15 พค 58 "ติ้ว" -Cratoxylum formosum (Jack) Dyer
ไม่ได้ถ่ายภาพดอกไม้ใบหญ้า นานมาก เปิดภาพเก่าๆ พบ ดอกติ้ว นำมาลงบันทึก ( พร้อมเสียงเพลง "ลาวเสี่ยงเทียน" เพลงไทยลดความร้อนของอากาศรอบตัว เวอร์ชั่น อ.ชัยภัค ภัทรจินดา ไพเราะกว่าเพื่อน เสียงซอด้วงโดดเด่น ) แม้ติ้วของเราจะมีดอกเพียงไม่กี่ดอก ไม่อลังการเหมือนที่เคยเห็นในห้องจตุจักร แต่ความรู้สึกเมื่อได้เห็นดอกครั้งแรก ยังประทับใจ ดอกสีชมพูเล็กๆเป็นช่อติดกิ่งมองคล้ายนางพญาเสือโคร่ง "ติ้ว" ไม้นอกสายตา ต้นไม้ที่เราเพิ่งได้รู้จักกันไม่นานนี้ ต้นไม้ที่แตกใบใหม่เป็นสีแดงๆครั้งแรกคิดว่าเป็นวัชพืช ติดมากับต้นไม้ล้อมจากป่า "ระฆังทอง"-ต้นไม้หนามแหลมต้นใหญ่ยักษ์ ยังไม่ทันจะได้เห็นดอก ระฆังทองต้นใหญ่ก็ตายไปซะก่อน (อาจเพราะมีปลวกในพื้นดิน) แต่ติ้วคงจะทนปลวกจริงเหมือนที่คนบันทึกกันเอาไว้ ติ้วแตกกิ่งก้านเติบโตให้ใบสีแดงสวย ปีที่แล้วมีดอกขนาดเล็กสีชมพู สวยน่ารักแซมกับใบใหม่สีแดงสวยตลอดทั้งปี ปีนี้ตั้งตารอแต่ก็ไม่เห็นมีสักดอก นอกจากใบสีแดงสวย ดอกสีชมพูน่ารัก ติ้วยังเป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ และอาจกำลังได้รับความสนใจศึกษาฤทธิ์ในการฆ่าเซลล์มะเร็งตับอีกด้วยค่ะ
ติ้วแดงต้นนี้มีดอกสีชมพูเล็กๆคล้ายนางพญาเสือโคร่ง
"ติ้ว" ชื่อวิทยาศาสตร์ Cratoxylum formosum (Jack) Dyer subsp. pruniflorum (Kurz) Gogel. จัดอยู่ในวงศ์ CLUSIACEAE (GUTTIFERAE) เช่นเดียวกับติ้วเกลี้ยง กระทิง ชะมวง บุนนาค มะดัน มะพูด มังคุด รงทอง ส้มแขก และสารภี ชื่ออื่น ติ้วแดง, ติ้วยาง, ติ้วเลือด, ติ้วเหลือง, ติ้วหิน กวยโชง (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) กุยฉ่องเซ้า (กะเหรี่ยง-ลำปาง) แต้วหิน (ลำปาง) ติ้วแดงติ้วยางติ้วเลือด(ภาคเหนือ) ติ้ว (กาญจนบุรี) ติ้วขน (นครราชสีมา) ราเง้ง (เขมร-สุรินทร์)แต้ว (จันทบุรี) ตาว (สตูลมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า แต้วหิน (ลำปาง), ผักเตา (เลย), ติ้วส้ม (นครราชสีมา), ติ้วขาว แต้ว ผักแต้ว (กรุงเทพ), ตาว (สตูล), ติ้วแดง ติ้วเลือด ติ้วยาง (ภาคเหนือ), ผักติ้ว (ภาคอีสาน), ติ้วขน ติ้วเหลือง (ภาคกลาง), แต้ว (ภาคใต้), กุยฉ่องเช้า (กะเหรี่ยง-ลำปาง), ไม้ขี้ติ้ว ไม้ติ้วแดง (คนเมือง), เน็กเครแย่ (ละว้า-เชียงใหม่), เตา (เลย), กวยโซง (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ราเง้ง (เขมร-สุรินทร์), ไม้คี่ (ไทใหญ่), ไม้ติ้ว (ไทลื้อ), ดงสะเป่า (ม้ง), ลำติ้ว (ลั้วะ), ตุ๊ดจรึ่ม (ขมุ), ไฮ่สะเยจ้หมาอ่อง (ปะหล่อง), เดี๋ยงติง (เมี่ยน), ผักแดง เป็นต้น ต้นติ้ว พืชที่พบได้ทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีก 5 สปีชีส์พบในไทยและจีน เป็นส่วนประกอบสมุนไพรจีนมายาวนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เรียก " Kuding Tea" มีสรรพคุณ ลดไข้ รักษาอาการไอ ปวดกระเพาะอาหาร ท้องเสีย ท้องอืด อาหารเป็นพิษ เลือดออกในกระเพาะอาหาร แผลในกระเพาะอาหาร ยาขับปัสสาวะ ติ้วมีสาร xanthones, anthraquinones , triterpenoids, flavonoids , และ phenolic compounds . สารเหล่านี้พบได้บ่อยในพืชหลายชนิด สรรพคุณ ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ลักษณะของผักติ้ว ประโยชน์ของผักติ้ว -
ยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อนใช้รับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ ก้อย น้ำตก แจ่ว ซุปหน่อไม้ น้ำพริก น้ำพริกปลาร้า ขนมจีน หมี่กะทิ เมี่ยงญวน แหนมเนืองเวียดนาม หรือจะนำไปประกอบอาหาร เช่น ใส่ต้มหรือแกงต่างๆ เพื่อใช้ปรุงรสเปรี้ยวแทนการใช้มะนาว เช่น แกงเห็ด แกงปลา -
ดอกอ่อน ใช้ทำซุปหรือยำได้ แต่จะนิยมใช้ติ้วขาวมากกว่าติ้วขน เพราะติ้วขาวมีรสชาติขมและฝาดน้อยกว่าติ้วขน -
เปลือกต้นใช้เคี้ยวกินร่วมกับพลูหรือหมาก -
เปลือกต้น สามารถนำมาสกัดทำสีสำหรับย้อมผ้าได้ โดยจะให้สีน้ำตาลเข้ม -
ไม้ติ้วขนมีความทนทานมาก ปลวกไม่กินเนื่องจากไม้มีน้ำยาง สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้าง ทำโครงสร้างบ้าน สร้างขื่อบ้าน ทำกระด้านพื้น สร้างรั้ว ทำเสาเข็ม ทำด้ามเครื่องมือ จอบ เสียม เครื่องตกแต่งภายในเรือน กระสวนทอผ้า ทำหีบใส่ของ ฯลฯ -
เนื้อไม้หรือลำต้นติ้วขน สามารถนำมาใช้ทำฟืน ใช้สำหรับทำฟืนจุดให้สตรีที่อยู่ไฟรมควัน เนื่องจากเนื้อไม้ไม่มีกลิ่นทำให้ควันไม่เหม็น มีขี้เถ้าน้อย และยังให้ความร้อนได้ดีกว่าไม้กะบก -
สารสกัดด้วยน้ำของติ้วขนมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กับปลานิล โดยปลานิลที่เลี้ยงด้วยอาหารที่ผสมด้วยสารสกัดติ้วขน (อัตราส่วน 1.5% (w/w)) จะมีภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะ (Nonspecific immune response) สูงขึ้น -
สารสกัดจากผักติ้ว (ยอดอ่อน) ที่เข้ากระบวรการสกัดผสมกับเอทานอล (และขั้นตอนอีกหลายขั้นตอน) จนได้สารจากผักติ้วที่ชื่อว่า คอลโรจินิกเอซิก สามารถนำไปใช้ยับยั้งกลิ่นหืนของอาหารได้เป็นอย่างดี (งานวิจัยของนิสิตโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี ใช้ แก่นและลำต้น แช่น้ำดื่ม แก้ปะดงเลือด (เลือดไหลไม่หยุด) ราก ต้มน้ำดื่มแก้ปัสสาวะขัด ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอำนาจเจริญ ใช้ ยอด ดอก และใบอ่อน เถา รสเบื่อเมาฝาด บำรุงโลหิต ฟอกโลหิต แก้ปวดตามข้อ แก้ไขข้อพิการ แก้ประดง ขับลม ยาง ใช้รักษาส้นเท้าแตก ตำรายาไทย ใช้ ราก ผสมกับหัวแห้วหมู และรากปลาไหลเผือก ต้มน้ำดื่ม วันละ 3 ครั้ง ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขัด น้ำยาง ทารอยแตกของส้นเท้า รากและใบ น้ำต้มกินเป็นยาแก้ปวดท้อง ต้น ยางจากเปลือกต้นทาแก้คัน น้ำต้มเปลือกต้น กินแก้ธาตุพิการ เปลือกและใบ ตำผสมกับน้ำมันมะพร้าว ทาแก้โรคผิวหนังบางชนิด
Create Date : 15 พฤษภาคม 2558 |
Last Update : 15 พฤษภาคม 2558 15:14:57 น. |
|
1 comments
|
Counter : 5816 Pageviews. |
|
|
เพลงเข้ากั๊นเข้ากันกับนางเอ๊กนางเอก
และดอกไม้ชื่อโบราณๆ
ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะ แม่เย็น