ดูดาวบนดิน กินข้าวผัด ชนแก้วน้ำเปล่า ฉลองทริปครบรอบแต่งงาน (ตอน 1/2)
ทริปฉลองครบรอบวันแต่งงานของพวกเราตรงกับช่วง long weekend วันพ่อแห่งชาติ ทุกปี แต่ปีนี้เริ่มด้วยความกะทันหันไปหมด หลังจากที่ฉันเลียบเลาะถามเขาล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ ว่าปีนี้จะไปที่ไหนดี?... แต่ไม่มีสัญญานตอบรับ(จากหมายเลขที่ท่านเรียก) จนฉันถอดใจแล้วว่า หน้าหนาวปีนี้คงได้ นั่งๆ นอนๆ แกร่วอยู่เมืองกรุงเป็นแน่แท้ ... แล้วจู่ๆ เขาก็เปลี่ยนใจเอาเมื่อตื่นนอน 7 โมงเช้าของวันที่ 5 ธ.ค. ฉันบอกเขาว่า ขอแค่ camping สักคืนก็พอค่ะ เขารีบหาข้อมูลสถานที่ ฉันเลือกที่ "ภูทับเบิก" จากนั้นก็พากันรีบร้อนจัดสัมภาระแบบชนิดไม่เต็มสตรีม (ไม่มีอุปกรณ์ปรุงอาหาร)
วันนั้นรถร่วมเส้นทางค่อนข้างเยอะ ถึงจุดหมายเกือบ 6 โมงเย็น ... แต่สำหรับฤดูหนาว เวลานี้กระพริบตา 2-3ที ก็มืดแล้ว เริ่มทางขึ้นภูฯ ถึงได้เห็นว่านักท่องเที่ยวที่มีจุดหมายเดียวกันมีจำนวนมากทีเดียว ตามความเข้าใจของฉัน น่าจะมาจากถนนหนทางขึ้นภูฯ สะดวกมาก ไม่ต้อง FW4 อย่างรถเรา ก็ขึ้นเขาได้สบายๆ จึงเห็นทั้งรถเก๋งโหลดต่ำพยายามแล่นอืดๆขึ้นไป และมอเตอร์ไซค์ขี่กันเป็นกลุ่ม... ตามประสบการณ์ของการ camping ของพวกเรา ควรถึงปลายทางสักบ่าย 3 โมง เพื่อจองที่กางเต็นท์เหมาะๆ ได้ชมวิวสวยๆยามเช้า/ยามเย็น และเผื่อเวลาไว้สำรวจพื้นที่ใกล้เคียงว่าทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง
แต่ครั้งนี้เลือกไม่ได้ พวกเราก็ยัง(กระเสือกกระสน)ขับรถวนจนได้ที่กางเต็นท์เป็นแปลงกระหล่ำปลีที่เก็บเกี่ยวแล้ว ทำให้พวกเราได้ประสบการณ์ในการนอนบนพื้นที่ตะปุ่มตะป่ำที่สุดที่เคยนอนเต็นท์มา ต้องอาศัยความสามารถส่วนตัวในการแหวกพื้นที่ที่เรียบที่สุดในเต็นท์ แถมนอนกันคนละมุม (นึกขำจริงเชียว-สวีทมาก) ห้องน้ำที่นั่นก็น้อยไปหน่อย (เอ่อ ที่จริง น้อยมาก) เมื่อเทียบกับที่อื่น และเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ล้นจากบริเวณกางเต็นท์ที่จัดไว้ ไปสู่แปลงปลูกผักกะหล่ำปลีที่เก็บเกี่ยวแล้ว--เช่นพวกเรา หรืออาจเป็นเพราะความไม่ทันตั้งตัวของผู้ดูแลสถานที่(มือใหม่) จึงยังจัดการ/รับมือนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ไม่ดีนักและไม่ทั่วถึง
เอาหละ ไม่ว่ากัน เพราะฉันเห็นเจ้าหน้าที่ที่ถือ ว.ท่านก็ ทา น่า ที่ เต ที่ และ ส่า กา อยู่ ตา หล่อ (ทำหน้าที่เต็มที่และสั่งการอยู่ตลอด) ทั้งเรื่องที่จอดรถและขอรถบรรทุกน้ำมาใช้ในห้องน้ำ เทียบกับการ camping ที่อื่นแล้ว ฉันขอเอ่ยชมภูทับเบิกในเรื่องอาหารการกิน มีร้านอาหารเพียบพร้อมให้เลือกหลากหลาย อย่างพวกเราไม่ได้เตรียมอาหารไปเลย ก็ไม่อดตาย
...ชักโม้มากไป...ดูรูปเลยดีกว่าค่ะ
เส้นทางคดเคี้ยว เหมือนเกมส์บันไดงูที่เคยเล่ยสมัยเด็ก แต่สะดวกเพราะราดยางตลอด
กางเต็นท์ยามโพล้เพล้ อาศัยแสงจากตะเกียงแกส (เต็นท์ที่เห็นเป็นเต็นท์ข้างหน้าเรา)
ประมาณหนึ่งทุุ่ม บางกลุ่มจุดโคมลอย แล้วร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ท่ามกลางความมืด ฉันได้ยินเสียงเพลงอันศักดิ์สิทธิ์นี้ จากเต็นท์โน้น เต็นท์นี้ ลอยตามลมไปทั่วภูฯ น่าชื่นใจ ฉันก็แอบร้องแจมไปกับเค้าด้วยแล้วตะโกน "ทรงพระเจริญ"
ซูมรูปดาวบนดิน แล้ว crop มาให้ดูชัดๆ ขึ้นค่ะ ...
... ภาพยามเช้า จากหน้าเต็นท์ ... ที่จริงฉันตื่นตั้งแต่ตี 5 แล้วนอนไม่หลับ นึกถึงพ่อ เลยลุกขึ้นมานั่งสมาธิเจริญภาวนา อุทิศกุศลให้ท่าน นั่งสงบๆ เย็นๆ ได้สักครึ่งชั่วโมง ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน (อิอิ) เลยต้องคลายจากสมาธิ ไปทำธุระส่วนตัว
เขา...เก็บเต็นท์
ฉัน...ถ่ายรูป (แต่ไปช่วยเก็บเต็นท์ทีหลังนะจ๊ะ)
ระหว่างทางเดินไปเก็บภาพบนยอดภูฯ ผ่านร้านชาวเขาขายผักสด มันเผา และเครื่องดื่มร้อนๆ ก็แวะเติมพลังก่อน
ใครไม่ถ่ายรูปเจ้าผักนี้ แสดงว่ามาไม่ถึง ภูทับเบิก
ประสาคนไทย ไปที่ไหนต้องถายรูปกับป้ายฯ ที่ยอดภูฯ ผู้คนมากมายรอคิวถ่ายรูปกับป้ายฉันรอไม่ไหว แบกแต่ป้ายกลับมาก็พอ
เศษหนึ่งส่วนสาม-ส่วนสี่ ของปริมาณเต็นท์บนภูทับเบิก
มองไปลิบๆ จุดเล็กๆในพื้นที่สีเขียว คือ นักท่องเที่ยวที่พึงใจกับการเดิยลุยไปถ่ายรูปในแปลงปลูกกระหล่ำปลี
ร้านขายของที่ระลึก และผักสดๆ ราคาถูกๆ
ขับรถออกจากลานกางเต็นท์ (ที่ป้ายบอกว่า เป็นจุดสูงสุดของภูทับเบิก) ผ่านมาทาง "ภูสวรรค์"รีสอร์ท (ลานกางเต็นท์อีกแห่ง) ฉันหันหลังกลับไปมอง เห็นวิวสวยดี เลยจอดถ่ายรูป และหม่ำมื้อสาย
ระหว่างรอข้าว... เพิ่งเคยเห็นดอกกระดาษต้นเป็นๆ ตัวเป็นๆ เลยวิ่งขึ้นเนินไปเก็บภาพมาชื่นชม
ที่มาของชื่อบล็อกวันนี้ "... กินข้าวผัด ชนแก้วน้ำเปล่า ฉลองทริปครบรอบแต่งงาน"
มุมมองจาก "ภูสวรรค์" รีสอร์ท
แล้วตอนหน้า... ติดตามไปไหว้พระที่ "วัดป่าภูทับเบิก" กันนะคะ
To be continued...
Create Date : 30 ธันวาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 30 ธันวาคม 2552 17:31:50 น. |
Counter : 1550 Pageviews. |
|
|
|