Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
23 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
แท้งลูก(1)

วันที่ 5 สค. 51 เป็นวันแรกที่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ ความรู้สึกของตัวเองขณะนั้นดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่Smiley เดินลงมายื่นผลการตรวจให้สามี..ตอนแรกเค้าก็งงๆว่าคืออะไร เราก็เลยบอกว่าอ่านให้ดีๆสิว่าเค้าเขียนว่ายังไง..พอเค้าอ่านจบ..เค้าก็ดีใจจนน้ำตาเอ่อล้นที่ขอบตาเช่นกัน..เรา 2 คนดีใจมากรีบโทรบอกคนโน้นคนนี้ พ่อแม่เรา&เึค้า น้องเรา ... ทุกๆคนพอเค้ารู้ เค้าก็ดีใจกันใหญ่ (ดีใจแบบร้องไห้เลยนะ) เพราะเราเป็นพี่สาวคนโต และแฟนก็เป็นพี่ชายคนโต ดังนั้นจึงยังไม่มีใครได้อุ้มหลานคนแรกกันเลย..


เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น เราจึงไปตรวจที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งของจังหวัด Smileyแพทย์ก็ตรวจพบว่าเราตั้งครรภ์อ่อนๆแล้วด้วยการตรวจเช็คจากปัสสาวะ และอัลตร้าซาวน์หน้าท้อง..เราได้เห็นการเจริญเติบโตของลูกน้อยเราในถุงมดลูก..เค้ายังเล็กมาก แพทย์ไม่สามารถบอกเราได้ว่าเราท้องได้กี่สัปดาห์แ้ล้ว เพราะท้องยังมีขนาดที่เล็กเกินไป..แพทย์จึงนัดมาตรวจซ้ำอีกใน 2 สัปดาห์ถัดไป..


หลังจากตรวจเช็คเรียบร้อยจากรพ.สามีเราดูแลเราอย่างดีมาก บังคับให้เรากินนมทุกวันSmiley ซื้อหนังสือมาอ่าน ไม่ให้เราถือของหนักๆ...เพราะในช่วง 3 เดือนแรกเป็นช่วงที่อันตรายที่สุด..เราก็อ้วนขึ้นมาประมาณ 2 กก.ก่อนพบแพทย์ครั้งที่ 2 Smiley


เมื่อมาพบแพทย์ครั้งที่ 2 เราก็ตรวจอัลตร้าซาวน์หน้าท้องเพื่อดูการเจริญเติบโตของเด็กในครรภ์..ปรากฎว่าแพทย์ไม่สามารถเช็คได้ว่าเด็กในท้องเราปกติดีรึเปล่า..แพทย์จึงตัดสินใจอัลตร้าซาวน์ผ่านทางช่องคลอด ซึ่งจริงๆเราไม่ชอบเลย เรารู้สึกอันตรายด้วยซ้ำ เพราะในความคิดเราๆน่าจะท้องเพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่อัลตร้าซาวน์มาแล้่วถึง 2 ครั้ง...แต่เราก็ต้องยอมเพราะแพทย์ต้องการดูการเต้นของหัวใจเด็ก..เมื่อผลการตรวจออกมาพบว่า..เด็กยังเล็กมากมีขนาดแค่ 1 มม.เท่านั้นยังไม่สามารถวัดการเต้นของหัวใจได้ (เด็กต้องมีขนาด 5 มม.ขึ้นไปจึงจะสามารถตรวจได้ และหลังจากนี้เด็กจะโตขึ้นวันละ 1 มม.) ดังนั้นแพทย์จึงนัดพบใน 2 สัปดาห์ถัดไป..ซึ่งเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะเปลี่ยนแพทย์ เพราะเรารู้สึกว่าแพทย์คนนี้อายุยังน้อย ประสบการณ์ยังไม่มีมากพอให้เราไว้วางใจ


ระหว่างนี้เราก็ทำงานตามปกติ แต่ไม่ได้ยกของหนักอะไรมากมาย...เดินมากเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในหนังสือก็บอกว่าสามารถทำงานได้ตามปกติไม่เป็นอันตราย...และเรากับสามีก็พยายามเช็คว่าเราจะฝากครรภ์กับแพทย์คนไหนดี..ซึ่งช้อยส์เรามีน้อยมากเพราะเรามีข้อจำกัดว่าเราต้องรักษาที่รพ.เอกชนแห่งนั้นแห่งเดียว...(ที่เราไปตรวจตั้งแต่แรก) จนกระทั่งเรารู้สึกอาการไม่ค่อยดีคือก่อนหน้านี้เราจะมีอาการพะอืดพะอม แต่ไม่อาเจียร หิวตลอดเวลา ปัสสาวะบ่อย แต่ช่วงหลังๆเราไม่มีอาการแบบนั้นเลย แถมมีเลือดออกจากช่องคลอดอีกด้วย (สีคล้ำๆ) เราก็สงสัยว่ายังมีเด็กในท้องเรารึเปล่า จึงตัดสินใจไปที่รพ.นั้นอีกครั้งSmileyแต่เปลี่ยนแพทย์เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผอ.ของรพ. ซึ่งเรายังไม่ได้ฝากครรภ์เพราะเราต้องการคุยกับแพทย์ก่อนว่าเรารู้สึก ok มั้ย...แล้วเราก็ต้องอัลตร้าซาวน์หน้าท้องอีกแล้ว...ผลปรากฏว่าเราคิดไปเอง เด็กยังอยู่ในครรภ์ แพทย์บอกว่าเลือดที่ออกมานั้นเป็นอาการปกติแต่ถ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงสดให้มาพบแพทย์ทันที หลังจากนั้นแพทย์ก็นัดเรามาตรวจครรภ์ครั้งหน้าในเดือนหน้า (ตค.) ซึ่งเราก็ตัดสินใจที่จะฝากครรภ์กับนายแพทย์คนนี้


ถัดไป 1 วันเป็นเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ (14 กย. 51) เรากับสามี และพ่อแม่เค้าจะไปต่างอำเภอเพื่อไปเดินงานเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ แต่...เรามีเลือดออกเป็นสีแดงสด ด้วยความตกใจจึงโทรเข้ารพ.เพื่อจะไปพบแพทย์ เมื่อโทรเข้าไปพยาบาลแจ้งกับเราว่าแพทย์ออกเวรไปแล้ว เค้าให้เรานอนพัก และดูอาการ 2-3 วันถ้าไม่ดีขึ้นให้เข้ามาที่รพ. เราจึงนอนพักอยู่ที่บ้านตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันที่ 17 กย. 51 ซึ่งระหว่างนั้นเราก็นอนพักอยู่ที่บ้านคนเดียว ด้วยความที่ตัวเองอยู่นิ่งๆไม่่ค่อยได้ก็เลยเดินไปเดินมา ทำงานบ้านบ้าง เลือดก็มีออกบ้างแต่ไม่มากนัก สีแดงคล้ำบ้าง สดบ้าง


6 โมงเย็นวันที่ 17 กย.51 เรานั่งคุยกับสามีบอกเค้าว่าเรารู้สึกไม่ค่อยดีนะ อยากไปหาแพทย์ แต่ความที่เรารู้ว่าแพทย์ออกเวรแล้ว เราจึงคุยกันว่าจะไปพรุ่งนี้เช้าแทน หลังจากนั้นเราก็นั่งดูทีวีกับสามีจนกระทั่งประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง เรารู้สึกเพลียจะขึ้นไปนอนข้างบนแล้ว ปรากฎว่ากางเกงนอนเราเลอะเลือด สามีเราก็ตกใจ แต่เรากลับรู้สึกเฉยๆเพราะคิดว่าใส่ผ้าอนามัยไม่ดี เราก็ไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาด...สิ่งที่เราเห็นทำให้เราไม่มีแรงที่จะยืน...เลือดที่ออกมาเต็มไปหมด เราจึงนั่งลงที่ชักโครก ปรากฏว่า..มันมีอะไรเคลื่อนตัวออกมาจากตัวเราหล่นลงไปในชักโครกอย่างรวดเร็ว...แวบแรกที่รู้สึกตัวบอกกับตัวเองได้ว่า...นั่นคือลูกเราแน่ๆ เราจึงเอามือล้วงเข้าไปที่คอห่านแล้วหยิบก้อนเลือดนั้นขึ้นมา...มันมีขนาด 1 กำมือ ยังเป็นก้อนกลมรูปร่างคล้ายเม็ดถั่วแดงขนาดใหญ่ เราตะโกนเรียกสามีเราโดยไม่ได้สนใจตัวเองเลยว่าเลือดออกจากตัวเราเรื่อยๆ เมื่อสามีเราขึ้นมาเค้าก็ตกใจมากกับภาพที่เห็น เพราะเืลือดเต็มห้องน้ำไปหมด เค้าเอาถุงพลาสติกมาใส่ก้อนเลือดก้อนนั้น แล้วให้เราล้างตัว แ่ต่งตัวเพื่อไปรพ. ระหว่างที่นั่งรถไปเราก็ร้องไห้ตลอดทาง โทษตัวเองว่าเพราะไม่ดูแลตัวเอง เมื่อไปถึงเรารู้สึกรำคาญมากที่พยาบาลต้องมาถามคำถามแรกกับเราว่า "มีบัตรรึเปล่า" แทนที่จะรีบพาเข้าห้องฉุกเฉิน เราต้องแจ้งหมายเลขบัตร ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน...จนเราต้องพูดดังๆว่า "แท้งลูก ปวดท้องมาก ปวดจะตายแล้ว" พยาบาลจึงรีบให้นอนบนเตียง...นอนรอประมาณ 20 นาที แพทย์ที่ฝากครรภ์ก็มา (แพทย์กลับบ้านไปแล้ว พยาบาลต้องตามตัวเข้ามากลางดึก) ระหว่างนั้นแพทย์ก็ดูก้อนเลือดที่เราพามา และพาไปอัลตร้าซาวน์หน้าท้องอีกครั้ง สิ่งที่พบคือ..ไม่มีเด็กในท้องอีกแล้ว Smiley ทั้งที่เรารู้ก่อนหน้านี้แล้วว่าแท้งชัวร์ แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกแย่ถึงแย่ที่สุด...หลังจากนั้นแพทย์ให้เราขึ้นเก้าอี้ขาหยั่ง เพื่อเช็คดูว่าเด็กออกมาหมดรึเปล่า เพราะเรายังมีอาการปวดท้อง และเืลือดออกอยู่ เมื่อพยาบาลให้เราถอดกกน.ออก เลือดก็ยังไหลออกมาเรื่อยๆ (เหมือนที่เราเห็นในทีวีเลย) แพทย์ก็ตรวจเช็คเบื้องต้น โดยเอาก้อนเลือดที่ยังค้างๆออกจากช่องคลอด..ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เมื่อเราลุกขึ้นมาเราก็เห็นกองเลือดของเราประมาณ 1 ถาด อาการปวดท้องทุเลาลงเล็กน้อย แพทย์ให้เรานอนดูอาการ 1 คืนที่ห้องรอคลอด เนื่องจากไม่มีห้องพิเศษเหลืออยู่เลย...กว่าเราจะหลับไ้ด้ประมาณตี 1 เศษๆ ก็หลับๆไปเพราะความอ่อนเพลีย และเสียใจ พอตอนเช้าตื่นขึ้นมา นั่งดูรอบๆห้องมีแต่ภาพเด็กทารก...และเสียงเด็กร้องไห้จากห้องข้างๆ...ความรู้สึกตอนนั้นกลับแย่ลงไปอีกSmiley รู้สึกอยากออกจากห้องพักนั้นทันที...สักพักสามีเราก็เอาข้าวเช้ามาให้กิน แพทย์ก็พาไปตรวจอัลตร้าซาวน์อีกรอบเพื่อเช็คดูว่าต้องขูดมดลูกรึเปล่า...ในที่สุดความโชคร้ายในชีวิตก็ยังไม่หมดปรากฎว่ารกยังมีติดค้างในมดลูก แพทย์ต้องทำการขูดมดลูกเรา...ไม่เช่นนั้นมดลูกจะบีบตัวตลอดเวลาทำให้เราปวดท้อง และมีเลือดออกตลอดเวลา แพทย์นัดเวลา 13.15 น.ของวันที่ 18 กย. 51 ระหว่างนั้นเราก็กลับไปนอนรอที่ห้องรอคลอด พ่อแม่เราก็เดินทางมาจากต่างจังหวัดมาหาเรา...ทุกคนก็ปลอบใจว่า"ไม่เป็นไร ค่อยมีใหม่ อายุยังน้อยอยู่ เค้ายังเป็นแค่ก้อนเลือด ไม่ได้ผูกพันมาก ทำใจให้สบายๆเถอะ" ฟังๆดูก็น่าจะสบายใจดีเนาะ เพราะบางอารมณ์ใครโทรมาเราก็สามารถเล่าเรื่องให้เค้าฟังได้อย่างสบายๆโดยไม่ได้ร้องไห้เลย แต่ขอโทษ...อย่าให้อยู่คนเดียวเด็ดขาด น้ำตาเนี่ยไม่รู้มันมาจากไหน..ยังเสียใจจนถึงทุกวันนี้ โทษใครไม่ได้เลยนอกจากโทษตัวเอง...เป็นความสะเพร่า ประมาท ไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนักมากเกิน...ถ้าให้ต้องท้องอีก กลัวมากไม่อยากที่จะมีอีกเลยยยยย.......


เมื่อถึงเวลา 13.00 น. พยาบาลพาเราเข้าห้องผ่าตัด ฉีดยาสลบเข้าทางสายน้ำเกลือ...เราจึงไม่รู้สึกอะไรเลยขณะที่แพทย์ทำการขูดมดลูก...ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเราก็ออกจากห้องผ่าตัด แต่ยังอยู่บริเวณนั้นเพื่อให้เรารู้สึกตัวขึ้นมาก่อน พอรู้สึกตัว เค้าก็พาเราไปนอนพักข้างบน...ระหว่างนั้นเราก็สลึมสลือตลอด จนประมาณ 17.00 น.เราก็รู้สึกปกติดี ไม่มีอาการเจ็บที่ปากมดลูก แต่มีอาการปวดเสียวบริเวณหน้าท้องเวลาเข้าห้องน้ำแทน..แพทย์ก็ให้เรากลับบ้านได้...



***Smileyติดตามต่อตอนต่อไปเกี่ยวกับข้อควรระวัง และการใช้ชีวิตหลังจากนี้Smiley***






Free TextEditor


Create Date : 23 กันยายน 2551
Last Update : 29 กันยายน 2551 15:26:37 น. 5 comments
Counter : 265 Pageviews.

 
เสียใจด้วยนะคะ...แต่จะเป็นกำลังใจให้เริ่มต้นกันใหม่...รักษาตัวเองให้แข็งแรง ทั้งร่ายกายและจิตใจ
หมอก็แย่จังน่าจะฉีดยากันแท้งให้ตั้งแต่มีเลือดออกครั้งแรกแล้วนะเนี่ย


โดย: kissiekee วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:20:20:47 น.  

 
เป็นกำลังใจใ้ห้อีกแรงคับ สู้ๆๆ


โดย: ใบสีทอง วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:20:52:39 น.  

 
เสียใจด้วยนะค่ะ

เราเองก็เพิ่งเสียลูกไป เดือนส.ค. 51 ที่ผ่านมา เข้าใจความรู้สึกดีค่ะ

สู้ ๆ นะค่ะ


โดย: lelhi (lelhibaby ) วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:12:45:00 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ


โดย: tt IP: 58.9.34.152 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:12:01 น.  

 
เสียใจด้วยนะคะ ที่เกิดเหตการณ์แบบนี้ เอ็มก็เพิ่งจะแท้งเหมือนกัน


โดย: เอ็ม IP: 124.157.180.35 วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:14:24:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sukuraii
Location :
ตรัง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add sukuraii's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.