เรื่องแปลจากหนังสือแบบเรียน
Stevie
วันหนึ่งแม่ของผมบอกผมว่า จะพาเด็กเล็กๆคนหนึ่งมาพักด้วย เด็กคนนั้นเป็นลูกชายของเพื่อนแม่ และเพราะแม่ของเขาต้องไปทำงานเขาจึงต้องมานอนที่บ้านของผมระยะหนึ่ง
เด็กคนนั้นชื่อสตีฟวี่ เมื่อสตีฟมาถึง เขาก็เอาแต่ร้องไห้ ไม่ยอมแบ่งของเล่น เมื่ออยากได้อะไรก็จะร้องเอาของสิ่งนั้น เพราะความที่เขาเป็นเด็กกว่าผม เขาจึงไม่ต้องไปโรงเรียนและได้อยู่เล่นของเล่นของผมที่บ้านทั้งวัน
ผมอยากให้แม่เขานำของเล่นของเขาเองมาด้วย เขาจะได้ไม่ทำของเล่นผมเสียหาย ผมเคยโกรธแม่ตอนที่ผมกลับมาจากโรงเรียน แล้วพบว่าข้าวของๆผมพัง ผมโกรธแม่ที่ไม่ดูแลเขา แล้วปล่อยให้เขามาเล่นกับของเล่นของผมเขาก็ชอบปีนขึ้นเตียงผมพร้อมรองเท้าที่สวมอยู่ ฝากรอยเท้าไว้หลายรอยบนผ้าปูที่นอน เพียงเพื่อจะมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วแม่ผมก็ไม่เคยว่าอะไรเลย
วันเสาร์มาถึง แม่สตีฟมารับเขากลับ และเขาแสร้งทำตัวให้น่ารัก เขาหยิบเครื่องบินของผมขึ้นมาเล่น ผมบอกเขาอย่าแตะของๆผม อย่าคิดเลย!..ว่าจะหยุดไม่ให้ผมพูดอะไรต่อหน้าแม่ของเขา
ผมไม่เคยได้ไปไหนโดยไม่มีเขา เพราะแม่ต้องบอกให้ผมพาสตีฟไปด้วยทุกครั้ง ซึ่งผมเคยปฏิเสธ แต่แม่บอกว่าถ้าวันหนึ่งที่ผมต้องไปอยู่บ้านใคร ผมอยากให้คนในบ้านนั้นใจร้ายกับผมหรือ..แม่สอนผมแบ่งปันความรักให้สตีฟ
แล้วผมก็ต้องอดทนกับความเอาแต่ใจตัวเองของสดีฟ ผมต้องพาเขาไปเล่นกับเพื่อนของผมด้วย เพื่อนคิดว่าเขาคือน้องชายของผม แต่ผมบอกเพื่อนว่าเขาไม่ใช่น้องชาย เพื่อนๆคิดว่าเขาคือญาติ ผมก็ปฏิเสธ ผมบอกเพื่อนว่า เขาคือเพื่อนที่ต้องมาอยู่กับเราชั่วคราวและผมต้องดูแลเขา
ผมจึงกลายเป็นที่ล้อเลียนของเพื่อนๆว่าเป็นพี่เลี้ยงของเด็ก แต่ก็มีเพื่อนบางคนที่ยังชวนผมไปเล่นด้วย ซึ่งผมไม่ได้ไป เพราะล่าสุดสตีฟหกล้มขณะที่วิ่ง เห็นมั๊ย!!! ผมไปเล่นกับเพื่อนไม่ได้ถ้ามีเขาอยู่ด้วย สตีฟยังพูดให้ผมเจ็บใจอีกว่า เขาขอโทษที่ทำให้ผมไปเล่นกับเพื่อนไม่ได้ ผมได้แต่บอกให้หุบปากเข้าไว้
บางครั้งที่เขาเสียงดัง พ่อผมก็ด่าผมและบอกให้ผมขึ้นไปอยู่บนห้องทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของผม ทำไมผมต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ แม่เคยมีผมคนเดียวในบ้าน ผมเคยมีความสุขก่อนหน้าที่สตีฟจะเข้ามาอยู่ด้วย
เสาร์วันหนึ่ง.. แม่และพ่อของสตีฟมารับสตีฟกลับอย่างเคย แต่ครั้งนี้พวกเขาบอกว่าพวกเขาจะย้ายไปจากเมืองนี้ และนั่น..ทำให้สตีฟไม่ต้องกลับมาอยู่กับผมอีกต่อไป
เมื่อเขาจากไป วันต่อมาผมตื่นแต่เช้านั่งดูทีวีไปพร้อมๆกับกินซีเรียล และผมก็นึกขึ้นได้ว่าว่าเช้านี้ ไม่มีสตีฟอยู่กับผมอีกต่อไปแล้ว คิดถึงบางวันที่ผมมีความสุขที่ได้เล่นไล่จับกับเขา แต่ถึงกระนั้นผมก็พอใจ ที่เตียงผมจะได้ไม่สกปรก การไม่มีเขาน่าจะเป็นการดี
ผมยังจำได้ถึงตอนที่ผม แอบกินเค๊กชิ้นสุดท้าย และกล่าวโทษว่าสตีฟโขมยกิน ผมยังจำได้ตอนที่เราเล่นคาวบอยกับอินเดียนแดง ผมยังจำได้ถึงตอนที่ผมทำการบ้าน และพยายามสอนสตีฟในสิ่งที่ผมเรียนมา เขายังเคยเขียนชื่อเขาเองได้ ด้วยวัยเพียงเท่านั้น ผมยังจำได้ถึงตอนที่เราเล่นเป็นผี ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าคลุมพร้อมไฟฉาย ตอนนั้น..เราสองคนมีความสุขมาก
ผมคิดว่าเขารักแม่ของผม มากกว่าแม่ของเขาด้วยซ้ำ เพราะเขาเรียกแม่ของเขาว่า Mother แต่เรียกว่าผมว่า Mommy ให้ตายเถอะ..ซีเรียลถ้วยเดียวทำให้ผมมีเวลาทบทวนเรื่องราวระหว่างผมกับสตีฟเด็กน้อยที่น่ารัก และเป็นเหมือนน้องชายที่ผมไม่เคยมี
...........................................
ประวัติผู้เขียน
John Steptoe เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักเขียน หลังจากจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย บรรณาธิการนิตยสารฉบับหนึ่ง จดจำความสามารถของเขาได้ จึงแนะนำให้เขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับเด็ก จอห์นเริ่มต้นเขียนเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในวัยเด็กของเขา ด้วยวัยเพียง 16 ปี เรื่องราวของเขากลายเป็นหนังสือเรื่อง Stevie และได้รับการตีพิมพ์เมื่อปี 1969(พ.ศ.2512)เมื่อเขาอายุเพียง 19 ปี
.................................
เมื่อนิกอ่านเรื่องนี้ ในหนังสือแบบเรียนจบ แม่น้องนิกถามลูกว่า นิกได้อะไรจากการอ่าน นิกตอบว่า รอเบิร์ทใจร้ายกับสตีฟแม่น้องนิกก็เดาว่าลูกต้องตอบประมาณนี้
ก็เลยบอกลูกว่า สิ่งที่แม่ได้รับจากการอ่านเรื่องนี้ถ้านิกสังเกตุให้ดีจะพบว่า เวลาที่เรามีเพื่อนคนหนึ่งอยู่ใกล้ชิดด้วยทุกวัน นิกอาจจะมองไม่เห็นค่าของเพื่อน หรือไม่รู้สึกดียามที่มีเขาอยู่ด้วย แต่เมื่อวันหนึ่งที่เขาจากไปไม่ว่ากรณีใด เราจะค่อยๆมองเห็นความดีเล็กๆน้อยๆ ที่เขามีต่อเราและเมื่อถึงวันนั้น มันก็อาจจะสายเกินไป ที่จะเรียกร้องวันเวลาเดิมให้กลับคืนมา เพื่อแก้ไขในสิ่งที่เราได้ทำลงไป
Create Date : 29 กันยายน 2549 |
|
17 comments |
Last Update : 8 ตุลาคม 2549 7:19:46 น. |
Counter : 505 Pageviews. |
|
|
|
มันก็น่าจะจริงอย่างที่แม่น้องนิกว่านะคะ เวลาที่เรามีอะไรอยู่ใกล้หรือได้เห็นมันทุกวัน แต่พอไม่มีแล้วกับมองเห็นคุณค่าของๆสิ่งนั้นหรือคนคนนั้น วันนี้ได้อ่านแต่เรื่องดีๆ ก่อนนอนวันนี้ต้องฝันดีแน่เลย
มากล่าวราตรีสวัสดิ์ค่ะ