองแล้ว ลูกเลยได้ขึ้นไปอยู่ในวอร์ดเด็กกับแม่ เพื่อรอเวลาที่จะได้กลับบ้าน ... ประมาณ อาทิตย์นึง หมอก็ให้กลับบ้านได้เพราะดูอาการแล้วสามารถถอดสายออกซิเจนออกได้ ระดับออกซิเจนในเลือดดี และไม่เหนื่อยเกินไป
ตอนนี้ได้กลับมาอยู่บ้าน แต่ก็ต้องซื้อถังออกซิเจนมาเตรียมไว้ ซื้อเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดมาคอยวัด ซื้อตาชั่งมาคอยชั่ง ต้องระวังไม่ให้น้ำหนักขึ้นเยอะ กว่า วันละ ประมาณ 30-50 กรัม .. และต้องระวังภาวะน้ำเกิน ซึ่งเสี่ยงต่อหัวใจวายอีก กลับมาบ้านจะหนักตรงที่ถ้าเค้าร้องไห้ เค้าจะหน้าเขียว ก้อต้องให้เค้าดมออกซิเจน .. เคยคิดจะหย่า ออกซิเจน เพราะ กลัวมีผลกระทบกับสายตาเหมือนกัน แต่ พอลูกร้องไห้เยอะๆ แล้วกลัว เค้าจะเป็นอะไรไปอีก ก้อต้องรีบให้ดมออกซิเจนทุกที (เพราะตอนที่อยู่ รพ. ลูกร้องไห้มาก จนนิ่งไปกับอ้อมอกแม่เลย .. หัวใจวาย จนต้องเข้าห้อง NICU) ระหว่างนี้ต้องคอยประคบประหงมให้น้ำหนักขึ้นดีๆ คอยระวังไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้มีโรคแทรกซ้อน ถ้าร่างกายพร้อมก็จะได้ผ่าตัด ปิดรูรั่ว
ช่วงนี้ก็ต้องดูแลให้ลูกสามารถแข็งแรงอยู่ได้ ไปจนกว่าจะได้ผ่าตัด เมื่อถึงวันนั้น ลูกก็จะหายเป็นปกติซักที วันแรกที่ลูกได้ออกจากโรงพยาบาล น้ำหนัก 3,200 กรัม ปุญญ์ปุญญ์ดูร่าเริงมากขึ้น .. สนใจสิ่งต่างๆ รอบข้าง มองอย่างตื่นตาตื่นใจ "คงเพราะ นอนอยู่แต่ในห้องไอซียู เห็นแต่เพดานมาเป็นเดือน" ลูกนอนหลับอย่างสบายใจ นอนกับป่ะป๊าคงจะมีความสุขกว่านอนในโรงพยาบาลเนอะ "ขนาดหลับยังยิ้มเล่นกับป่ะป๊าเลย" เห็นรอยยิ้มน้อยๆ แม่ก็มีความสุขมากทีเดียว วันที่ 4 หลังจากได้กลับมาอยู่บ้าน "ช่วงนี้ปุญญ์ปุญญ์มีร้องไห้หน้าเขียว บ่อยๆ" "แม่ต้องอยู่ใกล้ๆ ถังอ๊อกซิเจนตลอด เขียวปุ๊บ จ่อจมูกปั๊บ" "ปุญญ์ปุญญ์ต้องทานยาทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังอาหาร" เป็นอะไรที่ทรมานมากสำหรับแม่ (และสำหรับปุญญ์ปุญญ์) เพราะลูกทานยายากมาก ถึงมื้อทานยาเมื่อไหร่ แม่ต้องเปิดถังออกซิเจนรอไว้ทุกที อากาศยังหนาวอยู่มาก เลยโดนห่อตัวตลอด วันที่ 5 น้ำหนัก 3,250 กรัม "ลูกจะต้องนอนหัวสูงๆๆ เพราะไม่งั้นจะเสี่ยงต่อการหัวใจวายอีก" "จุกนม" ของขลังของลูก ปุญญ์ปุญญ์ติดจุกนม ตั้งแต่อยู่ในห้อง ไอซียู เพราะลูกโดนใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ ที่ปากเลยต้องใส่จุกนมปลอม แปะสก้อตเทปติดไว้เลย วันที่ 11 ของการกลับมาอยู่ที่บ้าน ปุญญ์ปุญญ์ดูสดชื่นมาก คอเริ่มแข็งขึ้นมาแล้ว จากตอนแรก คอพับ คออ่อน เพราะไม่ได้มีการกระตุ้นพัฒนาการอะไรเลย ตอนอยู่ในห้อง ไอซียู น้องยังชอบให้แม่ร้องเพลงให้ฟังก่อนนอน ถึงแม้ว่าบางครั้ง น้องไม่ยอมหลับ ยอมนอน แต่กลายเป็นนอนฟังแม่ร้องเพลงไปซะงั้น น้องคอแข็งมากๆ แล้ว โดนแม่จับนอนคว่ำ ก็ไม่แสดงอาการเหนื่อยมากนัก "พี่ยูจีนมักจะมาช่วยแม่เลี้ยงน้อง .." "พี่ยูจีนรักน้อง .. แต่แม่จ๋าอย่าเผลอนะคะ.. อิอิ" พี่ยูจีน 1 ขวบ 11 เดือน กับน้องปุญญ์ปุญญ์ 2 เดือน 22 วัน "ขอโชว์ความเซะซี่ หน่อยคร๊าบ" "ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจผมนะคร้าบ" -----สู้ สู้ คร้าบ ---- แม่ก็จะสู้สู้ไปพร้อมกับปุญญ์ปุญญ์นะครับ แม่รักลูกจ๊ะ ปล.ขอแถม อุปกรณ์ช่วยชีวิตปุญญ์ปุญญ์ ณ. วันนี้ 29 พค.2553 ตอนที่ลูกไม่ต้องใช้มันแล้ว เพราะอาการดีขึ้นมาก
1. ถังอ็อกซิเจน "ที่ช่วยชีวิตลูกมาตลอดตอนกลับมาอยู่บ้าน "แต่ลูกเก่งมาก ปรับตัวได้เร็วมาก เลยได้ใช้แค่ อาทิตย์เดียว ตอนกลับมาใหม่ๆ เท่านั้น" "ตอนนี้เลยกลายเป็นของเล่น ของพี่ยูจีนไปโดยปริยาย .. แต่ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมไว้เผื่อฉุกเฉินเสมอ" 2. เครื่องวัดปริมาณ อ็อกซิเจนในร่างกาย "เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ได้ไม่คุ้มค่ากับราคาเกือบหมื่นเลยตั้งแต่ซื้อมา" "เพราะแรกๆ ปุญญ์ปุญญ์นิ้วเล็กมากๆ ก็เลยใช้ยากมาก วัดไม่ค่อยได้" "พอปุญญ์ปุญญ์เริ่มโตขึ้น ก็ยิ่งยากเข้าไปอีก เพราะลูกรู้มากแล้ว ไม่ค่อยชอบให้อะไรมาหนีบที่นิ้วอีก" เพราะฉะนั้น เครื่องสำหรับคนป่วย เลยกลายเป็นของเล่น สำหรับพี่สาวคนป่วยไปซะงั้น 3. ตาชั่งเด็กน้อย "อันนี้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้คุ้มสุดๆ ตั้งแต่ซื้อมา ชั่งน้ำหนักลูกตลอดทั้งวัน ด้วยแม่มานจิตตก น้ำหนักลูกน้อยเกิน" จากตอนแรกลูกตัวเล็กนิดเดียว จนตอนนี้ ในรูป 7 เดือน ลูกยาวจนขาเลยตาชั่งออกมาแร้ว และหนูก็ชอบมากเวลาโดนจับนอนบนตาชั่ง และที่คุ้มสุดๆ ชั่งได้ไปจนถึงพี่สาว ที่น้ำหนักจะ 15 โล อยู่แร้นน ก้อยังชอบมาชั่งอันนี้ละ เชื่อเค้าเลย .................................... แม่รักหนูทั้งสามคนนะจ๊ะ ลูกรัก Free TextEditor
Create Date : 29 พฤษภาคม 2553 |
|
12 comments |
Last Update : 29 พฤษภาคม 2553 20:42:37 น. |
Counter : 2894 Pageviews. |
|
|
|
น่ารักจังเลยรูปที่นอนหลับแล้วยิ้ม อยู่บ้านสนุกกว่านอนโรงพยาบาลใช่ไหมครับ