ระบบการเรียนคร่าวๆ - แอบบ่น

สวัสดีค่ะ จะมีใครอ่านมั้ยหว่าา?? แฮ่ๆ
สมองตื้อมากมาย คิดอะไรไม่ออกเลย รู้สึกเหนื่อยมากๆๆ เจอกระเป๋าตังแล้ว เย้ ดีใจมาก มันตกอยู่ข้างเตียง ฮ่าๆ หาตั้งนาน แทบพลิกเตียงหา เมื่อวานตื่นมา มุดๆๆใต้เตียงตั้งนาน กว่าจะเจอ .. คงไม่ต้องอธิบายว่าห้องมิวมันรกขนาดไหน 555 รกมากกก หนูยังอายเพราะรังมันคงสะอาดกว่าห้องมิวแน่ๆ รังมิวๆ ฮ่าๆ

เมื่อวานมีเรียนภาษาไทย จริงๆมีเรียนทุกเย็นวันอังคาร สามถึงสี่โมงเย็น การเรียน High School ที่นี่จะไม่ค่อยเหมือนเมืองไทยเท่าไหร่ เพราะเราสามารถเลือกคอร์สที่จะเรียนได้ตามใจเรา นอกจากวิชาที่บังคับเรียนหรือวิชาหลักถามสายที่เราเลือกเรียน คล้ายๆกับมหาวิทยาลัย.. เรียนให้ได้ 2500 คะแนน(หรือที่ไทยเรียกว่าหน่วยกิตนี่แหละ ไม่รู้ว่ามันอันเดียวกันรึเปล่า) หรือจะเกินก็ได้ แต่ห้ามขาดเด็ดขาด ไม่งั้นไม่จบแน่ๆ แต่ละคอร์สก็มีคะแนนของมันไป เหมือนภาษาไทยที่มิวเรียนก็มี 100 คะแนน คือเรียนสองเทอมจบ แต่วิชาที่มี 50 คะแนนก็เรียนหนึ่งเทอมจบ.. แต่มีอันนึงคือ ฟิสิกส์ B ที่มี 150 คะแนน แต่เรียนแค่สองเทอมจบ มิวก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันยังไง 55 .. การเลือกเข้า High School ก็คล้ายๆกับการเลือกเข้ามหาวิทยาลัย คือเค้าจะดูเกรด และเอาคะแนนของเกรดมารวมกัน ของมิวเรียนตามหลักสูตรเก่า ก็คือระบบการให้เกรดจะมีเกรดสี่ระดับคือ IG = ไม่ผ่าน G = ดี VG = ค่อนข้างดี และก็ MVG = ดีมากก ดีเว่อร์ๆ และคะแนนของแต่ละระดับก็คือ IG = 0 , G = 10 , VG = 15 และ MVG = 20 อะไรประมาณนี้ เค้าเพิ่งเปลี่ยนหลักสูตรมาประมาณปีนึงและตอนนี้ก็ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษแทนแล้ว คือ A-F มิวเป็นรุ่นเกือบสุดท้าย หรือรุ่นสุดท้ายก็ไม่แน่ใจที่ใช้ระบบการให้เกรดแบบนี้ คะแนนที่มิวได้ถือว่าไม่สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าสูงว่าเพื่อนร่วมห้องหลายๆคน ถ้าจำไม่ได้น่าจะได้ 195-200 คะแนน มิวเลยเลือกเข้าสายอะไรได้ค่อนข้างง่ายนิดนึง เพราะคะแนนถือว่าสูงเหมือนกันถ้าเทียบกับคะแนนของรุ่นก่อนๆ .. เค้าจะตัดคะแนนออกไปสิบคะแนนเพราะต้องตัดออกวิชานึงและเอาคะแนนนั้นไปเลือกสายและโรงเรียน .. ก่อนจะเลือกเค้าจะมีคะแนนสูงสุด - ต่ำสุด และคะแนนเฉลี่ยของปีก่อนหน้าของแต่ละโรงเรียนและแต่ละสายมาให้เราดูก่อน ซึ่งคะแนนของมิวตอนนั้นก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่โอเคเลยทีเดียว มิวชอบดนตรี แต่มิวอยากเป็นหมอ ตอนแรกมิวจะเลือกสายดนตรี โรงเรียนดนตรี แต่ดูแล้วคะแนนคงสูงเกินไป เพราะส่วนมากคนท่ีเลือกเรียนสายนี้จะคะแนน 200 ขึ้นไป และคิดไปคิดมา มิวก็ไม่อยากจะเสียเวลามาเก็บหน่วยกิตและเรียนวิชาที่ยังไม่ได้เรียนเพื่อให้ได้คุณสมบัติที่คณะแพทย์ต้องการ มิวก็เลยเลือกสายวิทยาศาสตร์ with medical direction คือเรียนหลักสูตรการแพทย์ไปด้วยพร้อมๆกับที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ หลักสูตรการแพทย์เป็นวิชา 100 คะแนน (หรือหน่วยกิต?) ก็คือเรียนแค่ตอนปีหนึ่ง และพอขึ้นปีสอง เด็กนักเรียนที่เลือก direction นี้ก็ต้องเลือกที่จะเรียนคอร์สอื่น แต่เด็กที่เรียน direction อื่นไม่จำเป็นต้องเลือก เพราะคอร์สที่พวกเค้าเรียนจะลากยาวไปจนจบปีสาม หรือมอหก แต่เพราะคอร์สที่มิวเรียนนี้จบแล้ว มิวก็เลยเลือกเรียน psychology A&B หรือ จิตวิทยา A&B ก็คือ คอร์ส A = 50 คะแนน และ คอร์ส B = 50 คะแนน แบ่งกันเรียนคนละเทอม .. จิตวิทยาเป็นอะไรที่สนุกมากๆ เพราะอาจารย์สอนเข้าใจง่าย และมันทำให้เราได้รู้จักและวิเคราะห์อาการ อารมณ์ และทำความเข้าใจกับมันมากขึ้น.. เช่น เข้าใจว่าความกลัวเกิดขึ้นได้ยังไง และรักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง, ความขี้ลืม หรือทฤษฎีจิตวิทยาต่างๆ มันทำให้เราเข้าใจตัวเองและคนอื่นมากยิ่งขึ้น เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก.. ตอนจบคอร์สบีเราจะได้ทำคล้ายๆโปรเจคจบคอร์ส คือให้ดูหนังเรื่องอะไรก็ได้ที่ตัวเอกออกจะจิตๆหน่อยไปถึงมากก 55 และเราก็ต้องมาวิเคราะห์เกี่ยวกับอาการและเขียนรายงานว่าเพราะอะไรเราถึงมองว่าเค้ามีอาการแบบนี้ แต่ต้องมีสิ่งรองรับจากอะไรที่เรียนมา .. เป็นงานกลุ่ม หรือจะทำเดี่ยวก็ได้ แต่มันสนุกมากๆ จริงๆแล้วตอนเลือกโรงเรียนและสายตอนแรกมิวเลือกอันดับหนึ่งเป็นสายดนตรี แต่ตามเหตุผลที่ไม่อยากจะมาเก็บวิขาให้ครบตามคุณสมบัติเลยเลือกสองอันดับแรกเป็น วิทยาศาสตร์และอันดับสุดท้ายเป็น IB คือจะเป็นวิทยาศาสตร์เหมือนกันแต่เรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ปัญหาคือ โรงเรียนของสองอันดับสุดท้ายคือ อันดับสองและสามเนีี่ย มิิวไม่ค่อยอยากจะเข้าเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แต่ว่าเด็กไทยเรียนเยอะ และมิวกลัวว่าจะทำให้การเรียนมิวเสีย.. แบบ ไปขลุกอยู่กับคนไทย พูดแต่ภาษาไทย ทำให้การเรียนไม่กระเตื้อง เดี๋ยวเค้าชวนไปนู่นไปนี่ ทำให้เสียการเรียน โดดเรียน บลาๆ และใครที่เคยมาเรียนต่างประเทศก็คงน่าจะพอรู้ว่ามันคือเรื่องจริง.. อันดับแรกที่มิวเลือกเป็นโรงเรียนเอกชน เค้าจะร่วมงานกับมหาวิทยาลัยค่อนข้างเยอะ และช่่วยอัพเกรดคุณสมบัติในการเข้ามหาวิทยาลัยด้วย มิวก็เลยเลือกที่นี่ และในที่สุดมิวก็ได้เข้า.. ^^ ดีใจมากๆ เพราะว่าโรงเรียนนี้ถือว่าเป็นโรงเรียนเด็กเก่ง ต้องได้เกรดดีดีถึงจะเข้าได้ .. คือภูมิใจถ้าบอกใครว่าเรียนที่นี่ ทุกคนจะแบบ โหยเก่งนะเนี่ย เข้าที่นี่ได้ ฉลาดๆ แต่จริงๆมิวว่ามันฟลุ้คมากกว่า 5555

น่าจะพอเข้าใจคร่าวๆแล้วนะคะเกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนและการให้เกรดของที่นี่..

วันนี้มีคนมาปรีกษาปัญหาหัวใจอีกแล้ว มิวเป็นศิราณีตลอดเวลาเลย ไม่รู้หน้ามิวนี่มันดูโชกโชนเชี่ยวชาญเรื่องความรักรึว่ายังไงกันนะ? ดีนะที่เพิ่งกินกาแฟไป สมองไม่ค่อยสับสน เลยพอพูดๆให้เค้าเข้าใจได้ ไม่งั้นล่ะ งงกันไปสามชาติล่ะ

วันนี้บ่นแค่นี้ก่อนละกัน .. ง่วงแล้วว ห้าทุ่มแล้ว สมองไม่ค่อยแล่น

สวัสดีค่ะ

อรุณสวัสดิ์ทุกคนที่ประเทศทไยค่า

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2555 Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2555 5:26:48 น. Counter : 598 Pageviews.		4 comments
Share Tweet